ประเทศไทย กลับมาสดใสดีกว่าเดิม
เห็นว่า EMBall กำลังฮิต ใครๆก็มาปั้นกันใหญ่ ผมเลยมองข้ามช็อต ทวีตไอเดียออกไปเมื่อตอนเช้าดังนี้ครับ
จากนั้นตอนบ่ายๆ ผมก็ได้อ่านเแถลงจากทางวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งในฐานะศิทย์เก่า ผมก็ขอเคารพในอาจารย์และแถลงการณ์นี้ทุกประการ แต่ก็ยังขอชี้แจงเพื่อขยายแนวคิดนี้ออกไป เป็นไอเดียแบบเปิดไม่สงวนสิทธิ์ใดๆใครจะเอาไปทำก็ได้ โดยส่วนตัวผมและน้องๆอาสาตลอดจนเพื่อนๆได้พยายามผลักดันแนวคิดนี้มานานแล้วผ่านการลงมือทำในวาระต่างๆ
ตอนนี้น้ำท่วม เน่า และเหม็น ไปในหลายจังหวัดเรื่องมาจากต้นน้ำ ลงสู่อ่าวไทย
การโยนลูก EMBall จะได้ผลในพื้นที่เป็นจุดๆ เช่น ตอนเรือน้ำตาลจม เราเท EM น้ำ โยน EMBall ลงไปในจุดที่มีน้ำตาล หรือ อาหารของจุลินทรีย์ให้มันลงไปกินเยอะๆ เพราะน้ำตาลเป็นพิษทำปลาตายเยอะมาก หรือถ้าโรงพยาบาลไหนมีน้่ำท่วมขังเน่าเหม็น เราโดยลูก EMBall ที่ทำมาอย่างถูกต้องลงไป คำนวณให้ดีว่าต้องใช้กี่ลูกไม่มากไม่น้อยไป ก็ช่วยลดมลพิษทางกลิ่นไปได้มาก น้ำไม่หายเน่าไปได้ 100% หรอกครับ แต่สีจะดีขึ้นบ้าง
ช่วงเวลาที่น้ำลดหลายๆที่นิยมหมัก EM ไว้ฉีดล้าง ซึ่งได้ผลดีเป็นจุดๆ นิยมทำกันมาก
แต่… หากจะแก้ปัญหากันแบบเบ็ดเสร็จแบบระดับประเทศ ทำไมเราไม่ทำธนาคาร EM แห่งประเทศไทย โดยมีสาขามากมายแบ่งงานกันทำ โดยมองเป็นประเทศเลยครับ พอน้ำเริ่มจะลด ลุยใส่ EM มาตั้งแต่ต้นน้ำต่างๆ ให้น้ำที่มีจุลินทรีย์พันธุ์ดีไหลลงมา แล้วมีการเติมกันเป็นจุดๆรายทาง วิธีนี้จะสามารถพลิกฝื้นผืนดิน แม่น้ำลำคลอง ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ได้ในเวลาไม่นาน!!!
ถ้าจะทำกันจริงๆ ภาคประชาชนเป็นผู้ริเริ่มก่อน แล้วชวนท้องถิ่น, ชุมชน, ภาคเอกชน, ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มาร่วมแรงร่วมใจกัน สิ่งนี้เป็นไปได้ครับ และเคยเป็นไปแล้ว แค่จุดเดียวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ในคราวนี้เราจะสามารถ “คืนชีวิตให้แม่น้ำ คืนความงดงามให้ผืนดิน” ได้สำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามัคคีของคนไทยแล้วละครับ
พลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส
ร่วมแรง ร่วมใจ
ปฎิญญา เจ้าพระยา 2554
นายทหารยืนยัน พร้อมสนับสนุนกิจกรรมดีๆของประชาชน เพื่อประชาชน