ศูนย์ข้อมูลประเทศไทย - Thailand Information Center

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 28 December 2011 เวลา 7:14 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2752

วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดตัวศูนย์ข้อมูลประเทศไทย โดยที่ข้อมูลหลักๆหลายอย่างยังไม่ได้นำขึ้นแสดง แต่เนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่มากแล้ว และหลายๆท่านอาจจะต้องการข้อมูลวัดที่เปิดให้มีการสวดมนต์ข้ามปี ตลอดจนห้างสรรพสินค้าแต่ละที่ปิดกันกี่ทุ่ม มีโปรโมทชั่นอะไรบ้าง เพื่อจะไปช้อปปิ้งซื้อของกัน จึงขอนำเสนอข้อมูลในส่วนนี้ขึ้นมาก่อน และจะอัพเดตข้อมูลส่วนอื่นๆตามขึ้นมาเรื่อยๆ

ทีี่่มาของศูนย์ข้อมูลประเทศไทย เกิดจากประสบการณ์ที่ทำศูนย์ข้อมูลน้ำท่วม Thaiflood.com แล้วพบว่า เมื่อต้องการหาข้อมูลต่างๆหากมีศูนย์กลางที่สามารถรวบรวมหรือแนะนำเป็นลิงค์ไปได้ว่าจะไปหาข้อมูลที่ต้องการได้ที่ไหน ก็จะเกิดประโยชน์มากต่อผู้ที่ต้องการข้อมูล เวลาไปห้างใหญ่ๆ หรือ สนามบิน ก็จะต้องมีศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่เด่นๆสำหรับคนที่เพิ่งมาใหม่หรือต้องการเดินมาสอบถาม

คลิกเพื่อดูสรุปการทำงานของศูนย์ข้อมูล Thaiflood.com ในสถานการณ์อุทกภัย 2554

เมื่อน้ำลดครั้งใด งานของ Thaiflood จากที่ยุ่งๆก็จะลดลงไปด้วย แต่ครั้งนี้เราได้ลองทำระบบ ทีมไทยแลนด์ เพื่อให้ช่วยกันรายงานระดับน้ำแบบ crowdsourcing แล้วเรียกชื่อทีแรกไว้อย่างยืดยาวว่า “ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือ เยียวยา และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย” ทำให้ไม่มีใครเรยกถูกเลยเพราะยาวเหลือเกิน ฮาๆๆ คราวนี้ต้อนรับปีใหม่เลยจะเปลี่ยนเป็น “ศูนย์ข้อมูลประเทศไทย” วิธีการคือทำเหมือนศูนย์ข้อมูลน้ำท่วม Thaiflood แต่ทำในประเด็นอื่นๆด้วยไม่ใช่แค่น้ำท่วม แต่จะเน้นงานข้อมูลเป็นหลักครับ

ปีใหม่นี้หากต้องการให้จิตใจสงบ สบาย อยู่ในศีลในธรรมตั้งแต่ต้นปี ก็ขอเชิญสวดมนต์ข้ามปีได้ที่วัดที่คุณสะดวกและศรัทธานะครับ


Any Given Sunday วันพระไม่ได้มีหนเดียว

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 7 December 2011 เวลา 4:25 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3105

มีนิตยสารดังฉบับหนึ่งมาขอสัมภาษณ์ โดยให้เมล์ตอบไปสั้นๆในแต่ละข้อ

มาสะดุดข้อหนึ่งที่ถามว่า “ถ้าให้เลือกเพลง หรือหนัง หรือหนังสือสักเล่ม เพื่อให้กำลังใจคนไทยด้วยกัน จะเลือกอะไร”

ทีแรกก็คิดว่าถ้าตอบไปตามที่เราชอบจริงๆ คนอ่านจะได้ดูไหม เขาจะอินไหม ทำไมไม่ตอบอะไรง่ายๆ ผู้อ่านทั่วไปเขาจะได้รู้จัก

แต่ด้วยนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เลยตอบไปตามความจริงไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคำถามอื่นๆอีกสิบกว่าข้อ คงต้องรอให้นิตยสารเขาตีพิมพ์ก่อนนะครับ ผมรีบมาบันทึกไว้ก่อนเฉพาะในข้อนี้เพราะกลัวว่าตัวเองจะลืม

ผมอินกับหนังเรื่อง Any Given Sunday (1999) มากเลยนะ เป็นเรื่องดราม่าเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล บางวันอาจจะไม่ใช่วันของเรา แต่สักวันมันจะต้องมาถึง ถ้ามีโอกาสอยากให้หามาดูกัน โดยเฉพาะฉากตอนที่ทีมกำลังจะแพ้แล้วโค้ชจำเป็นที่จะต้องปลุกใจทีมให้สู้เพื่อเอาชนะให้ได้ ฉากนั้นฉากเดียวก็เกินคุ้ม (แอบส่งคลิปให้ ครับ แต่ไม่ควรลงหนังสือ)

I don’t know what to say really. Three minutes till the biggest battle of our professional lives. It all comes down to today. Now either we heal as a team, or we’re gonna crumble. Inch by inch, play by play, till we’re finished. We’re in hell right now, gentlemen. Believe me. And we can stay here, get the shit kicked out of us, or we can fight our way back into the light. We can climb out of hell. One inch at a time.

