สอน….อย่างไรถึงจะดี?

โดย ถัง เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 เวลา 21:55 ในหมวดหมู่ การศึกษา #
อ่าน: 2060

          หลังจากเป็นผู้บริหารมาซะนาน  แถมยังใช้อภิสิทธิ์สอนน้อยอีกต่างหาก  กรรมก็เลยตามสนอง….

          เมื่อเดือนที่แล้ว  ดิฉันตั้งใจว่าจะเตรียมสอนอย่างประณีต  พอเปิดเทอมเดือนนี้  จะสอนให้ดีละต่อไปนี้ เพราะมีเวลาแล้ว

          หะแรก…ก็ค้น File เดิม ดูก่อน  เป็น File ppt. ที่มีแต่รูป  เนื้อหาน้อย (ตอนนั้น ใช้วิธีฝอยเอา) พิเคราะห์ดูแล้ว  อย่างนี้  เด็กๆ จะได้อะไรจากเราไปบ้างนี่???

          ต่อให้ดูด file ไปอ่านเองหลังจากอาจารย์สอนจบ  ก็ไม่รู้เรื่องแน่ เพราะมีแต่รูปสวยๆ…. กับข้อความสั้นๆ

          ด้วยดิฉันเคยคิดเสมอว่า ไอ้เจ้า ppt. นี่นะ  มันไม่เหมาะเลยที่จะใส่ตัวหนังสือเข้าไปเยอะๆ  ควรสื่อด้วยภาพ  แล้วสอนขยายความด้วยคำพูดดีกว่า  ใส่แต่ตัวหนังสือ นิสิตคงจะเบื่อแย่… 

          แต่เอ….นิสิตเดี๋ยวนี้  เขาก็ไม่จดบันทึก  อะไรกันเลยนะ  รอดูด File รอ Hand out จาก ppt. เพียงสถานเดียว อ้อ! บางคนมีสตังค์หน่อย  ก็เอา mp3 มาวางบนโต๊ะเรียนแทนสมุด Lecture เสียเลย  ดังนั้นเวลาเรียนก็นั่งฟังตาแป๋วอย่างสบายอารมณ์  แน่ใจว่าด้วยอุปกรณ์เหล่านี้  ไม่ทำให้ความรู้ตกหล่นไปไหนแน่

          อีกอย่าง……ดิฉันเริ่มสังเกตได้ว่า  อาจารย์สมัยนี้เขียนตำรากันไม่เป็น  คำว่า “ไม่เป็น”  ในความหมายของดิฉันก็คือ  มันทื่อๆ ไม่น่าอ่าน  เหมือนเอา ppt. แต่ละหน้าเอามาปะติดปะต่อกัน  ลักษณะเป็นประโยคสั้นๆ  แยกเป็น bullet  ต่อท้าย  ทำอย่างนี้ซ้ำๆ  ในทุกหัวข้อเรื่อง ไม่มีการเกริ่นนำอารัมภบท  ไม่มีคำเชื่อม คำขยาย หรือยกตัวอย่างประกอบ การเรียงร้อยถ้อยความไม่ลื่นไหล คอยแต่สะดุดกึกๆ อย่างนี้แหละค่ะ

          เพราะ ppt. นี่เอง ที่ทำให้การสอนของดิฉันเปลี่ยนไป  แถมเหมือนขาดเสียมิได้ด้วย

          สมัยก่อน…ดิฉันจำได้ว่า  เมื่อดิฉันเป็นนักเรียน นักศึกษา จะเรียนวิชาอะไร  ต้องเตรียมสมุด Lecture  ไว้  วิธีเรียนก็คือ ฟังอาจารย์บรรยายไปด้วยเขียนไปด้วย (อย่างเร็ว) ซึ่งต้องใช้สมาธิในการฟังและจับประเด็นสำคัญที่อาจารย์บรรยาย ต้องวางโครงสร้างไปด้วยว่าเรื่องต้องต่อกันเป็นลำดับอย่างไร  เพราะฉะนั้น  มันจะต้องคิดตามพร้อมๆ กันไปหมด เมื่อเอาสมุด Lecture มาอ่านภายหลังถึงจะรู้เรื่อง

          หรือด้วยวิธีสอนสำเร็จรูปแบบนี้เอง  แบบที่ใช้ ppt. มันทำให้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่  สื่อสารกันด้วยข้อมูล  ไม่ใช่ด้วยความรู้  และพลอยให้เสื่อมสมรรถภาพในการเขียนไปด้วย

          ดิฉัน…..จึงลองวิธีใหม่….โดยคราวนี้แม้จะเป็นหัวข้อวิชา intro  ที่อาจไม่สลักสำคัญอะไรนัก  สอนเพียง 3 - 4 ชั่วโมง  ดิฉันก็เขียนเป็นเอกสารคำสอนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว  เพื่อทดสอบสมรรถภาพตัวเองด้วยว่า  เสื่อมไปเพียงใด

          สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ…..มันมีเรื่องให้เขียนได้มากกว่าที่คิด   มันทำให้อุ่นใจว่า แม้เด็กๆ บางคนจะไม่ตั้งใจในชั่วโมงเรียน  ก็ยังมีเอกสารให้ศึกษาค้นคว้าได้

          แต่….พอสอนเข้าจริง  ซึ่งคราวนี้ไม่ใช้ ppt.  ใช้วิธีบรรยายตามเอกสารคำสอน  ก็ปรากฎว่า  วิธีนี้ก็ไม่ได้ส่งเสริมให้นิสิตเป็นนักบันทึกอยู่ดี………

          เอ….นี่มันดีกับอาจารย์ หรือลูกศิษย์กันแน่ ?????

