Extreme Weather สังหรณ์ธรรมชาติ สภาพอากาศสุดขั้ว

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 19 August 2011 เวลา 7:37 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2535

นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้ออกมากล่าวเตือนภัยก่อนหน้านี้ว่า สภาพอากาศแปรปรวนจากภาวะโลกร้อนจะเกิดต่อเนื่องนับจากนี้ไป และถึงแม้ว่าจะไม่ร้ายแรงเท่าเหตุภัยแล้งในแอฟริกาตะวันออก หรือเหตุน้ำท่วมใหญ่ในประเทศปากีสถานเมื่อปีที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นทั่วโลกในไม่ช้า

ประเทศชิลี นอกจากแผ่นดินไหวแล้ว จากรูปนี้จะเห็นภูเขาไฟและฟ้าผ่ามากมายในที่เดียวกัน Photograph: Francisco Negroni, AgenciaUno/AP วันที่ 5 มิถุนายน 2554

องค์การนาซ่า แถลงข่าวในวันที่ 17 สิงหาคม 2554 ว่าเกิดเหตุการณ์ปริศนา ว่ามีน้ำแข็งจับที่เครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ต แม้ว่าจะบินอยู่ในประเทศที่มีเขตร้อน

ช่วงที่ผ่านมามีข่าวอากาศยานตกโดยหาสาเหตุไม่ได้เยอะมาก โดยเฉพาะเครื่องบินปีกหมุน หรือ เฮลิคอปเตอร์

3 Killed in Southern Australia Helicopter Crash SYDNEY August 19, 2011 (AP)

เห็นพระอาทิตย์ทรงกลด (Sun Dog) ขึ้นหลายที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดจากแสงหักเหกับเกล็ดน้ำแข็ง เช่นหมอกยามเช้า เกิดเป็นวง บางครั้งสะท้อนเป็นสีรุ้งหากมีละอองฝน รูปของพระอาทิตย์ทรงกลดเวลาเราค้นในกูเกิล มักจะเจอว่าเป็นช่วงเช้าทั้งสิ้น
แต่ช่วงนี้เราจะเห็นบ่อยมากขึ้นและหลายๆครั้งเกิดขึ้นช่วงกลางวันแสกๆที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลกและอากาศร้อนมาก

ภาพจากเฟสบุ้คเพื่อนๆครับ ลืมแล้วว่าของใคร

คำเตือนจากชาวพื้นเมืองหนาวขั้วโลก คนชราบอกว่าดวงอาทิตย์เปลี่ยนตำแหน่งการตกไป โดยสังเกตจากยอดเขา

ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการขยันของแกนโลก?

ชาวนิวซีแลนด์ต้องเผชิญกับพายุหิมะตกหนักครั้งประวัติการณ์เป็นวันที่ 2
ศูนย์พยากรณ์อากาศและน้ำ เผยว่า เมื่อวานนี้วัดอุณหภูมิได้ 8.1 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าต่ำสุดเท่าที่เคยจดบันทึกสถิติปี 2504 ทางการประกาศเตือนให้ประชาชนกักตุนอาหารและน้ำ เนื่องจากคาดว่าพายุรุนแรงครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ และคาดกันว่า กรุงเวลลิงตันจะมีหิมะตกหนาราว 15-30 ซม. - สำนักข่าวไทย

NASA มีแถลงการณ์ถ่ายทอดสด เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและเทคนิคในการสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ และลมสุริยะเมื่อวานนี้

การเกิดพายุที่มากขึ้นในโลกจากสภาพอากาศที่แปรปรวน


พายุถล่มเวทีคอนเสริทในรัฐอินเดียน่า เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 40 คน

พายุถล่มอาร์เจนตินา เปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืน

พายุถล่มกลางงานแต่ง ทับนักเรียนกะโหลกเปิด-นักร้อง2ร่างช็อค

โดยขณะเชิญประธานคล้องพวงมาลัยรักให้คู่บ่าวสาว แต่ใช้คำว่าคล้องพวงมาลา ทำให้ผู้มาร่วมงานวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมือนมีลางร้าย ทำให้เกิดอาถรรพณ์ เพราะได้เกิดฟ้าปิดพายุหมุนลงมาในงานอย่างกะทันหัน โดยไม่มีการตั้งเค้ามาก่อน และมีฝนตกกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้ผู้มาร่วมงานวิ่งหนีกันกระเจิง ลำโพงทั้ง 2 ข้างเวทีล้มลงมาทับเด็กที่เดินอยู่หน้าเวที 3 ราย - ข่าวสด

พายุทอร์นาโด ที่เกิดกลางเมืองในรัสเซีย

สถิติการเกิดพายุทอร์นาโดในฤดูพายุ ปีนี้ออกมาแล้วคือ 536 ลูก เป็นอันดับ 6 ซึ่งในปี 1925 เป็นสถิติสูงสุดที่ 794 ลูก

ภาพจากเฟสบุ้คเพื่อนๆครับ : ลืมแล้วว่าของใครและภาพนี้เป็นภาพที่คุ้นตาของคนเมือง ทุกๆเย็นเมื่อเมืองสะสมความร้อนไว้มากๆและความร้อนลอยขึ้นไป พออากาศเย็นลงจึงมีโอกาสเกิดเมฆฝนดังภาพ


เกิดหลุมยุบ มากมายในรอบเดือนที่ผ่านมา

2 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 15 July 2011 เวลา 9:45 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3052

หลุมยุบหรือ Sink Hole ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่น่าแปลกใจคือในรอบเดือนที่ผ่านมา มีรายงานการเกิดขึ้นในหลายๆที่ทั่วโลก
หลายๆคนในคลิปต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”

