สอนแลป Delphi สดๆ
อ่าน: 3949สวัสดีครับทุกท่าน
ทดลองสอนแลปเดลไฟผ่านเว็บลานปัญญานะครับ
สิ่งที่จะเห็นต่อไปนี้เป็นเพียงโคดภาษาเดลไฟนะครับ…..
สวัสดีครับทุกท่าน
ทดลองสอนแลปเดลไฟผ่านเว็บลานปัญญานะครับ
สิ่งที่จะเห็นต่อไปนี้เป็นเพียงโคดภาษาเดลไฟนะครับ…..
สวัสดีครับทุกท่าน
นำผลงานนักศึกษาที่จำลองน้ำท่วมที่เกิดจากเืขื่อนแตกมาให้ดูครับ น้ำในเขื่อนค่อยๆ ลดลง แล้วน้ำก็กระจายไปยังพื้นที่ในละแวกนั้น ไหลลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำครับ จริงๆ เรากำหนดให้น้ำท่วมจาก 3 กรณีคือ น้ำทะเลหนุน ฝนตกหนักน้ำระบายไม่ทัน และกรณีสุดท้ายคือเขื่อนแตกหรือแหล่งน้ำระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ
ผมยังเชื่อเสมอว่า สมองคนเราเรียนรู้ได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด ก็จะมีช้างเผือกให้เราชื่นใจได้เสมอครับ การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้ความรู้และก่อให้เกิดปัญญา แต่การให้นั่งงอมืองอเท้าเป็นการให้ที่ต้องทบทวน
ด้วยมิตรภาพครับ
เม้ง
สวัสดีครับ
สบายกันดีนะครับ วันนี้ได้พูดคุยกับหลายๆ คน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันหลายๆ มุมมอง ก็ได้แนวทางหลายๆ อย่างในการนำไปแก้ปัญหา ส่วนจะแก้ได้หรือไม่ได้นั่นก็ต้องพึ่งการทำแล้วละ ตอนนี้จึงหมดเวลาบ่น…เพราะเหลือแต่เวลาทำ ทำแล้วหากได้ก็คงดี หากไม่ได้ก็คิดและทำไปเรื่อยๆ คำตอบที่ได้ในวันนี้อาจจะไม่ใช่เป็นคำตอบต่อไปในอีกสองปีข้างหน้าหรือไม่ใช่เป็นคำตอบของวันรุ่งขึ้นก็ได้ เพราะเมื่อโจทย์เปลี่ยนคำตอบก็ย่อมปรับเปลี่ยน โจทย์เดิมแต่บริบทเปลี่ยนคำตอบก็อาจจะเปลี่ยนตามบริบท….
ตอนนี้ตระหนักกับเรื่องหลายๆ เรื่อง เรื่องแรกๆเลยคือสุขภาพ เรื่องต่อมาคือการจัดการ….. โม้ไว้เยอะก็ต้องทำให้เยอะๆ เพราะทำไปโม้ไป โม้มากทำไม่ทัน…………
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการทำนะครับ……
ด้วยมิตรภาพครับ
กราบสวัสดีครับทุกท่าน
เมื่อย่างเข้าหน้าแล้ง น้ำในนาเริ่มแห้งลงไปทุกๆวัน ประชากรในนาก็ต้องปรับตัวใหม่ เหล่าปลาทั้งหลายในน้ำก็ต้องปรับตัวเพื่อรับกับสภาพของสังคมนา ไม่ว่าจะแหล่งทำมาหากินจะขัดสน ระดับน้ำก็ลดลงเรื่อยๆ จนไปอยู่ที่ต่ำสุดของที่ลุ่มในนา แต่ปลามีปลาหลายประเภท บางประเทศก็โต้แย้งกันใหญ่ว่าทำไมน้ำลด แหล่งหากินไม่เพียงพอ ต่างโทษฟ้าฝนสภาพอากาศ ปลาส่วนหนึ่งก็ยอมรับสภาพ ปลาส่วนหนึ่งก็เตรียมตัวอยู่แบบพอเพียงตามสภาพที่ทำได้ บางประเภทก็รอเตรียมตัวฝังตัวเองและจำศีล เพื่อรอน้ำใหม่ บางกลุ่มก็รอความสงบเพื่อจะลดเสียงโกลาหลในแหล่งน้ำในนา ยิ่งน้ำน้อยเสียงก็ยิ่งกังวาล
จนน้ำแห้งขอดนา ปลาที่เตรียมตัวไม่ทันในการจะฝังตัวในโคลนก็ลงไปกระจุกกันอยู่ในหลุม รอให้ชาวนาเดินผ่านมาจับไปปล่อยในสระน้ำแหล่งใหม่ บ้างก็รอนกกระยางนกกระสามาจิกกินอย่างอิ่มหนำสำราญ บ้างก็ต้องนอนร้อนแผดเผาอยู่เพื่ออาบแสงแดดแล้วตัวเกรียมรอมดมากัดกิน และอื่นๆ
หากจำลองนาแปลงนี้เป็นประเทศไทย ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เสมือนภาวะแห้งแล้ง เราจะเลือกเป็นปลาหรือสิ่งมีชีวิตแบบไหนอย่างไรกัน???