Now I can’t do it for you. I’m too old. I look around, I see these young faces, and I think… I mean I’ve made every wrong choice a middle-aged man can make. I pissed away all my money, believe it or not. I chased off anyone who’s ever loved me, and lately, I can’t even stand the face I see in the mirror. You know when you get old in life, things get taken from you. That’s part of life. But you only learn that when you start losing stuff. You find out life’s this game of inches. And so is football. Because in either game, life or football, the margin for error is so small. I mean… one half a step too late or too early and you don’t quite make it. One half second too slow too fast, you don’t quite catch it. The inches we need are everywhere around us. They are in every break of the game, every minute, every second. On this team, we fight for that inch. On this team, we tear ourselves and everyone else around us to pieces for that inch. We claw with our fingernails for that inch. Because we know when we add up all those inches, that’s gonna make the fucking difference between winning and losing! Between living and dying! I’ll tell you this - in any fight, its the guy whose willing to die who’s gonna win that inch. And I know if I’m going to have any life anymore, it’s because I’m still willing to fight and die for that inch. Because that’s what living is! The 6 inches in front of your face…

Now I can’t make you do it. You’ve got to look at the guy next to you, look into his eyes. Now I think you’re gonna see a guy who will go that inch with you. You’re gonna see a guy who will sacrifice himself for this team, because he knows when it comes down to it, you’re gonna do the same for him.

That’s a team, gentlemen. And either we heal, now, as a team, or we will die, as individuals. That’s football, guys. That’s all it is. Now, what are you going to do?

คนที่ชอบการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล ก็จะอินกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะกีฬานี้เฉีอนกันที่ระยะนับเป็นนิ้วกันได้จริงๆ ส่วนชื่อหนังไม่ได้แปลว่า วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกครับ แต่ผมเขียนเป็นชื่อเรื่องไว้เองเพราะมันให้อารมณ์เดียวกัน

สรุปว่าที่ชอบเรื่องนี้คงเพราะแก่แล้ว จะให้ลงไปลุยเองก็สู้เด็กไม่ได้ ต้องมาโค้ช ต้องมาบิ้ว อยู่ข้างสนามแทนถึงจะดี

การทำให้คนเก่งๆหลายๆคนทำงานเป็นทีมได้ดี เพื่อที่จะเอาชนะการแข่งขันนั้น นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย


กบนอกกะลา 11 พ.ย. 54 EMBall

2 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 13 November 2011 เวลา 11:33 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3942

เจอใน Youtube จึงนำมาแปะ embed ไว้นะครับ มีสามตอนครับ


ประเทศไทย กลับมาสดใสดีกว่าเดิม

อ่าน: 2594

เห็นว่า EMBall กำลังฮิต ใครๆก็มาปั้นกันใหญ่ ผมเลยมองข้ามช็อต ทวีตไอเดียออกไปเมื่อตอนเช้าดังนี้ครับ

จากนั้นตอนบ่ายๆ ผมก็ได้อ่านเแถลงจากทางวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งในฐานะศิทย์เก่า ผมก็ขอเคารพในอาจารย์และแถลงการณ์นี้ทุกประการ แต่ก็ยังขอชี้แจงเพื่อขยายแนวคิดนี้ออกไป เป็นไอเดียแบบเปิดไม่สงวนสิทธิ์ใดๆใครจะเอาไปทำก็ได้ โดยส่วนตัวผมและน้องๆอาสาตลอดจนเพื่อนๆได้พยายามผลักดันแนวคิดนี้มานานแล้วผ่านการลงมือทำในวาระต่างๆ

ตอนนี้น้ำท่วม เน่า และเหม็น ไปในหลายจังหวัดเรื่องมาจากต้นน้ำ ลงสู่อ่าวไทย

การโยนลูก EMBall จะได้ผลในพื้นที่เป็นจุดๆ เช่น ตอนเรือน้ำตาลจม เราเท EM น้ำ โยน EMBall ลงไปในจุดที่มีน้ำตาล หรือ อาหารของจุลินทรีย์ให้มันลงไปกินเยอะๆ เพราะน้ำตาลเป็นพิษทำปลาตายเยอะมาก หรือถ้าโรงพยาบาลไหนมีน้่ำท่วมขังเน่าเหม็น เราโดยลูก EMBall ที่ทำมาอย่างถูกต้องลงไป คำนวณให้ดีว่าต้องใช้กี่ลูกไม่มากไม่น้อยไป ก็ช่วยลดมลพิษทางกลิ่นไปได้มาก น้ำไม่หายเน่าไปได้ 100% หรอกครับ แต่สีจะดีขึ้นบ้าง