ถนนไฮเวย์ที่ยูท่าห์ รถตกลงไปจนมีเด็กอายุ 15 ปีเสียชีวิต 1 คน

หลุมยุบขนาด 18 เมตรที่ทางหลวง ในออนตาริโอ แคนาดา


ที่ยูท่าห์ เกิด Sinkhole ใหญ่ขนาดรถตกลงไปทั้งคัน


ที่ชายหาดในคลีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย หลุมยุบยาวกว่า 100 เมตรและลึกถึง 50 เมตร ครอบครัวต่างพากันกังวลถึงความปลอดภัยของบุตรหลาน


รถยนต์ตกลงไปทั้งคันที่ Tampa Florida


Tarpon Florida


Taft Florida คนงานน้ำมันของเชพรอนถูกหลุมขนาดเล็กที่จู่ๆก็เปิดออกแล้วดูดลงไป จมลึกราวๆ 35 เมตร เสียชีวิต 1 คน

Anderson อินเดียน่า

น่าจะมีรายงานอีกมาก ลองจับตาและวิเคราะห์กันดูนะครับ


ภัยจากภูเขาไฟใกล้เมืองไทย ภาค 2

2 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 15 July 2011 เวลา 9:01 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2033

เคยเขียนเรื่องภัยจากภูเขาไฟใกล้เมืองไทย ไว้เมื่อเดือนพย. ปีที่แล้ว

โดยกะอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแค่ภาคแรกแต่ไม่กล้าวงเล็บหนึ่งไว้ เดี๋ยวจะหาว่าแช่ง

ภาพ : รอยเตอร์

วันนี้มาแรงกว่าเดิม ภูเขาไฟโลคอน บนเกาะสุลาเวสี ปะทุขึ้นมาเห็นเป็นแสงเพลิงไฟ และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระเด็นลอยออกมาจากปล่องภูเขาไฟ มีการประกาศเตือนภัยสูงสุดจนคนนับพันต้องอพยพหนีภัย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน และที่สำคัญคือเป็นภูเขาไฟที่อยู่บริเวณกลางอินโดนีเซียด้วย นักภูเขาไฟวิทยาของรัฐบาลกล่าวว่า ภูเขาไฟปะทุครั้งใหญ่เมื่อเวลาประมาณ 22.31 น. ของวันที่ 14 กค. 2554 ตามเวลาประเทศไทย พ่นเถ้าถ่านและก้อนหินขึ้นสูง 1,500 เมตร และทำให้เกิดไฟไหม้หญ้าและต้นไม้ที่มีความสูงราว 500 เมตรในช่วงเช้าวันนี้


กำหนดการกิจกรรม “คืนชีวิตให้แม่น้ำ - SAVE THE RIVER” วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2554

3 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 7 June 2011 เวลา 1:58 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2217

กำหนดการกิจกรรม “คืนชีวิตให้แม่น้ำ - SAVE THE RIVER”
อิงนที รีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2554

เวลา 08.00 - 08.30 น. ผู้ร่วมกิจกรรมมาร่วมตัวกันที่จุดนัดหมาย
- ทีมอาสาดุสิต / อาสาสมัคร : อิงนที รีสอร์ท (อาสาดุสิต 20 คน/ เครือข่ายสังคมออนไลน์ ราว 30 คน / อาสาสมัครจาก True Move 30 คน / Kapook.com อาสา 10 คน )
- ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ : หน่วยงานราชการที่เข้าร่วมที่จุดปฎิบัติการวัดไก่เตี้ย (ทหาร 60 นาย/ อปท. 40 คน และชาวบ้าน 20 คน)
เวลา 08.30 น. เปิดใจถึงอุดมการณ์และประโยชน์ของการทำงานนี้ โดย
- อ.มนัส หนูสวี มูลนิธิเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- อ.เฉลียว ปานเนียม ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี
- คุณปิยะชีพ วัชโรบล อาสาดุสิต www.arsadusit.com
- คุณปรเมศวร์ มินศิริ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ค
www.kapook.com , www.thaiflood.com
เวลา 08.45 น. พิธีเปิดกิจกรรม (ฉีดจุลินทรีย์น้ำ พันธุ์สังเคราะห์ออกซิเจน ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา)
เวลา 09.00 น. ออกเรือ เพื่อปล่อย จุลินทรีย์บอล พันธุ์สังเคราะห์ออกซิเจน ลงสู่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อให้ละลายออกมาอย่างต่อเนื่อง
เวลา 09.30 น. ประธานในพิธี และแขกรับเชิญ ตลอดจนผู้สื่อข่าว มาพบปะกับเครือข่ายภาคประชาชน ที่ อิงนที รีสอร์ท
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ชุดที่ 2 เริ่มปล่อย จุลินทรีย์บอล ที่เหลือ ลงแม่น้ำเจ้าพระยา
เวลา 10.00 น. นั่งเรือข้ามฟาก ไปร่วมบริจาคและปั้นจุลินทรีย์บอล ที่ วัดไก่เตี้ย


ร่วมร่างและประกาศ ปฏิญญาเจ้าพระยา 2554

เวลา 12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน

ติดต่อ สอบถาม คุณชิดชนก (ปู - อาสาดุสิต) โทร 081-584-6885
คุณก้อย ThaiFlood.com โทร 089-073-6129
สอบถามเส้นทาง คุณไหม อิงนที รีสอร์ท 02-975-0952, 082-796-7581, 081-933-9087
เว็บไซต์หลักของโครงการ http://savetheriver.kapook.com


