เคยยกเวลาให้ตัวเองบ้างไหมจ๊ะ
(นึกว่าจะหลงทาง เห็นแสงไฟวับแวมเข้ามาตอน 1 ทุ่ม)
การงานที่พวกเรายุ่งเกี่ยวทุกวันนี้ มักจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนทฤษฎีกับส่วนปฏิบัติ ทั้ง 2 ภาคนี้มีความสำคัญต่อกันอย่างลึกซึ้ง ถ้าไม่เชื่อมโยงให้ดี สิ่งที่ได้ที่เกิดก็จะกระท่อนกระแท่น เมื่อวานประชุมก็เจอแต่เรื่องทฤษฏี ในส่วนของอุดมศึกษา ยังขาดภาคปฏิบัติ การออกแบบวิธีการ ยังให้น้ำหนักกระบวนการน้อย เมื่อคลี่งานออกมาดูจะเห็นว่ายังไม่เพียงพอ ขาดส่วนที่ควรกระทำ เมื่อไม่ลงมือทำความแจ่มชัดจะอยู่ที่ไหนละ ผลลัพธ์ออกมายังไม่ดีพอ ต้องยกยอดไปพิจารณาเสียเวลาขยายออกไป ออกไป..
(งานนี้อ้วนกลับไปแน่ๆ)
ช่วงนี้วงศาคณาญาติชาวเฮนัดมาพบกันในวันว่าง ๆ เบา ๆ เมื่อวานก็ลุ้นละทึกทั้ง 2 สาย สายกทม.มีคนหัวโตเป็นโชเฟอร์ ป้าจุ๋ม ครูปู และผมเป็นผู้โดยสารเต็มรถพอดี คณะนี้ไปรอฉกตัวผมที่สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาพญาไท มีเรื่องพิจารณากันยาวยืด ทั้ง ๆ ที่รับประทานอาหารกลางวันบนโต๊ะประชุม ก็ยังล่วงเวลาจนเลยที่นัดกัน ดีที่หัวขบวนชวนกันมานั่งกินข้าวเที่ยงรอที่ห้องรับรอง จนกระทั่งบ่าย 2 จึงเผ่นออกจากเมืองหลวง
ส่วนสายเหนือเชียงใหม่ละปูน มีอารามเป็นสารถี มีอุ้ย มีอึ่งยกกำลังสองเป็นผู้โดยสาร รถบรรทุกหนักมากเพราะหอบของฝากและความคิดถึงอัดแน่นมาเต็มรถ ออกเดินทาง 7.00 น. เราสอบถามกันเป็นระยะๆ “ถึงไหนแล้ว” ทีมเมืองกรุงฯ เกรงว่าจะมาไม่ทันทีมสาวเหนือ โชเฟอร์ขับแบบจรวดเรียกพี่ ทำเวลากทม.-สวนป่า 5 ชั่วโมง มาถึงยังไม่มืด ส่วนทีมลำปูนมาถึง 2 ทุ่ม
(หน้่าตาหมู 10 ทิศ ไม่รอคิวอดชิม)
พวกเรามาตั้งโต๊ะรอ แม่หวีทำตุ๋นไก่ใส่หน่อหมาจูหม้อเบ่อเร่อ เตรียมผักลวกจานใหญ่ไว้คอย ป้าจุ๋มผัดเห็ดญี่ปุ่น ผมทำน้ำพริกปลาป่น มีหมู 10 ทิศจากลำพูน ที่ลือเลื่องว่าอร่อยที่สุดในประเทศไทยมาให้ชิม มีเนื้อทอดกรอบ ปลาช่อนแดดเดียว น้ำพริกตาแดง แคบสุกร ข้าวโพดต้ม กับลำไยเป็นของหวาน ที่เล่าเสียยืดยาวก็เพื่อจะบอกว่า เมืองไทยนี่แหละอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ควรที่ชาวเราจะรักเมืองไทยชูชาติไทย ทำให้เมืองไทยรุ่งเรืองและปกติสุข แทนที่จะเย้ว ๆ กันก็มาชวนกันปลูกต้นไม้ ปลูกผักดีกว่า
