ชีวิตบ้านป่า

อ่าน: 4462

ผมมีรายการที่จะไปโม้เรื่องมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ที่มหาวิทยาลัยอุบลฯ เดือนหน้า จึงเอาโจทย์มาจ๊ะจ๋าให้พี่น้องช่วยกันต่อเดิม ตำราหลายหัวดีกว่าหัวเดียวยังใช้ได้เสมอ มาช่วยกันทำเรื่องนี้ให้เป็นสไตล์ของหมู่เฮา การลงขัน-ความรู้-ความคิด-ความสุข-ความเห็นอกเห็นใจ อุ้มชูให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร น่าจะเป็นมิติหนึ่งของกระบวนการสร้างเครือข่ายของชาวเรา จะเห็นว่าเรื่องไหนที่ร้องขอพวกเราจะมะรุมมะตุ้มช่วยเหลืออย่างสนุก คงต้องคิดต่อๆๆ..

ถ้าฉุกคิดเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา มีทั้งที่เกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป และเป็นไปอย่างโกลาหล เช่น เรื่องไข้หวัด 2009 ถล่มไปทั่วโลก ต่อไปก็ไม่ทราบว่าจะมีอะไรระเบิดเปิดเปิงตามมาอีก เรื่องโลกร้อนยังยักแย่ยักยัน เรื่องมลพิษต่าง ๆ ก็อึมครึม มนุษย์แต่ละคนได้รับผลจากความเปลี่ยนแปลงไม่เท่ากัน มีจริตเกี่ยวกับเรื่องสภาพแวดล้อมต่างกัน

คนเมืองจะสัมผัสกับสภาพแวดล้อมทางอ้อมมากกว่า เรื่องร้อน-หนาว-กิน-อยู่-นอน-เดินทาง-ทำงาน-มีชีวิตยังกะตัวเป็นหนอน วิ่งพล่านกันไปทั่วเมือง กรุงเทพไม่เคยหลับ เมื่อโจทย์สาละวนกับส่วนตัวกันมาก เรื่องส่วนรวมจึงแผ่วไป จนแทบจะเลือนหาย สุดท้ายก็มาใช้กฎเกณฑ์ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกำกับวินัยทางสังคม ..ช่วงที่อุ้ยหรือแห้วศรีมา โลกประหยัดพลังงานไปเยอะ>> ไม่ต้องแต่งตัวขับรถไปทำงานทุกวัน ..ถ้าคนเราวางระบบให้มีการผ่อนคลายลงได้บ้าง การใช้น้ำมันหรือพลังงานอื่น ๆ จะเบาบางลง ..ทำยังไงมนุษย์ถึงจะอยู่กับที่มากขึ้น แต่สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม มุมมองเรื่องวิกฤติพลังงาน วิธีถอยดีกว่า>>อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สมควรใคร่ครวญ สุดท้ายแล้วก็จะมาจบลงที่..ไม่มีความสุขใดดีกว่าความสงบ อิ อิ.. บังอาจสอนสังฆราชเสียแล้ว อิ อีกที

คนบ้านป่า ถ้ารักษาสภาพแวดล้อมไว้ให้ดี จะได้รับบรรณาการจากป่ามากขึ้น ข้อนี้คนรุ่นใหม่ไม่รู้เรื่อง.. ไม่ว่าจะเป็นความร่มรื่น ฟืนหุงข้าว ผักริมรั้ว วัวควายให้แรงงานและปุ๋ย ฯลฯ ถ้าเข้าใจจะทราบว่ามนุษย์ต้องพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก การทำลายสภาพแวดล้อมไม่ต่างกับการคุมกำเนิดอนาคตของมนุษยชาติ เมื่อไม่เข้าใจ จะมองโจทย์คนละอย่างกัน คนกรุงเดือดร้อนเรื่องไฟเขียวไฟแดงรถติดเป็นตังเม คนชนบทเดือดร้อนเรื่องแมลงรบกวน ฝนแล้ง น้ำท่วม ราคาผลผลิตตกต่ำ สภาพการณ์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ รายได้จากเงินดินซึ่งไม่แน่นอนเท่าเงินเดือน ชาวชนบทส่วนใหญ่ถูกลากให้มีรายจ่ายเป็นรายเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเช่าซื้อรถ ฯลฯ มากองกันทุกวันที่ 30 ใครสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงควรมองมุมนี้ไว้บ้าง ที่พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่อง..ปลูกทุกอย่างที่กิน เหลือกินจึงขาย มันทำได้ง่าย ๆขนาดนั้นหรือ..

(ป้าสอน อายุมากแล้ว แต่ขยันปลูก-ดูแลต้นไม้)

เรื่องหยาบ ๆ พวกนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว เมื่อสภาพแวดล้อมเสียหาย ธรรมชาติไม่ได้แยกส่วนว่าอันไหนเมืองอันไหนชนบท ผลพวงที่ได้รับเป็นชะตากรรมมวลรวมของมนุษยชาติ ปัญหาอยู่ที่ความรู้ที่มนุษย์มีอยู่เดี๋ยวนี้ เป็นความรู้อำพราง รู้แค่หางอึ่ง รู้งู ๆ ปลา ๆ  ความรู้ที่ไม่สะอาดไม่บริสุทธิ์ใจ เป็นความรู้เถื่อนก็มาก เมื่อนำมาแก้ไขปัญหาจึงเห็นภาพงก ๆ เงิ่น ๆ  มนุษย์จะจำนนและรับสภาพจากความไม่รู้มากขึ้น ๆ

สำหรับพี่น้องชาวฮาทุกท่านเข้าใจเรื่องนี้ดี จะเห็นได้จากความสนใจเรื่องสภาพแวดล้อมภายในจิตใจ สภาพแวดล้อมภายนอก เรียนรู้อย่างสนุก แค่ทอดไข่ใส่ใบมะรุมนี่ก็สุดเริดแล้ว ยังชวนกันปลูก คิดที่ขยายผลในมิติต่างต่อไป ต่อไปเขียนวิชาที่สอนเรื่องการกระทำต่อธรรมชาติ ในสังคมไทย ภูมิปัญญาไทย ในศาสนา มีมากพอที่จะนำมาออกแบบเป็นเนื้อหาเป็นหลักสูตร..  หาวิธีให้คนไทยช่วยกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อมโดยรวม ก็จะเป็นการทำหน้าที่มนุษย์ตามที่ควรจะรับผิดชอบโลกร่วมกัน ถ้ายังคิดที่จะลอยเพสังคม..ดูถูกดูแคลนธรรมชาติ..ก็ตัวใครตัวมันนะครับ คิ คิ ..

« « Prev : เรียนวิชาติดดิน

Next : จดหมายรักครูสุ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.66889405250549 sec
Sidebar: 0.05162501335144 sec