โครงการ “คืนชีวิตให้แม่น้ำ - SAVE THE RIVER”

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 7 June 2011 เวลา 1:55 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2020

จากเหตุการณ์เรือที่บรรทุกน้ำตาลหนัก 2,400 ตัน ได้ชนตลิ่งที่บริเวณหมู่ 2 ตำบลภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเรือจมลงในแม่น้ำ นอกจากกระแสน้ำจะเปลี่ยนทิศทางแล้ว น้ำตาลที่ละลายยังเป็นอาหารของจุลินทรีย์พันธุ์ร้ายในน้ำ ที่มากินแล้วเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนค่าออกซิเจนในน้ำลดต่ำลง ถึงระดับที่ปลาและสัตว์น้ำหลายชนิดอยู่ไม่ได้จนตายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายหน่วยงาน ได้ใช้ความพยายามในการแก้ปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้นมาโดยตลอด

สิ่งที่คนไทยคนหนึ่งอย่างเรา ที่เป็นกลุ่มอาสาสมัคร คิดและทำกันในวันนี้คือ ลองหารือกันแล้วว่าเมื่อน้ำตาลจมลงไปในน้ำกว่า 2,400 ตัน แม้จะดูดขึ้นมาได้บางส่วน แต่ส่วนที่ละลายเราจะทำอย่างไรกันดี พวกเรามีกำลังน้อยแต่ก็อยากจะขอมีส่วนร่วมแบบคนละไม้คนละมือ จึงได้คิดโครงการ “คืนชีวิตให้แม่น้ำ - Save The River” มาเพื่อชักชวนกันคืนชีวิตให้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ทางหนึ่งคือการเติมออกซิเจนให้กับแม่น้ำ โดยเริ่มจากการติดต่อ อาจารย์มนัส หนูฉวี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ที่มีประสบการณ์จากการดูงานที่ญี่ปุ่นมาแล้ว 4 ครั้ง และทำจนประสบความสำเร็จในไทยมาแล้วหลายแห่งเช่น ชุมพร, ทะเลสาบสงขลา,ปัตตานีและที่เกาะสมุย เมื่ออาจารย์ทราบเรื่องจึงได้ติดต่อเครือข่ายที่ทำงานอยู่จากจังหวัดต่างๆ เพื่อนำ EMBall บอลจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียมาร่วมโครงการ โดยมาจากอาจารย์เฉลียว ปานเนียม ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ หนองหญ้าไซ ก่อน 1 ตัน จำนวน 5,000 ลูก และจากชุมพรกับเกาะสมุยอีก 4 ตัน และได้ดำเนินการชักชวนเพื่อนๆในโซเชียลเน็ตเวิร์คให้ออกไปโยนลูกโบกาฉิ (EM Ball) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์พันธุ์พิเศษสำหรับแก้น้ำเสีย หวังว่าจะช่วยให้สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาเน่าเสียจากการที่เรือบรรทุกน้ำตาลล่ม ที่อยุธยาดีขึ้นบ้าง โดยใช้งบประมาณจากการระดมทุนในกองทุนร้อยน้ำใจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย มูลนิธิโอเพ่นแคร์ ซึ่งได้รับเงินบริจาคจากน้ำใจของภาคประชาชนและเอกชนหลายราย ดูแลกองทุนให้โปร่งใสตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ www.opencare.org โดย คุณตฤณ ตัณฑเศรษฐี
ทั้งอาจารย์มนัส หนูฉวี และ อาจารย์เฉลียว ปานเนียม ต่างมีประสบการณ์ในการบำบัดน้ำเสียจนประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะที่เกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร ที่ทะเลเน่าเสียก็ยังสามารถพลิกฟื้นกลับมาให้น้ำใสและมีปลาตลอดจนสัตว์น้ำกลับมาอาศัยได้อย่างมากมาย ทั้งสองท่านเคยเป็นวิทยากรมาแล้วหลายจังหวัดในประเทศไทยและในประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพนี้นิยมใช้กันมากในประเทศญี่ปุ่น ทำให้แม้น้ำลำคลองใสสะอาดมาแล้วมากมาย จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมกับทีมอาสาดุสิต ซึ่งมีผลงานอาสาเป็นที่ประจักต์และทีม Kapook.com / ThaiFlood.com ซึ่งสามารถเปิดเป็นประเด็นในสื่อออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง และเชิญชวนให้เกิดแนวร่วมมาสร้างสรรค์กันให้มากยิ่งขึ้น

