กว่าจะเป็นโมเดลบุรีรัมย์

อ่าน: 2311

พี่น้องครับ ผมต้องใช้เวลาปั้นดินทรายที่แห้งแล้งให้เป็นป่าผืนเล็กๆขึ้นมา ด้วยการใช้เวลาไปมากกว่าค่อนชีวิต ที่แทบไม่ได้ทำอย่างอื่นอย่างใดกับใครเขาเลย ก้มหน้าก้มตาสะเปะสะปะในพื้นที่ปลูกต้นไม้ ไ ม่ มี อ า ชี พ อื่ น แ ล ะ ก า ร ง า น อื่ น ด้ ว ย น ะ .. ผมเหนียมอายที่จะตอบว่ามีอาชีพอะไร? ครั้นจะตอบว่า..มีอาชีพปลูกสร้างสวนป่า ตามที่ระบุไว้ในโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาปลูกสร้างสวนป่า ที่ได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และรับเหรียญรางวัลของFA0. ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดเต็มปากเต็มคำ..เพราะพูดไปก็ยากที่ใครจะทำความเข้าใจได้ แม้แต่สถาบันการเงินก็ยังไม่มีมาตรการเงินกู้เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง

ก า ร นำ พ า ค ร อ บ ค รั ว อ อ ก น อ ก ลู่ น อ ก ท า ง ก ร ะ แ ส สั ง ค ม

มั น เ จ็ บ ตั ว จ น ห นั ง กำ พ ร้ า ถ ล อ ก ป อ ก เ ปิ ก อ ย่ า ง นี้ แ ห ล ะ

ทำไงได้..ในเมื่อเรากำหนดเอง ก็ควรรับเละรับทุกอย่างเอง

มาวันนี้..วันที่สรุปบทเรียนฉากใกล้สุดท้าย ซึ่งไม่ง่ายเลยถ้าไม่มีคุณชายและลูกสาวขันอาสา มาระดมพลังทำงานแบบหัวชนฝา ที่มีเรื่องลุ้นระทึกทุกๆ3เวลาก่อนอาหาร เ มื่ อ คื น ค น ทำ ห นั ง สื อ ยั ง อ ด ห ลั บ ขั บ ต า น อ น เ ขี ย น สิ่ ง ที่ เ รี ย ก ว่ า ถ อ ด บ ท เ รี ย น แหม..นึกว่าจะเข็ดหลาบรึอ่อนเพลียจนแผ่สองสลึงหลับนอน ยังมารำพึงรำพันต่อเสียยืดยาว แล้วให้ผมคอมเมนท์ ..เอาละสิ..ค น ที่ จุ ก จิ ก ก ว น ใ จ คุ ณ เ ธ อ ทั้ ง ห ล า ย ใ น เ รื่ อ ง ค อ ม เ ม น ท์ . . คราวนี้ โ ด น ย้ อ น ศ ร ใ ห้ ค อ ม เ ม น ท์ เ สี ย เ อ ง . .

ผมอยากจะบอกว่า ..นี่ไงมหากาพย์แห่งการทำหนังสือ ฉบับที่ได้ประมวลผลคนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่เรียกว่ากองบรรณาธิการ ที่ต้องทำงานแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ยอมทุ่มเททุกอย่าง ทุกอย่างที่เหมารวมถึง-กำลังกาย-กำลังใจ-กำลังสติปัญญา มีเท่าไหร่โป๊ะลงหมดหน้าตัก..ท่ามกลางความบีบคั้นที่มาจากรอบทิศทาง

คณะทำงานโดนบีบ บีบ ๆๆ จนเหลือแต่หัวกะทิ ..

ผมอยากให้ท่านผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ ได้รับทราบอะไรที่อยู่เบื้องหลังบ้าง เพื่อจะได้สัมผัสวิถีความดีของคนดีที่เรารู้จัก ว่าที่เขาทำอย่างนี้ได้เพื่ออะไรเพราะอะไร ..กว่าจะจับตัวอักษรออมาจากป่ามาร้อยเรียงได้นั้น ต้องชำระคราบไคลไปกี่ครั้ง แม้แต่ตอนท้ายๆที่จับอาบน้ำทาแป้งก่อนจะส่งขึ้นแท่นพิมพ์ ก็ยังดึงมาส่องกระจกจนเวียนหัว..

ผมอยากให้ “แม่หยิบ” และท่านที่อุปการคุณหนังสือเล่มนี้ได้รับรู้เรื่องหลังโรง ว่าที่ท่านช่วยกันอ่านสะดวกสบายนั้น คนที่ทำถูกกดดันจนอ้วกแตก! แต่เขาหายเหนื่อยจนปลิดทิ้งถ้าเห็นหนังสือโมเดลบุรีรัมย์ไปอยู่ในมือของท่าน ..เมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้ทันครรลองของลิขิตฟ้า.. สามารถนำเสนอในงานที่โผล่ขึ้นมาแบบฟ้าผ่า!

เราจะไปเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ที่ตึกสันติไมตรีครับผม..

และที่สำคัญโดยบังเอิญหรืออย่างไรก็สุดอธิบายได้

การประชุม r2r ครั้งที่ 5 “วิถี R2R: เรียบง่าย คุณภาพ ครบวงจร

การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากงานประจำสู่งานวิจัย(R2R)ครั้งที่5
วิถีR2R:เรียบง่าย..คุณภาพ..ครบวงจร
10-12กรกฎาคม2555
ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่มเมืองทองธานี
จัดโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย R2R

คือ…การร่วมวงสุนทรียสนทนากับปราชญ์แห่งชีวิตสองท่านคือ…

วันพุธที่ 11 กค. 2555 เวลา 10.30 - 12.00 น.

ห้องGrandDiamondBallroom:
ใครๆ ก็ทำ R2R กัน”

วิทยากร: ปราชญ์พ่อสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ (Sutthinun Pratchayapruet )
อาจารย์วิเชียร ไชยบัง ผู้อำนวยการโรงเรยนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์ (
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา)

ซึ่ง..ประเด็นแห่งสุนทรียสนทนานี้…นำไปสู่การเรียนรู้ในประเด็นที่ว่า…

1.อยากให้เล่าบริบทในงานของตัวเองก่อนว่าทำงานด้านไหน เมื่อเกิดปัญหาแล้วแก้ยังไง โดยใช้แนวคิดเชิงวิจัย (R2R) อย่างไร เช่น วิธีตั้งคำถาม การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล

2.จากการทำงานนี้ เกิดการเรียนรู้ในชุมชน/องค์กรอย่างไร มีการนำความรู้นี้ไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างไร มีการกระจายไปภาคอื่นๆ หรือไม่อย่างไร

**อยากให้เน้นที่กระบวนการเรียนรู้ของบุคลากร/องค์กร และการสนับสนุนที่ให้นี้ ทำอย่างไรในเชิงโครงสร้าง จึงเกิดขึ้นมาได้

และสิ่งที่ข้าพเจ้าคาดหวังก็คือว่า…อยากให้ผู้เข้าร่วมฟังได้เกิดการเรียนรู้ในวิธีคิด และการเรียนรู้จากวิทยากรทั้งสองท่านค่ะว่า ตลอดชีวิตแห่งการงานนั้น มีสิ่งใดบ้างที่เกิดเป็นประเด็นแห่งการเรียนรู้เกิดขึ้น …

ใน เวทีนี้ … คิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่หลายๆ ท่านจะได้รับโอกาสที่ดีที่ร่วมฟัง เรื่องราว เรื่องเล่า…ผ่องถ่ายจากประสบการณ์ถือเป็นความงดงามแห่งชีวิตการงาน

ท่านคงเห็นโจทย์บนเวทีวันที่ 11 .. แล้วใช่ไหมครับ ผมไม่ทราบว่าประเด็นหลักๆมันมาจ๊ะกันได้ยังไง ถึงตอนผมโม้..ผมก็จะบอกว่าเรื่องมันยาว..ฟังที่เล่าบนเวทีมันเป็นแค่น้ำจิ้ม..ถ้าอยากได้มหานทีคุณพี่ต้องอ่าน ..”โมเดลบุรีรัมย์” จึงจะได้คำตอบครบถ้วนตามที่ผู้ดำเนินการสนทนาจุดประเด็น อนึ่งผมทราบว่าเครือญาติคนสวยชาวFB.หลายท่านจะไปพบปะกัน ขอลายเซ็นคุณชายและคณะบรรณาธิการ นับเป็นมหาโอกาสดีเหลือเกิน ที่เราจะได้ให้กำลังใจ

ค น ที่ เ สี ย ส ล ะ สุ ข ส่ ว น ตั ว มา เ พิ่ ม ค ว า ม สุ ข ใ ห้ ส่ ว น ร ว ม ..

ความเหนื่อยยากเดินทางมาถึงป้ายจอด เราสามารถเก็บความรู้สึกที่เรี่ยราดตามรายทางระหว่างทำงานให้ทันเวลา เพื่อจะมาบอกเล่าหมายเหตุแห่งชีวิตต่อหน้าผู้คนที่ลงทะเบียน 2,000 คน เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยแม้แต่จุดเดียว การสรุปบทชีวิตของชาวป่าที่ผ่านมา30ปี ทีมีแต่น้ำลายกับกำปั้นเป็นปัจจัย ดิ้นรนทำงานบนฐานความไม่พร้อม พอถึงตอนถอดบทเรียน บ ท ที่ ว่ า นี้ มั น ติ ด เ ชื้ อ ค ว า ม ย า ก ลำ บ า ก ป ะ ป น ม า กั บ จ น ถึ ง อั ก ษ ร ตั ว สุ ด ท้ า ย

จ ง ภู มิ ใ จ เ ถ อ ะ คุ ณ ช า ย

ถอนลมหายใจ ร ะ บ า ย ค ว า ม ห นั ก ใ จ อ อ ก ไ ป ใ ห้ ห ม ด

เ ปิ ด รั บ ค ว า ม ห นั ก แ น่ น ใ ห้ ก ลั บ ม า อ ยู่ ใ น ตำ แ ห น่ ง เ ดิ ม

ค ว ร ห ลั บ พั ก ย า ว ๆ อ ย่ า ง อิ่ ม สุ ข

ขอบคุณมากมาย..จ น ไ ม่ รู้ จ ะ เ ขี ย น ว่ า ยั ง ไ ง

รวบรวมแรงไว้ไปเซ็นชื่อให้คนที่รักหนังสือเล่มนี้ก็แล้วกัน

อิ อิ ..


