อีสานรักบ้านเกิด
่(ลูกไก่ต๊อกชุดแรกฝีมือแม่เป็ดเทศฟัก ไปเจอไข่ร้อยกว่าฟอง ถูกฝนสงสัยจะเน่าบ้าง)
หลักสูตรอีสานรักบ้านเกิด งานเข้าอีกแล้วพี่น้อง ตอนแรกนึกว่าจะวางมือวางใจ ผ่อนงานผ่อนใจพักผ่อนมากๆ ปลูกต้นหมากรากไม้หน้าฝน อ่านหนังสือบ้าง ดูฟุตบอลบ้าง ก็น่าจะครึ้มอกครึ้มใจแล้ว ลืมนึกไปว่ามีผู้มาขอคิวไว้ และตอนนี้ก็มาถึงแล้ว ปกติคณะฯต่างๆจะมาช่วงแล้งกัน ซึ่งก็เจอร้อนและแล้งสมชื่อ ช่วงต้นฝนไปหาหนาวไม่ค่อยจะว่างกัน ปีนี้รศ.สุดารัตน์ ชุณคล้าย ทำโครงงานพัฒนาองค์กรชุมชนที่จังหวัดมหาสารคาม หารือเรื่องจัดอบรมหลักสูตรพัฒนาผู้นำ(นายกอบต.-กำนันผู้ใหญ่บ้าน-ผู้นำชุมชน) รุ่นละ52คน เวลา3วัน2คืน จำนวน3รุ่น เนื่องจากจำนวนผู้เข้ารับการอบรมมากไปหน่อย บางส่วนนอนเตียง บางส่วนนอนเต็นท์ จัดให้อยู่ในบรรยากาศเรียนกลางดินกินกลางดอน อีกคณะหนึ่งมาจากT&T ส่งบุคลากรในองค์กรมา 6 รุ่นๆละ30 ชีวิต จำนวนกำลังพอดี
(ความงามในยามฝนพรำ)
กิจกรรมอย่างนี้ ถ้าเป็นสมัยหนุ่มน้อยไม่กลัวหรอกสู้ไหว แต่ตอนนี้เป็นหนุ่มเหลือน้อยต้องอาศัยสื่อ-กิจกรรม-ตัวช่วย ตั้งใจจะเป็นปีสุดท้ายแล้ว ปีหน้าก็จะขออยู่แบบฤๅษีจริงๆ ค่อยๆปล่อยและวางสิ่งละอันพันละน้อย ลดภาวะยุ่งเหยิงทางด้านโลกและโลภ เก็บผักผลไม้นุ่งผ้าเตี่ยว..เลิกการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นภาระ ยกเว้น นกยูง-ไก่ป่า-ไก่ต๊อก-ไก่แจ้-เลี้ยงปล่อยไว้เป็นเพื่อน เลิกงานเสนอหน้า ลดภาระหัวโขน คิดว่าไม่น่าจะเจอกับชูชก..จะอยู่อย่างทำและธรรม เพื่อค้นหาความจริงว่า..ชีวิตคนเราต้องการปัจจัยที่จำเป็นแค่ไหน? ถึงจะพอจุนเจือชีวิตที่พอเพียงแบบลงตัวลงใจไม่เบียดเบียนโลก
(ล้อมแปลงหญ้าร้อยกว่าไร่ หมดลำไม้ไผ่ไป7-8กอ เพื่อให้วัวเดินชิมหญ้า)
ฝากอีกาส่งข่าว..ลอยมาตามลม เผื่อสายญาติแซ่แฮ ที่ร้อนวิชาและมีช่วงว่างอยากจะมาถ่ายทอดวิชาความรู้ความคิด อาจจะซิ่งแว๊บมาเที่ยวสวนป่าในช่วงที่มีตารางการอบรม ไม่ทราบว่าตรงกับวันหยุดหรือเปล่า มีให้เลือกทั้งแบบลูกทุ่ง(นายกอบต.กำนันฯจาก12ตำบลๆละ3คน) และแบบลูกกรุง(คณะฯT&T) ตารางจัดแบบสบายๆ รายการอย่างนี้เหมาะอย่างยิ่งกับวิทยากรแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน หรือสุกรวิ่งชนปังตอ? ภาควิชาที่เกี่ยวกับการพัฒนาสังคม เรื่องภาวะผู้นำ อาจารย์อาจจะลองส่งลูกศิษย์ ป.โท ป.เอก มาขึ้นเขียง เอ๊ย! เวทีของจริงก็ได้ หรือจะมาสังเกตการณ์ก็ดี
ค่ายอบรมผู้นำทางสังคม จังหวัดมหาสารคาม รุ่นละ52 ชีวิต
รุ่นที่หนึ่ง 23-25 มิถุนายน 2553
รุ่นที่สอง 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2553
รุ่นที่สาม 7-9 กรกฎาคม 2553
ค่ายคณะT&T รุ่นละ 30 ชีวิต
รุ่นที่หนึ่ง 28-30 กรกฎาคม 2553
รุ่นที่สอง 4-7 สิงหาคม 2553
รุ่นที่สาม 9-11 สิงหาาคม 2553
รุ่นที่สี่ 25-27 สิงหาาคม 2553
รุ่นที่ห้า 1-3 กันยายน 2553
(เห็ดหูหนูเกิดเองในธรรมชาติบนตอตาล)
ช่วงเช้า เน้นเรื่องความรู้ในตัวคน ถ่ายทอดเรื่องรากวัฒนธรรมในชุมชนที่อาจารย์หมอประเวศฝากไว้(ดูในคำนิยมเจ้าเป็นไผ) เจ้าสำนักจะโม้เรื่องการสร้างเครือข่ายไอที. แบ่งกลุ่มให้ปรึกษากันแล้วส่งตัวแทนมาคุยเรื่องตนเองทำหน้าที่-และเผชิญปัญหาอะไรอยู่ เรื่องเล่าเร้าพลัง บอกหน่อยสิว่า ตั้งแต่ได้รับการกระจายอำนาจมาบริหารท้องถิ่นของตนเอง เผชิญอะไรบ้าง คันในหัวใจบ้างไหม ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ทำอย่างไรสังคมในชุมชนถึงจะไม่แตกแยก ตีความเรื่องสมานฉันท์ไว้อย่างไร?