กำหนดการโยนบอลบำบัดน้ำเสีย ครั้งแรกจึงเริ่มในเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2554 เวลา 10.30 น. โดยได้โยนไปแล้ว 1 ตัน ที่โค้งน้ำหน้าวัดไก่เตี้ย ก่อนถึงคลองประปา 500 เมตร และในเช้าวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2554 เวลา 11.30 น. ได้โยนลงไปที่จุดที่เรือจม ห่างออกไปทางต้นน้ำราว 100 เมตร จำนวน 1.5 ตัน และเทหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงไปด้วย
จึงขอตั้งเป้าหมาย คืนอ็อกซิเจนให้ธรรมชาติด้วยการเติมจุลินทรีย์บอลลงในแม่น้ำ 240 ตัน ! เพื่อให้จุลินทรีย์ได้มีโอกาสกินน้ำตาลเกือบ 2,400 ตันที่ละลายในน้ำเพื่อปลดปล่อยอ็อกซิเจนและปรับสภาพน้ำให้ดีขึ้นเพื่อให้โอกาสแก่ปลาและสัตว์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้ผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาแล้วได้พบกับสิ่งที่ดีๆบ้าง ซึ่งการบรรลุเป้าหมายนี้จำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมืออย่างกว้างขวางจากผู้มีจิตอาสาทั่วประเทศ, CSR ภาคเอกชน, การช่วยเหลือจากภาครัฐโดยเฉพาะกำลังพล และพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านที่จะช่วยขยายเรื่องนี้ออกไปให้เป็นประเด็นสาธารณะ
ท่านสามารถร่วมบริจาคเพื่อคืนชีวิตให้กับแม่น้ำได้ที่บัญชี “มูลนิธิโอเพ่นแคร์กองทุนร้อยน้ำใจเพื่องานอาสาฟื้นฟูผู้ประสบภัย” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ เลขที่บัญชี 402-177853-3 แล้วกรอกข้อมูลของท่านพร้อมตรวจสอบการใช้จ่ายได้ที่ www.opencare.org
ภาคีคืนชีวิตให้แม่น้ำ SAVE THE RIVER
*******************************************
ศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ThaiFlood.com) อาสาดุสิต (ArsaDusit.com) และ เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ภาคประชาชน (PS-EMC) มูลนิธิโอเพ่นแคร์ และอีกหลายองค์กร ผู้ร่วมสนับสนุนโครงการ “คืนชีวิตให้แม่น้ำ”
กรุณาแจ้งรายละเอียด ชื่อ นามสกุล หน่วยงาน สิ่งที่สนับสนุน และแนบภาพกับโลโก้และลิงค์เว็บไซต์มาด้วย (ถ้ามี) ทางโครงการจะนำรายชื่อมาเพิ่มในเว็บไซต์ www.kapook.com ที่มีผู้ชมมากกว่า 6 ล้านคนต่อเดือน เพื่อสร้างปิติให้กับผู้พบเห็นและช่วยกันเผยแพร่ให้ขยายผลการคืนชีวิตให้แม่น้ำมากยิ่งขึ้นต่อไป โดยส่งมาที่ webm...@kapook.com


มาช่วยกันคืนชีวิตให้กับแม่น้ำเจ้าพระยา #SaveTheRiver

3 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 5 June 2011 เวลา 1:29 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3712

ปลาราหู อยุ่ในน้ำ เรือลอยลำ บรรทุกน้ำตาล
คนคอยน้ำหวานๆ เรือน้ำตาล ล่องลอยมา
มาล่มจมตรงที่ น้ำตาลรี่ ลงธารา
ถมลงเจ้าพระยา หมู่ฝูงปลา ตายเป็นเบือ
ไม่เว้นปลาราหู อยู่ลึกอยู่ ใต้ธารา
ตายลงอย่างสิ้นท่า ลองถามหาว่าผิดใคร
ราหูหมดสิทธิ์อม อาทิตย์จันทร์ อมไม่ได้
ได้อมน้ำตาลทราย จึงตกตายใต้เจ้าพระยา

อรุณศักดิ์ อ่องละออ 4 มิถุนายน 2554

ใครที่ชอบทำทานปล่อยปลา กรุณาอ่านเรื่องนี้สักนิดนะครับ เผื่อจะเป็นการจุดประกายให้ท่านลองมาช่วยชีวิตปลา และสัตว์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยวิธีการอื่นดูบ้าง (และอย่าเพิ่งรีบปล่อยปลาอะไรลงไปในตอนนี้)

จากเหตุการณ์เรือที่บรรทุกน้ำตาลหนัก 2,400 ตัน ได้ชนตลิ่งที่บริเวณหมู่ 2 ตำบลภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเรือจมลงในแม่น้ำ นอกจากกระแสน้ำจะเปลี่ยนทิศทางแล้ว น้ำตาลที่ละลายยังเป็นอาหารของจุลินทรีย์พันธุ์ร้ายในน้ำที่มากินแล้วเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนค่าออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงถึงระดับที่ปลาและสัตว์น้ำหลายชนิดอยู่ไม่ได้จนตายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายหน่วยงานได้ใช้ความพยายามในการแก้ปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้นมาโดยตลอด

สิ่งที่คนไทยคนหนึ่งอย่างเรา ที่เป็นกลุ่มอาสาสมัคร คิดและทำกันในวันนี้คือ ลองหารือกันแล้วว่าเมื่อน้ำตาลจมลงไปในน้ำกว่า 2,400 ตัน แม้จะดูดขึ้นมาได้บางส่วน แต่ส่วนที่ละลายเราจะทำอย่างไรกันดี พวกเรามีกำลังน้อยแต่ก็อยากจะขอมีส่วนร่วมแบบคนละไม้คนละมือ จึงได้คิดโครงการ “Save The River” มาเพื่อชักชวนกันคืนชีวิตให้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ทางหนึ่งคือการเติมออกซิเจนให้กับแม่น้ำ โดยเริ่มจากการติดต่อ อาจารย์มนัส หนูฉวี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ที่มีประสบการณ์จากการดูงานที่ญี่ปุ่นมาแล้ว 4 ครั้ง และทำจนประสบความสำเร็จในไทยมาแล้วหลายแห่งเช่น ชุมพร, ทะเลสาบสงขลา,ปัตตานีและที่เกาะสมุย เมื่ออาจารย์ทราบเรื่องจึงได้ติดต่อเครือข่ายที่ทำงานอยู่จากจังหวัดต่างๆ เพื่อนำ EMBall บอลจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียมาร่วมโครงการ โดยมาจากสุพรรณบุรีก่อน 1 ตัน จำนวน 5,000 ลูก และจากชุมพรกับเกาะสมุยอีก 4 ตัน โดย อ.มนัสจะนำมาด้วยตนเองเพื่อร่วมโยนซ้ำในราวๆวันพุธ

