อีสานรักบ้านเกิด

อ่าน: 6186

่(ลูกไก่ต๊อกชุดแรกฝีมือแม่เป็ดเทศฟัก ไปเจอไข่ร้อยกว่าฟอง ถูกฝนสงสัยจะเน่าบ้าง)

หลักสูตรอีสานรักบ้านเกิด งานเข้าอีกแล้วพี่น้อง ตอนแรกนึกว่าจะวางมือวางใจ ผ่อนงานผ่อนใจพักผ่อนมากๆ ปลูกต้นหมากรากไม้หน้าฝน อ่านหนังสือบ้าง ดูฟุตบอลบ้าง ก็น่าจะครึ้มอกครึ้มใจแล้ว ลืมนึกไปว่ามีผู้มาขอคิวไว้ และตอนนี้ก็มาถึงแล้ว ปกติคณะฯต่างๆจะมาช่วงแล้งกัน ซึ่งก็เจอร้อนและแล้งสมชื่อ ช่วงต้นฝนไปหาหนาวไม่ค่อยจะว่างกัน ปีนี้รศ.สุดารัตน์ ชุณคล้าย ทำโครงงานพัฒนาองค์กรชุมชนที่จังหวัดมหาสารคาม หารือเรื่องจัดอบรมหลักสูตรพัฒนาผู้นำ(นายกอบต.-กำนันผู้ใหญ่บ้าน-ผู้นำชุมชน) รุ่นละ52คน เวลา3วัน2คืน จำนวน3รุ่น เนื่องจากจำนวนผู้เข้ารับการอบรมมากไปหน่อย บางส่วนนอนเตียง บางส่วนนอนเต็นท์ จัดให้อยู่ในบรรยากาศเรียนกลางดินกินกลางดอน อีกคณะหนึ่งมาจากT&T ส่งบุคลากรในองค์กรมา 6 รุ่นๆละ30 ชีวิต จำนวนกำลังพอดี

(ความงามในยามฝนพรำ)

กิจกรรมอย่างนี้ ถ้าเป็นสมัยหนุ่มน้อยไม่กลัวหรอกสู้ไหว แต่ตอนนี้เป็นหนุ่มเหลือน้อยต้องอาศัยสื่อ-กิจกรรม-ตัวช่วย ตั้งใจจะเป็นปีสุดท้ายแล้ว ปีหน้าก็จะขออยู่แบบฤๅษีจริงๆ ค่อยๆปล่อยและวางสิ่งละอันพันละน้อย ลดภาวะยุ่งเหยิงทางด้านโลกและโลภ เก็บผักผลไม้นุ่งผ้าเตี่ยว..เลิกการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นภาระ ยกเว้น นกยูง-ไก่ป่า-ไก่ต๊อก-ไก่แจ้-เลี้ยงปล่อยไว้เป็นเพื่อน เลิกงานเสนอหน้า ลดภาระหัวโขน คิดว่าไม่น่าจะเจอกับชูชก..จะอยู่อย่างทำและธรรม เพื่อค้นหาความจริงว่า..ชีวิตคนเราต้องการปัจจัยที่จำเป็นแค่ไหน? ถึงจะพอจุนเจือชีวิตที่พอเพียงแบบลงตัวลงใจไม่เบียดเบียนโลก

(ล้อมแปลงหญ้าร้อยกว่าไร่ หมดลำไม้ไผ่ไป7-8กอ เพื่อให้วัวเดินชิมหญ้า)