ช่วงเวลาที่น้ำลดหลายๆที่นิยมหมัก EM ไว้ฉีดล้าง ซึ่งได้ผลดีเป็นจุดๆ นิยมทำกันมาก

แต่… หากจะแก้ปัญหากันแบบเบ็ดเสร็จแบบระดับประเทศ ทำไมเราไม่ทำธนาคาร EM แห่งประเทศไทย โดยมีสาขามากมายแบ่งงานกันทำ โดยมองเป็นประเทศเลยครับ พอน้ำเริ่มจะลด ลุยใส่ EM มาตั้งแต่ต้นน้ำต่างๆ ให้น้ำที่มีจุลินทรีย์พันธุ์ดีไหลลงมา แล้วมีการเติมกันเป็นจุดๆรายทาง วิธีนี้จะสามารถพลิกฝื้นผืนดิน แม่น้ำลำคลอง ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ได้ในเวลาไม่นาน!!!

ถ้าจะทำกันจริงๆ ภาคประชาชนเป็นผู้ริเริ่มก่อน แล้วชวนท้องถิ่น, ชุมชน, ภาคเอกชน, ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มาร่วมแรงร่วมใจกัน สิ่งนี้เป็นไปได้ครับ และเคยเป็นไปแล้ว แค่จุดเดียวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ในคราวนี้เราจะสามารถ “คืนชีวิตให้แม่น้ำ คืนความงดงามให้ผืนดิน” ได้สำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามัคคีของคนไทยแล้วละครับ :)

พลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส

ร่วมแรง ร่วมใจ

ปฎิญญา เจ้าพระยา 2554

นายทหารยืนยัน พร้อมสนับสนุนกิจกรรมดีๆของประชาชน เพื่อประชาชน


ดราม่า EMBall

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 4 November 2011 เวลา 11:49 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4339

ต้องดูทั้งสองคลิปนะครับ แล้วอย่าเพิ่งด่าใคร หรือว่าใคร หลักกาลามสูตร ต้องลองพิสูจน์ถึงจะรู้ครับ

อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน


ด่วนครับ วิธีหยุดรอยรั่วของเขื่อนดิน ที่นวนคร

4 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 18 October 2011 เวลา 2:10 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4488

Siripong_Athonturasuk to me show details 11:03 PM (3 hours ago)

เรียนคุณปรเมศวร์ มินศิริ

ลองใช้วิธีหยุดรอยรั่วของเขื่อนดิน วิธีนี้ดูนะครับ ประยุตตามรายละเอียดขั้นตอน 1-4

หมายเหตุ

ขั้นตอนที่3 อาจต้องใช้คนเลียงกระสอบทราย และวางcontainer ให้ห่างจากรอยแยก

ขั้นตอนที่4 เอาถุงทรายมากองบนหลังคา container ก่อนแล้วโยนลงพร้อมๆกัน(เท่าที่ทำได้)

Method for repair of dam split

View more documents from Poramate Minsiri.

ขอใช้หยุดรอยรั่วขอเขื่อนดินที่ นิคมนวนครได้นะครับ

BR

Siriponga


รวมพลังรับมือภัยพิบัติ - National Disaster Taskforce

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 7 September 2011 เวลา 2:35 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2376

เป็นชื่อโครงการที่คิดชื่อภาษาไทยขึ้นมา เพราะรู้ว่าปัญหาภัยพิบัตินี้เป็นเรื่องใหญ่ เกินกว่าที่ใครจะทำคนเดียว หรือดูแลองค์กรเดียวได้ทั้งหมด และการทำแบบต่างคนต่างทำ ขาดการรวมพลังกันแล้ว ก็จะขาดประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จึงใช้ชื่อภาษาไทยว่า “รวมพลังรับมือภัยพิบัติ”

ส่วนชื่อภาษาอังกฤษนั้น คิดไม่ออก เลยทำตามคำชักชวนของรัฐบาลออสเตรเลีย หลังจากที่เขาถูกพายุซะอ่วมเมื่อตอนต้นปี ประธานาธิปดีออสเตรเลียได้จัดตั้งคณะทำงานแบบรวมพลังเพื่อรับมือภัยพิบัติขึ้นมาในประเทศ และได้ชักชวนประเทศอื่นๆในโลกให้จัดทำในลักษณะนี้บ้าง แล้วมาร่วมมือกัน ซึ่งผมเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดีจึงขอเข้าร่วมด้วย นี่คือที่มาของชื่อภาษาอังกฤษ National Disaster Taskforce