จุดปฎิบัติการ ควบคุมงานโดย คุณหนุ่ย ปิยะชีพ วัชโรบล หัวหน้าทีมแนวหน้า อาสาดุสิต

กำหนดการโยนบอลบำบัดน้ำเสีย จึงขอเริ่มที่จุดแรกในเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2554 นัดรวมพลเวลา 9.00 น. โดยจะนิมนต์พระสงฆ์ และผู้นำทางศาสนาอิสลาม ในบริเวณนั้น ร่วมกับชาวบ้าน และอาสาสมัคร โดยช่วยกันประกาศทางเมล์และเครือข่ายสังคม Twitter/Facebook เท่าที่จะทำได้ เพื่อมาร่วมจุดประกาย สร้างกระแส ถ่ายภาพ ทำคลิปวิดีโอ เนื่องจากเราขอตั้งเป้าหมาย คืนอ็อกซิเจนให้ธรรมชาติด้วยการโยน EMBall ลงแม่น้ำ 240 ตัน ! เพื่อให้จุลินทรีย์ได้มีโอกาสกินน้ำตาลเกือบ 2,400 ตันที่ละลายในน้ำและปรับสภาพน้ำให้ดีขึ้นเพื่อให้โอกาสแก่ปลาและสัตว์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้ผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาแล้วได้พบกับสิ่งที่ดีๆบ้าง

คลิกการสำรวจพื้นที่ (น้องปู พี่หนุ่ย เปาว์ และทีมงานอีกหลายท่าน)
จึงขอเชิญชวนผู้สนใจโดยพร้อมกัน รายละเอียดเพิ่มเติม ปู อาสาดุสิต 081 5846885 หรือสอบถามเส้นทางได้ที่คุณไหม อิงนที รีสอร์ท 02 975 0952 พิกัด GPS 14.04641N,100.55618E เนื่องจากโครงการนี้เราคิดกันในวันเสาร์และไปดูสถานที่เสร็จแล้วก็เริ่มงานกันเลย หากท่านใดที่ยังไม่สะดวก ในครั้งนี้ เรายังจะมีกิจกรรม #SaveTheRiver ครั้งใหญ่ นำโดย อ.มนัส ในราวๆวันอังคารหรือพุธนี้ จะรีบแจ้งกำหนดการให้ทราบต่อไปเพื่อจะได้มามีส่วนร่วมคืนชีวิตให้กับแม่น้ำเจ้าพระยากันนะครับ :)


ทำเลยวันนี้! พร้อมรับมือภัยพิบัติ

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 23 April 2011 เวลา 1:49 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3042

คลิกไปดูโฆษณาที่น่าสนใจกันก่อนนะครับ เป็นคลิปที่แปลมาจากโฆษณาจากต่างประเทศของ FEMA (Federal Emergency Management Agency) ซึ่งเป็นองค์การบริหารส่วนกลางของสหรัฐ เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินเช่นภัยพิบัติ อยู่ในสังกัดของ Homeland Security




โฆษณาชิ้นนี้กระตุกให้ผู้ชมคิดว่า โลกที่เราอยู่กันอย่างปกตินี้ อาจเกิดภัยพิบัติที่คาดไม่ถึงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้โดยที่เราไม่รู้ตัว สิ่งที่เขาแนะนำประชาชนของเรามีสามขั้นตอนคือ

1. จัดชุดยังชีพ บรรจุเป็นถุงไว้เลยยิ่งดีครับจะได้หยิบฉวยสะดวกไม่ต้องเสียเวลาจัด สามารถคว้าออกไปได้ทันทีเมื่อครอบครัวต้องอพยพจากบ้าน มีสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างน้อย 3 วัน ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะเตรียมอะไรบ้าง ลองศึกษาได้จากคลิปนี้ครับ




ขอขอบคุณ อ.ไก่ จากทีมส่งผ่าน International Channeling

2. วางแผนล่วงหน้า ควรจะเตรียมตัวหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนว่า ในชุมชนของเราหากเกิดน้ำท่วม ที่บ้านของเราต้องหนีน้ำหรือไม่ ปลั๊กไฟอยู่ต่ำหรือสูง หากต้องหนีน้ำจะนำรถยนต์ไปจอดไว้ที่ใดได้บ้างหรือต้องหนีไปที่ใด เส้นทางเป็นอย่างไร ฯลฯ เตรียมพร้อมไว้ดีกว่าไปสับสนเมื่อยามจำเป็น ตระเเตรียมแต่ไม่แตกตื่น ย่อมดีกว่าแตกตื่นโดยไม่ตระเตรียม

3. หาข่าวสารข้อมูล ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติข่าวสารข้อมูลอาจกระจัดกระจาย จากในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาจึงได้มีการเปิดเว็บไซต์ศุนย์ข้อมูลน้ำท่วม Thaiflood.com ขึ้นมา และได้มีการเตรียมพร้อมเผื่อการรับมือแผ่นดินไหวไว้ด้วยเว็บไซต์ ThaiQuake.com ขึ้นมาด้วยอีกแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะเป็นจุดรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นจากแหล่งต่างๆและลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์แหล่งข้อมูลที่จำเป็นในอีกหลายๆที่ของประเทศไทยครับ