ฝากอีกาส่งข่าว..ลอยมาตามลม เผื่อสายญาติแซ่แฮ ที่ร้อนวิชาและมีช่วงว่างอยากจะมาถ่ายทอดวิชาความรู้ความคิด อาจจะซิ่งแว๊บมาเที่ยวสวนป่าในช่วงที่มีตารางการอบรม ไม่ทราบว่าตรงกับวันหยุดหรือเปล่า มีให้เลือกทั้งแบบลูกทุ่ง(นายกอบต.กำนันฯจาก12ตำบลๆละ3คน) และแบบลูกกรุง(คณะฯT&T) ตารางจัดแบบสบายๆ รายการอย่างนี้เหมาะอย่างยิ่งกับวิทยากรแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน หรือสุกรวิ่งชนปังตอ? ภาควิชาที่เกี่ยวกับการพัฒนาสังคม เรื่องภาวะผู้นำ อาจารย์อาจจะลองส่งลูกศิษย์ ป.โท ป.เอก มาขึ้นเขียง เอ๊ย! เวทีของจริงก็ได้ หรือจะมาสังเกตการณ์ก็ดี

ค่ายอบรมผู้นำทางสังคม จังหวัดมหาสารคาม รุ่นละ52 ชีวิต

รุ่นที่หนึ่ง 23-25 มิถุนายน 2553

รุ่นที่สอง 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2553

รุ่นที่สาม 7-9 กรกฎาคม 2553

ค่ายคณะT&T รุ่นละ 30 ชีวิต

รุ่นที่หนึ่ง 28-30 กรกฎาคม 2553

รุ่นที่สอง 4-7 สิงหาคม 2553

รุ่นที่สาม 9-11 สิงหาาคม 2553

รุ่นที่สี่ 25-27 สิงหาาคม 2553

รุ่นที่ห้า 1-3 กันยายน 2553

(เห็ดหูหนูเกิดเองในธรรมชาติบนตอตาล)

ช่วงเช้า เน้นเรื่องความรู้ในตัวคน ถ่ายทอดเรื่องรากวัฒนธรรมในชุมชนที่อาจารย์หมอประเวศฝากไว้(ดูในคำนิยมเจ้าเป็นไผ) เจ้าสำนักจะโม้เรื่องการสร้างเครือข่ายไอที. แบ่งกลุ่มให้ปรึกษากันแล้วส่งตัวแทนมาคุยเรื่องตนเองทำหน้าที่-และเผชิญปัญหาอะไรอยู่ เรื่องเล่าเร้าพลัง บอกหน่อยสิว่า ตั้งแต่ได้รับการกระจายอำนาจมาบริหารท้องถิ่นของตนเอง เผชิญอะไรบ้าง คันในหัวใจบ้างไหม ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ทำอย่างไรสังคมในชุมชนถึงจะไม่แตกแยก ตีความเรื่องสมานฉันท์ไว้อย่างไร?

(เห็ดเมา เอามาบดเป็นยาไล่แมลง)

ช่วงบ่าย จัดกิจกรรมกระบวนการกลุ่ม เน้นเรื่องความรู้ในธรรมชาติ การเสริมสร้างสภาพแวดล้อม โลกร้อน-น้ำน้อย-ความร้อนแล้งมาเยือน จะตั้งหลักเรื่องนี้อย่างไร ถึงจะโยงไปถึงจิตสาธารณะ-รักและหวงแหนต้นไม้ในหมู่บ้าน ทำอย่างไรถึงจะเชื่อมไปถึงการงานอาชีพ ทำอย่างไรหัวใจจึงจะมีสีเขียว ให้รู้ถึงมิติและพลังของธรรมชาติที่ยั่งยืน ชวนลงมือ..-ปลูกต้นไม้-เอาใบไม้มาเลี้ยงสัตว์ สับกิ่งไม้ทำปุ๋ย ตอน/ทาบกิ่งไม้-ใส่ปุ๋ยดูแลต้นไม้-เก็บไม้ผักยืนต้นมาทำอาหาร-เก็บหน่อไม้เก็บเห็ดมาแกงฯลฯ วันกลับจะแจกเมล็ดพันธุ์ให้ไปปลูกด้วย

(ซื้อเขียดจินามาปล่อยไว้ให้บรรเลงเพลงแข่งสายฝน)