เคยทำหนังสือเปิดผนึก ถึงคนไทยทุกคน เรื่องเร่งยกระดับ การรับมือภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ !! เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 และเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับหวังว่าทุกๆภาคส่วนจะลุกขึ้นมาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อยกระดับการทำงาน

กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็ได้ช่วยสนับสนุน ให้การทำงานของเครือข่ายอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ มีผู้ทรงคุณวุฒิมาช่วยแนะนำโครงการ ซึ่งมีลักษณะเป็นงานที่สำคัญๆหลายยุทธศาสตร์ ที่เราตั้งใจจะใช้งบประมาณที่มีจำกัดให้มีประสิทธิภาพที่สุด ในงานส่วนที่เป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พวกเรายังทำกันแบบ “อาสา” ไม่มีค่าตอบแทนกันเหมือนเดิม เมื่อมีเวลาจึงเข้าสู่โครงการ “เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์” รับผิดชอบดำเนินงานตามแผนงานให้ลุล่วงต่อไป

การผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ทางสมัชชาสุขภาพก็ได้มีประเด็นภัยพิบัติด้วยในปีนี้ ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปเป็นคณะกรรมการ

เพื่อเอาข้อมูลความรู้ไปรวมกันแล้วขับเคลื่อนออกมาเป็นข้อเสนอที่สามารถผลักดันให้เป็นนโยบายระดับชาติได้ต่อไป

แต่แนวร่วมในโครงการ “รวมพลังรับมือภัยพิบัติ” ก็มีพลังพอที่จะขยับในมิติอื่นๆมากกว่าในเนื้องานตามโครงการ อาทิเช่น

อาสา Frontline 4×4.in.th เตรียมขยับทีมยกพลอาสาขับเคลื่อนสี่ล้อ เข้าร่วมในการรวมพลังรับมือภัยพิบัติด้วยเช่นกัน

ส่วนของ ThaiFlood ก็ได้พยายามแสวงหาพันธมิตรมาร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญล่าสุดเนื่องจากเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความเตรียมพร้อมของสหรัฐอเมริกา และผมเคยแปลเนื้อหาของรัฐบาลสหรัฐมาก่อนเช่น คำถามจากนาซ่า คุณเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน ไว้แล้วหรือยัง? ตลอดจนหนังโฆษณา ทำเลยวันนี้! พร้อมรับมือภัยพิบัติ ทาง ThaiFlood.com จึงได้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของทาง FEMA เพื่อช่วยแปลและเผยแพร่เนื้อหาในการเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติที่ทางรัฐบาลสหรัฐได้จัดทำขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยได้ศึกษาและนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่ติดขัดอุปสรรคด้านภาษา

ในส่วนของหนังสือให้ความรู้ด้านภัยพิบัตินี้ มีโครงการจะออกกันมาเป็นซีรีย์ โดยภาคีเครือข่ายที่ร่วมทำกันอยู่แล้วเริ่มจากกลุ่มที่ซี้ๆก่อน เช่น บทความสาระดีๆในลานซักล้างมากมายที่สามารถรวมเล่มได้ และ ประสบการณ์งานอาสาจากกลุ่มอาสาดุสิต และจะมีภาคีและเนื้อหาดีๆตามออกมาเรื่อยๆเท่าที่จะมีแรงทำกัน

เนื้องานมีเยอะต้องค่อยๆเล่าไปนะครับ แต่ดูจากการรับมือสถานการณ์ในเดือนนี้ขอบอกว่า “ชวนเหนื่อยกันแต่วัน” แค่เห็นภาพน้ำที่กำลังท่วมหนักที่ลำน้ำยม-น่าน ในจังหวัดพิษณุโลก, พิจิตร และ นครสวรรค์ เห็นชัดในภาพจากดาวเทียม Terra เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 54

อีกสามเดือนนี้ เหนื่อยกันแน่ๆ เตรียมตัวรวมพลังกันไว้ให้ดีครับ จะได้มีเวลาผลัดกันพักบ้าง :)


สุดยอด! กําเนิดพิภพวานร Rise of the Planet of the Apes

3 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 29 August 2011 เวลา 1:44 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 6879

ผมไม่ค่อยได้เขียนวิจารณ์หนังบ่อย ทั้งๆที่ได้ดูหนังบ่อย ขอเล่าถึงเรื่องนี้ไว้สั้นๆหลังจากที่เพิ่งดูจบ

- ไม่ได้ตั้งความหวังมากกับหนังเรื่องนี้ แต่ดูแล้วดีเกินคาดเยอะ

- ชอบชื่อภาษาไทยมาก ตกลงชื่อหนังเรื่องนี้คือการสปอยไปจนทะลุภาคสุดท้ายเลยชิมิ?