ทั้งนี้ในรายละเอียดสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ทั้งสองนี้ หรือ เว็บไซต์สถานการณ์อื่นๆที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเราทุกคนไม่ต้องการให้เกิด แต่การเตรียมพร้อม รับมือ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ไม่ยาก หากลงมือทำเลย วันนี้ !! ขอให้โชคดีท่กท่านครับ :)


เวทีสรุปบทเรียน การรับมือภัยพิบัติ

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 18 April 2011 เวลา 6:20 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2310

ภาพ : วงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับต้นน้ำ คืนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ระหว่างทีมอาจารย์และบุคลากร กับทีมแพทย์อาสา แพทย์สภา

เพื่อให้การผลักดัน เร่งยกระดับ การรับมือภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ มีรูปธรรมการดำเนินการมากขึ้น จึงขอนำเสนอรูปแบบการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน และเป็นเจ้าภาพร่วมในเรื่องนี้ไปพร้อมๆกัน เพราะเป็นวาระของเราทุกคนไม่ใช่ของรัฐบาลหรือของหน่วยงานใด ดังนี้ครับ

1. ต้นน้ำ : ชักชวนอาสาสมัครและคนทำงาน ให้รวมกลุ่มแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มตามหน้างานของตน เช่น มีเวทีชาวบ้านหลายๆแห่งได้ดำเนินงานไปแล้ว, กลุ่มวลัยลักษณ์เพื่อสังคม, อาสาสมัครกลุ่มต่างๆ, แพทย์อาสา ฯลฯ ส่วนนี้ถือเป็นต้นน้ำ มีข้อมูลปฐมภูมิจากการทำงานด้วยตนเอง

2. กลางน้ำ : เชิญชวนผู้แทนของกลุ่มต้นน้ำ มาแลกเปลี่ยนกับในวงเครือข่ายอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเครือข่ายเดิมที่ตั้งมาในช่วงน้ำท่วมปลายปีก่อน ซึ่งคราวที่แล้วจัดมา 3 ครั้ง เกิดการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนกันอย่างดี ซึ่งในการประชุมได้เรียนเชิญ อ.ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม เป็นประธานที่ประชุม เมื่อหารือเสร็จแล้วจะนำผลสรุปเบื้องต้นไปสอบถามและหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุง และเตรียมการดำเนินงานในขั้นที่สาม (ปลายน้ำ)

ถ้าในกลุ่มต้นน้ำกลุ่มใดได้หารือกันแล้วมีความเห็นว่าต้องการส่งตัวแทนมาร่วมแลกเปลี่ยน ก็จะเป็นที่ยินดีมากครับ วงนี้น่าจะนัดคุยกันในช่วงต้นเดือนหน้าแล้วครับ

3. ปลายน้ำ : เป็นการผลักดันเรื่องภัยพิบัติให้เป็นประเด็นสู่สาธารณะ โดยนำประเด็นหลักๆและตัวแทนของกลุ่มที่หารือร่วมกันว่าจะช่วยผลักดันส่วนไหน จัดเป็นเวที เช่น รูปแบบ Ignite ให้ 20 คน 20 เรื่องได้นำเสนอพร้อมสไลด์เรื่องละ 5 นาที โดยจัดร่วมกับ ThaiPBS (อยู่ในระหว่างการหารือ) และองค์กรร่วมจัดร่วมเป็นเจ้าภาพและร่วมสนับสนุนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก

สิ่งที่จะได้จากงานนี้ คือ ได้ร่วมกันผลักดันเรื่องการรับมือภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ ได้บทเรียนจากการทำงานจริงเข้ามาแลกเปลี่ยน เกิดเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ และสามารถสรุปบทเรียนเผยแพร่ออกไปได้ผ่านสื่อสารมวลชน และผลักดันให้มีการขยายผลและดำเนินการออกไปอย่างเป็นรูปธรรมที่มากขึ้น


ยินดีเปิดรับข้อเสนอและแลกเปลี่ยน แนะนำเพิ่มเติมได้ครับ ขอบคุณครับ

ปรเมศวร์ มินศิริ

ผู้ประสานงานเครือข่ายอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ภาคประชาชน)

webm...@thaiflood.com

http://www.thaiflood.com

ขอแปะความเห็นที่เคยไปแลกเปลี่ยนไว้ทาง ThaiPBS ไว้ด้วยครับ เป็นรายการในคืนวันที่ 4 เมษายน 2554 นะครับ


เร่งยกระดับ การรับมือภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ !!

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 18 April 2011 เวลา 3:40 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3878

ในช่วงสองปีนี้ตั้งแต่ ปี 2011 เป็นช่วงที่ปฎิกิริยาพระอาทิตย์จะขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปี ตามวัฎจักร ไปจนถึงเดือนธันวาคม ปี 2012 ซึ่งเมื่อประกอบกับความเชื่อเรื่องปฎิทินมายัน ในอดีตที่ไปจบลงที่ช่วงนั้นพอดี กับปรากฎการณ์ดาวในระบบสุริยะเรียงตัว ความเชื่อเรื่องคำทำนายกึ่งพุทธกาลก็ดี ผลจากโลกร้อนก็ดี ทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวเรื่องภัยพิบัติกันมากขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาได้เกิดพายุไซโคลนยาซีที่ออสเตรเลียที่มีความรุนแรงที่สุดในโลก มากยิ่งกว่าแคทรีนา โชคยังดีที่มีขนาดที่เล็กกว่า ถึงกระนั้นออสเตรเลียก็ประสบปัญหาน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก เกิดสึนามิบนบก (Inland Tsumani) อันเกิดจากน้ำป่าไหลหลากลงมาจากภูเขา ผู้คนต่างพากันอพยพจนต้องมีการอาศัยบ้านเรือนกันอยู่ และในเดือนกุมภาพันธ์ ก้ได้เกิดแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 6.3 ริคเตอร์ มีระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร ที่เมืองไครส์ต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและอาคาร ตลอดจนถนนหนทางและมีผู้เสียชีวิตถึง 172 คน จากนั้นภัยพิบัติก็ได้เกิดขึ้นอย่างตอเนื่องในโลกนี้ด้วยการเกิดแผ่นดินไหวที่นอกชายฝั่งของเมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคม ด้วยความแรงระดับ 9.0 ริกเตอร์ ที่ความลึก 32 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่ง Tōhoku เพียง 72 กิโลเมตร เป็นเวลา 6 นาที เกิดคลื่นสึนามิที่มีความสูงมากกว่า 10 เมตร และเกิดอาฟเตอร์ช็อคมากถึง 1021 ครั้ง มี 63 ครั้งที่มีความแรงเกิน 6.0 ริกเตอร์ นอกจากจะสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนทรัพย์สินแล้ว ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13,858 คน และบาดเจ็บอีก 4,916 คน