(เห็ดเมา เอามาบดเป็นยาไล่แมลง)
ช่วงบ่าย จัดกิจกรรมกระบวนการกลุ่ม เน้นเรื่องความรู้ในธรรมชาติ การเสริมสร้างสภาพแวดล้อม โลกร้อน-น้ำน้อย-ความร้อนแล้งมาเยือน จะตั้งหลักเรื่องนี้อย่างไร ถึงจะโยงไปถึงจิตสาธารณะ-รักและหวงแหนต้นไม้ในหมู่บ้าน ทำอย่างไรถึงจะเชื่อมไปถึงการงานอาชีพ ทำอย่างไรหัวใจจึงจะมีสีเขียว ให้รู้ถึงมิติและพลังของธรรมชาติที่ยั่งยืน ชวนลงมือ..-ปลูกต้นไม้-เอาใบไม้มาเลี้ยงสัตว์ สับกิ่งไม้ทำปุ๋ย ตอน/ทาบกิ่งไม้-ใส่ปุ๋ยดูแลต้นไม้-เก็บไม้ผักยืนต้นมาทำอาหาร-เก็บหน่อไม้เก็บเห็ดมาแกงฯลฯ วันกลับจะแจกเมล็ดพันธุ์ให้ไปปลูกด้วย
(ซื้อเขียดจินามาปล่อยไว้ให้บรรเลงเพลงแข่งสายฝน)
ช่วงกลางคืน เนื้อหาทางด้านศาสนา-ศีลปะวัฒนธรรม ได้กราบนิมนต์หลวงพี่ติ๊กไว้แล้ว ถ้ารุ่นไหนเจอจังหวะว่างท่านจีวรปลิวแน่ พระอาจารย์รอกอดอาจจะมาชวนปั้นพระดินเหนียว มีสันนาการแบบพื้นบ้าน ให้ทำการบ้านจากการอ่านเจ้าเป็นไผ/เรื่องที่อยากป่วน..ฝ่ายประสานงานอยากจะได้วันอบรมเป็น4คืน5วัน แต่ผมเองละครับ เห็นท่าจะลากสังขารไม่ไหว เพราะตัวช่วยจำกัด การบริหารจัดการก็ยังต๊อกแต๊ก จึงจัดแบบพอไหวพอไปพอมา ท่านใดมีCD.เรื่องถ่างพื้นที่สมองอยากจะขยายผลงานก็ส่งมาได้นะครับบบ..