วัวพลาสติก

อ่าน: 4943

คนทั่วไปรู้จักบุรีรัมย์ว่าเป็นที่ตั้งของปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ต่อมาก็ฮือฮาเรื่อง เอาไมเคิลแจ็กสันคืนไป พระนารายณ์คืนมา แต่ที่สตึกบ้านผม..สมัยที่มีส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกจังหวัด อำเภอสตึกมีลำแม่น้ำมูลไหลผ่าน จึงมีจารีตประเพณีพื้นถิ่นเกี่ยวกับท้องน้ำ ช่วงฤดูน้ำหลาก ชาวบ้านที่อยู่ตามริมแม่น้ำก็จะจัดงานแข่งเรือยาว เปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ เจ้าอาวาสมักจะเป็นผู้สนับสนุนหลัก เช้าๆจะมีหนุ่มๆแบกพายมาลงเรือซ้อมเอาพละกำลัง แม่บ้านแม่เรือนสาวๆก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมอาหารเลี้ยงดูกันที่วัด ถึงวันแข่งเรือยาวก็จะชวนกันไปเชียร์เรือบ้านตัวเอง

ไม่ได้แข่งเอาเป็นเอาตายเหมือนสมัยนี้

แพ้-ชนะ ก็ยังกอดคอสนุกเฮฮาเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่พึ่งพาอาศัยกันได้

ไม่มีการพนันมาเกี่ยวข้อง ผูกพันกันด้วยใจล้วนๆ

ต่อ มาคณะกรรมการจัดแข่งเรือยาวประเพณีจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พัฒนาการขึ้นมาจนเป็นที่ยอมรับของชาว ..ปึ ด จ้ำ ปึ ด ทั่วประเทศ แต่ละปีจะมีเรือดังๆจากทุกภาคมาปะทะฝีพายเพื่อล่าถ้วยรางวัลพระราชทานฯ ประกอบกับที่สตึกมีการเลี้ยงช้างอยู่แล้ว คณะกรรมการจัดงานฯจึงจัดให้เอาช้างมาว่ายน้ำแข่งข้ามลำน้ำมูล บางปีน้ำเชี่ยวมาก ช้างจำนวน20เชือกเสโฮลงแม่น้ำ เพื่อว่ายข้ามาอีกฝั่งหนึ่ง ระยะทางประมาณ 120 เมตร บางปีมีช้างแม่ลูกอ่อนเข้าแข่งขันด้วย ลูกอ่อนต้วมเตี้ยมสูงเท่าเด็กๆอายุน่าจะไม่ถึงปี แม่ช้างและเจ้าตัวเล็กๆ ลอยตุบป่องๆห่างไปจากเส้นชัยไกลโข คนดูวิ๊ดว๊าย!!! หัวใจจะวาย..แม่ช้าง จ ะ ค อ ย เ อ า ลำ ตั ว ต้ า น ข ว า ง น้ำ ไ ว้ ใ ห้ ลู ก ของเธอ  ค่ อ ย ๆ ป ร ะ ค อ ง กั น ขึ้ น ฝั่ ง อ ย่ า ง อ่ อ น ร ะ โ ห ย

ผู้ชมเป็นลม..ร้องหายาดมกันจ้าละหวั่น

ผมทำหน้าที่พากษ์..แข่งช้างว่ายน้ำ

เผลอตะโกน..จนหลอดลำโพงขาดขาดกระจุย

โธ่ใครจะอดใจไหว..ความตื่นเต้นที่ต้องลุ้นระทึกทุกวินาที

วั น รุ่ ง ขึ้ น ห ล อ ด เ สี ย ง อั ก เ ส บ ..

เสียงแหบ..เหมือนเป็ดปักกิ่งถูกถอนขน  อิ อิ

สมัย หนุ่มๆผมจุ้นกับงานสังคมชาวบ้านแทบทุกเรื่อง ตอนป๋าเปรมเป็นนายกรัฐมนตรี ครม.ได้ตั้งงบกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา 2,000 ล้านบาท แล้วให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ใครมีโครงการอะไรดีๆก็เขียนมาขอรับการสนับสนุนได้ บางจังหวัดก็เขียนส่งเสริมปลูกมะม่วงหิมพานต์ในภาคอีสาน พอไม่ได้ผลชาวบ้านก็ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “มะม่วงอันธพาล” บุรีรัมย์บ้านผม ท่านพร อุดมพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์สมัย นั้น ให้คนมาเรียกผมไปพบที่ศาลากลางจังหวัด ท่านอยากให้ผมเสนอแผนเรื่องงบกระตุ้นเศรษฐกิจ บัญชาให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฯ จัดห้องจัดเครื่องพิมพ์ดีดมาอำนวยความสะดวก ผมนะมีเรื่องอยากจะทำอยู่แล้ว นึกได้ว่าสมัยโน้นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ ที่ป่าสงวน ที่รกร้างว่างเปล่าในหมู่บ้าน ที่ไร่ที่นาหลังการเก็บเกี่ยว มีความเหมาะสมที่จะเลี้ยงปศุสัตว์เป็นอย่างมาก ชาวบ้านทั่วไปก็นิยมเลี้ยงวัว ตื่นเช้าก็ต้อนวัวเป็นฝูงๆคอกเล็กคอกใหญ่เดินกันไปคับถนน ไ ล่ ต้ อ น ใ ห้ วั ว กิ น ใ บ ไ ม้ ใ บ ห ญ้ า  ไม่ต้องลงทุนอะไร..

ปัจจัยการผลิตมีเพียง..หนังสะติ๊ก รองเท้าฟองน้ำ วิทยุทรานซีสเตอร์ และข้าวห่อ

เรียกว่าวัวบ่ายหน้าไปไหนฉันไปด้วย..บ่ายๆก็ต้อนกลับบ้าน

วัวฝูงจึงเป็นอาชีพ เป็นงานประจำ เป็นกะปุกออมสิน เป็นวัฒนธรรมอีสาน

ยามขัดสนหน้ามืดขึ้นมา ก็ แ บ่ ง ข า ย วั ว ค ว า ย นี่ แ ห ล ะ ค ลี่ ค ล า ย ปั ญ ห า

บางครัวเรือน..ข า ย ค ว า ย   ส่ ง ค ว า ย ไ ป เ รี ย น ..

ผม เสนอแผนงานส่งเสริมการเลี้ยงวัวเพื่อปรับปรุงพันธุ์ผ่านจังหวัดฯไปยังสำนัก งบประมาณ ปรากฏว่าได้รับการอนุมัติ แต่ก็มีตัวจุ้นจ้านมาเบี่ยงแบนวัตถุประสงค์ แทนที่จะเอาวัวพันธุ์ดีหรือเอาพ่อพันธุ์ดีมาผสมพันธุ์ยกระดับคุณภาพของตัว วัวให้โตขึ้น มีนักการเมืองขาใหญ่แถวๆปราจีนบุรีมาอุบอิบเปลี่ยนแปลงโครงการของผม พี่แกจะเอางบประมาณนี้ไปสั่งวัวนมจากนอกเข้ามาเลี้ยงในเลี้ยงในเขตอิทธิพล ซื้อเสียงของตัวเอง หมายความว่า..จะสั่งแม่พันธุ์วัวนมมาให้ชาวบ้านเลี้ยง ได้ลูกวัวนมตัวผู้จึงจะเอามาให้เกษตรกรบุรีรัมย์เอาไปเลี้ยงขุน มันน่าถีบไหมละ ..

ตอนนั้น ..ส.ส.บุรีรัมย์ รุ่นเดอะเรียกผมไปพบ..

แกบอกว่า..เอ๊งก็ยอมๆหยวนๆมันไปเถอะไอ้นายเอ๊ย..

วัวก็ได้มาฟรีๆ..ไม่ต้องไปคิดมาก

แหม..ปู่คิดยังงี้ได้ไง..คนบุรีรัมย์ถูกตบหน้านะโว้ย!!

ว่าแล้ว..ก็ทำเรื่องโยนงบประมาณกลับ ไม่ทำไม่อะไรทั้งนั้น!

คงจะเป็นครั้งแรกมั๊ง..ที่งบประมาณถูกตีกลับอย่างไม่แยแส..