- Tagline สุดยอด “Evolution Becomes Revolution” เล่นคำคล้องจอง >> จากวิวัฒนาการ สู่การปฎิวัติ

- ใบปิดหนัง สะใจมาก ทั้งหน้าตาของลิงที่ดูเหมือนจะคิดได้ และกำปั้นที่ชูขึ้นสู้

- ชอบฉากหนึ่งในหนังมาก เป็นฉากที่ลิงคุยกัน ไม่อยากเล่าไปดูเองเต๊อะ

- ดูฉากนี้แล้วได้ข้อสรุปว่า ถ้าอยากชนะ นอกจากจะต้องสามัคคีกันแล้ว ต้องให้ปัญญาแก่หมู่คณะด้วย

ถ้ายังโง่อยู่ ต้องทำให้ฉลาดซะ!!! (อุ๊บส์ - ผมเห็นด้วยกับลิง นะเนี่ย)

- ผู้นำที่ดีต้องมีคุณธรรม

- ดูไปเชียร์ลิงไป สงสารลิง

พอละ ไปดูเองเถอะครับ ไม่ผิดหวัง (9/10)


นักสืบพลเมือง (Citizen Detective)

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 26 August 2011 เวลา 2:16 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2607

ตั้งแต่กล้องถ่ายภาพ กล้องถ่ายวิดีโอ มีราคาถูกลงแต่คุณภาพดีขึ้น เช่นเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีพวก Blog, VDO Sharing ใช้งานง่ายและแพร่หลาย จึงได้เกิดแนวคิดของ “นักข่าวพลเมือง” หรือ Citizen Journalist บูมขึ้นมา ใครๆก็เป็นนักข่าวได้เพราะสามารถทำตัวเป็นสื่อและหาทางเผยแพร่ได้ไม่ยาก ถ้าประเด็นดีๆและแหลมคม สื่อหลักจะสามารถมาเล่นต่อได้อีก

เช้าวันนี้ (25 สิงหาคม 2554) ผมไปประชุมที่ไทยพีบีเอส ประเด็นในการประชุมก็เป็นเรื่องนึง แต่ผมก็มีไอเดียแฝงขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งที่ได้มีโอกาสนำเสนอในโต๊ะประชุม และในเบื้องต้นก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ที่มาของไอเดียนี้ผมก็ท้าวความถึงกรณีตามหา “น้องพอมแพม” หลังจากถูกโจรจับไปเป็นขอทาน 20 วัน จนเจอตัว ซึ่งต้องให้เครดิต มูลนิธิกระจกเงา ที่ติดประกาศและประชาสัมพันธ์รูปน้องพอมแพมผ่านสื่อออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และรายการสถานีประชาชนทางไทยพีบีเอส ที่นำเสนอภาพน้องพอมแพม และติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งชาวสังคมออนไลน์โซเชียลมีเดียก็ช่วยกับ Retweet ในทวิตเตอร์ ในที่สุดก็ได้ออกสื่อใหญ่ รายการข่าวสามมิติ เผยแพร่ภาพน้องพอมแพมและภาพสเก็ตซ์คนร้าย ตามที่มูลนิธิกระจกเงาขอความอนุเคราะห์
มีคนมากมายมาช่วยกัน และล่าสุดก็มี “พลเมืองดี” ช่วยชี้เบาะแสจนสามารถได้ตัวน้องคืนมาได้

“พลเมืองดี” ภาพนี้น้องๆจับหน้าจอไว้ได้ โดยมีข้อความ sms ขึ้นมาอวยพรพอดี อ่านแล้วขนลุกเลย

ประเด็นที่ผม “ขายไอเดีย” และเน้นมากในวันนี้จนถูกแซวก็คือ การที่พ่อแม่คนไหนทำลูกหาย รับรองว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นแน่แท้ รายนี้ยังโชคดีแค่ 20 วันที่ตามหาลูกจนไม่ได้ไปทำงาน แต่บางรายตามกันเป็นปีๆอยู่หลายปีทีเดียว วันนี้ผมไปประชุมโดยมีน้องก้อยไปด้วย ซึ่งก่อนที่ก้อยจะมาทำงานร่วมกันกับผมที่บริษัท เคยเป็นหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายของมูลนิธิกระจกเงามาก่อน มีประสบการณ์อยู่หลายปี แล้วจึงออกมาสมัครงานใหม่ ผมเห็นทักษะการทำงานแล้วเสียดายในความสามารถมากจึงชวนมาทำงานร่วมกันได้สักพักแล้วครับ และก็ได้เรียนรู้จากก้อยมาเรื่อยๆ ประกอบกับที่ Kapook ก็ทำงานเรื่องคนหายประสานกับทางกระจกเงามาหลายปี

