ตบ ใครอย่าคิดว่าไม่สำคัญ

อ่าน: 3189

เมื่อวานพี่ต้อยมาคอยจ๊ะเอ๋ที่โรงแรมแต่เช้า คุณพี่เอาของอร่อยๆมาฝากมากมาย ชวนรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน แล้วไปส่งขึ้นเวทีที่กรมป่าไม้ เดินชมนิทรรศการ..ไปเจอเรื่องอัญชัน ไพล และว่านสาวหลง ถูกจับมานำเสนออย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ทราบคุณประโยชน์เพิ่มขึ้นมากมาย ในตำรา108ว่านมหัศจรรย์ บันทึกไว้ว่า..ว่านชนิดนี้ เป็นว่านที่ทรงคุณภาพทางเมตตามหานิยม เป็นยอดแห่งมหาเสน่ห์ สามีภรรยาบ้านใดปลูกไว้จะรักกันไม่จืดจาง พกใบไว้ในกระเป๋าเงินจะมีเงินไม่ขาดกระเป๋า หากต้องการให้คนรัก ให้ดีดหรือแตะผงว่านสาวหลงผมสีผึ้งหรือน้ำมันจันทน์ ก่อนใช้ให้ท่องคาถาดังนี้

“มะมะอุ พุทธสังมิ จิเจรุนิ นะชาลิติ อิสวาสุ อิทธอเจตะโส อาคัจฉาหิ ติวัตตัปโพ สัมมา นาชาลีติ ปิยังมานะ”

ว่านชนิดนี้ปลูกได้เฉพาะวันจันทร์ ขณะปลูกให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และรดน้ำที่เสกด้วยคาถา “อิติปิโสภควาถึงภความิ 3 จบ (ส.เปลี่ยนศรี 2524)

เอาละสิ..ว่านสาวหลงที่เคยเอามาใส่ก๋วยเตี๋ยวอร่อย มีอภินิหารเพิ่มขึ้นมากมาย ผมจะกลั่นน้ำมันเก็บไว้เป็นขวดๆ  ใครอกหักรักคดมาขอความช่วยเหลือ ก็จะไม่บอกให้เอาไปดีดใส่คู่หมาย จะมอบให้เป็นขวดๆไปเทราดทั้งตัว ห นุ่ ม ห ล่ อ ที่ ไ ห น จ ะ ไ ป ร อ ด

ใครต้องการเอามือลง และมารับบัตรคิวได้  คริ คริ..

ในงานเสวนาวิชาการกรมป่าไม้ปีนี้ ผมขออนุญาตเสนอข้อตบแต่งนโยบายการป่าไม้ตามความนึกคิดของตนเอง เพื่อเอาไปแลกเปลี่ยนแง่คิดและมุมมองกับวิทยากรท่านอื่น เท่ากับเป็นการสอบทวนความรู้ความคิดของเราไปด้วยในตัว คนเรารู้แค่ไหนก็คิดได้แค่นั้น การรับรู้เหตุผลวงกว้างทำให้เราขยับความเข้าใจให้ถูกต้องกับความเป็นจริงมากขึ้น ข้อมูลจากวิทยากรท่านอื่นล้วนน่าสนใจ เมื่อประมวลความคิดเห็นจากท่านที่มาจากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ,กรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่ง,สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง,โดยมีท่านรองอธิบดีกรมป่าไม้คอยขมวดปม เข้าใจว่าผู้ฟังคงจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย คณะวิทยากรตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ผมเข้าใจว่าท่านที่เข้ามาร่วมประชุมครั้งนี้ ส่วนมากมีบทบาทหน้าที่ขับเคลื่อนแผนงานและนโยบายป่าไม้

แม้แต่ท่านที่เป็นอดีตข้าราชการกรมป่าก็ยังมาร่วมงานหลายท่าน

ได้เจอตัวทักทายในเวลาสั้นๆก็หลายท่าน

ได้นามบัตรมาก็หลายใบ

ได้รับการชักชวนไปเยี่ยมบ้าน

ได้รับการดูแลขับรถมาส่งที่โรงแรมด้วยละครับ

ขอขอบคุณ ดร.เริงชัย เผ่าสัจจ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานปลูกป่าภาคเอกชน ท่านมีประวัติโชกโชนฝ่าฟันเรื่องไม้ยูคาลิปตัสอย่างทรหด เมื่อ20กว่าปีที่ผ่านมา..ผมเห็นความตั้งใจความเหน็ดเหนื่อยของชาวป่าไม้ ที่พยายามแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรป่าไม้ของชาติมายาวนานถึง116 ปี ในวันที่18 กันยายน 2555 ก็อยากให้กำลังใจ จึงขอเปิดประเด็นอภิปรายไปที่..