อย่า นึกว่าเรื่องจะจบง่ายๆนะครับ เมื่อนักการเมืองรู้ว่าชอบบ้านชอบเลี้ยงวัว ก็คิดจะหากินแบบได้ทั้งเงินทั้งกล่อง จึงเขียนโครงการส่งเสริมเลี้ยงวัวอีสานเขียวขึ้นมาใหม่ อยากจะเลี้ยงวัวเนื้อไม่เอาวัวนมใช่ไหม ไม่เป็นไรป๋าจัดให้..วางแผนไปสั่งวัวเนื้อพันธุ์สวยๆจากต่างประเทศมาให้ เลี้ยงกัน เอาให้ถูกใจ โดนใจ ไม่ให้ขายขี้หน้าอีก

ในแผนใหม่นี้ พี่แกไปสั่งเอาวัวเนื้อจากประเทศออสเตรเลียมาแจกจ่ายชาวบ้าน ตั้งเงื่อนไขให้ชาวบ้านที่สนใจยืมเอาวัวไปเลี้ยงครอบครัวละ5ตัว ภาพที่เอามาโชว์เป็นวัวพันธุ์บาห์มมันผิวขาวผ่อง ตัวโตยังกะตึก ใครเห็นมีรึจะอดใจไม่เลี้ยง เงินกู้ก็ต่ำผ่อนส่งเป็นลูกวัวก็ได้ ถ้าไม่เข้าโครงการนี้รอให้ตายก็ไม่มีปัญญาได้เลี้ยงวัวสวยๆหรอก มีเกษตรกรแทบทุกจังหวัดสมัครเข้าโครงการอย่างอึกทึก ใครลงทะเบียนไว้แล้วก็มานอนฝันหวาน

บังเอิญ ช่วงนั้นผมประสบอุบัติเหตุรถเทกระจาด เพื่อนที่ไปด้วยกันกลับบ้านเก่าเรียบ 3 ชีวิต เหลือรอดผมคนเดียว..ที่เหมือนมีนางฟ้ามาอุ้มกระแทกประตูรถไปวางไว้ที่ปลัก ควาย ก้นกบหัก ซึ่โครงพังไปแถบหนึ่ง กระดูกสันหลังเคลื่อน ก็แปลกนะเธอ.. ถ้ากระเด็นออกจากรถไปตกยังดินที่แข็งๆ คงกลับบ้านเก่าไปรอสตีปจ๊อบส์แล้ว

พรรคพวกหามไปส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว ไปถึงหมองัดคอเป่าปอด เอาเข็มเท่าหอกโมกขศักดิ์ แทงฉึก! เข้าหน้าอก..ไปดูดเลือดคั่งภายในออกมา เจียนอยู่เจียนตายยิ่งกว่าเส้นยาแดงผ่าแปด คุณหมอค่อยๆแก้ไขสังขารให้ทีละเปลาะๆ เอาเรื่องระบบการหายใจก่อน แล้วตามด้วยระบบกระดูดกระเดี้ยว..นายแพทย์เพาะ พานิช ดูแลเรื่องกระดูกให้ ป่วยครานั้นเป็นการปวดสุดโหดที่ทรมานมาก ถ้าไม่มีพยาบาลสาวสวยๆคอยดูแลใกล้ชิด.. ผมคงจะไปไม่กลับหลับไม่ตื่นไปแล้ว

ขอขอบพระคุณ ท่านพรเทพ เตชะไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในสมัยนั้น ที่เป็นเจ้าภาพสั่งดูแลพิเศษ ท่านพรเทพ.. ไปนั่งเกาะอยู่ปลายเตียง คุณหมอคนไหนเดินผ่านมา ก็บอกว่า “ห้ามไม่ให้ไอ้หมอนี่ตายนะหมอ” แถมยังเมตตากรุณาควักค่าใช้จ่ายออกให้ทั้งหมด.. หลังจากรู้ตัวว่ารอดตายแน่ๆแล้ว. . นอนอยู่บนเตียงเป็นเดือนๆ นึกไปถึงคำอธิฐาน..ที่เคยมีคนชอบพูดกัน ข อ ใ ห้ สุ ข ส บ า ย นั่ ง กิ น น อ น กิ น . .

วันๆ..อ่านหนังสือ สมัยนั้นถ้ามีแฟนๆFB.อย่างในตอนนี้..คงจะไม่กระไรนัก

ในช่วงฟักฟื้นผมก็หาเรื่องเล่นสิครับ

ผมเปิดดูรายชื่อร้านอาหารดังๆในบางกอก

แล้วให้โฉมยงไปร้านขายเป็ดย่างบ้าง ร้านแพะตุ๋นที่เยาวราชบ้าง

ซื้อใส่กระติกมาชิมเรียกพละกำลังเอาแฮง ช่วงฝึกคลาน ฝึกเดินใหม่

แ พ ะ ตุ๋ น เ จ้ า นี้ ร ส ช า ติ เ ข า เ ยี่ ย ม จ ริ ง ๆ

โทรศัพท์..ไป ชมเจ้าของร้าน ..อาเฮียเป็นคนรับสาย..ส่งเสียงล้งเล้งไปถึงอาซ๊อ..บอกว่ามีคนชมมา โว้ย..เร็วๆ.. หลังจากนั้นผมก็คุยกับอาซ๊อนานสองนาน บอกว่าผมก็เลี้ยงแพะนะ แต่ปรุงอาหารไม่เป็นไม่เก่งเหมือนอาซ๊อ..แพะตุ๋นน้ำแดงที่ชิมต้องยกนิ้วโป้ แถมก้อยให้จริงๆ อ า ซ๊ อ น้ำ เ สี ย ง ร ะ รื่ น   คุยใหญ่เลย..ว่าที่ร้านนี้นะใครๆก็รู้จัก ถ้าจะกินแพะตุ๋นต้องมาที่นี่ เจ้าใหญ่นายโตมาสั่งไปเลี้ยงกันประจำ..

แต่ที่ร้านไม่ได้..ทำ เ อ ง น ะ มีเจ้าประจำ ม า ส่ ง วั น ล ะ 4 – 5 ห ม้ อ ใ ห ญ่

โธ่ๆๆๆ ซ๊ อ ห น อ ซ๊ อ ..นึกว่าเจ๋ง..

ระหว่าง ที่ผมนอนป่วยอยู่บนเตียงก็ติดตามข่าววัวออสเตรเลีย ผมนึกแปลกใจว่า..เงินที่ชาวบ้านกู้ไม่กี่แสนจะซื้อวัวแม่พันธุ์สวยๆจากนอก ได้อย่างไร และเงื่อนไขโครงการก็หวานจ๋อยผิดปกติ จึงเขียนบทความติงเรื่องนี้ใน ห นั ง สื อ นิ ต ย ส า ร เ กี่ ย ว กั บ ก า ร เ ลี้ ย ง ป ศุ สั ต ว์ ฉ บั บ ห นึ่ ง  ซึ่งชาววัวทั้งหลายก็คงได้อ่านกันแต่ไม่แยแส ผมตั้งข้อสังเกตไว้ล่วงหน้า อะไรที่นักการเมืองมาเกี่ยวข้อง ตอนต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปกลายเป็นบ๊องกัญชาทุกที ..

ไม่ มีชาววัวคนไหนเขาสนใจสิ่งที่ผมทักท้วงหรอก จนกระทั้งวันที่วัวเดินทางมาถึงศูนย์กักสัตว์ นัดหมายให้ชาวบ้านจัดรถไปรับวัวมาเลี้ยง วันนั้นชาวบ้านคึกคักทั้งแผ่นดิน รถบรรทุก อีตุ๊กอีแต๋น เจ้นออกจากหมู่บ้านมาเป็นสาย แต่พอมาเห็นตัววัว..ซึ่งมันต่างจากภาพในวีดีโอและภาพในความคำนึงราวกับฟ้า กับดิน เลือกก็ไม่ได้เสียด้วย อ่านชื่อถึงใครก็เอารถมาไปเทียบ  ต้อนวัวลงให้ครบจำนวน แล้วก็ให้รีบขับออกมา หมุนเวียนกันอยู่อย่างนี้ทั้งวัน

แหม ตอนไปร่าเริงเหมือนจะบินได้ แต่ตอนบรรทุกวัวกลับบ้านเหงาหงอยเหมือนแมวป่วย วัวแต่ละตัวนอกจากไม่ถูกใจแล้วยังดิ้นรนมาก บางตัวถึงกับกระโจนลงรถวิ่งหายเข้าป่า ติดตามไล่ล่ากันจนขาขวิด หลายตัวต้องจับด้วยวิธีไข้โป้ง ขนกันขึ้นรถมาทั้งน้ำตา .. ส่วนตัวที่เหลือก็กระโดกกระเดก เอามาขังคอกไว้ เพื่อนๆคนไหนมาดูก็มีแต่บอกว่า..ไม่สมราคาคุย ..เจ้าตัวเองก็คุยไว้เยอะเสียด้วยสิพูดไม่ได้ไอไม่ดัง ไหนๆมาแล้วก็ทดลองเลี้ยงดู สั่งแม่ยายน้องเมียให้ช่วยๆหาหญ้ามาป้อนอย่าได้ขาด

แม่ยายบางคนเอาใจลูกเขย บอกว่ามันเป็นวัวเทศ..ต้องเลี้ยงดีหน่อย เอาหญ้าไปล้างน้ำก่อนป้อน

หลังจากพักฟื้นระยะหนึ่ง ปศุสัตว์ในเขตรับผิดชอบก็จะมาผสมเทียมให้

ผสมครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ติด..จนเอือมระอากันไปทั้ง2ฝ่าย

จนได้ฉายาว่า..วั ว พ ล า ส ติ ก ..เ พ ร า ะ มั น ผ ส ม ย า ก นี้ เ อ ง

แม้แต่ตัวที่ผสมติด..ค ล อ ด อ อ ก ม า ตั ว เ ท่ า ลู ก ห ม า . .

ผอมๆเหี่ยวๆแพ้กระทั้งวัวพื้นเมือง

ไอ้ ที่เคยกระดี๊กระด๊าก็ใจฝ่อลงไปเรื่อยๆ ชักถอดใจไปตามๆกัน คราวนี้จะทำยังไงดีละครับ คนโน้นปรึกษาคนนี้ ข้ามอำเภอข้ามจังหวัด ไปมาเล่าสารทุกข์แลกเปลี่ยนกัน มีคนหนึ่งโพล้งออกมา..”ไปหาอาจารย์สุทธินันท์ ดีกว่า” แก เคยเขียนท้วงติงเราไว้ หลังจากนั้นก็มีผู้นำหลายจังหวัดมาเยี่ยมผมที่เตียงโรงพยาบาลหัวเฉียว คำแรกที่ถาม..นึกว่าจะถามไถ่เรื่องอาการเจ็บป่วย แกถามว่า..”วัวของอาจารย์เป็นเหมือนของพวกผมไหม?” อ้าว! ที่ผมเขียนเตือนก็เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องดีจนเลิศจนผิดปกติ เมื่อมันผิดปกติผมจะเอามาเลี้ยงทำไมละครับ? ผมไม่เอาวัวพวกนี้มาเลี้ยงอยู่แล้ว หลังจากนั้นพรรคพวกก็หันหน้าไปบ่นกันเหมือนหมีกินผึ้ง ก็บอกแล้วไง..ไม่เชื่อกัน แล้วจะทำยังไงละ

อาจารย์ บอกสิว่า..พวกผมควรจะทำยังไง!!