เหตุการณ์ภัยพิบัติยังได้มาถึงเมื่องไทย ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ในปลายปี 2553 มาจนถึงเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ที่ชายแดนพม่า ส่งผลให้มีคนไทยคนแรกที่เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเนื่องจากถูกกำแพงบ้านล้มทับ แผ่นดินไหวรับรู้ได้ในหลายจังหวัดของประเทศไทยและผู้ทีอยู่บนอาคารสูงในกรุงเทพยังจับได้ถึงการสั่นไหวในครั้งนั้น นอกจากนี้ยังเกิดฝนตกหนักผิดฤดูในปลายเดือนมีนาคม ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักใน 10 จังหวัดภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 64 คน สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนถึง 628,998 ครัวเรือน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะที่เขียนบทความนี้ก็ได้มีแผ่นดินไหวถี่ขึ้นมากในจุดต่างๆของบริเวณ Ring of Fire และหลายๆจุดในโลก, ประเทศไทยกำลังประสบกับพายุฤดูร้อนในหลายจังหวัดและที่สหรัฐอเมริกาตอนใต้ถูกถล่มด้วยพายุทอร์นาโดจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 45 คน และเกิดพายุลูกเห็บที่กำลังถล่มประเทศจีนตอนใต้เช่นกัน

การเกิดภัยพิบัติที่มีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นในโลก ทำใหนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลในเรื่องนี้ ได้เตรียมเสนอที่ประชุม ครม. ในวันที่ 28 มีนาคม 2554 เพื่อพิจารณาปัญหาภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ เป็น “วาระแห่งชาติ” หวังการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเป็นวาระที่ทุกฝ่ายในชาติจะต้องมาร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งขณะนี้ ครม.ยังไม่มีมติในประเด็นนี้ออกมา เนื่องจากมีความต้องการให้เกิดการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อน แต่จากข้อมูลที่ภาคประชาชนได้ทำการรวบรวมมา มีความเห็นว่าควรจะมีการเร่งยกระดับ การรับมือภัยพิบัติให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันดำเนินการป้องกัน เนื่องจากภัยธรรมชาติหากเกิดขึ้นโดยไม่มีความสูญเสียหรือสูญเสียเพียงเล็กน้อยจากการเตรียมการที่ดี ก็จะไม่เกิดภัยพิบัติขึ้น แต่หากเกิดภัยธรรมชาติแล้วขาดการเตรียมการรับมือที่ดี จนเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพยสิน นั่นคือเกิดภัยพิบัติขึ้นแล้ว

อาศัยความตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 ที่ได้กำหนดให้บุคคลมี “หน้าที่” ช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติสาธารณะ และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขอทำจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้เพื่อเชิญชวนให้พี่น้องชาวไทยทุกท่าน มีส่วนร่วมในการผลักดันเร่งยกระดับการรับมือภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ สร้างความตระหนักในทุกระดับให้มีการเตรียมพร้อม จัดทำระบบป้องกัน เตือนภัย ซักซ้อม จัดวางระบบที่ทำให้ชุมชนแข้มแข็งสามารถช่วยเหลือตนเองและมีความสามารถที่จะช่วยเหลือชุมชนเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยามเกิดภัยพิบัติ จัดทำนโยบายสาธารณะที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดกลไกการรับมือภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองได้รวดเร็ว ภายใต้งบประมาณที่สมเหตุสมผล เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติในการรับมือกับภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น แต่เราสามารถร่วมแรงร่วมใจเตรียมพร้อมรับมือได้ตั้งแต่วันนี้เพื่อลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพยสินของผู้ประสบภัยได้ในวันข้างหน้า

ปรเมศวร์ มินศิริ

ผู้ประสานงานเครือข่ายอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ภาคประชาชน)

webm...@thaiflood.com

http://www.thaiflood.com


สงกรานต์ที่กรุงชิง : คนไทย มีน้ำใจ ไม่ทิ้งกัน

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 13 April 2011 เวลา 3:28 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4066

