หมายเหตุของ อิ อิ ..

อ่าน: 5075

>> ตื่นเช้ามาอากาศดีเหลือเกิน ชวนกันเดินเพลินจะไปโรงเรียนมงคลวิทยา แต่ทว่า..รถมารับเสียก่อน ตอนที่จวนจะถึงเหลืออีกสัก 30 ก้าว จึงโกยอ้าวขึ้นรถ เข้าไปในบริเวณอันร่มรื่น เราแวะไปชื่นชมห้องสมุดที่มีจิตวิญญาณครูอยู่เต็มเปี่ยม ครูเซี๊ยงผู้เป็นปฐมใจครูของที่นี่ ห้องนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก เป็นที่เก็บเรื่องราวของนักสู้ชีวิตด้านการศึกษา ได้ทำหน้าที่ครูด้วยการเป็นครูอย่างสุดจิตสุดใจ อย่างที่ครูไทยคนไหนมาเก็บเอาไปคิดได้ไม่อั้นทุกแง่ทุกมุม  ว่าการเป็นครูนี่หนอ..ควรทำตัวและหัวใจอย่างไร เห็นแล้วปลื้มกับโรงเรียนมงคลวิทยา อยากจะบอกว่าสิ่งนี้เป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่ มีคุณค่าทางจิตใจต่อครูคนไหนก็ได้ที่เข้ามาเยือนที่นี่  ..

>> ระหว่างนั้น คุณแม่ผู้ใจดีเมตตามาคุยด้วย คุณแม่ผอ.อึ่งยังแข็งแรงอารมณ์ดี ตามประวัติบอกว่าเป็นแม่บ้านธรรมดาๆ ทำงานบ้าน ดูแลสมาชิกในครัวเรือน ขลุกอยู่กับหน้าที่แม่บ้านอย่างเจนจัด  แต่เมื่อครอบครัวมีการงานด้านบริหารการศึกษาตั้งโรงเรียนขึ้นมา โรงเรียนเอกชนสมัยนั้นคงผชิญปัญหาไม่น้อยหรอกนะ โดยเฉพาะบุคลากรที่เรียกว่าครู คุณพ่อเซี๊ยงจึงสอนคุณแม่ให้เรียนด้วยตนเอง จนสามารถสอบวิทยะฐานะเป็นครูมาช่วยสอนได้ ฟังแล้วอึ้งกิมกี่ไหมละท่าน พลังใจของครอบครัว “เลาหกุล” นั้นเต็มไปด้วยหมายเหตุที่พิเศษยิ่งนัก ลองไปอ่านเจ้าเป็นไผของครูอึ่งดูเถิด เชื้อไม่ทิ้งแถวนั้นเป็นอย่างไร

>> หลังจากนั้นเราถูกชวนเข้าไปห้องประชุม ที่มีคุณครูนั่งรอเต็มห้อง ผมถูกเชิญให้คุยกับคุณครู ในบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเรียบร้อย คุยกับครูไม่ง่ายนักหรอก โดยเฉพาะเรื่องเอามะพร้าวไปขายสวน  มีเรื่องจะฝากคุณครูมากมาย ว่าหน้าที่ครูนั้นยากแต่ยิ่งใหญ่นัก ทำอย่างไรเด็กจะรักครู ครูควรจะรักลูกศิษย์ รู้จักตัวตนลูกศิษย์ของตัวเอง ถ้ารู้จักตัวก็จะนำไปสู่การรู้จักใจ ถ้าสามารถสื่อสารทางใจกันได้ เหมือนพวกแซ่เฮ คุณครูก็จะมีตัวช่วย มีความสุข มีความภาคภูมิใจ และมีกำลังใจเสริมให้กันและกัน ..ครูโรงเรียนนี้เขาจัดรายการวิทยุด้วยนะ ขั้นตอนอยู่ในระยะที่กำลังสนุกเชียวแหละ มีคุณครูหมุนเวียกันมาจัดรายการวิทยุทุกวัน

>พูดมากกว่านี้ก็จะงงทั้งคนฟังและคนพูด จึงโยนไมค์ให้คนที่สมควรพูดมากกว่า คนหัวโตไปแอบยืนอยู่ข้างหลังห้อง จึงถูกเชิญมาหน้าห้อง แล้วก็ให้เล่าเรื่องสะกดวิญญาณ คนหัวโตเล่าเรื่องย้ำคิดย้ำทำ มองคุณค่าแล้วสร้างคุณค่าของผู้ที่ทำหน้าที่ปลุกปั้นอนาคตของชาติ งานมอบการบ้านนั้น เหมาะกับคนหัวโตพอๆกับหาเพื่อนกินไอติมที่รู้ใจ