โดยมีไอเดียต่อยอดมากจากโครงการหนึ่งที่รับปาก พี่หมอจ๊วด นาวาอากาศเอก(พิเศษ) นายแพทย์ อิทธพร คณะเจริญ เอาไว้ด้วยว่าจะไปช่วยในแคมเปญของแพทย์สภา ที่มองกรณีของน้องพอมแพมว่า น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการให้สังคมมาช่วยกันสอดส่องหาเด็กที่ถูกนำไปขอทานหรือทำในสิ่งที่มิชอบ ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีจริงๆผมรีบตกปากรับคำขอลุยด้วยทันที จึงเป้นที่มาของการนำไปขยายผลต่อด้วยการคุยกับไทยพีบีเอส เพราะเชื่อว่าบทบาทและเครือข่ายของที่นี่น่าจะช่วยให้แคมเปญใหญ่ๆสามารถบรรลุผลนำเสร็จแน่ๆ

เวลาที่เราได้ยินคำว่า “พลเมืองดี” ผมมักจะคิดถึง “แท็กซี่” เราะเราเห็นตามข่าวว่าชอบมีแท็กซี่พลเมืองดี เก็บเงินหรือของส่งคืนผู้โดยสารได้เสมอๆ บางครั้งเงินเป็นจำนวนมากทีเดียว หรือดูข่าวว่าน้องหมาได้เงินบริจาคเป็นสิบๆล้าน คิดได้เลยว่านี่ไม่ใช่งานเล็กๆแล้ว หากเราร่วมมือกันทั้งสังคม ปัญหาเด็กหายย่อมแก้ได้แน่ๆ ดีกว่าปล่อยให้เป็นภาระของคนไม่กี่คนที่ขาดแคลนทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ แต่สู้ด้วยใจล้วนๆเพราะพ่อแม่ของเด็กยังไม่เลิกหวัง!

ผมเลยรีบเขียนบันทึกนี้ไว้เพื่อกันลืม และเพื่อเป็นการเปิดโครงการนี้ด้วยศัพท์ใหม่ที่ปิ๊งขึ้นมาได้ยามดึก คือ

“นักสืบพลเมือง (Citizen Detective)” ใครๆก็สามารถเป็นนักสืบได้ ศัพท์นี้ไม่ใหม่มีคนเคยใช้แล้ว แต่ไม่แพร่หลายเอาเสียเลย เราสามารถสร้างเครือข่ายนี้ออกไปได้ทั่วประเทศหรือทั่วโลก นอกจากจะช่วยเรื่องเด็กหายได้แล้ว ยังสามารถช่วยเรื่องอื่นๆได้อีกมากมาย นักสืบภาคสนามแค่มีโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปได้ ยิ่งเป็น Smartphone ที่มี GPS ยิ่งแจ๋ว หรือแค่กล้องถ่ายรูปพกพา ก็สามารถเป็นได้ ส่วนภาคสืบค้นข้อมูลด้านหลัง ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย และทีมงานมืออาชีพเกาะติดอย่างศูนย์ข้อมูลคนหาย กระจกเงา และผู้ใจดีที่สนับสนุนรางวัลนำจับหรือการดำเนินงานในพื้นที่ เครือข่าย Taxi พลเมืองดีที่มีอยู่อีกมาก สื่อมวลชนใจดีอีกมากมาย ฯลฯ

แนวคิด “นักสืบพลเมือง” หากเกิดขึ้นจากความร่วมมืออย่างกว้างขวางของคนในสังคม โอกาสที่พ่อแม่ที่รอคอยที่จะพบลูกที่หายไป ก็จะมีความหวังขึ้นอีกมาก และน่าจะขยายตัวไปช่วยเหลือสังคมได้อีกในหลายๆประเด็น

ผมเคยลองเป็นนักสืบพลเมืองเล่นๆมาแล้ว จากคำแนะะนำของคุณตฤณ ตันธเศรษฐี พบว่า ต้องรีบไปหาซื้อมือถือใหม่ดีกว่า (ฮา…) ต้องเป็น Andriod แบบ Dual-Core เนื่องจากแบบคอร์เดียวเวาเดินถ่ายรูปไปเยอะๆแล้วเครื่องมันร้อนมาก

ขอปิดท้ายด้วย ทวีตสาระความรู้ ของคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) ที่กลับมาดูแลมูลนิธิกระจกเงา และวันนี้ได้ทวีตข้อความดีๆ

