วันนี้ไม่เหมือนวันนั้น
ผมคิดอยู่หลายวันว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีหรือไม่ ในที่สุดก็ตัดสินใจเขียน อย่างน้อยก็เป็นการเตือนตนเอง หรืออาจจะเป็นตัวอย่างและข้อคิดให้ท่านผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย
เมื่อสามสี่วันก่อนเดินทางโดยรถประจำทางปรับอากาศชั้น ๑ (ป. ๑) จากโคราชไปยังมหาสารคาม อย่างที่เคย จึงเดินทางไปถึง บขส. โคราชประมาณ เกือบ ๑๐.๐๐ น. เพื่อจะขึ้นรถที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ที่แวะที่ บขส. โคราช เมื่อเข้าไปบริเวณที่พักและบริเวณขายตั๋ว เห็นช่องขายตั๋วที่เคยซื้อยังไม่มีผู้ขายตั๋วประจำ จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ บขส. ที่อยู่ช่องข้างเคียง ได้รับคำตอบว่าเขาจะมาเปิดขายประมาณ ๑๐ น. เมื่อมาแล้วก็จะมีประกาศเรียกให้มาซื้อตั๋วต่อไป ขอให้นั่งรอ ผมจึงเดินไปดูใกล้ที่ช่องขายตั๋ว เบอร์ ๑๑ จึงเห็นประกาศที่เขียนไว้ บอกให้ทราบว่า จะเปิดขายตั๋ว สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปแต่ละที่ในเวลาใดถึงเวลาใด สำหรับการเดินทางไป มหาสารคาม แจ้งไว้ว่า เปิดขายระหว่าง ๑๐ น. ถึง ๑๑ น. ผมจึงมานั่งรอ แต่ ๑๐.๑๐ น. แล้วก็ยังไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มา เห็นคนนั่งรออยู่จำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่ทราบว่าเขารอซื้อตั๋วไปที่ใด จึงเอากล้องออกมาเก็บภาพไว้เสียหน่อย (ภาพแรก) ราว ๑๐.๑๕ น. ผู้ขายตั๋วเดินทางมาถึง จึงผู้คนที่นั่งรอต่างกรูกันไปต่อแถวที่ช่อง ๑๑ จึงได้รู้ว่ามีคนรอซื้อจำนวนมาก ผมได้ซื้อตั๋วประมาณคนที่ ๕ หรือ ๖ และได้ยินผู้ที่ซื้อก่อนผม ถามผู้ขายตั๋วว่ามีที่นั่งใช่ไหม ? ผู้ขายก็ตอบว่ามี ผมจึงซื้อตั๋วโดยสารครั้งนี้โดยไม่ถามซ้ำในคำถามเดียวกัน เพราะเชื่อว่าต้องมีที่นั่งแน่นอนเขาจึงขายตั๋ว และก็เคยมีประสบการณ์การเดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัทนี้มาก่อนแล้ว
หลังจากได้ตั๋วแล้วก็มานั่งรอ อีกประมาณ ๑๕ นาที ก็มีประกาศว่า ให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกับรถบริษัท….หมายเลข……ไปขึ้นรถได้ บัดนี้ถึงเวลาที่รถจะออกเดินทางแล้ว ผมและอีกหลาย ๆ คนก็ออกไปที่ชานชลาช่องที่รถจอดอยู่ กระปี๋ (ผู้บริการหญิง) ก็ทำหน้าที่จัดคนที่ขึ้นใหม่ขึ้นนั่งบนรถ (โดยคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ที่เป็นต้นทาง ก็ขึ้นไปนั่งตามที่นั่งเดิมก่อนแล้ว) คนก่อนหน้าผมสามสี่คน ได้ยินกระปี๋ บอกว่าให้ไปนั่งแถวหลังสุด พอถึงคนก่อนหน้าผม สองคน ประกอบด้วยชายหญิงที่มาด้วยกัน เขาถามกระปี๋ว่า มีที่นั่งข้างหน้าไหม พร้อมกับยื่นตั๋วโดยสารให้กระปี๋รับไป ผมไม้ได้ยินว่ากระปี๋ตอบว่ายังไง เมื่อถึงตนเองจึง ถามว่า มีที่นั่งด้านหน้า ๆ ไหม ? กระปี๋ถามว่าลงที่ไหน ผมก็ตอบว่ามหาสารคาม พร้อมยื่นตั๋วให้กระปี๋รับตั๋วไป และบอกให้ผมกับชายหญิงคู่นั้นรอก่อน เขาไปจัดให้คนต่อ ๆ ไปขึ้นไปนั่งในแถวหลัง ๆ ของรถจนหมดก่อน แล้วจึงมาจัดการกับเรา เขาพาเรามาประตูด้านหน้าแล้ว ชี้บอกผมว่า ”ลุงนั่งตรงนี้” และ ชี้บอกชายหญิงคู่นั้นว่า “สองคนมาด้วยกัน นั่งตรงนี้” ทั้งผมและชายหญิงคู่นั้นคงตกใจพอ ๆ กัน และพูดคล้าย ๆ (ประมาณว่า) อ้าว ? ไหนบอกว่ามีที่นั่ง นี่มันบันไดนะ หลังจากนั้นก็คุยกันอีกหลายประโยค…ท่านคิดต่อเอาเองนะครับ
สรุปว่า ชายหญิงคู่นั้นตัดสินใจไม่เดินทาง โดยกระปี๋บอกว่าสามารถไปคืนตั๋วได้ แต่ผมเห็นมีที่นั่งที่พับได้อยู่ข้างประตูทางขึ้นซึ่งมีเบาะหุ้มเล็กน้อยและพนักพิง ผมจึงถามกระปี๋ว่าผมนั่งตรงนี้ได้ไหม ? กระปี๋ตอบว่าได้ แต่ให้รอก่อนผมจึงยืนรอ สองสามนาทีต่อมา มีลุงพาป้าคนหนึ่งมา แล้วคุยกับกระปี๋ กระปี๋พูดว่าขอให้ป้านั่งตรงที่ ที่ผมจะขอนั่งนะ แล้วจะจัดให้ผมไปนั่งเก้าอี้เสริมข้างหลังแทน ผมตอบว่า ผมจะนั่งตรงนี้ แล้วก็ขึ้นไปบนรถกางที่นั่งออกมานั่ง (ขอโทษนะป้า….ที่ผมไม่ยอมให้ป้านั่ง…เพราะถ้าผมไปนั่งเก้าอี้เสริมตามที่ กระปี๋จัดการ ผมคงแย่นะครับ ผมก็ สว. นะครับ ไม่รู้ว่าใครจะอายุมากกว่าใคร…ถ้ากระปี๋ยืนยัน ผมคงตัดสินใจไม่เดินทางเที่ยวนั้น….อิอิ) นึกว่าเรื่องจะจบครับ อีกสองนาทีต่อมา มีชายคนหนึ่งมาพร้อมสัมภาระสองสามชิ้น หลังจากเอาสัมภาระไว้ในช่องเก็บของข้างรถแล้ว กระปี๋ก็พาเดินมาด้านหน้า แล้วบอกให้ผมลงมาก่อน ผมก็เลยพูดว่า ผมได้นั่งตรงนี้แน่นะ กระปี๋หน้าเสีย ผมก็เลยพูดว่า ผมพูดเล่นนะครับ (ที่จริงผมพูดจริง ๆ ไม่ได้พูดเล่นครับ…อิอิ) แล้วลงจากรถ กระปี๋ ขึ้นไปบนรถ ดึงเอาแผ่นฟองน้ำแข็ง หนึ่งแผ่นออกมาวางที่ พื้นรถตรงกับบันไดขั้นบน แล้วชี้บอกให้ชายคนนั้น ขึ้นไปนั่งตรงนั้น คงจะพอเดาปฏิกริยาของชายคนนั้นได้นะครับ รุนแรงกว่า ชายหญิงคู่แรกเสียอีก แต่ในที่สุดก็ยอมขึ้นไปนั่งครับ เรื่องราวของชายคนนี้ผมจะนำมาเล่าในตอนต่อไปนะครับ