โธ่ ! พ่อทูลกระหม่อมทั้งหลาย ..ผมก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้

ให้กลับไปปรึกษาหารือกันดู ไปหาเจ้าหน้าที่ ขอรับการแนะนำ

หลายคนพูดแทบจะนัดกัน..ผ๊ม ไ ป ม า ห ม ด แ ล้ ว ..

หลัง จากมาปรับทุกข์ให้ฟัง..นายฮ้อยอกหักทั้งหลายก็บ่ายหน้ากลับบ้าน หลังจากผมพักรักษากายาแข็งแรงขึ้นก็กลับสวนป่า เมื่อชาววัวจังหวัดโน้นจังหวัดนี้รู้ข่าวก็แวะเวียนมาปรึกษา..แหม..ทำยังกับ ผมมีอำนาจสั่งการอะไรได้ ผมก็บอกตรงๆว่า..ผมไม่มีน้ำยาอะไรหรอก..ให้ไปหาเจ้าหน้าที่ๆรับผิดชอบ แต่เรื่องก็ไม่จบ จนกระทั้งคืนหนึ่ง มีชาววัวพลาสติกชั้นผู้นำ 6-7จังหวัดบึ่งรถเข้ามาพบอย่างแข็งขัน พร้อมกับยื่นคำขาด..

อาจารย์ต้องช่วยพวกผม ..

ก็บอกแล้วไง..ผมไม่มีเพาเวอร์อะไร..

แต่เพื่อนร่วมโลกที่มาเยี่ยมก็ยืนกระต่ายขาเดียว

ถ้า อ า จ า ร ย์ ไ ม่ รั บ ป า ก ช่ ว ย . .  พ ว ก  ผ ม ไ ม่ ก ลั บ . .

โธ่ ..มาไกลๆกันทั้งนั้น..โคราช ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบล ฯลฯ

ผมรู้นะ..อาจารย์เคยเขียนโครงการทำนองนี้..ต้ อ ง ร่ ว ม รั บ ผิ ด ช อ บ สิ

เออ..เข้าใจหาช่องเจาะใจเราจนได้!!

จะให้ร่วมรับผิดชอบรึ..ข อ คิ ด ดู ก่ อ น น ะ

วัว ก็ไม่ได้เอามาเลี้ยงกับเขาสักตัว ผลประโยชน์อะไรก็ไม่ได้รับสักอีแปะ แต่ทุกข์ของเพื่อนร่วมแผ่นดินนี่สิจะทำยังไง คิด และ คิด จนสมองแฉะ ..เอายังงี้ดีกว่า ผมเผ่นเข้ากรุงเทพฯ ไปขอพบอาจารย์ประเวศ วะสี อาจารย์ระพี สาคริก ที่งานแสดงกิจกรรมอะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว เล่าเรื่องให้ท่านฟัง ..เอาเรื่องหนักๆไปโยนให้ผู้ใหญ่ บาปแท้ๆ ..บางท่านแนะนำให้ไปหาทนายทองใบ ทองเปาว์ จัดการโทรศัพท์นัดให้เสร็จสรรพ ให้ไปหาหรือกันในแง่กฎหมาย ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นกฎหมู่มากกว่ากฎหมาย จึงไม่ได้ดำเนินการในแง่นี้หลังจากนั้นก็เผ่นไปขอพบอาจารย์เสน่ห์ จามริก ที่สถาบัน LDI. อาจารย์เมตตารับฟังเรื่องราวอย่างละเอียด พร้อมกับแนะนำว่า..เ อ า อ ย่ า ง นี้ ไ ห ม ? ค รู บ า ..LDI.จะเป็นเจ้าภาพนัดเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องทั้งหมดมาปรึกษาหาทางออกร่วมกัน

แหม..ถ้ามีแนวทางประนีประนอมกันได้ละเยี่ยมเลย

หลัง จากนั้นท่านอาจารย์ได้นัดหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพบปะกันที่ LDI. คุยกันถึงภาพรวมและข้อเท็จจริง ผมเดาเอาว่า..เจ้าหน้าที่ก็หนักใจ เพราะเบื้องหลังมีเงาของนักกินเมืองคำกำชับอยู่ตลอด ผู้น้อยจะไปหืออะไรได้ ใบสั่งให้ทำอะไรก็ต้องเดินตามนั้น โธ่ กรมปศุสัตว์เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้จะตาย ทำไมจะไม่รู้ลึกตื้นหนาบางละครับ แต่..มันพูดบ่ได้  ใกล้จะจุกอกตายก็พูดความจริงไม่ได้ ..ผมก็ตัดสินใจแทนชาววัวไม่ได้ จึงนัดหมายกันอย่างนี้ดีไหม?.. ตอนนั้นท่านนิพนธ์ พร้อมพรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตกลงจัดงานวันนัดพบชาววัวพลาสติกที่โรงแรมสีมาธานี ให้ปศุสัตว์จังหวัดเชิญตัวแทนผู้นำแต่ละจังหวัดมาร่วมประชุมหาทางออกร่วมกัน จะได้รู้แล้วรู้แรดก็ไปเสียที พอถึงวันนัด..มีสมาชิกที่มีรายชื่อเป็นตัวแทนเข้าประชุม และที่มาเป็นกำลังใจเต็มถนนหน้าโรงแรม

แต่..ก็แปลกอีกนั่นแหละ..

มีการคัดกรองรายชื่อคนที่เข้าประชุมอย่างละเอียด

ใครไม่มีชื่อห้ามเข้าเด็ดขาด..

รวมทั้งผมด้วย..เจ้าหน้าที่ของรัฐฯอาจจะมองว่า เ ป็ น ตั ว แ ส บ . .

เมื่อไม่ให้ผมเข้าประชุม..มันก็ป่วนสิครับ..

จะขึ้นต้นลงท้ายยังไง ..ใ ค ร จ ะ เ ป็ น ตั ว แ ท น ช า ว วั ว ที่ รู้ เ รื่ อ ง . . ดี !..

ตัวแทนชาววัววิ่งโร่มาหา!.. พวกผมจะทำยังไงดี ทำไมมันทำอย่างนี้

ผมก็เพิ่งรู้ อ๊าว!..มีเรื่องอย่างนี้ด้วยรึ!

ไม่อยากหร๊อก..ไอ้ สู้ กั น ท า ง ค ว า ม คิ ด นี่ ถ นั ด นั ก

ผ  ม จ ะ ถี บ มั น ต ก เ ก้ า อี้ ใ ห้ ดู . . ไอ้พวกหาความจริงใจไม่ได้นี่..

ไปบอกมันว่า..ไ อ้ ห น้ า ไ ห น สั่ ง ไ ม่ ใ ห้ อ า จ า ร ย์ พ ว ก กู เ ข้ า ป ร ะ ชุ ม . .

กูจะยกโขยงกันกลับทันที..ป ล่ อ ย พ ว ก มึ ง คุ ย กั น เ อ ง เ อ อ เ อ ง ก็ แ ล้ ว กั น . .

โห! เรื่องนี้ยิ่งเขียนก็ยิ่งมันส์

มีอีกหลายสิบตอน  ขืนเขียนไม่บันยะบันยังลงไป

ที่รักก็จะอ่านตาแฉะนะสิ..

เ อ า ไ ว้ ติ ด ต า ม ต อ น ต่ อ ไ ป ดี ไ ห ม ? . . ค น ส ว ย


ปลวก คำเดียวสั้นๆแต่กินบ้านหมดหลัง **

อ่าน: 3098

· เราๆท่านๆคงรู้จักปลวกกันบ้างแล้วละครับ เจ้าตัวเล็กๆรูปร่างคล้ายมดมีเขี้ยวโง้งคู่ใหญ่อ้าอยู่ที่หัว บางตัวหัวโตกว่ารูปร่างเสียอีก มีคนบอกเล่าว่ามันเป็นอันเดียวกันกับแมลงเม่า มันมีหลายสายพันธุ์เสียด้วยสิ พบเห็นทั่วๆไป แม้แต่ในบางที่ๆเราไม่คาดฝันมันก็เข้าไปแอบซุกซ่อนอยู่ได้ โดยเฉพาะห้องสมุดมันชอบมาก ทำให้เราสงสัยว่ามันกินอะไรเป็นอาหารกันแน่ มันชอบอะไร ดูๆมันตะกะตะกรามไปหมด

· ปลวกคลุกคลีกอยู่กับเรามาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วละ ในเมื่ออยู่พื้นโลกเดียวกันมันก็หลบหลีกกันยาก หลายคนรังเกียจปลวกเพราะเห็นว่ามันเป็นตัวทำลายทรัพย์สินที่เป็นบ้านเรือนของเรา มนุษย์จึงพยายามกำจัดปลวก เรียกว่าสู้กันมาหลายยก จนกระทั้งเท่าทุกวันนี้ก็ยังหามีฝ่ายใดยกธงขาวไม่ เรายังไม่สามารถสู้ปลวกได้ ปลวกจึงยิ้มเยาะภูมิปัญญาและเทคโนโลยีของมนุษย์ เมื่อก่อนนี้มีคนบอกว่าปลวกไม่ขึ้นคอนกรีต จะยุ่งเกี่ยวกับวัสดุที่เป็นไม้เท่านั้น ข้อสัญนิฐานนี้ไม่จริงเสียแล้ว เสาตอหม้อที่ฝังดินไว้แล้วเอาเสาไม้มาต่อเพื่อหนีปลวก ยังโดนปลวกจัดการเสียเรียบวุธ ผมเอาแป๊บเหล็กมาอ๊อกทำขาตั้งกล่องผึ้ง ปลวกก็ยังหาวิธีต่อท่อลำเลียงพลไปฟาดกล่องผึ้งซะกระจุย