ที่ผมควรจะรีบบันทึกไว้ก่อนที่จะลืมมันไป ขอบคุณครับ

1. ซีรีย์ เด็กหาย เด็กขอทาน ณ บัดนาว
2/ ปัญหาคนหายมีอยุ่ทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการขาดการติดต่อ ต่อเมื่อระบบสื่อสารดีขึ้น ฐานข้อมูลทางทะเบียนดีขึ้น การขาดการติดต่อจึงน้อยลง
3/ กรณีแจ้งความคนหาย ที่ ตร มักอ้างว่าให้ครบ 24 ชม ก่อนนั้น ไม่ได้เป็นระเบียบอะไร แต่เป็นธรรมเนียมที่ ตร มักอ้างขึ้นมา
4/ ในสหรัฐ ทุกรัฐจะมีศูนย์คนหายซึ่งเป็นหน่วยของรัฐท้องถิ่น เนื่องจากมีปัญหานี้ค่อนข้างมากโดยเฉพาะเด็กหาย
5/ ปัญหาเด็กหายส่วนใหญ่ในสหรัฐเป็นเรื่องการแย่งชิงการดูแลบุตร เนื่องจากครอบครัวหย่าร้าง แต่หลายรายเป็นอาชญากรรม
6/ ในยุค Internet บูมใหม่ ๆ เราจะได้รับ forward mail จากฝรั่ง มีรูปและเรื่องราวของเด็กหาย ผู้ปกครองรวมตัวกันทำเวบคนหายในเวลาต่อมา
7/ สำหรับเมืองไทย ระบบของ สตช คือ มีฐานข้อมูลบุคคลพลัดหลง แต่เป็นแค่ระบบบันทึก ไม่มีกลไกในการติดตาม
8/ ตอนนี้การรับแจ้งคนหาย เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ 2 แห่งคือ สตช และ ศูนย์ประชาบดี (พม) แต่ที่รู้กัน กลไกรัฐส่วนใหญ่ตั้งรับและมีความจำกัด
9/ คนหาย มีหายจากหลายสาเหตุ มีตั้งแต่หนีออกจากบ้าน ยันถูกฆาตกรรม
10/ กรณีเด็กขนาดเล็กที่หายไป มีหายตั้งแต่ใน รพ เอาไปขายในมาเลย์ ตอนนี้เอาไปนั่งขอทาน
11/ แนวโน้มการนำเด็กมานั่งขอทานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เด็กกลายเป็นอุปกรณ์ในการนั่งขอทานเพราะเรียกความน่าสงสารได้
12/ การนำเด็กมาขอทาน ผิดทั้ง พรบ ขอทาน และ พรบ คุ้มครองเด็ก
13/ ขอทานส่วนใหญ่ที่มีการนำเด็กมานั่งเป็นขอทานต่างด้าว บางคู่เป็นแม่ลุกกัน แต่บางคู่ไปเช่าหรือซื้อมา ส่วนใหญ่เป็นขบวนการอยุ่เป็นทีม
14/ ทุก 2 ใน 3 จุดที่มีการขอทาน จะมีเด็กนั่งอยู่ เด็กไม่ควรถูกนำมาเป็นเครื่องมือค้ามนุษย์ การให้เงินเด็กขอทานเป็นการเพิ่มจำนวนเด็กข้างถนน
15/ ครั้งหนึ่งตอนผมไปดูงานที่สหรัฐ เกิดกรณีเด็กหาย สำนักข่าว CNN ทำรายงานสดภายในไม่ถึง 1 วัน และมีการนำ ฮ.ติดตามค้นหาเด็กถ่ายทอดสด
16/ บริษัทขายนมสำหรับเด็ก บริจาคพื้นที่ข้างกล่องนม โดยนำรูปเด็กที่หายตัวติดไว้ที่ข้างกล่อง เป็นการทำ CSR ที่น่าสนใจ
17/ มูลนิธิกระจกเงาเคยติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังสถานีโทรทัศน์ของรัฐ เพื่อขอนำรุปเด็กหายไปประชาสัมพันธ์ แต่ได้รับคำตอบว่า ต้องมีค่าใช้จ่าย
18/ ศูนย์ข้อมูลคนหายในประเทศไทยเพิ่งปิดตัวลงด้วยข้อจำักัด แต่ปัญหาคนหายยังมีอยู่ทุกวันไม่เคยหมด คนทำงานต้องโยกคนทำงานมาหนุนไว้
19/ กรณีน้องแพม วัย 3 ขวบ หายไปจากชุมชน 20 วัน พ่อแม่เป็นกรรมกร ไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตปกติสุขได้ เดินหน้าหาลูกอย่างเดียว
20/ หลังเหตุการณ์ พค 53 มีการแจ้งคนหาย และยังสาปสูญอีกสิบกว่าคน (เท่าที่แจ้ง) วันก่อนเจอคนที่เขาอยู่ด้วยมาหา ขอให้ช่วยติดตาม ร่างก็เอา
21/ ประเทศไทยควรมีศูนย์ข้อมูลและติดตามคนหายอย่างเป็นระบบ โดยรัฐเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวบ้านไปแจ้งบันทึกประจำวันแล้วจบ
22/ การติดตามคนหายเป็นเรื่องที่ต้องมีทักษะ การค้นหาร่องรอยและตั้งสมมุติฐานที่ใกล้เคียงข้อเท็จจริง ช่วยทำให้การติดตามคนหายมีความเป็นไปได้จริง
23/ ที่น่าเศร้าคือ เสื้อแดงคนหนึ่งเป็นอดีตสมาชิกของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ชื่อ “เป็ด” เป็นลูกนายตำรวจ หายไป 1 ปียังหาไม่เจอ พ่อแม่หมดหนทาง
24/ พลังของภาคประชาสังคมสำคัญไม่น้อยกว่าการใช้กลไกรัฐในการติดตามคนหาย การที่สื่อให้ความสำคัญและให้พื้นที่ในการลงข่าว ช่วยได้หลายเคสแล้ว
25/ ในกรณีน้องแพม มีการนำภาพถ่ายเอกสารไปติดตามเสาไฟฟ้าและวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บนเส้นทางที่เราคิดว่าคนร้ายต้องผ่าน ได้รับความสนใจจาก ปชช
26/ คำขวัญของ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาคือ “การรอคอยต้องมีวันสิ้นสุด” แต่ในโลกแห่งความจริง อาจไม่เป็นเช่นนั้น
27/ “หยุดทำบุญในธุรกิจบาป” คือการรณรงค์ของโครงการยุติธุรกิจขอทานเด็ก