>> เจ้าเบิร์ด ฝากให้พ่อไปกราบพระที่วัดหริภุญชัย

ก็ไปแล้วนะเบิริ์ดนะ อธิฐานให้แล้ว ไม่รู้จะถูกใจรึเปล่า

ขอพระนางจามเทวีดลบันดาลให้เบิร์ดมีคู่เคียงใจไวๆ อิอิ..


>> ไหว้พระแล้วก็หิว

เราไปกินอาหารเที่ยงที่แปลกที่สุดในโลก

“ก้วยเตี๋ยวลำใย” เคยได้ยินไหม

หมายถึงก้วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นที่ใส่เนื้อลำใยมาด้วย

นั่นก็หมายความว่า ชามนี้มีทั้งของหวานคาวรวมกันมาด้วยเดียวกัน

กินก้วยเตี๋ยวชามนี้ไม่ต้องแยกสั่งของหวานทีหลัง

ถามว่าอร่อยไหม ..นับว่าเป็นวาสนาพุงเลยนะปู อิ อิ..

ร้านนี้มีป้ายสะดุ้งโหยงด้วนะ “ระวังพริกเผ็ด” ตัวสีแดงเบ้อเร่อ

ยังจะรู้ว่า..คนไม่กินเผ็ดจะมาที่นี่

เจ้าของร้านเป็นญาติกับอุ้ย เอ๊ะ รึอุ้ยจะมาวางยาไว้นะ

>> อิ่มแล้วครูอึ่งชวนไปชมโรงเรียนเก่าของเธอ ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิภัณฑ์ชุมชนเมือง เป็นอาคารไม้สักหลังใหญ่ที่โปร่งสบายของเจ้านายลำพูนสมัยโน้น มาบัดนี้ตกเป็นสมบัติของสมาคมชาวจีนลำพูน แล้วเทศบาลลำพูนเช่าเดือนละ 8,000 บาท มาเปิดให้อาสาสมัครชาวลำพูนดูแล จัดแสดงเรื่องราวแต่หนหลัง มีภาพเก่าที่น่าสนใจมากมาย จำลองโรงภาพยนต์ยุคเก่า ห้องเรียนสมัยก่อน สิ่งละอันพันละน้อยรวบรวมไว้ให้ระลึกถึงอดีตได้ดีมาก


>> มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องไปตามที่ออตบอก ..มาลำพูดให้พ่อแวะที่พิพิภัณฑ์อิินสนธิ์ วงค์สาม ให้ได้ เราจึงแอ่นแอ้นมาที่นี่ มีเรื่องที่สุดแสนประทับใจออตเอ๋ย  นับตั้งแต่เจ้าตัว ..ศิลปินแห่งชาติ อินสนธิ์ วงศ์สาม ท่านมานำชมสถานที่และอธิบายงานด้วยตัวท่านเอง สิ่งแสดงท่นี่ทุกอย่างลึกซึ้งนัก พวกสติตื้นอย่างเราๆตีความไม่ออกหรอก ถ้าไม่มีท่านเมตตามาอธิบายขยายความไปทีละจุดแบบตัวต่อตัวเลยนะ ค่อยๆคลี่ความหมายอธิบายประหยัดถ้อยประหยัดคำ ชี้นำให้เราคิดมากกว่าปากพร่อย จุดนี้มีเรื่องพิเศษมากนัก ใครเป็นชาวลำพูนถ้าไม่ได้มารู้มาเห็นชีวิตนี้น่าเสียดาย ที่ไม่รู้จักว่าคนลำพูนนั้นสร้างวีระกรรมไว้เป็นบทเรียนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่่านพาเราไปชมสิ่งแสดงในแต่ละอาคาร อธิบายด้วยการแสดงกระชับเป็นจุดๆ แสดงวิธีสื่อบริบทของพระพุทธศาสนาในเชิงศิลปกรรมล่ำลึก นับเป็นวาสนาที่ได้มาเห็น มารู้ มาฟัง มาเก็บความประทับใจ ที่ได้เห็นได้ดูมากกว่าออตประมาณ %  ชมภาพประกอบก็แล้วกัน