ผมเคยนอนฟังเสียงปลวกแทะฝาบ้าน

ไม่เห็นตัวมันหรอกนะ

ได้ยินแต่เสียง กร๊อดๆ กร๊อดๆ เบาๆ ระหว่างที่มันอร่อยกับบ้านของเรา

นอนฟังเพลินอยู่3ปี

ปรากฏกว่า..ได้เรื้อบ้านทิ้ง

· หลังจากนั้นผมก็เฝ้าสังเกตมันทุกครั้งที่ไปเจอะเจอ ยิ่งอยู่ในป่าอย่างนี้ด้วยแล้ว หลงฝนตกปลวกนับล้านๆตัวก็จะขึ้นมาแทะกินไม้ บางกลุ่มจะทำดินเคลือบท่อนไม้ไว้มิดชิด แล้วมันก็รุมมะตุ้มกินเนื้อไม้อย่างสุขารมณ์ มีผู้รู้กล่าวว่า..ปลวกมันมีผิวหนังบอบบาง มันเลยทำท่อหุ้มทางลำเลียงด้วยดินเป็นท่อคดเคียวตามเส้นทางสัญจรของมัน เรื่องเทคโนโลยีระบบขนส่งนี้ ผมเชื่อว่าปลวกเก่งกว่ามนุษย์เสียอีก ภายในรังปลวกจะมีระบบความคุมอุณหภูมิให้คงที่ เรียกว่าติดแอร์ทั้งรังว่างั้นเถอะ ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติมากระทบกับรัง เช่น เปลือกนอกผิวรังเป็นรูโหว่ เจ้าพวกปลวกหัวโตจะรีบเอาหัวมาอุดรูที่ชำรุดไว้ แล้วเร่งให้ปลวกงานรีบซ่อมแซมรังส่วนที่เสียหาย

· นางพญาปลวกตัวใหญ่เท่านิ้วก้อย ตั ว ข า ว ๆ ขุ่ น ๆ เ นื้ อ ตั ว อ่ อ น นุ่ ม เ ห มื อ น ตั ว ห น อ น มี หั ว ข น า ด เ ท่ า ป ล ว ก ทั่ ว ไ ป แ ต่ ร่ า ง ก า ย ใ ห ญ่ ม า กว่าปกตินับร้ อยเท่า คงเดินไปไหนไม่ได้ มีหน้าที่เบ่งท้องวางไข่ให้มีปริมาณมากๆ ที่ ม หั ศ จ ร ร ย์ คื อ อ า ณ า เ ข ต ที่ น า ง พ ญ า ป ล ว ก พำ นั ก จะสร้างด้วย ดิ น แ ข็ ง พิ เ ศ ษ รู ป ร่ า ง ค ล้ า ย ๆ จ า น ข้ า ว จะฝังตัวอยู่กลางรังปลวก สมัยหนึ่งมีใครก็ไม่รู้มาโพทะนาว่า.. นางพญาปลวกเป็นยาโด๊ปชั้นยอด แค่นั้นแหละเธอเอ๋ย พ ว ก น ก เ ข า เ ห ง า ห ง๋ อ ย พ า กั น บุ ก ต ลุ ย ขุ ด ห า น า ง พ ญ า ป ล ว ก จ น รั ง ป ร ะ จุ ย ไ ป ทั้ ง ป่ า รังที่ไม่มีนางพญาก็จะร้าง พลเมืองที่เหลือคงอพยพไปสร้างรังแล้วบ่มเพาะนางพญาขึ้นมาทดแทน ส่วนการโด๊ปด้วยนางพญาปลวกได้ผลประการใด ไม่มีคนสรุปประเมินผล พักหลังสังเกตได้ว่า..เรื่องนี้ซาๆกันไป..

แสดงว่านกเขา..ค ง ต ก ค อ น เหมือนเดิม อิ อิ

แหม ถ้ า กิ น แ ล้ ว มั น ซู่ ซ่ า ส์ จ ริ ง

ผมนี่แหละ น่ า จ ะ ไ ด้ รั บ อ า นิ ส ง ส์ เ ป็ น ค น แ ร ก

เพราะผมเป็นเจ้าของรังปลวกเต็มป่า

สั่ง ค น ง า น ใ ห้ ขุ ด ม า กิ น วั น ล ะ 1 0 ตั ว ก็ ยั ง ไ ด้

จะ เ จี๊ ย ะ ใ ห้ ไ ว อ า ก้ า ..ตกกะป๋องไปเลยยย 5555

· สมัยหนึ่งผมเคยทำวิจัยแบบไทบ้าน แนวคิดก็คือ จะ จั บ เ อ า น า ง พ ญ า ม า อ ยู่ ร ว ม รังอยู่ใกล้ๆกัน เพื่อจะทำฟาร์มปลวก แล้วเอาปลวกนั้นมาเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่อีกที ในจุดที่เลี้ยงปลา เราก็เอาภาชนะไปพวกพลาสติกแข็งไปสร้างรังเลี้ยงบนบ่อปลา แล้วขุดเอาจอมปลวกไปวาง เอาเศษไม้/กระดาษหนังสือพิมพ์ไปสุมไว้เยอะๆ รดน้ำ เพื่อให้ปลวกขยายพันธุ์ ได้ปริมาณมากๆก็แซะลงให้ปลากิน อีกวิธีหนึ่งทำบนดิน ไปขุดเอาจอมปลวกมาวางเรียงใกล้กัน แล้วเอาเศษไม้ เศษกระดาษ ฯลฯ ที่ปลวกชอบไปสุมไว้บนพื้นที่ฟาร์มปลวก ติดสะปริงเกอร์รดน้ำให้ความชื้น ผมเอาไก่ไปปล่อยไว้ในวงล้อมฟาร์มที่ว่านี้ หวังว่าถ้าเป็นผลสำเร็จจะไม่ต้องเสียค่าอาหารเลี้ยงไก่

ทำ ไ ป ทำ ม า ไ ม่ ค่ อ ย เ ข้ า ท่ า เ ท่ า ใ ด นั ก

ป ริ ม า ณ ป ล ว ก ไ ม่ ไ ด้ ข ย า ย ตั ว เ ร า เหมือนที่อยู่ตามธรรมชาติ

แนวคิดเรื่องเลี้ยงปลวกให้ปลาให้ไก่กินเพื่อประหยัดอาหารจึงเลิกรา

ป ล่ อ ย ไ ก่ ใ ห้ ห า กิ น เ อ ง แ บ บ บุ ฟ เ ฟ ต์ จ ะ ดี ก ว่ า

· จากบัดนั้นมาจนกระทั้งบัดนี้เธอเอ๋ย..เรื่องปลวกก็ยังค้างคาอยู่ในใจผมสม่ำเสมอ และก็ยังไม่รู้จะเอาสติปัญญาอะไรไปสู้กับปลวก ทุกครั้งที่โฉมยงโอดครวญเรื่องปลวกกัดกินโน่นนี้ ผมก็ได้แต่เอื้ออ้าทำหน้าจ๋อย..สุดท้ายเธอก็ไม่มาหวังพึ่งคำแนะนำอะไรอีกแล้ว ขับรถไปซื้อยาฆ่าปลวกมาฉีดๆๆๆ เอาเชลล์ไดร๊ท น้ำมันควันไม้ เอาอีเอ็ม เอาสารต่างๆไปรดไปราด ปลวกก็แค่ขยาดนิดๆหน่อยๆแล้วก็กลับมาอีก เล่นเอาเถิดเอาล่ออยู่อย่างนี้ จะแพ้ชนะก็ยังไม่ครบยก ไม่อาจตัดสินได้ เ ค ย มี ค น อ ว ด เ รื่ อ ง ผ ล วิ จั ย ก า ร กำ จั ด ป ล ว ก ไ ด้ สำ เ ร็ จ ผมไม่อยากจะเชื่อ.. ตอนแรกๆปลวกมันอันอาจจะถอยให้บ้าง ..แต่วันหลังมันก็รุกเข้ามาใหม่

แหม ถ้าใครพบวิธีกำจัดปลวกได้จริงๆคงรวยเละแน่ๆ

· เธอทราบไหม? สินทรัพย์ทั่วโลกเสียหายเพราะปลวกปีละไม่รู้กี่แสนล้านบาท ถ้าจะประเมินแบบเข้าข้างมนุษย์ด้วยกัน ผมคิดว่า..เราแค่ค้นหาวิธีป้องกันปลวกได้บ้างเท่านั้น แต่จะกำจัดปลวกแบบถอนรากถอนโคน..มนุษย์ยังไม่มีน้ำยา อย่างเก่งก็แหกตาโฆษณาชวนเชื่อขายยากัน

· ระยะนี้พวกเราฮิตเรื่องการสร้างบ้านดินกัน ผมไม่ทราบว่าประสบปัญหาเรื่องปลวกบ้างหรือเปล่า สมัยที่ไปดูงานที่อินเดีย ในเขตชนบทของอินเดียล้วนปลูกสร้างบ้านเรือนด้วยดินกันทั้งนั้น บ้านดินอินเดียก็ตั้งอยู่บนพื้น แถมบางแห่งยังเอาใบอ้อยและทางมะพร้าวมาเป็นวัสดุมุงครอบหลังคาไว้ชั้นหนึ่ง ถ้าบ้านเราก่อบ้านดินติดพื้นอย่างนี้ คงโดนปลวกเล่นงานกระเจิงแน่ ..ผมพยายาม ถ า ม ผ่ า น ล่ า ม ว่ า ..ชาวภาระตะ มี วิ ธี ป้ อ ง กั น ป ล ว ก อ ย่ า ง ไ ร ก็ได้คำตอบแบบคลุมเครือ สรุปไม่ได้ว่า แ ข ก ใ ช้ ภู มิ ปั ญ ญ า อ ะ ไ ร ไ ป สู้ ป ล ว ก