ยังครับ ยังไม่หมด…หลังจากชายคนนั้นขึ้นไปนั่งบันไดขั้นบนแล้ว กระปี๋ ก็ดึงแผ่นฟองน้ำแข็งอีกแผ่นออกมาวางที่บันไดขั้นแรก แล้วเรียกเด็กหนุ่มสองคนที่นั่งรออยู่ข้างล่างขึ้นมานั่งคู่กัน ก่อนที่จะให้ผมขึ้นมานั่งบนที่นั่งที่พับได้ติดประตูหน้า….โดยสรุป ผมนั่งติดประตู และมีอีกสองคนนั่งตรงบันได รวมเป็นสามคน อยู่ในแนวเดียวกับคนขัยรถ และมีอีกหนึ่งคน นั่งที่พื้นรถโดยเท้าอยู่บันไดบันไดขั้นที่สองครับ…คือมีผู้โดยสารถึง ๔ คน อยู่ตรงนั้น ผมได้นั่งในตำแหน่งที่เห็นวิวด้านหน้ารถชัดเจนมาก เลยถ่ายรูปช่วงที่กระปี๋และคนขายตั๋ววิ่งเข้าวิ่งออกอีกหลายรอบ ในที่สุดรถก็ออกเดินทางจาก บขส. โคราช ในเวลาประมาณ ๑๑ น. ครับ….(จบตอนที่ ๑)
” สิ่งที่เคยเป็นหรือเคยเกิด อาจจะไม่เกิดหรือเป็นซ้ำอีก อย่างที่ท่านคิดก็ได้ สิ่งที่ท่านคิดอาจจะไม่เหมือนสิ่งที่คนอื่นคิดก็ได้….อิอิ”
« « Prev : ตลาดนัดฅน
Next : พลิกวิกฤติเป็นโอกาส » »
11 ความคิดเห็น
แย่จังเลยนะคะ ทำไมทำอย่างนี้ สันนิษฐานว่าเป็นรถสายยาว เพราะพี่แพนด้าบอกว่ามาจาก กทม. อาศัยโอกาสที่มีผู้โดยสารมากและเวลาเป็นตัวจำกัด ( ให้ต้องจำใจไปไม่อยากรอนาน ) จึงกล้าทำกับผู้โดยสารแบบนี้ แย่จังเน้อะ
เรื่องนี้ (ที่ยังไ่มจบ) ทำให้ผมนึกถึงกระบวนการจัดทำงบระมาณของราชการครับ
ต้นเรื่องก็ทำไปเหอะ ผ่านกรมไปกระทรวงกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง พอไปถึงสำนักงบประมาณ (เจ้าหน้าที่ ซี.6) ฟันโช๊ะเลย พอเข้าสภาก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปซะฉิบ รู้เรื่องกันซะไม่มี อิอิ
ถูกต้องเลยครับ ป้าหวาน เป็นรถสายยาวจริง ๆ กทม. ดอนตาล หรือ อะไรประมาณนี้ แต่ด้วยที่ครั้งก่อนผมเคยใช้บริการรถของ บริษัทนี้ แล้วมีที่นั่งตามปกติ คราวนี้ก็เลยคิดว่าคงเหมือนเดิม วันนี้คงเหมือนเมื่อวันนั้น แต่ไม่เหมือนอย่างที่คิด จึงเป็นที่มาของชื่อบันทึกครับ….อิอิ
อ้าว เห็นว่า มีคนโทรศัพท์ สองคน ที่นั่งข้างๆ และนั่งชั้นพิเศษ ที่จำใจยอมนั่ง และทำใจไม่ได้ …..เลยได้ฟังซาวน์แทรกสองเรื่องเป็นของแถม
ความจริงนั่งหน้า(ชั้นพิเศษ) เห็นวิวก่อนคนอื่น แถมเป็ยวิวพาโนรามาอีกตะหาก ถ้าูดู ลคร ฟังเพลง ในโอเปร่าฮอล ถือว่าเป็นชั้นพิเศษเลยนา คิคิคิ คิดดี ชีวี มีสุข ฮาฮ่าฮ้า…
รถทัวร์บ้านผมพัฒนาขึ้นมาก บอกเลยก็ได้ รถนครชัยแอร์