>> ยังมีเวลา แวะไปกินไอติมเจ้าเด็ด ที่หมอจอมป่วนเคยเล่าไว้

เป็นร้านที่จัดไว้ดูดีร่มรื่น ขายของว่างที่อร่อยหลากหลายจนสั่งไม่ถูก

แต่ยังไงๆก็ต้องชิมเจ้า ไอติมมะเกี๋ยง ให้ได้

ชิมแล้ว รู้แล้ว รสชาติเหมือนกินยาระบาย กลิ่นแปลกๆ หวานมันเล็กน้อย

ถือว่าไม่ลองไม่รู้ ถามว่าจะสั่งอีกรอบ 2 ไหม

No No No รู้ว่าหลอกจะยินยอมให้หลอกครั้งเดียว ไม่เอาแล๊ว !!

>>  เราบึ่งไปรับอุ้ย ผู้ซึ่งสันทัดกรณีเรื่องวัดในภาคเหนือ

เรื่องจะผิดหวังเป็นอันปิดฉากได้

วัดที่เรายืนอยู่นี้ เงียบสงบ ร่มเย็นในยามบ่ายแก่

เราเดินดื่มด่ำฝีมือช่างไร้เทียมทานที่เป็นตำนาน เป็นต้นแบบให้ช่างสมัยนี้

ได้ลอกเรียน และลอกเลียน ได้ดั่งใจปรารถณา

ชมภาพเอาก็แล้วกัน

>> ออกจากวัดอินทราวาสไปชมวัดดอยดำ โฮ้ ธรรมมะจัดสรรอีกแล้ว เราเห็นการตั้งขบวนยาวเหยียดเดินขึ้นภู เนื่องจากตรงกับวันที่มีพิธีเดินไปกราบไหว้ เป็นอะไรๆที่พิเศษลึกซึ้งนัก แต่สังขารอย่างพวกเราขออนุญาตนั่งรถขึ้นดอยก็แล้วกัน ไปกราบพระ ไปชมงานวัด ไปสรงน้ำพระ สนุกมากตรงที่ไปสอยดาว ได้รางวัลมาทั่วหน้า คนหัวโตได้ถังพลาสติก ประป๋องใสน้ำ ได้แฟ๊บ อุ้ยได้หมี่ขาว ครูอึ่งอารมได้ถัง ผมได้ปลากระป่อง ฮ่าๆๆๆ  หิวแล้วลงดอยดีกว่า ไปกินข้าวต้มเอาแรง

<  ถึงเราจะหนีการเดินขึ้นดอย ก็ใช่ว่าจะจบง่ายๆ

รายการสุดท้ายของค่ำคืนนี้เราจะไปบุกห้อง 403 ที่อาคารอาจารย์พยาบาล

ห้องอุ้ยอยู่ชั้น 4 มีบรรไดให้เดินขึ้นไปทางเดียว

เราก็ก้าวกระหย่องกระแย่งขึ้นไปชมบรรยากาศห้องพักของอุ้ย

อุ้ยใจดีเลี้ยงลิ้นจี่ มะม่วงพันธุ์พราห์ม ชงชามาให้ชิม

มีชามะรุมด้วยนะ ชิมแล้วโอ้โห

ขอแถม..เอารูปสวยตอนอุ้ยสมัยเป็นช่างฟ้อนมาฝาก

อุ้ยของพวกเราสวยสง่าไม่เบานะจะบอกให้

ฟามลับ..มีคนมาแอบชอบอุ้ยมากมาย แต่ทำไมหัวใจอุ้ยไม่ไหวหวั่น ทำไม และ ทำไม..

เอาไว้วันไหนอารมณ์ดีจะเล่าเรื่องกิ๊กอุ้ยให้ฟัง..คิ คิ..