ช่วงกลางคืน เนื้อหาทางด้านศาสนา-ศีลปะวัฒนธรรม ได้กราบนิมนต์หลวงพี่ติ๊กไว้แล้ว ถ้ารุ่นไหนเจอจังหวะว่างท่านจีวรปลิวแน่ พระอาจารย์รอกอดอาจจะมาชวนปั้นพระดินเหนียว มีสันนาการแบบพื้นบ้าน ให้ทำการบ้านจากการอ่านเจ้าเป็นไผ/เรื่องที่อยากป่วน..ฝ่ายประสานงานอยากจะได้วันอบรมเป็น4คืน5วัน แต่ผมเองละครับ เห็นท่าจะลากสังขารไม่ไหว เพราะตัวช่วยจำกัด การบริหารจัดการก็ยังต๊อกแต๊ก จึงจัดแบบพอไหวพอไปพอมา ท่านใดมีCD.เรื่องถ่างพื้นที่สมองอยากจะขยายผลงานก็ส่งมาได้นะครับบบ..

อบรมช่วงนี้อากาศไม่ร้อนอาการก็น่าจะสบายๆ

ถ้าเจอฝนได้แถม..นอนฟังเสียงกบเขียดเพลินไปเลย

ตื่นเช้าๆยังจะได้เดินเก็บเห็ด จิบน้ำชากลางแดดอุ่น อีกแน๊ะ

ผักหญ้าอาหารก็สมบูรณ์

กิจกรรมเชิงกระบวนการก็พร้อม

ชวนชิมเมนูจากผักและสมุนไพรพื้นเมือง

ชวนซื้อ-อ่าน-หนังสือเจ้าเป็นไผ-และหนังสือจอมป่วนกวนใจ

อีกงานหนึ่งเพิ่งวางหูไปแหม๊บๆ วันที่ 6กรกฎาคม 2553 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาการวิจัยแบบมีส่วนร่วมภาคสังคม ผมวานเจ้าหน้าที่ประสานไปยังท่านบางทรายแล้วนะครับ กรุณาเคลียตัวและหัวใจไว้ให้งานนี้ด้วย นอกจากนี้เรายังเรียนเชิญคุณอดิศร-คุณอัมรา พวงชมพู จอมยุทธจากบริษัทแตงโมมาร่วมด้วยช่วยกัน คุณนิกร วีสเพ็ญ อยากเจอท่านบางทรายมาก ยังไงๆมาช่วยเขย่างานนี้นะครับ

——————————————————————————————————————

วิทยากร (อยู่ในระหว่างประกาศหาอาสาสมัครและแบบใช้คลุมถุงชน)

-คุณวิฑูรย์ เหลืองวิริยะแสง และคณะ สำนักวิจัยและพัฒนาป่าไม้ กรมป่าไม้

-ดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

-พระมหานภันต์ สนติภทโท (หลวงพี่ติ๊ก) วัดสระเกศ กรุงเทพ

-ดร.เครือทิพย์ ธีรานุรักษ์ (มาในหัวข้อมารักประเทศไทยกันเถอะ)

-คุณอัมรา พวงชมพู บ.สยามแฮนด์ (การยกระดับอาชีพ-การค้าขายชุมชน)

-อ.พิชญ์สินี อัครโกศลเดชา (การบริหารเด็กดื้อให้อยู่ในความสงบ)

>>เชิญสมัครมาได้ตามอัธยาศัย ท่านที่เป็นเจ้าของลายเซ็นในหนังสือเจ้าเป็นไผ มาแจกลายเซ็นด้วยตนเองก็ดีนะครับ ญาติสกุลแห้วทั้งหลายก็อาจจะเลือกมาในเดือนที่ว่าง สามารถจัดหัวข้อที่ตนเองถนัด ในกลุ่มการพัฒนาองค์กรชุมชน เช่น การสลายม็อบในใจ การกระแซะวิธีคิด การแจกแจงสภาวะผู้นำ วิทยากรกระบวนการ-พัฒนางานกระบวนธรรม พัฒนาจิต เพื่อชีวิตดีงาม คนพูดได้คิด-คนฟังคิดได้ ฯลฯ

