บ้านชานเมือง (2) ปลายฝน
ช่วงปลายฝนที่บ้านชานเมืองปีนี้ มีพายุ ลมฝนเข้ามาสู่ประเทศไทยและมีอิทธิพลต่อบริมาณน้ำของภาคต่าง ๆ ของประเทศกันถ้วนหน้า วันไหนฝนตกหนัก ถนนหน้าบ้านกลายเป็นทางน้ำไหลไปเกือบครึ่งถนน สาเหตุเนื่องจากมีการถมที่เพื่อ สร้างบ้านเรือนใหม่ โดยถมที่ให้สูงกว่าพื้นที่ข้างเคียงเดิม แถมไม่มีการจัดทำท่อระบบายน้ำที่ดีพอ การไหลของน้ำจึงมีปัญหา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเมื่อเวลามีฝนตกหนัก เหตุการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องที่ชาวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะชาวกรุงบางพื้นที่คุ้นเคยกัน ตอนนี้ก็ระบาดมาถึงเมืองใหญ่ ๆ ในต่างจังหวัดกันด้วยแล้ว ทางองค์กรปกครองท้องถิ่นน่าจะมีมาตรการเพื่อป้องกันได้(ถ้าสนใจหรือใส่ใจ)
การมีฝนตก มีปริมาณน้ำมาก ชาวนาชาวไร่ก็ดีใจ ที่จะทำให้พืชพรรณธัญาหารที่ปลึกไว้เจริญงอกงาม แต่ชาวเมืองส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยชอบใจ เพราะทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวก เป็นเรื่องธรรมชาติของแทบทุกอย่างที่เกิดขึ้น มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบเป็นธรรมดา ขึ้นอยู่กับมุมมองหรือสถานะของแต่ละคน ฝนตกออกไปไหนไม่สะดวก อยู่บ้านดูสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม แต่ถ้าเราหัดเปลี่ยนมุมมอง เราก็จะได้ความรู้สึก ความคิดใหม่ ๆ ได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นการดู บัวในอ่างที่ปกติเราก็ดูจากด้านบน ถ้าเราลองดูจากด้านล่างของใบบัวบ้าง เราก็จะเห็นอะไรในมุมมองใหม่ได้ เป็นความสวยงามดีแบบหนึ่ง….เปลี่ยนมุมมองของท่านบ้างนะครับ จะทำให้ท่านได้มีโอกาสเห็นอะไรใหม่ ๆ ขึ้น จากที่ท่านคุ้นชิน
« « Prev : บ้านชานเมือง (1) ต้นปีบ
Next : บ้านชานเมือง (3) ต้นหนาว » »
1 ความคิดเห็น
บ้านคือวิมานของเรา ไม่ว่าฤดูกาลจะผ่านพ้นหมุนเวียนไปในแต่ละปี ลองสังเกตุให้ดีมีการเปลี่ยนแปลงเกือบทุกปี หากไม่จดและจำ ก็มิอาจพูดได้อย่างชัดเจนว่าเปลี่ยนไปอย่างไร จำเป็นยิ่งนักสำหรับความจดจำ จำไปทำไม ? สำหรับใครที่ไม่เข้าใจธรรมชาติ ย่อมไม่อยากจดจำ สำหรับอาม่าทุกอย่างที่ผ่านเข้า แล้วผ่านไป เป็นความรู้ที่นำมาจัดการองค์ความรู้ให้เหมาะสม นำมาใช้ได้ตลอดค่ะ นี่แหละค่ะการเรียนรู้ตลอดชีวิต