อบรมช่วงนี้อากาศไม่ร้อนอาการก็น่าจะสบายๆ
ถ้าเจอฝนได้แถม..นอนฟังเสียงกบเขียดเพลินไปเลย
ตื่นเช้าๆยังจะได้เดินเก็บเห็ด จิบน้ำชากลางแดดอุ่น อีกแน๊ะ
ผักหญ้าอาหารก็สมบูรณ์
กิจกรรมเชิงกระบวนการก็พร้อม
ชวนชิมเมนูจากผักและสมุนไพรพื้นเมือง
ชวนซื้อ-อ่าน-หนังสือเจ้าเป็นไผ-และหนังสือจอมป่วนกวนใจ
อีกงานหนึ่งเพิ่งวางหูไปแหม๊บๆ วันที่ 6กรกฎาคม 2553 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาการวิจัยแบบมีส่วนร่วมภาคสังคม ผมวานเจ้าหน้าที่ประสานไปยังท่านบางทรายแล้วนะครับ กรุณาเคลียตัวและหัวใจไว้ให้งานนี้ด้วย นอกจากนี้เรายังเรียนเชิญคุณอดิศร-คุณอัมรา พวงชมพู จอมยุทธจากบริษัทแตงโมมาร่วมด้วยช่วยกัน คุณนิกร วีสเพ็ญ อยากเจอท่านบางทรายมาก ยังไงๆมาช่วยเขย่างานนี้นะครับ
——————————————————————————————————————
วิทยากร (อยู่ในระหว่างประกาศหาอาสาสมัครและแบบใช้คลุมถุงชน)
-คุณวิฑูรย์ เหลืองวิริยะแสง และคณะ สำนักวิจัยและพัฒนาป่าไม้ กรมป่าไม้
-ดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
-พระมหานภันต์ สนติภทโท (หลวงพี่ติ๊ก) วัดสระเกศ กรุงเทพ
-ดร.เครือทิพย์ ธีรานุรักษ์ (มาในหัวข้อมารักประเทศไทยกันเถอะ)
-คุณอัมรา พวงชมพู บ.สยามแฮนด์ (การยกระดับอาชีพ-การค้าขายชุมชน)
-อ.พิชญ์สินี อัครโกศลเดชา (การบริหารเด็กดื้อให้อยู่ในความสงบ)
>>เชิญสมัครมาได้ตามอัธยาศัย ท่านที่เป็นเจ้าของลายเซ็นในหนังสือเจ้าเป็นไผ มาแจกลายเซ็นด้วยตนเองก็ดีนะครับ ญาติสกุลแห้วทั้งหลายก็อาจจะเลือกมาในเดือนที่ว่าง สามารถจัดหัวข้อที่ตนเองถนัด ในกลุ่มการพัฒนาองค์กรชุมชน เช่น การสลายม็อบในใจ การกระแซะวิธีคิด การแจกแจงสภาวะผู้นำ วิทยากรกระบวนการ-พัฒนางานกระบวนธรรม พัฒนาจิต เพื่อชีวิตดีงาม คนพูดได้คิด-คนฟังคิดได้ ฯลฯ
งานนี้ทุกอย่างดูดี
ยกเว้น>> นอกจากไม่มีค่าวิทยากรแล้ว
การเดินทางต้องควักเองอีกต่างหาก
เป็นงานจิตอาสาขนานแท้เลยละครับ
มหาชีวาลัยอีสานขอเลี้ยงข้าวกับกอดเป็นการตอบแทน
ท่านที่สนใจ>>เคลียคิวได้ตามอัธยาศัย
งานนี้แจกบัตรคิวไม่อั้น..
อิ อิ..
« « Prev : แก้กรรม
6 ความคิดเห็น
ดูช่วงเวลาแล้ว แม่บ้านแม่ครัวมือไม่แห้งเลยนะคะ
อุ้ยจะมาเดือนไหนละครับ รออยู่เน๊อ แคว๊กๆๆ
ตารางเพียบเลยค่ะ…
ปีหน้าจะวางมือได้หรือคะพ่อครูบา
น่าจะเกษียณตอนอายุ 70 ปีก่อน สุขภาพและบรรยากาศที่สวนป่า สบาย ๆ อยู่แล้ว
กทม.ร้อนอ้าวตอนกลางวัน เย็น ๆ ค่ำ ๆ ฝนก็เหยาะ ๆ มาหน่อยหนึ่ง ….55555…
โลกร้อนจริง ๆ ค่ะ
อยู่ไม่ถึง70ปี หร๊อกอาจารย์เอ๊ย ..
อีกไม่นานก็กลับบ้านเก่าไปเผาถ่านแล้ว
ต้องวางแผนใส่เกียร์ถอย ถอยๆ อิอิ
หนูว่าพ่อครูบาอยู่เกิน 70 ปีไปไกล……..อาจถึง 120 ปี
คุณหมอเฉก ธนะสิริ ท่านบอกไว้ว่าหากเราระวังดูแลอย่างถูกวิธี คนเราอยู่ได้ 120 ปี สบาย ๆ
พ่อครูบาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ต้นไม้ผลิตออกซิเจนให้เยอะแยะ ได้บำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณด้วยการทำประโยชน์มากมายให้คนรุ่นหลังและสังคม แม้พื้นฐานสุขภาพตั้งแต่เด็กอาจไม่ดีนัก แต่ปัจจุบันก็นับว่าดีมากหากเทียบกับคนอายุรุ่นเดียวก้น…
ยกธงขึ้น…(ฟันฉับ) ว่าต้องอายุยืนกว่า 70 ปีแน่นอนค่ะ
แต่…ถึงอย่างไรคนเราไม่ควรประมาท รักษาสุขภาพไว้ดีที่สุดค่ะ
;)
เคยประชุมร่วมกับอาจารย์สาทิส เจ้าตำหรับอุยืนยืน120ปี
ท่านกระฉับกระเฉงจริงๆ
ผมแอบถามลูกเขยท่าน ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน
เล่าว่า ..ท่านมีวินัยมากๆ
ส่วนผมเหลาเหย่เต็มที อยู่นานไปก็เปลืองทรัพยกรโลก เปลืองอ๊อกซิเจนเปล่าๆ
อยู่แค่พอควร ก็น่าจะไปเขียนบล็อกอีกโลกหนึ่ง อิ อิ