ม เ อ ง ก็ พู ด ภ า ษ า ข อ ง เ ข า ไ ม่ ไ ด้

ไม่งั้นจะจู้จี้เจาะใจให้รู้เรื่องไปเลย

เสียดายก่อนไป น่ า จ ะ ห า แ ฟ น เ ป็ น ช า ว อิ น เ ดี ย สั ก ค น

ฝึกพูดพอรู้เรื่อง..ก็คงจะไม่ต้องมานั่งจิตตกอย่างนี้

· เรื่องของปลวกมีหลายมุมมอง ถ้าเรามองในแง่ดีก็จะเห็นคุณประโยชน์ของปลวกมหาศาล ลองคิดดูสิเธอ ถ้าไม่มีปลวกโลกใบนี้จะรกรุงรังขนาดไหน การที่ปลวกเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อาหารในธรรมชาติ ทำให้มีอาหารเลี้ยงดูแมลง/สัตว์เลื้อยคลาน/นกเขา/หรือนกอื่นๆก็ได้อาศัยปลวกเป็นอาหาร . .ป ล ว ก ไ ด้ เ ล ว ร้ า ย อ ะ ไ ร ปลวกเป็นเพื่อนร่วมโลกที่น่ารักมาก ขยันขันแข็งทำหน้าที่ปัดกวาดโลกใบนี้ให้ดูสวยงาม แถมยังบรรณาการเห็ดอร่อยๆให้เราได้รับประทาน ผู้สันทัดกรณีเล่าว่า..เห็ดโคนที่แสนอร่อย เกิดจากปลวกคาบเอาสปอร์ไปกักตุนไว้เป็นอาหาร ในรังปลวกบางแห่งเคยขุดไปเจอตุ่มเห็ดเล็กๆขาวๆมามายในรังปลวกชั้นบน เมื่อสปอร์ติดขาปลวกขึ้นสู่ผิวดิน ในวาระที่ความชื้นเหมาะสม สปอร์ก็จะขยายตัวโผล่ดินขึ้นมาเป็นกลุ่มดอกเห็ดให้ฉายฉิมได้ไปเก็บ ประโยชน์ของปลวกคงมีมายมากกว่านี้ แต่กึ๋นมนุษย์ยังเจาะเข้าไปไม่ถึง เรื่องปลวกก็เลยคาราคาซังยังหาพระเอกไม่พบ

· เช้านี้ ผ ม เ ห็ น ป ล ว ก กำ ลั ง ก่ อ ห ว อ ด ขึ้ น ใ ต้ บ้ า น ห ลั ง ใ ห ม่

· บ้านที่เราเพิ่งยกโครงมาตั้งได้วันเดียว

· ปลวกก็พากันมาจับจองสร้างรังเล็กๆ2-3แห่งเสียแล้ว

· ผมมานั่งๆนอนๆคิดจะเอายังไงดี

· ก็เลยคิดวิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง

· ผ ม จ ะ เ อ า ต า ข่ า ย ต า สี่ เ ห ลี่ ย ม เ ล็ ก ม า ล้ อ ม ไ ว้ ใ ต้ ถุ น บ้ า น

· แ ล้ ว เ อ า ลู ก ไ ก่ ตั ว เ ท่ า กำ ปั้ น ม า ป ล่ อ ย ไ ว้ 2 ตั ว

· เ อ า น้ำ ไ ป ว า ง ไ ว้ ใ ห้

· ส่ ว น อ า ห า ร ก็ ใ ห้ คุ ณ ไ ก่ คุ้ ย เ ขี่ ย ป ล ว ก ตั ว อ้ ว น ๆ กิ น เ อ า เ อ ง

· แล้วเฝ้าสังเกตดู ..ถ้าปลวกหมดหรือไม่ขึ้นมาให้ไก่เจี๊ยะอีก

· ผมก็จะย้ายลูกไก่ไปยังบ้านหลังอื่นๆไปเรื่อยๆ

· เ ร า อ า จ ะ ทำ ป ร ะ ตู ก ล ใ ห้ ไ ก่ เดินไปหาปลวกใต้ถุนกลุ่มบ้านใกล้เคียงได้ด้วย

· แบบนี้..ท่าจะสนุกแน่

· เอาไว้ผมทำเรียบร้อยแล้ว จะ ถ่ า ย ภ า พ ม า ใ ห้ ดู น ะ ค รั บ

ตะกี้นี้..คุณชายมาลากเอาเครื่องตบอัดดินไปออกกำลังกาย

บอกว่าจะเอาไปทดลองบดดินข้างถนนให้แน่นกันน้ำเซาะพัง

คุณชาย..ถามว่า ครูบากำลังทำอะไร?

ผมก็กำลังเขียนเรื่องปลวกนะสิ

แล้วนี่คุณชายเอาเครื่องบดดินสั่นสะเทือนไป ตบ ตบ..ดิน อยู่บนหัวปลวก

ปลวกมันไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อก !

ไม่รู้ว่าชาวปลวกจะหัวสั่นหัวคลอนเพราะฝีมือคุณชายรึเปล่า..

ตอนนี้ท่านอ่าน อ่าน ..แล้ว ก รุ ณ า ค อ ม เ ม น ท์ เ รื่ อ ง นี้ ด้ ว ย นะ จ๊ะ

· ข อ บ ใ จ ล่ ว ง ห น้ า น ะ ค น ส ว ย .. คิ คิ


การตัดไม้ไม่ทำลายป่า

อ่าน: 2120
  • ส่วนมากเราจะได้ยินคำว่า”ตัดไม้ทำลายป่า” ใช่ไหมเธอ วิธีตัดไม้ไม่ทำลายป่าก็มีนะ ถ้าเราบริหารจัดการเป็น ก่อนจะไปถึงตรงจุดนั้น ก็ขอเล่าเรื่องสดๆร้อนๆที่เกิดขึ้นวันนี้ เพราะผมตัดสินใจโค่นต้นยูคาลิปตัสต้นใหญ่อายุ30ปี ก่อนจะโค่นก็นั่งมองนอนมองอยู่หลายวัน เพราะเท่ากับเราตัดสินใจจบอายุของต้นไม้ที่ยืนต้นอยู่กับเรามานาน จากนี้ไปไม่ต้องยืนอีกแล้ว นอนเสียบ้าง นอนหงายเก๋งสิ้นสภาพกิ่งก้านยับเยิน
  • ·         สาเหตุก็มาจากการจัดวางกลุ่มเรือนคนโสดจำนวน 7 หลัง บังเอิญยูคาฯต้นนี้ไปตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลางของทำเลตั้งบ้าน บังสายตา บังทิศทางลม คืออยู่ไม่ถูกใจโก๋ว่างั้นเถอะ ที่มายืนเก้ๆกังๆคงเป็นเพราะถูกคัดเลือกให้เป็นแม่ไม้ ตอนหนุ่มๆก็ดูดี แต่พอมีอายุมากขึ้นกลับแตกกิ่งเก้งก้าง แถมต้นไม่เปลาตรงเหมือ่นแม่ไม้ต้นอื่นๆ อนึ่ง ถ้าจัดวางบ้านแต่ละหลังลงตัวไปแล้ว มาโค่นทีหลังนอกจากจะยุ่งยากยังเป็นอันตรายอีกต่างหาก

อย่ากระนั้นเลย

เรียกเจ้ามือเลื่อยมาให้พิจาณา

ต้นไม้ใหญ่อย่างนี้ต้องคำนวณทิศทางลงให้ดี

  • ·         ไม้ลำต้นสูงย่อมมีเรือนยอดยาวไปฟาดเอาต้นอื่นเสียหายได้ หลังจากมองหาลู่ทางแล้ว เจ้ามือเลื่อยเห็นช่องขนาด1วา ที่จะเลื่อยบากโคนต้นต้นให้ล้มไปตามทิศที่ต้องการได้ เพื่อไม่ให้เสี่ยงจึงต้องตัดกิ่งออกไปบ้าง และหาคนช่วยดึงโน้มเข้าทิศที่ต้องการถ้าไม้ขืนตัว หรือมีลมกระโชกแรงมาโดยบังเอิญ เรื่องอย่างนี้มันบ่แน่ดอกนาย ป้องกันรอบครอบไว้ก่อนเป็นดีที่สุด ผ ม ใ ห้ น โ ย บ า ย ไ ว้   ตั ด ยั ง ไ ง ก็ ไ ด้ เ พี ย ง แ ต่ อ ย่ า ใ ห้ กิ่ ง ไ ป ฟ า ด ตั น ต ะ เ คี ย น ท อ ง ที่อยู่ใกล้ๆก็แล้วกัน .. ไ ม่ ยั ง งั้ น โ ด น เ ตะ
  • ·         หลังจากส่งมือริดกิ่งไม้ไปจัดการเรียบร้อยแล้ว เลื่อยสติลถูกลากออกมา ฟันเลื่อยโซ่ขาววับ เลื่อยฝรั่งเหมือนเลื่อยไทยที่ไหนเล่า พลังของเครื่องยนต์ทำให้ใบเลื่อยโซ่กัดกินเนื้อไม้ดุเดือดจวดๆ.. ไม่ถึง10นาทีไม้ตั้งต้นก็ล้มฟาดพื้นเสียงสนั่น มือเลื่อย2เครื่องช่วยกันริดทอนกิ่ง ทำการวัดขนาดความยาว จะตัดทอนกี่ศอกก็ถามช่างทำบ้าน ว่าหลังที่จะสร้างใหม่ใหญ่กว่าเดิม ต้องการไม้เครื่องบนเครื่องล่างยาวกี่ศอก คนปลูกต้นไม้ไว้ใช้เองก็ดีอย่างนี้ละครับ ออกแบบบ้านเสร็จค่อยมาสั่งตัดต้นไม้ จะได้ไม่ต้องมาตัดไม้ทิ้งในภายหลัง ..