          รึว่าต้องสอนแบบเขียนไปด้วย  อธิบายไปด้วย  แบบสมัยก่อนที่ใช้กระดานกับชอล์คเสียแล้ว

          เป็นอาจารย์สอนมาเกือบ 20 ปี  ทำให้ดีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวยังไม่ได้เลย………….(รึว่า จะทุกเรื่อง!!!)

          จบแบบ อิ…อิ…ไม่ค่อยออก

« « Prev : สัญญากับตัวเอง

Next : ถังซำหจัง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

13 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 เวลา 22:34

    วันก่อนไปพูดให้นักศึกษารายวิชาจิตตปัญญศึกษาฟังที่คณะครุศ่าสตร์   เลยแถมไปว่า  ไม่ค่อยเห็นด้วยที่อาจารย์สอนวิธีที่จะไปสอนคนอื่น
    ควรจะเป็นการสอนให้รู้ถึงวิธีที่จะเรียนรู้  เพราะถ้ารู้วิธีที่จะเรียนรู้ก็จะสอนเป็นเองแหละครับ  เดี๋ยวแถมหนังสือ Learn How to Learn ของ อ. วรภัทร์ให้อีกเล่มนึงก็แล้วกันครับ  อิอิ

  • #2 ลุงเอก ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 เวลา 22:34

    น่าจะสอนน้อยๆให้เด็กได้แลกเปลี่ยนมากๆ แล้วค่ยเสริมตำราเข้าไป

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 เวลา 22:38

    ขำๆๆๆๆๆ   คนที่ไม่ได้เป็นอาจารย์มาช่วยกันแนะนำอาจารย์   อิอิ

  • #4 malinee ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 เวลา 23:02

    จอมป่วน…ซะจริงๆ  บอกแล้วงัยว่าขำไม่ออกอ่ะ….

    ช้าก่อน…ช้าก่อน…….  โปรดอ่านต่อ……….

    มาป่วนบ่อยๆ ก็ได้นะ

    เพราะ….มาทีไร ก็ทำให้  Malinee  คุ้มชะมัด….ได้ของดี มีของฝากอีกแล้ว….

    ขำออกแล้วววววว…….คิก  คิก คิก !!!!

  • #5 malinee ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 เวลา 23:04
    ขอบคุณมากค่ะลุงเอก…..หนูจะจำไว้….และลองทำดูใหม่นะคะ !!!
  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2009 เวลา 2:08

    สอนอย่างประณีต คำนี้ ขอคารวะ 1 จอก  อิ อิ

  • #7 สุวรรณา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2009 เวลา 8:51

    สวัสดีค่ะ บอกอาจารย์ว่า เชื่อมืออาจารย์คะ น้ำเสียงใสๆ เจือความห่วงใยให้นิสิตมน.เรา  ดื้อๆก็หายดื้อค่ะอาจารย์

  • #8 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2009 เวลา 10:32

    เห็นด้วยกับวิธีการของลุงเอกค่ะ ว่าแต่ทำยังไงครูปูจะได้ยินเสียงใส ๆ ของอาจารย์บ้างคะ พี่นิดขา ^_^

  • #9 ถัง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:48

    ละอายแก่ใจเสียจริงจริงค่ะครูบา….. คิดได้….พูด (เขียน) ได้ ….แต่ทำไม่ได้

  • #10 ถัง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:50
    ขอบคุณมากค่ะน้องสุวรรณา…. อย่างอื่นยังไม่ดี…แต่เสียงดีก็พอได้นะคะ….ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย
  • #11 ถัง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:56
    คงต้องหาฤกษ์งามยามดี ยามรวมพลคนชาวเฮ กระมังคะ ครูปู 

    แต่ต้องขอเวลาไปซ้อม คาราโอเกะ ก่อนนะคะ….หลั่น…ลัล…ล้าาาา……

  • #12 Panda ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2009 เวลา 10:00

    อยากสมัครเป็นศิษย์ ร่วมเดินทางไปชมพูทวีปด้วย….แต่ก็สายเสียแล้ว….ก็แวะมา ลปรร. ในนี้ก็แล้วกันครับ ท่านถัง….อิอิ

  • #13 ถัง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:51
    ไม่เป็นไรค่ะท่าน Panda  ชมพูทวีป อยู่ตรงหน้าจอของท่านแล้ว……ชมพู้…ชมพู…นะท่านนะ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.048103094100952 sec
Sidebar: 0.045544862747192 sec