พระบรมราโชวาท พระราชทาน เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๑๕

1 ความคิดเห็น โดย planoi เมื่อ 12 December 2010 เวลา 12:34 am ในหมวดหมู่ พระมหากษัตริย์ #
อ่าน: 2638

“ความรู้ในวิชาการ

เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้สามารถฟ้นฝ่าอุปสรรคได้

และทำให้เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นคนที่สามารถ

เป็นคนที่จะมีความพอใจได้ในตัว

ว่าทำประโยชน์แก่ตัวเองและแก่ส่วนรวม

นอกจากวิชาความรู้

ก็จะต้องฝึกฝนในสิ่งที่ตัวจะต้องปฏิบัติ

ให้สอดคล้องกับสังคม สอดคล้องกับสมัย

และสอดคล้องกับศีลธรรมที่ดีงาม

ถ้าได้ทั้งวิชาการ ทั้งความรู้รอบตัวและความรู้ในชีวิต

ก็จะทำให้เป็นคนที่เต็มคน”

 

พระบรมราโชวาท วันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕
 
 
ากการเดินทางไปร่วมลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราชพร้อมกับพ่อและแม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อพากราบที่หน้าพระรูปหล่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อน จากนั้นเมื่อได้ลงชื่อถวายพระพรแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้อัญเชิญโปสการ์ดให้ มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่มุมขวาด้านบนและมีพระบรมราโชวาทองค์ที่อัญเชิญมานี้ มุมล่างขวาพิมพ์ว่าโรงพยาบาลศิริราช อ่านแล้วเป็นพระบรมราโชวาทอีกหนึ่งองค์ที่ปลื้มปิติน้อมอัญเชิญเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้ ยังได้รับปฏิทินปีใหม่ขนาดพกพาภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่มูลนิธิขาเทียม มูลนิธิโรคไตพิมพ์ ตั้งใจไว้ว่า จะขออัญเชิญโปสการ์ดกับปฏิทินเข้ากรอบไว้บูชา ปิติอยู่กับพระบรมราโชวาท น้ำตาไหลมาตั้งแต่อ่านพระบรมราโชวาทในโปสการ์ด
 
ขอบคุณคุณน้าผู้หญิงใจดี (ท่านน่าจะเป็นคุณหมอหรือข้าราชการสำนักพระราชวัง) ที่เห็นครอบครัวมาลงนามถวายพระพรแล้วนำซีดี ๗ ภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติมอบให้ คุณน้าถามว่า ได้รับซีดีหรือยัง ตอบท่านว่ายัง ท่านก็เลยมอบให้ ในใจทีแรกคิดว่าท่านเป็นผู้มาร่วมลงนามเหมือนกัน คิดในใจว่า ช่างใจดีมากๆ เลย อ้อ ก่อนมาที่ตึก ๑๐๐ ปี ซึ่งมาลงนามเป็นครั้งแรก เดินมาตามทางที่คุณแท็กซี่บอก แล้วก็ได้คำแนะนำจากคุณน้าผู้ชายคงเห็นว่าจะมาถวายพระพร บอกให้เลี้ยวซ้ายไปได้เลย ก็ถึงพอดี ขอบคุณท่าน ท่านยิ้มให้ เป็นอีกวันที่ประทับใจกับน้ำใจของคนไทยที่มีให้แก่กันค่ะ ด้านซ้ายเห็นมีผู้มาบริจาคโลหิต น่าจะถวายเป็นพระราชกุศลด้วย ส่วนด้านขวาจัดโต๊ะไว้ให้เป็นที่ลงนาม แลมีขนม เครื่องดื่มพระราชทานให้ผู้มาร่วมลงนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยประชาราษฎร์ของพระองค์อยู่เสมอ
 
เมื่อไปกราบพระบรมรูปสมเด็จพระบรมราชชนกแล้ว ได้ทำบุญถวายในกล่องที่หน้าพระราชานุสาวรีย์ มีคุณยายอายุท่านคงมากแล้ว มาจุดธูปกราบสักการะ สาธุ พ่อและแม่เดินไปทางท่าน้ำ ได้กราบพระพุทธเมตตาคุณากร ซึ่งเวลาชมข่าวในพระราชสำนักหรือถ่ายทอดพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงถวายพวงมาลัยสักการะ ซึ่งพระพุทธเมตตาคุณากรเป็นพระพุทธรูปปางลีลา ที่โรงพยาบาลศิริราชสร้างถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๓๖ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๔
 