RT @MyraSangawong: @nuling แต่เด็กที่เมกาหายบ่อย ซุปเปอร์มาร์เกตนึงติดรูปไว้ไม่ต่ำกว่า 20 ต่อแห่งคะ

RT @sunit: ถ้าพี่สนใจเดี๋ยวเชื่อมให้ครับ คือ Face recognition + social media ถามถ่ายตามจุดขอทานต่างๆ = ระบบค้นหาคนหายโดย ปชช. // สนใจ

iwhale ปรเมศวร์ มินศิริ @nuling @Drittaporn เมื่อเช้าผมไปคุยงานที่ไทยพีบีเอส มีแนวคิดจะเชื่อมงานเรื่องเด็กหายกันได้อย่างเป็นระบบเผื่อสนใจครับ // สนใจครับ

RT @iwhale: @nuling จะขออนุญาตนำ ซีรีย์ เด็กหาย เด็กขอทาน ไปใส่ไว้ด้วยนะครับ (พร้อมเครดิต) // ยินดี และขอบคุณมากครับ

RT @iwhale: “@Neaw_NBC: ผบช.ภ.2สั่งทุกโรงพักชลบุรีล่าตัวชายหญิงลักพาตัวพอมแพมคาดอยู่ในพื้นที่ #smsTV3″

กรณีน้องแพม ต้องยอมรับว่าทาง ปชป เขาไวกว่า โดยเขาติดต่อเสนอตัวให้รางวัลแก่คนที่พบตัวเด็ก 2 หมื่นบาท ก่อนเรื่องนี้ไปถึงมือรัฐบาล

มูลนิธิกระจกเงา แถลงข่าวถอดบทเรียน กรณีน้องแพม เด็กหาย 10 โมงเช้า พรุ่งนี้ ที่มูลนิธิกระจกเงา ซ.วิภาวดี 44


ยานแม่ บุกโลก?

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 23 August 2011 เวลา 2:00 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1728

เขียนบันทึกเรื่องนี้ไว้ดูกันขำขำ ตามประสาคนชอบดูหนัง SciFi แล้วเวลาเจออะไรคล้ายๆในหนังจะอดคิดต่ออย่างเพลินเพลินไม่ได้ :)

ช่วงนี้เวลามีเมฆทะมึนมาตอนเย็นๆ ผมจะชอบแซวกันว่า “ยานแม่ใกล้จะมาแล้วสินะ” อันนี้มาจากเรื่อง ID4

เพราะยานแม่มันออกมาจากเมฆแบบนี้เลย 555

เพิ่มความสมจริง ด้วยข่าวการเห็น UFO จำนวน 27 ลำเหนือกรุงโซล ที่เกาหลี คงเป็นยานสอนแนมสินะ (อะแฮ่ม!)

ยานเยินอะไรไม่รู้ ดูแต่ผู้ประกาศข่าว :P

ช่วงหลังๆมีคนได้อัดคลิป เสียงประหลาดจากฟากฟ้าได้อีก เอิ๊ก..

เลยคิดถึงหนังเรื่องโปรด “StarTrek : The Voyage Home” เป็นตอนที่เกี่ยวกับเสียงประหลาดที่มาจากอวกาศเช่นกัน

คลิกข้ามไปดูนาทีที่ 10 ได้เลย หมอนี่มันพูดมาก

บันทึกนี้อ่านเพลินๆนะครับ ยังไม่ตัดสินอะไร ยังคงสังเกตการณ์อย่างเดียวต่อไปครับ



Main: 1.1960070133209 sec
Sidebar: 0.039966821670532 sec