ปัญหาการป่าไม้ของประเทศไทย ที่สะสางอย่างไรก็มิรู้จบสิ้น มีเงื่อนไขเถื่อนสารพัดสารพันอย่างพัวพันมากขึ้นๆ ก็เพราะสำนึกของคนไทยที่มีต่อป่าไม้ยังคลาดเคลื่อนและแคลนคลอน คนไทยส่วนใหญ่หัวใจสีช้ำเลือดช้ำหนอง มีคนไทยรักและตระหนัก/เข้าใจป่าไม้แค่หยิบมือเดียว แต่มีกลุ่มอิทธิพลประเภทมือยาวยุ่บยับไปหมด ทั้ง ๆ ที่ น้ำ ท่ ว ม แ ท บ สำ ลั ก ต า ย ค รึ่ ง ค่ อ น ป ร ะ เ ท ศ  ก็ยังเข้าใจไม่ได้ว่าควรจะลงรากฐานการป้องกันอุทกภัยอย่างยั่งยืนอย่างไร? ป่าไม้หายไปเท่าใด ภัยพิบัติก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น รัฐฯทุ่มเทงบประมาณขุดคูคลอง ซ่อมเสริมประตูน้ำ ก่อกำแพงคอนกรีตป้องกันน้ำท่วม เห็นแล้วก็ปลงอนิจจัง ..ถ้าดำเนินการเพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า บ้านเมืองก็จะรุงรังกับกำแพงโกโรโสทุกหนทุกแห่ง ใจคอจะก่อกำแพงคอนกรีตสูงล้อมรอบเมืองหนีน้ำอย่างนั้นหรือ ทำไมไม่อนุมัติงบประมาณสัก100,000ล้านให้กรมป่าไม้ไปรณรงค์ส่งเสริมปลูกป่าไม้ให้เต็มประเทศ มันจะไม่เป็นการบรรเทาภัยพิบัติที่ยั่งยืนหรือครับ แถมยังจะได้ผลพวงเรื่องลดภาวะโลกร้อนอีก และได้ประโยชน์ต่างๆอีกนานัปการ

ถ้าไม่คิดยาวๆประเทศนี้ก็จะตกอยู่ในอาการสะเทินน้ำสะเทินบกตลอดไป

ญาติผมที่อยู่แถวๆอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี ก็ตกน้ำป๋อมแป๋มสิครับ

ตราบใดที่คนไทยไม่เข้าใจบริบทของป่าไม้

ไม่รักป่าไม้ ไม่ปลูกต้นไม้ ใจร้ายใจดำกับต้นไม้

ตราบนั้นคนไทยก็จะอยู่อย่างกระเสือกกระสนเหมือนไส้เดือนโดนขี้เถ้า

ทำอย่างไรจะเพิ่มปริมาณความรักให้คนไทยรักป่าไม้ได้ละครับ?

จะต้องปรับ กลยุทธ์ กฎระเบียบ หลักการ กระบวนการใหม่อะไรบ้าง

ในเมื่อปัญหาเรื่องทรัพยากรมันเปลี่ยนแปลง..วิ่งกระฉูดจนตามไม่ทัน

กฎหมายชราภาพจะทำอย่างไร?

ตามล้างตามเช็ดกันอยู่อย่างนี้หรือ?

ผมหยิบยกกรณีการรุกที่ดินสร้างรีสอร์ทตามพื้นที่ป่าเขา ปล่อยปละละเลยให้มีการก่อสร้างจนเป็นอาณานิคมการท่องเที่ยวเชิงขนาดใหญ่ แล้วก็มาไล่จับไล่ต้องสั่งรื้อถอน ถ้าแก้ปัญหาอย่างนี้มันไม่จบสิ้นหรอกนะครับ ยุคไหนเจ้าหน้าที่ตาบอดสี การรุกคืบก็จะกลับมาอีก เพราะมันคุ้มค่ากับการเสี่ยง เหมือนการลักลอบตัดไม้พยุงนั่นแหละครับ ไม่มีทางจับได้ไล่ทันหรอก เจ้าหน้าที่หยิบมือเดียว แถมชั้นเชิงยังตามไม่ทันพวกมอดไม้ ไม้พยุงจึงพยุงตัวเองไม่รอด ตอนนี้เกลี้ยงประเทศแล้ว แถมยังจะได้ใจไปรุกตัดไม้ยืนต้นที่มีค่าอย่างอื่นอีก