กทม.-บุรีรัมย์ 340 บาท ถูกกว่าราคาแท๊กซี่ไปสุวรรณภูมิ ราคา 400 บาท
ออกวันละ 10 เที่ยว ระหว่างรอมีนวดแผนไทยบริการ
เลิือกที่นั่งได้เองล่วงหน้า
วิ่งตรงเวลา 5 ชั่วโมงถึง คนขับเปลี่ยนระหว่างทาง มีโชเฟอร์ 2 คน/เที่ยว
มีอาหาร น้ำ ผ้าเย็น vcd ตลก ฟังเพลง หนังสือ นิตยสารอ่านเล่น
เบาะนั่งมีที่นวดไฟฟ้า
>> พวกเราควรสนับสนุนธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ
บริษัทฮ่วยแตกต้องบอกๆๆกัน อย่าไปขึ้น
>> เท่าที่สังเกตบริษัทรถทัวร์กำลังปรับบริการแข่งขันกันอย่างแรง
บ้านผมคนแห่มาขึ้นนครชัยแอร์ทั้งหมด
เอาแต่ได้ทัวร์กำลังจะเจ๊ง
ควรแจ้งเรื่องไปที่สมาคมเดินรถ/นสพ/ สื่อต่างๆ
ด้วยเหตผลอย่างที่ พ่อครูฯ ว่า….บริษัทฮ่วยแตก ต้องบอก ๆ ๆ ต่อ ผมจึงนำข่าวมาบอกพวกเราครับ พร้อมหน้าตากระปี๋ และ…..จอม งก ด้วย
บางทีแม้แต่รถบริษัทเดียวกัน ก็ยังบริการไม่เหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับ กระปี๋ และคนประจำรถ ผมเจอมาแล้วครับ
เรื่องแจ้ง (ร้องเรียน) ในเที่ยวที่ผมเดินทางนี้ มีคนดำเนินการโดยโทรไปแจ้งแล้วครับ…..อิอิ
สาย ขอนแก่น - กทม. ก็มี นครชัยแอร์ ให้นั่ง มานานแล้ว
และก็ให้บริการดีมาตลอด ดีกว่าทุกๆ สายเลยล่ะ
เคยนั่งครั้งแรก ปี 2534 และก็นั่งมาตลอด
การบริการ ค่อนข้างมีระบบ ดีมาก
ตั้งแต่ ที่รอขึ้นรถเป็นห้องปรับอากาศ ออกตรงเวลา
ขับรถดีมาก การบริการบนรถก็ดี
เวลาเดินทางไปที่อื่น ที่ไม่มี บริษัท นครชัยแอร์
จะเห็นความแตกต่าง ของรถทัวร์สายอื่น มาก
ยิ่งตอนนี้ นครชัยแอร์ สาย ขอนแก่น-กทม.
มีเพิ่มชั้น เฟิร์สคลาส ให้นั่ง ที่สายขอนแก่น เป็นสายแรก
ราคาเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ ยังกะนั่งเครื่องบิน เลยนะ
ใครอยากลองก็ทดลองดูได้ ไม่ผิดหวัง
แล้วท่านจะไม่อยากนั่ง สายอื่น อีกเลย
…
ขอเพิ่มอีกนิด
บริษัท นครชัยแอร์ มีบริการจองตั๋ว ระบบออนไลน์
สามารถจองล่วงหน้าได้ 1 เดือน
สามารถเลือกที่นั่ง ได้ตามความพอใจ
และเมื่อเลือกจองแล้ว จะได้นั่งตามที่จอง 1000 %
รับรองว่า ท่านจะไม่ได้นั่ง ราวบันใด แน่นอน
และมี ประกันภัย ทุกที่นั่งด้วย
ท่านที่สมัครเป็นสมาชิก ก็มีส่วนลดให้อีกต่างหาก
ตอนนี้ มีเส้นทางเดินรถ เพิ่มขึ้นมาก
แต่ ขอนแก่น - กทม. ก็ยังเป็นสาย ที่มีจำนวนเที่ยว มากที่สุด
ท่านใดสนใจใช้บริการ ก็ลองเปิดดู
ใน เวปไซต์ของ นครชัยแอร์ได้