บ่ายนี้จะปลูกต้นไม้ ปลูกมะพร้าวไฟ ปลูกมะรุม ให้เหงื่อหยุดติ๋ง ๆ หลังจากนั้นก็แจกตะกร้าพาไปเก็บมะเขือม่วง ตำลึง เด็ดยอดผักหวาน มาทำกับข้าวแล้วช่วยกันเจี๊ยะพรึบ อิ่มแล้วแจกเก้าอี้ฮ่องเต้ให้คนละตัว จะได้-นั่ง-เอน-นอน-คุยกันได้ตามชอบ
กิจกรรมเพื่อหยาดเหงื่อและแรงใจในเที่ยวนี้ อยากจะชี้ชวนให้ลองอยู่กับธรรมชาติ ลองเว้นวรรคเว้นว่างให้กับตัวเองดูสิ รุกรี้รุกรนกับการงานมามากแล้ว ดูสิว่าถ้าใจปลอดโปร่งจริง ๆ จะเป็นจะได๋.. เอาหัวอาหารไปโปรยให้ปลา เอาข้าวหว่านให้ไก่และนกยูง เดินไปทักนกกระจอกเทศและลูกนกยูง ไปเยี่ยมหมูเหมยซาน ฯลฯ
มอบเวลาให้ตัวเอง
ทิ้งใบสั่งทุกชนิด
อยู่กับโลกอิสระ
บางที่อาจจะคิดได้ว่า
เราจะอยู่จะทำอะไรต่อไปบนโลกใบนี้ อิ อิ
« « Prev : เมื่อเล่าจื๊อตีแตกเศรษฐกิจพอเพียง
Next : ถ้าไม่หวง ขอกอดหน่อยได้ไหม? » »
4 ความคิดเห็น
เห็นแล้วนำลายสอ
ลืมหมูทิศใต้ไปอีก 1 หน่อคะพ่อ
อ้อ อย่าลืมเตือนน้าอึ่ง ให้อาบน้ำด้วยนะคะ
อิอิ
ถึงบ้านแล้วค่ะ
ขอบคุณพ่อครูบา แม่หวี เจ้าของบ้านที่แสนอบอุ่น
ขอบคุณป้าจุ๋ม อ.สร้อย พี่ครูอึ่ง ป๋าขา น้าอึ่งอ๊อบ และัครูอาราม
ที่มอบช่วงเวลาดี ๆ ให้แก่กันนะคะ
แสนอิ่มเอมและมีความสุขกับการเดินทางครั้งนี้มาก ๆ ค่ะ
บางครั้งการหยุดเรื่องราวยุ่งเหยิงในชีวิต
แล้วมอบรางวัลให้กับตัวเอง ด้วยการไม่ทำอะไรเลย
อยู่กับตัวเอง อยู่กับเพื่อนดี ๆ หาเรื่องเบา ๆ คุยกัน
วาง “สิ่งที่ต้องทำ” แล้วทำใน “สิ่งที่อยากทำ”
หยุดตีความกันซักครู่
เลิกดูคนอื่น
ก็ได้เห็นตัวเองในมุมมันส์ ๆ ชัดขึ้นดีเหมือนกันนิ
คุ้มค่ากับการโดดงานจริง ๆ เลย พี่น้องเอ๊ยยยยย
กร๊ากกกกกกกกก
ขอบพระคุณครูบา และแม่หวีค่ะ…ช่วงเวลาที่เจอกันแต่ละครั้ง สุดยอดจริงๆ
ขอบคุณป้าสอนด้วยค่ะ …
ขอบคุณป้าจุ๋ม ครูอึ่ง คุณรอกอด น้าอึ่งอ๊อบ ครูอารามและครูปูด้วยค่ะ
ตกลงว่ายังไม่ได้เยี่ยมน้าปิ๋ว เพราะว่าบรรยากาศไข้หวัดระบาดไม่อยากให้ครูบาไปโรงพยาบาล และวันนี้ก็ติดใจคุยกับครูบา..ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้เวลานานนั่งรถก็คงออกสายกว่านี้อีกค่ะ
วาระที่ได้เจอกันคราวนี้ ได้ช่วยกันปลูกต้นมะรุมที่สนุกมากค่ะ
ตั้งใจว่าถ้าเดือนกันยาปิดเทอม อาจจะไปสวนป่าอีกค่ะ ไปตามดูต้นมะรุมด้วย ครูบาทดลองปลูกแบบโยนลงเป็นท่อนๆ น่าสนใจมากค่ะ
เก็บความสุขใส่ถุงมาค่อยๆแย้มเวลาที่เหนื่อยๆ ….อิอิ
วันนี้จะปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์แบบชิดเพื่อตัดยอด