ทำไม ไม่ออกกฎหมายห้ามออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ๆสร้างรีสอร์ทอย่างเด็ดขาด ถ้าเจ้าหน้าที่ละเมิดไปออกเอกสารสิทธิ์ให้ นอกจากไล่ออกแล้วควรจะจับเข้าซังเตด้วย ควรพิจาณากฎระเบียบ..เปลี่ยนมาให้เช่าที่ดินในพื้นที่ๆพออนุโลมได้ ไม่งั้นเรื่องนี้ก็จะยื้อกันไม่จบสิ้น พบกันครึ่งทางดีกว่าไหมครับ?

กฎหมายอ่อนแอ ต้นไม้ทุกต้นก็อ่อนไหว ไม่รู้จะโดนลักลอบตัดเมื่อไหร่

อย่าอ่อนหวานไม่รู้ไม่ชี้กันต่อไปนักเลยนะครับ

ถ้ายังเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ไม่ได้

ก็ช่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่มีอยู่ให้ปลอดภัยได้ไหม

ปัจจุบันปริมาณต้นไม้ของประเทศนี้เหลือน้อยแล้ว  ไม่สมควรตัดมาใช้ประโยชน์อะไรได้อีกแล้ว ปล่อยให้ยืนสภาพรักษาระบบนิเวศก็หวุดหวิดตกขอบเส้นยาแดงแล้วละครับ ผมเสนอให้ใช้วัสดุอย่างอื่นสร้างที่อยู่อาศัย ปัจจุบันมีวัสดุทดแทนไม้ธรรมชาติ อุตสาหกรรมวัสดุแทนไม้ก้าวหน้าไปมาก เทคโนโลยีได้พัฒนา เหล็ก หิน แก้ว กระดาษ ทราย ปูน พลาสติก ยิบซั่มบอร์ด สมาร์ทบอร์ด ไม้เสมือนต่างๆ ฯลฯมาใช้ก่อสร้างได้หลากหลาย แต่ก็มีท่านผู้ทรงคุณวุฒิติงว่า..วัสดุพวกนี้มีกระบวนการผลิตที่ทำให้โลกร้อนมากขึ้น ควรจะใช้ไม้นี่แหละดีที่สุด

ผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่ปัญหาอยู่ที่เราจะเอาไม้ที่ไหนมาใช้

ชวนปลูกต้นไม้จนหน้ามืด..ก็ไม่ค่อยจะมีใครเอาด้วย

ทั้งๆที่การปลูกต้นไม้ไม่มีอัตราเสี่ยงอะไรแม้แต่น้อย  ก็มีบ้างที่ปลูกยางพาราเป็นบ้าเป็นหลัง  สวนยางพาราเป็นพืชเชิงเดี่ยว ไม่มีรากแก้ว น้ำหนักไปอยู่ที่เรือนยอดข้างบน แบกน้ำหนักไปเรื่อยๆ ลำต้นก็ใช่ว่าจะแข็งแรงเพราะมนุษย์กรีดเอาน้ำยางออกไปทุกวัน วันดีคืนนี้มีพายุเข้ามา สวนยางเชิงเดี่ยวนี้แหละจะโค่นราบเป็นหน้ากลอง อนึ่ง..ราคายางในอนาคตก็ใช่ว่าจะแน่นอนอะไร ทั่วทั้งเอเชียก็บ้าปลูกอย่างเรานี่แหละ ในอนาคตถ้าปริมาณน้ำยางที่เพิ่มขึ้นจนล้น จะเอาน้ำยางไปทำอะไร ราคาจะเป็นอย่างไร?

เ อ า ไ ป ทำ ห ม า ก ฝ รั่ ง ไ ด้ รึ

จึงหยิบยกเรื่องนี้ให้ชาวป่าไม้คิดใคร่ครวญตั้งรับแต่เนิ่นๆ..วันที่ยางพาราราคาทำให้หน้ามืดกันทั้งประเทศ กรมป่าไม้จะมีวิธีช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร กระดูกไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง แต่ก็ต้องถูกลากมาร่วมทุกข์จนได้นั่นแหละ หล่อเตือนไว้แล้วนะจ๊ะ