ห้ามแซวล่วงหน้าอิ อิ

« « Prev : ปริศนาทำ

Next : ใครว่ายอดดอยอินทนนท์หนาว ไปแก้ผ้ามาแล้ว » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 7:52

    กรี๊ด! 5555555555555 ฮิ้ววววววววววววววววววววววว

    แหม โดน โด๊น โดน ค่ะพ่อ …ขอบคุณเจ๊า ^ ^

    ไว้เบิร์ดจะไปกราบอีกรอบและจะย้อนรอยทัวร์ล่ะปูน เชียงใหม่ให้ม่วนอ๊กม่วนใจ๋เลยคอยดู๊ …ลาตั้งแต่ 18 มิย.เลย ให้รู้ไปว่าไผเป็นไผ อิอิอิ

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 9:21

    อ่านจบแล้วยังไม่เห็นซักรูปเลยครับ  สงกะสัยจะเป็นลูกเล่น  ให้ต้องกลับมาอ่านบ่อยๆ  ลงวันละรูปก็พอครับ  อิอิ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 9:50

    เอ..พ่อครู.. วันนี้ผมควรจะเดินลงบันไดเข้าเมืองไปสั่งตัดชุดหล่อไปงานแต่งน้องสาวได้เลยนะ อิอิ..
    เฮียตึ๋งก็เป็นวัยรุ่นใจร้อน… เดี๋ยวมาเองน่ะรูปน่ะ ดูกันไม่ทันเลยหละ เลยไปดู สไลด์คอนก่อนก็ได้ ฮิฮิ..

  • #4 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 10:58

    รูปสวยมากครับ .. วาดมโนภาพเอาจากตัวหนังสือที่อ่านก็เห็นแล้วครับ .. คิดถึงความหลังครั้งไปมงคลวิทยา
    อิ อิ อิ ครับ

  • #5 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:21

    จินตนาการไปก่อนนะครับ  อ่านแล้วเหมือนเห็นรูปแล้ว

  • #6 ออต ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:51

    อ้า  เจอศิลปินเจ้าของแนวคิดด้วย โอ้ย  อิจฉาจังครับ
    เป็นศิลปินแห่งชาติที่เข้าถึงชาติ และเชื่อมโยงหลายชาติ
    ชาตินี้ ถ้าเรามาสร้างชาติด้วยวัฒนธรรม น่าจะนำเรารอดพ้นวิกฤติต่าง ๆ ได้
    รอดูภาพครับ

  • #7 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 22:17

    ไอ้วิชาทะลายกำแพงบุกไปใช้ชีวิตต่างแดนของท่านอินสนะิ์ วงค์สาม  แถมพาคนต่างแดนมาใช้ชีวิตในเมืองไทยนี่น่าศึกษามากๆครับ  อิอิ

  • #8 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 22:28

    ต้องขออภัยนะครับ  เปิด website ของท่านดู  รู้สึกจะใช้  อินสนธิ์  วงศ์สาม  นะครับ 

  • #9 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 เวลา 23:04

    วันนี้ได้คุยโทรศัพท์กับ ครูพี่ ผอ.อึ่ง แล้วค่ะ
    แล้วก็ท้าชิงไปแล้ว ว่าไง ๆ ต้องหาโอกาสไปสัมผัสมงคลวิทยากะเขาบ้าง

    จากบันทึกการเดินทางของพ่อเที่ยวนี้
    ทำให้พวกติดแหง็กในที่ทำงานอย่างหนูได้เห็นตัวเองชัดขึ้นนะ
    เรื่องราวอันทรงคุณค่า วิถีชีวิตที่น่าชื่นชมและแสนจะให้บทเรียน หากได้สัมผัสด้วยตนเอง
    มันคงแสนจะตะลึงพรึงเพริดพอจะฉุดจินตนาการบรรเจิดให้กับชีวิตได้อีกมากโข

    เป็นเมื่อก่อนทำงานแบบหูดับ ตับเบี้ยว ไม่ค่อยจะได้เลี้ยวดูซ้ายขวา มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
    อิ่มเอมกับการเติมเต็มคนรอบข้าง จนบางครั้งก็ละเลยการเติมอากาศบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง

    พอได้เห็นพ่อและพี่ ๆ สูดลมหายใจอัดความสุข ความอิ่มเอมกันจนเต็มรัก
    ก็เลยพลอยทำจมูกบานฟืด ๆ ตามไปด้วย อิอิ

    อุเหม่…..  มันช่างแสนจะชุ่มฉ่ำหัวจาย…… (^_________^)

  • #10 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2009 เวลา 16:04

    ว่าแต่วันนี้พ่ออารมณ์ดีหรือยังคะ
    จะฟังเรื่องกิ๊กอุ้ยอ่ะ
    ฮิ๊ว……………… :P

  • #11 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2009 เวลา 20:03

    ไม่รู้จะตอบยังไง ซึ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.089126110076904 sec
Sidebar: 0.051490783691406 sec