ดำนารวมใจ ในวันแม่
อ่าน: 1954ฟ้าครึ้มมาหลายวันแล้ว ฝนก็ตกๆหยุดๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า กิจกรรมดำนารวมใจ ที่ชักชวนกันไว้จะเป็นไปได้ด้วยดีหรือเปล่า แต่พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็ได้เห็นแสงแดดอ่อนที่ไม่ได้เห็นมาหลายวัน เป็นอันว่าเรา จะไม่ต้องดำนากัน กลางสายฝนแน่ๆ
ราวแปดโมงกว่าๆ คณะดำนาก็พร้อมออกเดินทางจากโรงเรียนไปยังนาทดลองของพวกเรา รวมแล้วก็ 20 กว่าชีวิต ทั้งถอนกล้าทั้งทำนา ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจลงแขกกัน ชั่วเวลาเพียงสามชั่วโมง ก็ดำนาเสร็จหนึ่งไร่ และดำซ่อมนาโยนที่เด็กนักเรียน มาโยนไว้แล้วถูกหอยกินไปบางส่วน จนเต็มพื้นที่ ยังไม่ทันเที่ยง ทุกคนก็เสร็จภารกิจดำนา แผนกอาหารก็ยกข้าวเหนียว ส้มตำ หมี่กะทิ ขนมจีนน้ำยา ลาบก้อย ออกมาเลี้ยงกันอย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์กันทุกคน
ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ แม่ใหญ่ขอบใจทุกคนที่มาร่วมลงแขกกันอย่างแข็งขัน และเสนอแนวคิดไปว่า ถ้าทุกคนที่มีนากันคนละ สองสามไร่ จนถึง สิบกว่าไร่ มารวมใจกันแบบนี้ เราก็จะได้กลุ่มชาวนาที่มีทีนารวมกันกว่า 50 ไร่ แม่ใหญ่เล่าว่าได้ศึกษาข้อมูลจากผู้ที่เคยรวมกลุ่มชาวนามาแล้วและพบว่า การทำนารวมกลุ่ม ทำอย่างถูกวิธี จะทำให้ ต้นทุนที่เคยสูง ต่ำลงได้หลายเปอร์เซ็นต์ เพราะเราจะซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อปุ๋ยอินทรีย์ ด้วยกันเป็นกลุ่ม นอกจากนี้เราจะรวมกันจ้างรถดำนา เครื่องเกี่ยวข้าวมาทุ่นแรง เวลาทำนาก็ไปลงแขก ทำด้วยกัน จากนาคนโน้นไปนาคนนี้ เวลาเก็บเกี่ยว ก็แบ่งผลผลิตกันไปตาม ส่วนของการเป็นเจ้าของนา และเราไม่ต้องรีบขายข้าวให้พ่อค้าคนกลาง หรือไปเป็นหนี้รถไถ เราสามารถรวมกลุ่มกันเอาไปข้าวสีที่โรงสีชุมชน หรือต่อไปถ้ากลุ่มเราแข็งแรงมากขึ้น เราอาจจะมีโรงสีเล็กของเราเองก็ยังได้ ถ้าเรารวมกัน การ บอกขายข้าวเราอาจเป็นคนตั้งราคาเองโดยไม่ง้อพ่อค้าคนกลาง เราไม่ต้องเป็นหนี้ค่าปุ๋ย จนเมื่อเก็บเกี่ยว ต้องรีบเอาข้าวไปขายเพื่อมาใช้หนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาหารือกัน อะไรที่ทางแม่ใหญ่ช่วยได้ก็จะช่วย เพื่อให้พวกเรามีความเป็นอยู่ที่สุขสบายขึ้น
แม้แม่ใหญ่จะไม่เคยทำนามาก่อน แต่คิดว่าสามารถช่วยเหลือเรื่องการจัดการของกลุ่มได้ และช่วยหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำนาร่วมสมัยให้ได้ด้วย
บอกให้เขาไปลองคิดดู ว่าสนใจมารวมกลุ่มกันไหม ถ้าเห็นดีด้วย เราก็จะได้เริ่มต้นด้วยกันในการทำนารอบหน้านี้