ตอนที่กราบพระพุทธเมตตาคุณากร ได้สวดมนต์บทอิติปิโส ๑ จบ และสวดโพชฌงคปริตร ๑ จบ น้อมถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพละพลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรง
 

ในวันเดียวกัน หลังจากไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ฝ่ายแม่ที่พระประแดง เป็นโอกาสอันดีที่ได้ไปชมสวนสุขภาพลัดโพธิ์ยามค่ำ เห็นประตูน้ำ สะพานภูมิพล ๑ สะพานภูมิพล ๒ ที่เคยอยากมาแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใดและได้ขึ้นสะพานภูมิพล ๑ แล้ว ดีใจมากค่ะ พ่อชวนไปถ่ายรูปอีกครั้งในยามแดดร่มลมตก เพื่อให้ได้วิวงามๆ
 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก wikipedia และข่าวในพระราชสำนัก เช่น เจ้าพระยานิวส์และช่อง ๗

 


อริยทรัพย์ที่มีผู้ริเริ่มทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๑

1 ความคิดเห็น โดย planoi เมื่อ 9 December 2010 เวลา 11:47 pm ในหมวดหมู่ พระพุทธศาสนา, พระมหากษัตริย์ #
อ่าน: 1909

อันเนื่องมาจากบันทึกแรก ขอรวบรวมข้อมูลเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ให้ท่านได้ทราบเพื่อร่วมอนุโมทนาหรือร่วมทำบุญกับโครงการต่างๆ ครอบคลุมโครงการที่น้อมถวายในวาระพิเศษ เช่น เฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงมีพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษาในวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นต้น

สำหรับโครงการแรกนี้ เป็นโครงการอุปสมบทหมู่ ๙๙๙ รูป ซึ่ง


 

 

 

แหล่งที่มาของข้อมูลอ้างอิง
๑. ข่าวในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=102641
๒. การประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย เอ็นบีที
 

 

โครงการนี้จะเป็นโครงการปฐมฤกษ์ของการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวรโรกาสสำคัญสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยก็คือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเจริญพระชนมายุครบ ๘๔ พรรษาในปี ๒๕๕๔
วัตถุประสงค์เพื่อที่จะเสริมสร้างสังคมแห่งความดี และแสดงความจงรักภักดีด้วยการกระทำความดีของประชาชนทั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

รายละเอียดของโครงการโดยสรุป

๑. ผู้เข้าร่วมโครงการ : เปิดรับสมัครประชาชนจำนวน ๙๙๙ คนเข้าร่วมโครงการ (เปิดรับสมัครไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๕-๒๕ พ.ย.)

๒. การเปิดรับสมัคร : กระจายเปิดรับสมัคร ดังนี้

๒.๑ แต่ละจังหวัดนั้นส่งเข้ามาได้ : ๑๑ คน กรุงเทพมหานครเขตละ : ๑ คน
๒.๒ กระทรวงต่าง ๆ กระทรวงละ : ๒ คน
๒.๓ เหล่าทัพ : ๑๒ คน
๒.๔ หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับการกิจกรรม : ๗ คน
๒.๕ ภาคเอกชน : ๖๕ คน

โดยผู้ที่สนใจที่เข้ามาร่วมโครงการ ต้องมีสัญชาติไทย อายุ ๒๐ ปีขึ้นไป ไม่ต้องโทษกระทำความผิด สุขภาพแข็งแรง มาสมัครได้ตามสำนักงานเขต หน่วยงานราชการที่สังกัดหรือสมัครผ่านทางผู้นำชุมชน แล้วมีกระบวนการในการคัดเลือกและรับรอง ส่วนในภาคเอกชนนั้นก็ให้ผู้บังคับบัญชารับรองเข้ามา