ด้วยมิตรภาพ
เม้ง
สวัสดีครับญาติมิตรทุกท่านครับ
สบายดีกันนะครับ วันนี้มีโอกาสได้ไปไหว้คุณครูหลายๆ ท่านเลยครับ ท่านใดอยู่ไกลก็โทรไปหา เป็นโอกาสหนึ่งอย่างน้อยก็คงทำให้คนรับโทรศัพท์และคนโทรศัพท์ไปมีบทสนทนาที่มีรอยยิ้มครับ พรุ่งนี้จะค่อยโทรหาอาจารย์ใหญ่ที่บ้านครับ ป่านนี้คงนอนหลับกันหมดแล้วครับ ส่วนตัวผมเองก็เพิ่งเป็นครูฝึกสอนครับ ตอนนี้ก็ค้นหาวิธีการเรียนรู้กับนักศึกษาอยู่ครับ ว่าเรียนรู้แบบใดที่จะเป็นแนวทางที่จะเข้าใจกันได้ดีที่สุดที่จะเป็นไปได้ครับ
วันนี้นั่งตรวจข้อสอบ ได้ประเด็นอะไรหลายๆ ที่เกิดขึ้นในใจขณะตรวจแบบทดสอบของนักศึกษา จึงอยากจะเก็บมาฝากพวกเรากันนะครับ….
1. ผีอยู่ไหน ยิ่งกลัวยิ่งเจอ…
2. ทำได้คือทำได้ ทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ ทำไม่ได้ไม่ใช่โง่ ทำได้เมื่อไหร่ความท้าทายก็หายไปทันที แต่ทำไม่ได้ซิความท้าทายยังอยู่เต็มเปี่ยม
3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา เหมือนฟังก์ชันที่เอาหัวใจใส่เข้าไปเป็นพารามิเตอร์ของฟังก์ชัน ผลลัพธ์ที่ได้คือความสุขใจที่ได้ใส่ใจ
4. เห็นปัญหา (โจทย์) ให้ยิ้มเข้าใส่ เราเป็นมิตรกับมัน มันจะเป็นมิตรและคลายคำตอบให้เรา
5. แรงจูงใจสำคัญ เพียงแต่ว่าเราจะให้อะไรมาจูงเรา เหตุผลจึงสำคัญต่อการเดินทาง
6. สอบปลายภาค นักศึกษาจะมีช่องให้คะแนนตัวเองด้วย เพื่อประมวลความรู้ตัวเอง (ทำเองตรวจเอง หากได้คะแนนน้อยก็ควรจะทบทวนซ้ำเพื่อปรับคะแนน มิใช่เราจะรีบออกจากห้องสอบ)
7. ข้อสอบจะเปิดโลกทัศน์ของผู้ออกข้อสอบเสมอ เมื่อได้ตรวจข้อสอบเราจะเห็นอะไรดีๆ ในจินตนาการของเด็กๆ (Diversity of the possible answers)
…. อื่นๆ จะค่อยมาเติมไว้นะครับ มีอะไรดีๆที่ท่านพบเจอหรือแลกเปลี่ยนกันได้ ด้วยความยินดีนะครับ
ท้ายสุดเอาภาพคุณครูฯ ที่ไปเจอมาฝากครับ
ด้วยมิตรภาพครับ ขอแรงศรัทธาและความรักจงมีกับทุกท่านครับ
เม้งครับ
สวัสดีครับทุกท่าน
ใครไม่รู้ครับ ส่งข่าวนี้มาให้ผม
เสาะหา”ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน” ทุ่มงบฯอุดหนุนสืบสานภูมิปัญญาตามรอย”ศิลปินแห่งชาติ”
เพื่อส่งเสริมบุคคลที่มีความสำคัญด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ รัฐบาลในยุคก่อนจึงยกย่องเชิดชูบุคคลเหล่านี้ด้วยการแต่งตั้งเป็น”ศิลปินแห่งชาติ”สาขาต่างๆ ด้วยการจัดงบประมาณสนับสนุนด้านสวัสดิการและชีวิตความเป็นอยู่เป็นประจำจำนวนหนึ่ง
ด้วยแนวความคิดเดียวกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นว่า เกษตรกรรมเป็นรากฐานดั่งเดิมและมีความสำคัญต่อประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นฐานด้านเกษตรกรรม จึงต้องการยกย่องเชิดชู”ผู้ทรงภูมิปัญญาด้านการเกษตร” จึงมีการตรา”ระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการส่งเสริมและการจัดสวัสดิการสำหรับปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน พ.ศ. 2551 “ประกาศใช้ในราชกิจานุเบกษาเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2552 ที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการเกษตรของประเทศ………….
คุณสมบัติปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน มีดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสีย
(3) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และผลงานเกี่ยวกับด้านการเกษตรอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม
(4) เป็นผู้มีประวัติและวิถีชีวิตที่มีคุณธรรมมีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล
(5) เป็นแบบอย่างด้านการประพฤติปฏิบัติอยู่ในหลักศาสนา และครรลองแห่งวัฒนธรรมไทย
(6) เป็นผู้ที่มีจิตใจและการประพฤติที่แสดงถึงการอุทิศตน เวลา ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ต่อเกษตรกร แวดวงการเกษตรในชุมชน หน่วยงานราชการ และประชาชนทั่วไป
………
ตามอ่านได้เต็มๆ ที่นี่ครับ….
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1231677945&grpid=01&catid=05
ท่านคิดเห็นกันอย่างไรครับ….. ทำให้ผมนึกถึงการสนทนากับท่านครูบาฯ เมื่อปีก่อน ว่าด้วยเรื่องการสวมหมวกให้ปราชญ์ ขึ้นมาตะหงิดๆ
ใครจะช่วยกันเสาะหาบ้างไหมครับ… ท่าทางบ้านเมืองเรามีน้อยมากๆ เลยครับ ถึงขั้นต้องเสาะหากันเลยครับ ผมคิดอีกมุมนึงคือ ทำไมเราไม่ทำให้ทุกคนเป็นปราดครับ ปราดเปรื่องในเรื่องที่อยากให้เค้ารู้ ปราดก่อนจะเป็นปราชญ์ และมีอีกคำถามคือ เมื่อสวมหมวกให้ปราชญ์แล้ว ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับปราชญ์เหล่านั้นบ้าง…. อิๆ
กราบขอบพระคุณมากคร้าบ
เม้ง
สวัสดีครับทุกท่าน
สบายดีกันนะครับ…สวัสดีปีใหม่ สบายใจเบิกบาน ยิ้มรับกับสิ่งที่เกิดไม่ว่ามันจะดี ปานกลาง หรือทางลบก็ตามครับ วันนี้อยากจะระบายเรื่องโลกของเราสักหน่อยครับ พื้นผิวโลกเรามีทั้งพื้นผิวที่เป็นน้ำ และเป็นหินดิน หรือเป็นน้ำแข็งปกคลุม หากเราคิดพื้นที่ผิว แล้วเราจะเอาจำนวนคนที่มีในโลกนี้ไปเป็นตัวหาร จะได้พื้นที่เฉลี่ยต่อคนว่ากันไปว่ากี่เอเคอร์ กี่ไร่ กี่ตารางกิโลเมตร แล้วแต่ว่าใครในแต่ละพื้นที่จะใช้หน่วยอะไรวัด ถามว่ามันยุติธรรมแล้วหรือ เราไม่ได้ไปนับจำนวนสัตว์ป่า แมลง ต้นไม้ มาหารด้วยเหรอครับ?
ทุกวันนี้เราเกิดมา ส่วนใหญ่เน้นหาครอบครองพื้นที่กันอย่างไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะครอบครองพื้นที่ด้วยอิทธิพลหรือครอบครองด้วยเงินทอง หรือครอบครองด้วยกฏหมาย หรือครอบครองด้วยการขอที่ซุกหัวนอนจากธรรมชาติก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้มีความยุติธรรมใดๆ หรอกครับ การครอบครองจึงขึ้นกับปัจจัยต่างๆ มากมาย
สวัสดีครับทุกท่าน
ปีใหม่ปีนี้ผมเองไม่ได้กลับบ้าน ทำหน้าที่เฝ้ามหาวิทยาลัยให้กับทุกคนที่กลับบ้านกันครับ แล้วค่อยหาโอกาสกลับในยามอื่นครับ ดูเหมือนว่าจะเสียสละนะครับ จริงๆ ต้องเร่งเคลียร์งานที่ค้างๆ ไว้นะครับ ประกอบกับเพิ่งกลับไปเยี่ยมบ้านตอนต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้วครับ การได้อยู่พร้อมหน้ายังไม่เท่าการได้อยู่กันพร้อมใจ ครับ การได้อยู่พร้อมหน้าต้องไปเจอกันใช่ไหมครับ แต่การได้อยู่กันพร้อมใจอยู่ที่ไหนก็ถึงกันใช่ไหมครับ ช่องทางในการติดต่อทุกวันนี้มีมากมายกว่าเมื่อก่อนมาก