น้ำตกกรุงชิง คือน้ำตกในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตั้งอยู่ในตำบลกรุงชิง นอกจากจะมีความสวยงามเป็นพิเศษแล้วยังเป็นแหล่งต้นน้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง น้ำตกกรุงชิงมีอยู่หลายชั้น เช่น หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า หนานปลิว หนานจน หนานโจร หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน แต่ชั้นที่สวยที่สุด คือ “หนานฝนแสนห่า” ที่อยู่ชั้นที่ 2 เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูงชันประมาณ 80-100 เมตร ที่ตกลงมากระทบโขดหินที่อยู่กันตามธรรมชาติได้พอเหมาะ เกิดเป็นกระแสน้ำแผ่เป็นผืนกว้างกระจายออกเป็นละอองเหมือนม่านฝน ไม่จับกันเป็นเกลียวน้ำดังน้ำตกทั่วไป จีงเรียกว่า “ฝนแสนห่า”

ความยิ่งใหญ่ของสายน้ำตามธรรมชาติ : ภาพ ตากล้อง.คอม

ความสวยงามของน้ำตกกรุงชิง เป็นที่ประจักต์จนเคยปรากฎที่ด้านหลังของธนบัตรใบละ 1,000 บาทรุ่นเดิมมาแล้ว

จากการที่กรุงชิงมีฝนตกหนักติดต่อกันถึง 6 วัน ในปริมาณเกินวันละ 100 มม. หรือรวม 1,200 มม. จากข้อมูลของ NASA จนเกิดสถานการณ์น้ำท่วมและมีน้ำป่าไหลหลาก คลิก เหตุเกิดที่กรุงชิง-นบพิตำ จึงทำให้สะพานฟัง เส้นทางตัดขาด ชาวบ้านต้องอพยพ มีผู้เสียชีวิตและบ้านเรือนเสียหาย เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถเช่น กองทัพภาคที่ 4 ช่วยในการอพยพชาวบ้าน, ตชด. 42, หน่วยรบพิเศษ, ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช, คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ จาก รพ.ค่ายวชิราวุธและ รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ, และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่างๆ ทหารช่างเร่งทำทาง ซ่อมสะพาน, การประปานครหลวงส่งรถผลิตน้ำประปาดื่มได้เข้าในพื้นที่, อาสาสมัครกู้ภัยและเดินเท้าส่งถุงยังชีพ นพ.รังสิต ทองสมัคร์ ทีมทาร์ซาน ที่กำลังทำงานสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้ด้วย

ภาพที่เราได้เห็นคือมีทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครหลายฝ่ายทั้งอาสาสมัครในพื้นที่, กู้ภัย และอาจารย์,บุคคลากร,นักศึกษาจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ล้วนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านทั้ง 11 หมู่บ้าน กว่า 2,800 ครัวเรือน

แต่หลังจากที่น้ำฝนตกจนไหลหลากผ่านไป ทางกรุงชิงก็พบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ ในวันสงกรานต์ที่หลายๆพื้นที่ในประเทศไทยกำลังสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานในเทศกาลสำคัญนี้ บริเวณกรุงชิง นบพิตำ ยังขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค บางหมู่บ้านมีน้ำสำรองใช้อีกไม่นาน ระบบประปาภูเขาที่เคยได้งบประมาณจากอบต.เมื่อหลายปีมาก่อนถูกทำลายและจากการที่ดินถล่มได้เกิดการเปลี่ยนแปลงจุดตาน้ำ และนำโคลนเข้ามาในบ้านเรือน, วัดและสถานที่ส่วนกลางอีกหลายที่ การแก้ปัญหาระยะสั้นอาจจะเป็นการซื้อน้ำแต่การแก้ปัญหาระยะยาวไม่ควรเป็นเช่นนั้น

แต่เนื่องจากงบประมาณในท้องถิ่นมีไม่พอต่อความต้องการในขณะนี้ ทีมอาสาดุสิตนำโดยคุณหนุ่ย ปิยะชีพ วัชโรบล ซึ่งกำลังทำโครงการประปาภูเขาที่ภูทับเบิกอยู่ด้วย จึงได้ลงสำรวจพื้นที่และได้รับการร้องขอจากชาวบ้านทั้ง 11 หมู่บ้านให้ช่วยดำเนินการทำโครงการประปาภูเขาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ทันต่อความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ จึงได้จัดให้มีการประชุมผู้นำทั้ง 11 หมู่บ้านและผู้ที่เกี่ยวข้อง บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และได้มีการโหวตเริ่มทำงานได้ทันทีที่หมู่ 6 ก่อน แล้วจึงดำเนินการในหมู่บ้านอื่นๆที่มีความพร้อมตามลำดับต่อมา โดยมีน้องปู ชิดชนก ฌานคุปตรัตน์ จากอาสาดุสิต ที่เพิ่งได้ตำแหน่งใหม่มาหมาดๆคือ สมาชิกสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ไทยพีบีเอส ซึ่งได้รับค้ดเลือกจากคุณสมบัติที่เป็นผู้มีจิตอาสา เป็นตัวแทนสื่อทางเลือก ได้เข้าประสานงานในพื้นที่ และกำลังทำการเก็บตัวอย่างน้ำจากต้นน้ำเพื่อไปตรวจสอบในห้องแล็ปเพื่อหาค่าโลหะหนักที่อาจเป็นอันตรายได้ในจุดต่างๆ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนท่อน้ำจากทาง SCG โดยคุณโก้ คุณสุรนุช ธงศิลา กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิซีเมนต์ไทยเพื่อนำมาดำเนินการโดยใช้แรงงานอาสาสมัครในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กำลังเริ่มดำเนินการโดยความร่วมมือของหลายภาคส่วน เพื่อส่งมอบน้ำให้เป็นของขวัญในเทศกาลสงกรานต์ มอบสู่ชุมชนผู้ประสบภัยในกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช



Main: 0.1502640247345 sec
Sidebar: 0.022742033004761 sec