๓. ระยะเวลา : ระหว่างวันที่ ๙-๒๓ ม.ค. ๒๕๕๔

๔. การปฏิบัติ : อุปสมบทและมาศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติกิจภาวนา ถวายพระพร ถวายพระราชกุศล

๕. สถานที่ปฏิบัติ

๕.๑ กรุงเทพมหานคร : อยู่ที่วัดพระราม ๙ และ ไปปฏิบัติธรรมที่วัดมกุฏคีรีวัน อ.ปากช่อง
๕.๒ จังหวัดต่าง ๆ : ประจำอยู่ที่จังหวัด ยกเว้นใน ๓ จังหวัดภาคใต้ ซึ่งจะไปรวมอยู่ที่วัดเดียวกัน

๖. กำหนดการสำคัญ

๖.๑ การฉลองผ้าไตรในวันที่ ๗ ม.ค. ที่กรุงเทพมหานคร ทำที่ทำเนียบรัฐบาลและในต่างจังหวัดจะทำที่สถานที่สำคัญในแต่ละจังหวัด
๖.๒ ในวันที่ ๒๑ ม.ค. พระสงฆ์ทั้ง ๙๙๙ รูปจะมาที่วัดพระแก้ว เพื่อมาเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร และถวายเป็นพระราชกุศล

๗. คณะกรรมการจัดงาน : มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการตั้งคณะกรรมการทางด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม โดยคณะกรรมการที่เป็นภริยาของคณะรัฐมนตรีเป็นกรรมการโดยมีภรรยาของนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

 


การพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง (๑)

5 ความคิดเห็น โดย planoi เมื่อ 5 December 2010 เวลา 9:12 pm ในหมวดหมู่ พระมหากษัตริย์ #
อ่าน: 2237

หากใครได้ติดตามรับชมการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ หรือ ไปร่วมรอเฝ้ารับเสด็จด้วยตนเอง สิ่งหนึ่งที่คนไทยปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นคือเมื่อเห็นพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่แจ่มใส ทรงแย้มพระสรวล และทรงโบกพระหัตถ์ให้กับผู้มารอเฝ้าฯ ตลอดระยะเส้นทางรับเสด็จ อันแสดงให้เห็นถึงพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยว่าพวกเขาเหล่านั้นเฝ้ารอด้วยใจแม้จะได้เห็นพระพักตร์เมื่อยามเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่งผ่านแม้เพียงไม่กี่วินาที อีกทั้งยังมีเสียงที่เปล่งออกมาจากหัวใจ “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” อย่างกึกก้องของประชาชน ด้วยหวังจะถวายให้ทรงทราบและทรงมั่นในพระราชหฤทัยถึงความจงรักและความภักดีที่ข้าแผ่นดินมีต่อพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐต่อปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง

ในวันอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ ขออัญเชิญพระราชดำรัสและภาพการพระราชพิธี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมหาสมาคม ในพระบรมมหาราชวังค่ะ

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“ขอขอบพระทัยและขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิต พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิดด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรมาจากใจจริง บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นร่มเย็นปกติสุขมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติ และต่างร่วมมือร่วมมือร่วมแรงใจกันทำหน้าที่โดยนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด

ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่างและนำไปปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ด้วยความไม่ประมาทและด้วยความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาท ขาดความรอบคอบ เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาด เสียหาย ในหน้าที่ และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด ขาดเหตุผล เป็นเหตุให้เกิดหลงลืมความกลัว ทำให้กระทำสิ่งที่มิใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจจะนำความเสื่อมสลายมาสู่ตนเองตลอดทั้งประเทศชาติได้

จึงขอให้ทุกคนได้สังวรณ์ระวังให้มากและประคับประคองกาย ใจ ให้เที่ยงตรง หนักแน่น ในอันที่จะปฏิบัติภารกิจตามเหตุผลของตนให้ถูกต้องตามหน้าที่ เพื่อความสุขมั่นคงและเพื่อความสงบสุขอันยั่งยืนของชาติบ้านเมืองเรา ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ปราศจากภัย และอำนวยสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลให้สำเร็จผลขึ้นแก่ท่านทั่วหน้ากัน”

 

อ่านต่อ »



Main: 0.053808927536011 sec
Sidebar: 0.058547973632812 sec