เมื่อวานผมได้รับทราบว่ามีฝูงนกกระยางลงมาหาอาหารและใช้ชีวิตใน มอ. เป็นแหล่งพักพิง ถือว่าเป็นบ้านร่วมกันกับพวกเรา ผมก็เล่นปั่นจักรยานพร้อมเครื่องมือนการจับนกกระยางไป พอไปปั๊บจอดรถปั๊บบินหมดทั้งฝูงเลยครับ ผมเลยไปติดตามไปอีกที่นึงที่เค้าบินไปลงคราวนีละครับ ผมก็จับได้เพียบเลยครับ (คิดกันไปถึงไหนแล้วครับ จินตนาการ)
นี่คือรูปที่ผมได้จับไว้ได้นะครับ การจับของผมเป็นการจับแบบไม่ทำลายครับ อาจจะตกใจบ้างเล็กน้อยครับ นั่นคือการจับด้วยกล้องถ่ายรูปนั่นเอง….. นี่คือสวิงไอที ถ่ายได้ทุกอย่างทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นครับ
การได้มีโอกาสทำงานที่หนึ่งที่ใดสักที่ หากเราเห็นจุดเด่นจุดแข็งของที่นั้นๆ เราจะทำงานอย่างมีความสุข แน่นอนปัญหามีแน่ แต่ปัญหานั่นมันไม่ใช่ปมประเด็นแห่งการเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เพราะพื้นฐานที่สำคัญคือ ทำที่ไหนก็เพื่อไทยเช่นกัน หรือแม้ว่าจะย้ายไปทำที่ไหนก็ยังทำงานเพื่อไทยเช่นกัน
การสร้างความอบอุ่นให้เกิดในองค์กรจึงสำคัญมาก การบริหารงานด้วยหัวใจจึงสำคัญทึ่สุด สำคัญกว่าการบริหารแบบสมอง ความอบอุ่นเกิดจากหลายองค์มารวมกัน อบอุ่นตอบได้ด้วยหัวใจ
ผมนำภาพพระราชบิดามาฝากทุกท่านครับจากภาพด้านบนนะครับ ซึ่งผมคิดว่าพระองค์ท่านคือแบบอย่างที่ดีที่สุด ท่านยืนมองออกไปในทะเลอย่างสง่าตลอดเวลาไม่ว่าจะแดดออกฝนตกลมแรง
แล้วชีวิตของเราละอดทนและสู้กับปัญหาอย่างไร? ครับ
เสน่ห์อยู่ที่มุมมอง…หามุมมองไม่เจอฤาจะเห็นเสน่ห์
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการได้อยู่ร่วมและได้สร้างสรรค์สิ่งดีงามตลอดไปครับ
ด้วยมิตรภาพ
เม้ง
สวัสดีครับทุกท่าน
สบายดีกันนะครับ ช่วงนี้หยุดยาว หลายๆคนพักผ่อนกาย พักผ่อนใจ พักผ่อนสมอง เหนื่อยกายเค้าบอกให้พักกาย เหนื่อยใจเค้าบอกให้ทำใจ หนักสมองเค้าให้ผ่อนคลาย หากเรามองธรรมชาติ ธรรมชาติพยายามสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยองค์ประกอบที่เหมาะสมเสมอ หากคนเราประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ จริง แสดงว่าธรรมชาติฉลาดมากๆ เพราะท่านพระธรรมชาติจะทราบได้อย่างไร ว่าอายุเท่านี้ จะใส่ดินกี่กิโลกรัม น้ำกี่ลิตร ลมกี่กรัม ไฟกี่องศา แล้วเด็ดดวงจิตฝังไว้ในตัวตนให้เติบโตไปด้วยกัน ทั้งธาตุสี่ จิตวิญญาณและช่องว่าง (หรือว่าธาตุ 6) แต่เรื่องการเรียนรู้นี่ซิครับ พระธรรมชาติคงปล่อยให้เติบโตกันเอาเอง แล้วแต่ว่าใครจะขวนขวายใส่หัวสมองของเราเอง บางคนก็อยากเรียนรู้มากๆ ก็รู้เยอะหน่อย บางคนขี้เกียจเรียนรู้ บ่นปวดหัว (หา…ดีกว่า) ก็มีอิสระในการทำครับ
วันนี้ผมเลยอยากจะนำเสนอ N กลวิธีในการสอนให้สมองเด็กใหม่สดเสมอ ครับ คำว่าใหม่สดเสมอ คือยังไม่ได้ใช้งาน ตามที่คนเค้าล้อๆ กันว่า สมองพี่ไทยราคาสูงที่สุด (เค้าตอบว่า เพราะมันยังไม่ได้ใช้งาน ฮ่าๆๆๆ) แต่สมองใหม่สดแบบนี้ อาจจะไม่มีคนรับเข้าทำงานหลังจากเรียนจบนะครับ