กว่าต้นไม้จะโตได้เส้นรอบวงแต่ละนิ้วมันง่ายที่ไหนละเธอ

ต้องสะสมเวลาเป็นสิบๆปี จะมาตัดแบบล้างผลาญได้ยังไง

หลังจากผ่าไม้ออกเป็นแผ่นใหญ่ๆเพื่อรอการซอยออกเป็นตัวๆ

ถามเจ้ามือเลื่อยว่าต้นนี้จะได้เค้าโครงบ้านสักกี่หลัง

คำตอบคือ3หลัง

เสียดายตรงที่โคนต้นเป็นรูเท่ากำปั้น ไม่ยังงั้นอาจจะได้ถึง๔หลัง

  • ·         ประเด็นนี้สำคัญนะครับ เป็นมุมมองที่ชาวไร่ชาวนามองข้าม การปลูกไม้ยืนต้นนอกจากจะมีประโยชน์อย่างที่รู้ๆกันแล้ว ต้นไม้เป็นเงินออม เป็นทุนที่เหมาะกับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ต้ น ไ ม้ มั น ไ ม่ ร้ อ ง กิ น หั ว อ า ห า ร เ ห มื อ น การเลี้ยงปศุสัตว์ ไม่ต้องพิรี้พิไร ใ ส่ ปุ๋ ย ร ด น้ำ พ ร ว น ดิ น อ ะ ไ ร  ขุดหลุมปลูกต้นไม้ไม่ถึง5นาที/ต้น มีต้นทุนจริงๆต้นละไม่เกิน20บาท ปลูกแล้วปล่อยให้เติบโตตามยถากรรม รอเวลาผ่านไป10-20ปี เราก็เกิดมีทุนมีทรัพย์ขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง เจ้ายูคาลิปตัสที่โค่นวันนี้ ขายเป็นไม้เครื่องสร้างบ้านอย่างขี้หมูขี้หมาก็ได้เงิน3หมื่นตุงอยู่ในกระเป๋า ถ้าปลูกสัก100ต้นละ ก็ได้3ล้านบาทแล้วใช่ไหมละ ถ้าปลูก1,000 ต้นละ โห่ ได้เงินมาอีกเป็นกะตั๊ก

พวกชลอหลังยาวมักจะพูดว่า  ไ ม่ มี ที่ ป ลู ก ถามว่ามีที่ไร่ที่นาไหม ทุกคนก็ต่างก็บอกว่ามี..อ้าว!

แล้วทำไมไม่ปลูกตามหัวไร่ปลายนา หรือปลูกตามคันนาละ บางคนปลูกรอบที่นาได้หลายพันต้น ปลูกแถวเดียวอย่างนั้น ต้นไม้โตเร็วมากเพราะไม่มีการแก่งแย่งอาหาร บางทีทำนาแทบตายไม่เหลืออะไรหรอก มีแต่หนี้กับซัง หรือไม่ก็พอมีพอกินปะทะปะทังปีต่อปี จะให้มีทุนงอกเงยในชาตินี้อย่าไปหวัง ก็จะหวังอะไรได้นะครับ เมื่อไม่มีความรู้ความคิดที่จะหาทุนสะสมทุน แบบที่ตนเองพอมีศักยภาพทำได้อยู่แล้ว

ความไม่รู้+ความขี้เกียจ = ความไม่รู้ยกกำลัง2

พวกชาวไร่ชาวนาจึงเป็นหนี้หัวโต จะได้เงินมาใช้จ่ายก็มีแต่กู้ๆๆและกู้ กู้ ม า ทำ เ ป็ น เ งิ น กู อีตอนเขาเรียกเก็บเงินต้นเงินดอกก็วิ่งพล่าน สุดท้ายก็มีหนี้ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ไปจนถึงระยะสุดท้าย ขายไร่นา ขายวัวควาย ขายอนาคต เ ป ลี่ ย น จ า ก เ ก ษ ต ร ก ร ไปเป็น ก ร ร ม ก ร .. ส า เ ห ตุ เ พ ร า ะ ไม่ปลูกต้นไม้นี่แหละ ลองนึกดูสิเธอ ถ้าปลูกทิ้งไว้อย่างที่เล่า แก่ตัวมาตัดไม้ใหญ่ออกสักส่วนหนึ่ง ก็มีเงินล้างหนี้ได้หมด แถมยังเหลือเงินก้อนเป็นทุนอีก โดยการใช้เวลาเป็นทุนปล่อยให้เทวดาเลี้ยงให้

ถ้ า ทำ กั น อ ย่ า ง นี้ ทั่ ว ไ ท ย แ ล น ด์ ไ ม่ จ น ไ ม่ เ จ๊ ง

มีแต่ได้กับได้ใช่ไหมละเธอ..

ปลูกต้นไม้มันไม่ได้อะไรตรงไหนจ๊ะ

ไปบ้าทำแต่เรื่องยากๆและสุ่มเสี่ยง

เรื่องง่ายๆดีๆไม่พากันทำ

  • ·         นอกจากไม่ทำแล้วยังลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แล้งมาก็จุดไฟเผาแผ่นดินให้ร้อนระอุ เกิดควันไฟป่าครอบคลุมไปครึ่งประเทศ นี่หรือแผ่นดินทำแผ่นดินทอง ทำไมมันเป็นแผ่นดินกระดำกระด่าง เป็นเขาศีรษะโล้น แล้วมันจะพออยู่พอกินยังไง? เศรษฐกิจพอเพียงตรงไหน? ทำไมพากันชุ่ยอย่างนี้หนอพี่ไทยเอ๋ย
  • ·         เกี่ยวกับเรื่องสวนป่าที่บุรีรัมย์นี่นะครับ มีเรื่องต้องเล่าขานกันอีกมาก เคยมีคนถามผมว่ามีอาชีพอะไร พอบอกว่า “มีอาชีพปลูกสร้างสวนป่า” แหม ทำหน้างงๆ หันมาพูดว่าไม่เคยได้ยิน ไม่เห็นมีใครเขาพูดถึงกัน อาชีพอย่างนี้ก็มีด้วยเรอะ ปลูกป่ามันต้องใช้เวลานาน จะกินอะไร จะเกิดรายได้ตรงไหน มันต้องใช้เวลา มันช้ามากไม่ใช่รึ ..สารพัดที่ชะลอหลังยาวจะบิดตะกูด ยกข้อกังขาร้อยแปดพันประการมาปิดกั้นอนาคตเกษตรกรตนเอง บางคนน่าหมั่นไส้กว่านี้อีก เ ล ย ไ ล่ ไ ป ป ลู ก ต ะ ไ ค ร้ สิ .. ไม่ต้องรอนาน 6 เดือนก็เก็บขายได้แล้ว

มีแต่คนอยากจะรวยมากๆ รวยง่ายๆ รวยเร็วๆ

แหม ถ้าทำได้อย่างนั้นคงไม่มีคนยากจนหรอกนะเธอ

ที่มันตกอับกันอยู่อย่างนี้ เพราะมันอับจนความคิดนั่นเอง

การจะคิดได้คิดดีมันต้องเรียน

ถ้าอยากจะเรียนวิธีคิด

ก็เข้ามาอ่านเรื่องที่เราๆท่านๆช่วยกันเขียนช่วยกันคอมเมนท์นี่แหละ

ปัญหาอยู่ที่ไม่ใส่ใจอะไรสักอย่าง คิดเล่นๆ ทำเล่นๆ แต่อยากจะมีความรู้มากๆ มีสตังค์มากๆ

พวกบ้าไม่มีหูรูดทั้งนั้น..

  • ·         การปลูกป่าไม้ของผม ก็มีการตัดไม้เป็นระยะๆนะครับ เมื่อ20ปีที่แล้ว เห็นเสาไฟฟ้าตั้งมาโด่เด่ขึ้นในหมู่บ้าน เห็นแล้วก็เหมือนหมาเห่าเครื่องบิน เพราะผมมีบ้าน2-3หลัง การไฟฟ้าเขาไม่ลงทุนลากสายไฟเข้ามาระยะทางนับพันเมตรให้หรอก เงินก็ไม่มี ไฟฟ้าก็อยากได้ สุดท้ายต้องกัดฟันตัดต้นไม้ยูคาฯขายให้เขาเอาไปทำเยื่อกระดาษ ราคาถูกเหมือนขี้ ก.ก.ละ50 สตางค์ ตัดคราวนั้นหมดป่าไม้ไป200ไร่ แต่ก็ยังดีที่มันแตกหน่อขึ้นมาใหม่ รอไปอีก4ปี ถ้าอยากใช้เงินก็ตัดไปขายอีก ถ้าไม่เดือดร้อนก็ปล่อยให้ต้นมันเติบโต  ต้ น ไ ม้ มั น ไ ม่ ขี้ เ กี ย จ ห ร อ ก น ะ เ ธ อ   เสาร์-อาทิตย์ มั น ก็ ไ ม่ เ ค ย ห นี เ ที่ ย ว  อัตราการเติบโตของมัน ม า ก ก ว่ า ด อ ก เ บี้ ย ใ น ธ น า ค า ร เ สี ย อี ก
  • ·         หลังจากปลูกต้นไม้ไปได้13ปี ผมตัดไม้ชุดหลังนี่เพราะจะเอามาสร้างอาคารหลังใหญ่ หมดต้นไม้ไป2,000ต้น แต่ใช้ได้จริงๆประมาณ6-700 ต้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะยูคาลิปตัสมีหลายสายพันธุ์ บางพันธุ์ก็นำมาเลื่อยสร้างอาคารบ้านเรือนได้ดี แต่บางพันธุ์มันบิดเบี้ยวจนต้องเอาไปทำเยื่อกระดาษอย่างเดียว หรือไม่ก็ใช้ในลักษณะไม้ทำเสาไม้กลมใช้สอยต่างๆ เรื่องแบบนี้ไม่ทำก็ไม่รู้ ว่ายูคาลิปตัสสายพันธุ์ไหนมีคุณสมบัติอย่างไร เรียนไม่จบจริงๆนะเธอ ผมเคยไปดูงานการปลูกยูคาลิปตัสที่ประเทศออสเตรเลียครึ่งเดือน กลับมาก็ยังโง่เหมือนเดิม ต้องศึกษาต่อไปอีก ขณะนี้ก็ยังทำการวิจัยร่วมกับกรมป่าไม้และบริษัทป่าไม้ในออสเตรเลีย
  • ·         หลังจากการลองผิดลองถูกมา30ปี   ก็พอรู้อะไรนิดหน่อย แต่ที่หมั่นคงในหัวใจมากก็คือ ต้นไม้ตอบแทนเราให้มีอยู่มีกินมีความสุข มีความยั่งยืนตลอดไป ใ ช้ แ ส ง แ ด ด   ใ ช้ น้ำ ฝ น   ใช้ จุ ลิ น ท รี ย์   ใ ช้ ส ร ร พ สิ่ ง ใ น ธ ร ร ม ช า ติ ม า ร่ ว ม ทุ น ปลูกแล้วก็ใช้เวลา บางคนบอกรอนาน อ้าว! ปลูกตันไม้แล้วจะไปรอหาพระแสงของ้าวอะไรละ ปลูกแล้วก็แล้วกันไปสิ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไม่ใช่จะต้องเอาเปลมานอนดูมันโตที่ไหนเล่า งานเสริมในสวนป่าไม้มีให้ทำจนลิ้นห้อย ไม่เชื่อก็มาดูได้ อาชีพปลูกสร้างสวนป่า ไม่ใช่จะมาปลูกป่าปลูกต้นไม้อย่างเดียวที่ไหนเล่า ปลูกผัก ปลูกสมุนไพร ปลูกไม้ผล ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ประแดก

เมื่อปลูกเป็นวรรคเป็นเวรอย่างนี้แล้ว

ยังสงสัยอีกรึว่า..ปลูกป่าจะกินอะไร?