งานนี้ทุกอย่างดูดี

ยกเว้น>> นอกจากไม่มีค่าวิทยากรแล้ว

การเดินทางต้องควักเองอีกต่างหาก

เป็นงานจิตอาสาขนานแท้เลยละครับ

มหาชีวาลัยอีสานขอเลี้ยงข้าวกับกอดเป็นการตอบแทน

ท่านที่สนใจ>>เคลียคิวได้ตามอัธยาศัย

งานนี้แจกบัตรคิวไม่อั้น..

อิ อิ..

« « Prev : แก้กรรม

Next : วิชาชาวบ้าน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 มิถุนายน 2010 เวลา 17:02

    ดูช่วงเวลาแล้ว แม่บ้านแม่ครัวมือไม่แห้งเลยนะคะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 มิถุนายน 2010 เวลา 18:43

    อุ้ยจะมาเดือนไหนละครับ รออยู่เน๊อ แคว๊กๆๆ

  • #3 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 มิถุนายน 2010 เวลา 21:00

    ตารางเพียบเลยค่ะ…

    ปีหน้าจะวางมือได้หรือคะพ่อครูบา 
    น่าจะเกษียณตอนอายุ 70 ปีก่อน สุขภาพและบรรยากาศที่สวนป่า สบาย ๆ อยู่แล้ว
    กทม.ร้อนอ้าวตอนกลางวัน เย็น ๆ ค่ำ ๆ ฝนก็เหยาะ ๆ มาหน่อยหนึ่ง ….55555…
    โลกร้อนจริง ๆ ค่ะ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 มิถุนายน 2010 เวลา 8:30

    อยู่ไม่ถึง70ปี หร๊อกอาจารย์เอ๊ย ..
    อีกไม่นานก็กลับบ้านเก่าไปเผาถ่านแล้ว
    ต้องวางแผนใส่เกียร์ถอย ถอยๆ อิอิ

  • #5 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 มิถุนายน 2010 เวลา 10:31

    หนูว่าพ่อครูบาอยู่เกิน 70 ปีไปไกล……..อาจถึง 120 ปี
    คุณหมอเฉก ธนะสิริ ท่านบอกไว้ว่าหากเราระวังดูแลอย่างถูกวิธี คนเราอยู่ได้ 120 ปี สบาย ๆ
    พ่อครูบาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ต้นไม้ผลิตออกซิเจนให้เยอะแยะ ได้บำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณด้วยการทำประโยชน์มากมายให้คนรุ่นหลังและสังคม แม้พื้นฐานสุขภาพตั้งแต่เด็กอาจไม่ดีนัก แต่ปัจจุบันก็นับว่าดีมากหากเทียบกับคนอายุรุ่นเดียวก้น…

    ยกธงขึ้น…(ฟันฉับ) ว่าต้องอายุยืนกว่า 70 ปีแน่นอนค่ะ

    แต่…ถึงอย่างไรคนเราไม่ควรประมาท รักษาสุขภาพไว้ดีที่สุดค่ะ

    ;)

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 มิถุนายน 2010 เวลา 16:09

    เคยประชุมร่วมกับอาจารย์สาทิส เจ้าตำหรับอุยืนยืน120ปี
    ท่านกระฉับกระเฉงจริงๆ
    ผมแอบถามลูกเขยท่าน ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน
    เล่าว่า ..ท่านมีวินัยมากๆ
    ส่วนผมเหลาเหย่เต็มที อยู่นานไปก็เปลืองทรัพยกรโลก เปลืองอ๊อกซิเจนเปล่าๆ
    อยู่แค่พอควร ก็น่าจะไปเขียนบล็อกอีกโลกหนึ่ง อิ อิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.60196900367737 sec
Sidebar: 1.5019290447235 sec