ไผเป็นไผภาคพิสดารตอนสุดท้าย
อ่าน: 1347ไม่ทราบว่าเบื่อกันแล้วหรือยัง กับเจ้าเป็นไผภาคพิสดาร ที่ลงติดต่อกันมาหลายวัน ผมคิดว่าจะขมวดในตอนนี้แล้วนะครับ ตัวละครสมมุตินามตามท้องเรื่อง ว่าเกิดขึ้นในหมู่บ้านเฮ ภายใต้กรอบแนวคิดว่า ถ้าเราจะดำเนินวิถีชีวิตให้ใกล้เคียงกับอดีต เราจะต้องทำการบ้านอะไรบ้าง จะตัดสิ่งรุงรังที่เกินความจำเป็น หรือลดพันธกรณีส่วนที่ทำให้ต้องดิ้นรนได้แค่ไหนอย่างไร
ในช่วงนี้ ผมกับคนหัวโตจะออกสำรวจพื้นที่ ๆ น่าสนใจในทุกภูมิภาค ช่วงปลายเดือนนี้จะเดินทางไปจังหวัดเลย ถ้ามีเรื่องดี ๆ สนุก ๆ ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องอย่างนี้ยากที่จะคาดหวัง แค่ไหนก็แค่นั้น..ยึดเอาความสะดวกใจและพอใจเป็นที่ตั้ง
พูดถึงงานสำรวจบังเอิญมาเกี่ยวข้องกับคนหัวโตเข้าแล้วสิ ในอดีตชาติรับหน้าที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน เรียกว่าบุกเบิกเดินหน้าตลอด สำรวจตรวจตราหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อมาประเมินสถานการณ์ ซึ่งมาตรงกับสมัยนี้ที่ท่านรอกอด ทำหน้าที่ด้านสารสนเทศเชิงนโยบายและเชิงกลยุทธ์ ปัจจุบันค้นพบวิธีออกกำลังกายที่โดนใจมาก ว่างเมื่อไหร่แบกเครื่องตัดหญ้า แปร๋น ๆ เมื่อนั้น ครั้งแรก ๆ เหงื่อซึม ต่อ ๆ มาเหงื่อโชก คงจะแข็งแรงแข็งขันดีวันดีคืน มีความสุขอยู่กับการวางแผนอย่างประณีตให้กับหมู่บ้านเฮ
ในอดีตท่านรอกอดมีลูกน้องชื่อเจ้าหนูจิ เจ้าคนนี้เป็นหมอยาสมุนไพร จึงติดตามหัวหมู่ออกไปสำรวจป่าเขาลำเนาไพร เพื่อเก็บตัวยามารวมไว้ใช้ยามจำเป็น เห็นเจ้าหนูจิกระโดดโลดเต้นวันนี้ แสดงว่ามีเชื้อมาแต่ปางก่อน
อีกคนหนึ่งที่ตีความยาก น้าแป๊ดของเรานี่แหละ ในอดีตบอกว่าเป็นนักแสดงจำอวด คงรับผิดชอบงานการบันเทิงต่าง ๆ แต่ก็เข้าเค้านะ บทความที่แป๊ดเขียนเกี่ยวกับลูก ๆ ฮากลิ้งทีเดียวแหละ แต่ทำไมทุกวันนี้ไม่เขียนให้พวกเราฮาก็ไม่รู้นะ ใครอยู่ใกล้ยุให้น้าแป๊ดเขียนหน่อย จะให้ฮาล่วงหน้าก็กระไรอยู่ คิ คิ..
อีกคนที่โผล่มาแบบอึ้งกิมกี่คือครูน้อย ในอดีตชาติเป็นกิ๊กกับหัวหน้าเผ่า โห แสดงว่าเรื่องกิ๊กนี่มีมาแต่สมัยมะโว้แล้ว ครูน้อยติดสอยห้อยตามลงพื้นที่หลายครั้ง เพราะเป็นนักเรียนที่ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวข้องกับเรื่องชนเผ่านี้ ในช่วงที่ขออนุญาตลาเรียน ต้องต่อสู้กับผู้บริหารที่ใจดำอย่างแสนสาหัส เราสิ้นเปลืองกำลังภายในไปจนแทบหมดหน้าตัก ได้รับคำประชดประชันว่าทำไมถึงเอ็นดูกันเหลือเกิน มาชาตินี้ก็ติดพันดูแลเสมือนพ่อลูกกันอีก อิ อิ
กลุ่มรั้งท้ายเป็นอาจารย์แป๋วกับหนูมิม ทำหน้าที่ปัดกวาดเก็บเครื่องครัวให้เป็นที่เป็นทาง เป็นคนคุมกฎเรื่องสัมภาระต่าง ๆ ช่วยกันดูแลอุตลุด อ.แป๋ว กับมิม ชอบทำอาหาร เสน่ห์ปลายจวักไม่ธรรมดา แกงกระหรี่ญี่ปุ่นที่ดงหลวงเรายังจำได้ เหมือนกับเราไปนั่งกินที่ภัตตาคารเมืองโออิตะยังไงยังงั้น ส่วนหนูมิมมาสวนป่านอกจากจัดการจานชามให้เอี่ยมอ่องแล้ว ยังแสดงเมนูเด็ดให้เราชิมเสมอ
ขออนุญาตจบลงแต่เพียงนี้นะขอรับ
พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ คิ คิ..
: หมายเหตุ
รอกอด เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน
เจ้าจิ เป็นหมอยาประจำกองคาราวาน
แป๊ด เป็นหัวหน้าฝ่ายบันเทิง
ครูน้อย เป็นคนแอบรักทีเผลอ
อ.แป๋ว คุมเครื่องครัว
มิม ผู้ช่วยอาจารย์แป๋วจัดเก็บเครื่องครัว
« « Prev : ขบวนป้าๆมาแล้วเด้อ จิบอกไห่
5 ความคิดเห็น
5555 คนได้อยู่ภาคสุดท้าย จัดเป็นพิสดารชั้นครูหรือเปล่าคะ???? อิอิ
555555555ฮิ้ววววววววดีจัง ๆ นึกถึงภาพน้องจิกินยาป้าจุ๋มแล้ว ฮามั่ก ๆ เลยค่ะ
โธ่ นึกว่ารอดแล้วเชียว…
ขอแนะนำตัวครับ ผมกำลังทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ “สังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านสื่อโทรทัศน์ชุมชน”
ได้รู้จักลานปัญญาผ่าน ท่านอาจารย์ที่ปรึกษาได้อ่านหนังสือ “เจ้าเป็นไผ” สนใจคำว่า “ความรู้ในตัวคน” ที่เขียนไว้ในคำนิยม เลยแนะนำให้ผมได้อ่านทำความเข้าใจ
แต่ผมยังไม่กระจ่างว่า เราจะสร้าง“สังคมแห่งการเรียนรู้” จาก “ความรู้ในตัวคน” ได้อย่างไร
และจริงๆแล้วความหมายที่ลึกซึ้ง แท้จริงของคำว่า “ความรู้ในตัวคน“ เป็นอย่างไรครับ
รบกวนท่านครูบา ให้ความกระจ่างแก่ข้าน้อยด้วยเถิด
: แนะนำให้เข้าไปอ่านในบล็อกลานปัญญาของสมาชิกท่านอื่นๆ
เท่าที่จะอ่านให้ได้มากที่สุด
อ่านแล้วคิดวิเคราะห์จะได้คำตอบ อิอิ