ถ้าใครมาดูที่สวนป่าตอนนี้ก็จะเห็นมีพืชผลให้เก็บกินไม่ขาดปาก

ผักสวยๆหวานกรอบอร่อย ปราศจากสารพิษสารเคมี

อากาศก็ดี อารมณ์ก็ดี ตอนนี้กำลังจะสร้างบ้านดีๆน่าอยู่

..แ จ ก ค น ส ว ย ..เ ดี๋ ย ว ก็ โ ด น ต่ อ ว่ า จ า ก พ ว ก ถ่ อ ม ตั ว อีก

“ไ ม่ ส ว ย ค อ ม เ ม น ท์ ไ ด้ ไ ห ม ค่ ะ “

ทั้งๆที่อยากจะชมว่าเป็นคนสวยกันทั้งหมดนั่นแหละ

เฮ้อ ทำไม่ได้ ..ถ้างั้นทำแจก ค น ค อ ม เ ม น ท์ บ่ อ ย ๆ ดี ก ว่ า . .

พวกที่อ่านผ่านๆ..ไม่ยอมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

จะแจกอะไรดีหน๊า+++!!

หมายเหตุ :: เอกสารประกอบการสัมมนาคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน 22 มีนาคม2555


คุณครูบา จากหมอกิ๊ฟ สวนป่า รุ่น ๕๕

อ่าน: 1342

•·         คนเราถ้าคิดถึงหัวอกคนอื่นบ้าง ของตนเองบ้าง คละเคล้ากันไป ก็จะทำให้เราเป็นผู้มีจิตสาธารณะที่เกิดโดยเนื้อนาบุญแห่งตน  ถึงไม่ต้องไปฝึกฝนพร่ำบ่นภาวนา สิ่งนี้ก็มีอยู่มีมากับตัวเราทุกคน ผม้ชื่อว่าคนเราคิดดีปรารถนาดีเป็นอยู่แล้วโดยอัตโนมัติ แต่บางคราก็ถูกกระแสอื่นชวนไปเชือนแช

•·         ในสังคมบ้านเราทุกวันนี้เกิดทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ขี้เหม็น ที่กิเลศถูกกลากออกมากระตุ้นให้ทำโน่นนี้ได้สารพัด สิ่งที่มนุษย์ควรพิจารณาตนเองให้เลือกที่จะเข้าใจทั้งด้านบวกและด้านลบ ถ้าครบถ้วนทั้ง๒ส่วนแล้ว ก็จะรู้เท่ากันกับการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย

เรื่องคิดดีทำดีมีมุมมองดีๆ เ ลื อก ไ ด้ ค รั บ

ถึงไม่มีวางขายตามร้านเซเว่นเราก็ควานหาจากจิตสำนึกของเราได้

การเอื้ออาทร ภาษาโจ๋เรียกว่าการแคร์ความรู้สึกของคนอื่นบ้าง

จะทำให้เราตระหนักในบริบทสังคมของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

คนเราถ้าหมกมุ่นแต่เรื่องตัวเองจนไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา

ชีวิตก็จะปีนเกลียวกับความต้องการของตนเองถ่ายเดียวมิรู้จบสิ้น

การทำดีไม่ต้องทุ่มเททำโครงการใหญ่โตอะไรหรอก

แ ค่ ค อ ม เ ม น ท์ อ อ ก จ า ก ใ จ   ก็สุดจะหรูแล้วนะเธอ

 

วันนี้ได้รับข้อความที่ทำให้อิ่มเอิบใจเหลือประมาณ ลองอ่านเรื่องราวดีๆของนิสิตแพทย์จุฬาฯ Kift Chutimont เธอส่งข้อความมาถึงดังนี้

•·         สวัสดีคะพ่อครูบา หนูชื่อกิ๊ฟ สวนป่า ๕๕ นะคะ

หนูเขียนมาหาครูบาเกี่ยวกับความรู้สึกที่เกี่ยวกับสวนป่า

ก่อนมาสวนป่ารู้สึกเฉยๆ คิดว่าก็คงมาแค่เข้าค่ายธรรมดาๆ

เดินไปตามฐาน มีกิจกรรมให้ทำ

ระหว่างนั่งรถไปหลับตลอดทาง หลับตั้งหลายตื่นก็ยังไม่ถึงซะที

โอยยยย  ทำ ไ ม มั น ช่ า ง ไ ก ล อ ย่ า ง นี้ “

แต่ก็แอบคิดอยู่ในใจว่า เอาน่ามันต้องมีอะไรดี ไม่งั้นเขาคงไม่พาเรามาถึงที่นี่หรอก..

•·         เมื่อมาถึงลงจากรถ…มืด

โชคดีที่ไฟหน้ารถจากรถบัสที่นั่งมาส่องอยู่

…ดินสีแดง !!!! อะไรกันเนี่ย! หลุม ….

แม้ แ ต่ ถ น น ลู ก รั ง ก็ ยั ง เ ข้ า ไ ม่ ถึ ง ที่ นี่ ห รื อ ? หนูคิดในใจ

มาถึงที่พัก ขึ้นไปชั้น๒ ปูที่นอน

สิ่ ง ที่ พ บ คื อ แ ม ล ง  มากม่ายยยยยย

ปัดก็แล้ว เป่าพัดลมก็แล้ว แผ่เมตตาก็แล้ว ….ยังไม่ไป

เ ห นื่ อ ย ก็ เ ห นื่ อ ย  เอาวะแมลงก็แมลง

วันนี้ เ ร า จ ะ น อ น ด้ ว ย กั น เ นี่ ย แ ห ล ะ ทุ ก ตั ว เ ล ย

หลับสนิทเลยคืนนั้น

•·         เสียงไก่ขันเช้าวันใหม่แล้วคะ

ไก่ที่นี่ขันดังมาก

ร า ว กั บ มั น ม า ยื น ขั น อ ยู่ บ น หั ว ห นู เ ล ย  XD

เริ่มอยู่ไปเรื่อยๆ วันที่ ๑ ๒ ๓

วั น สุ ด ท้ า ย แ ล้ ว เ ห ร อ?  มันไวมากเลยคะ

สามวันสามคืนที่ได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติจริงๆ

อยู่แบบพอเพียง และปรับตัวกับสิ่งที่มีอยู่

แม้ ว่ า ไ ฟ ดั บ ห รื อ น้ำ ไ ม่ ไ ห ล

หนูรู้สึกภูมิใจที่หนูผ่านวันนั้นมาได้

ไม่อยากกลับเลย

•·         หลังจากที่หนูได้ไปเข้าค่าย กลับมาใช้ชีวิตประจำวันในเมือง ยังคิดถึงเจ้าพวกไก่ที่ปีนต้นไม้ได้ ด้วงงวงช้าง ผักขมต้นใหญ่ ผลฟักและน้ำเต้ายักษ์ คิดถึงจังเลย…ไม่น่าเชื่อการตื่นเช้าจะทำให้เราสามารถเห็นสิ่งที่ต่างออกไป …ปกติแล้วหนูมักจะนอนจนตะวันส่องตรงหัวพอดีเลยคะ แล้วก็รู้สึกว่าแดดข้างนอกร้อนมาก ไม่อยากจะย่างกรายออกนอกบ้านเลยคะ แต่ตื่นเช้าทำให้หนูเห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังพ้นขึ้นขอบฟ้า นกบินออกหากิน ผู้คนตื่นออกไปจ่ายตลาด บอกให้รู้ว่าเราอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว ทุกคนมีหน้าที่มีงานต้องทำ เราจะมามัวแต่นอนหรืออยู่ในห้องอุดอู้อยู่อย่างนี้ไม่ได้  แม้แต่สัตว์ยังรู้หน้าที่ของมันเลย แล้วเราหล่ะ?

•·         การอยู่อย่างชาญฉลาด คู่ไปกับความพอเพียงท่ามกลางธรรมชาติ รู้จะรับและให้ และใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบตัว คุณครูบา และพี่วิทยากร ทำให้หนูได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จากห้องเรียนสีเขียวที่มีชีวิตนั้น

                                    ขอบคุณมากๆเลยคะ ^^ กิ๊ฟ สวนป่า ๕๕

 

เรื่องราวที่สละสลวยช่วยชูใจที่ได้อ่านนี้

ห วั ง ว่ า พี่ วิ ท ย า ก ร ทุ ก ท่ า น ค ง ห า ย เ ห นื่ อ ย นะ ค รั บ

และขออนุญาตเอาไปลงพิมพ์ในหนังสือ โมเดล บุรีรัมย์ นะหมอกิ๊ฟ ๕๕

 



Main: 0.27512407302856 sec
Sidebar: 0.095230102539062 sec