ผมพร่ำรำพันมากกว่าวิทยากรท่านอื่น ที่ยกมาเขียนนี่เป็นเพียงออเดิร์ฟ เตรียมpower Point เตรียม คริปวีดีโอ.ไปก็ไม่ได้ฉายหรอก เวลาจำกัดจำเขี่ยทำไงได้ ท่านใดคันในหัวใจก็ตามมาถกกันต่อที่สวนป่าก็แล้วกัน ก่อนลงเวทีแจกหนังสือให้ท่านวิทยากรร่วม รับหนังสือที่ระลึก รับประทานอาหารร่วมกัน ดร.เรืองชัย เผ่าสัจจะชวนไปเที่ยวที่บ้าน ผมติดภารกิจสะท้อนความเห็นงานวิทยานิพนธ์ของเจ้าหนูฝน จึงบอกท่านเริงชัยว่ามาส่งที่พักเถอะ มาคราวหน้าจะไปบุกบ้านกินข้าวฝีมือคุณนายสักมื้อหนึ่ง

ท่านเล่าว่าคุณลูกสาว ไ ป เ ปิ ด ร้ า น อ า ห า ร ที่ อ เ ม ริ ก า

ท่านก็นึกดูเถิดฝีมือคุณแม่ จ ะ ข น า ด ไ ห น ?   อิ  อิ

กลับมาถึงโรงแรม ลงไปรับประทานอาหารเย็น แล้วกลับมาเปิดทีวีดูการแข่งขันวอลเล่ย์บอลระหว่างสาวนักตบจีนกับสาวนักตบไทย ผมมาดูตอนเซทแรกผ่านไปแล้ว ไทยชนะ 1-0 เซทที่2 ไทยทำท่าจะชนะอีก แต่ก็แพ้ไปหวุดหวิด หลังจากนั้นสาวไทยก็ตบแหลก เล่นเอาสาวจีนกระเจิง เป็นการแข่งวอลเล่ย์บอลที่สนุกที่สุดในรอบปี คนไทยมีความสุขทั้งประเทศ

เธอ..เอ๋ย  ตอนหนูปลื้มจิตร์โผขึ้นตบ ผัวะ! ..

ลูกพุ่งไปปานจรวด

กองเชียร์อ้าปากตาค้าง หั ว ใ จ แ ท บ จ ะ พุ่ ง ต า ม ลู ก บ อ ล ไ ป ด้ ว ย

ผ ม เ ผ ล อ ต ะ โ ก น เ ชี ย ร์   ผั ว ะ ๆ ๆ

ห้องข้างๆ..มั น จ ะ ห า ว่ า เ ร า บ้ า รึ เ ป ล่ า ก็ ไ ม่ รู้ น ะ

ก็เผลอตัวนี่นา..น า น ๆ จ ะ ไ ด้ เ ชี ย ร์ แ บ บ ส ะ ใ จ สั ก ที

การที่สาวนักตบไทยชนะสาวจีน ไม่ใช่อภินิหารอะไรหรอกนะครับ

มันพิสูจน์ให้เห็น..

การหลอมรวมพลังทีมได้สำเร็จ..ทำให้เกิดมหาพลังตบทะลุโลก

ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีมาก..แทบไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ

เราได้เห็นว่า..นักวอลเล่ย์บอลไทยธรรมดาที่ไหนเล่า..

ถ้าคิดสู้คิดทำจนเต็มสติกำลัง..อ ะ ไ ร ๆ ก็ เ  กิ ด  ขึ้ น ไ ด้

ตบ!..ใครคิดว่าไม่สำคัญ..

ตบ..สร้างความสุขให้คนไทยทั้งชาติ

ตบ..ได้สร้างชื่อเสียงและการยอมรับในวงการวอลเล่ย์บอลในระดับโลก

ประเทศนี้ได้รับการยอมรับเรื่องใดบ้างละครับ

ถ้ า ไ ม่ รู้ จ ะ เ ปิ ด ป ร ะ ก า ย ใ น เ รื่ อ ง อ ะ ไ ร ?

ก็เอาเรื่อง ตบ ตบ ตบ นี่แหล่ะก่อหวอดให้เห็นพลังดีๆของคนไทย

ตบ จงเจริญ ไชโย ไชโย คิ คิ..

ว่านสาวหลง

พี่ต้อยมาชมนิทรรศการด้วย

คณะวิทยากร

บรรยากาศการสัมมนา

วิทยากรรับของที่ระลึก

ป่าที่น่าสงสาร

ป่ารักษาโลก



Main: 0.56342101097107 sec
Sidebar: 0.25999999046326 sec