ลานสวนป่า

>>  พี่น้องชาวฮาครับ

ผมสังเกตว่าคนแซ่เฮไปอยู่จุดไหนมักจะไดัความสนใจค่อนข้างดี

ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะรังสีแห่งการเอาจริงเอาจังที่ทรงพลังส่งประกายออกไปรอบทิศ

บูธของเราที่ไปจัดในงานระพีเสวนาออกจะดูประหลาด-แปลกใหม่-ไม่ซ้ำำรอยใคร

ทุกคนจะเหลียวมามอง 2 รอบ เกิดความสนใจอะไรวะ ..ใจสั่งให้ขาเดินเข้ามา

คนที่เหนื่อยแทบขาดใจคือออต..เพราะลงลุยตั้งแต่เข้ามาถึงตอน 4 ทุ่ม

แล้วลงมือจัดร้านจาก 5 ทุ่มถึงตี 3 คนเดียว

กลับจากงานมานอนสลบที่ 814 ข้าวปลาบ่กิน

>> พวกเราที่อยู่กทม.ก็สาละวันพอๆกัน

กว่าไอติม-แยมสมุนไพรป้าจุ๋มกับน้องจิจะพร้อมขึ้นรถก็เหนื่อยแทบขาดใจ

พระจารย์ Handy ซุ่มทำเครื่องพ่นหมอกถึงตี 4

ครูปูไปนั่งเฝ้าหน้า้ร้านที่เขาช่วยทำต้นฉบับเจ้าเป็นไผตัวอย่่างจนถึง 9 โมง

พลังบ้าเลือดของชาวเฮดังกล่าวนี้จึงไม่ธรรมดาแน่นอน

>> หลังจากที่ทุกคนมาเจอกันอะไรขาดเหลือก็ช่วยกันอุตลุด

กามนิตหนุ่มวิ่งขนของ จัดร้าน ประสานงานจนกระเจิง

เจ้าหนูจิใช้ทักษะศิลปากรเขียนตัวหนังสือ เขียนป้ายเฮฮาศาตร์ เป็นหน้าม้าเรียกคนเข้ามาดู

พระอาจารย์Handy ติดตั้งเครื่องพ่นหมอก ฉายLCD.เปิดภาพกิจกรรม-เสียงเพลงก็กอด ชื่นมื่นกว่าทุกบูธ

ออตเดี่ยวมือหนึ่งด้านอ๊าร์ตจัดวางรูปแบบการแต่งหน้าร้านให้เต๊ะตาเต๊ะใจ

ผนังด้านข้างจัดวางผ้าทอสวยๆชนิด..น้ำลายหก

มืออาชีพด้านธุรกิจเสื้อผ้าระดับอินเตอร์มาเลือกเหมาไปครึ่งร้าน

แถมยังเมตตาแนะนำการทอ/การตัดเย็บ..บอกเลยว่าต้นทุนที่ออตมีถ้าญี่ปุ่นมาเห็น

“ทั้งร้านเท่าไหร่?”

คุยกันเป็นชั่วโมง ให้ออตตัดเสื้อมาจะส่งไปขายญี่ปุ่นให้

ผมคิดว่าได้จับคู่ให้ออตถูกตัวถูกฝากันแม่นแล้วคราวนี้

>> ส่วนครูปูทั้งเนื้อทั้งตัวมีหนังสือเจ้าเป็นไผฉบับร่างอยู่ในมือ 4 เล่ม

ยื่นให้ใครอ่านใครดูต้องรีบกระตุกกลับ

ยกเว้นรายราชบัณฑิต ศ.สุมน อมรวิวัฒน์

อาจารย์ดูผ่านๆหยิบใส่กระเป๋าเลย

ครูปูทำหน้าเหรอ..ผมรีบกระตุ๊กเตือนบอกว่าต้องให้ๆๆๆๆ..

ศ.เสน่ห์ จามริก ท่านฤๅษี คณะอาจารย์จากธรรมศาสตร์มาเยี่ยม

ทำได้แค่คุยเฉยๆ ถ่ายรูปหมู่ ถามไถ่เรื่องคำนำ

ไม่กล้าเอาหนังสือให้ดู เดี๋ยวจะโดนยึดอีก คริ คริ

ผมไม่ได้ชมกันเองนะครับ..หนังสือของเราพอฟัดพอเหวี่ยงกับใครๆเขาได้ทั้งกรุงลงกา

ถ้าทำปกให้เรียบร้อย เพิ่มขนาดตัวอักษร ใส่รูปหล่อรูปสวยให้ดี

เราคงมีสื่อความพากพูมใจของคนแซ่เฮส่งไปเช็คแฮนด์กับสังคมภายนอก

ใครอ่าน ใครชอบ ก็จะเข้ามาชายคาเฮฮาศาสตร์อีกไม่น้อย

ครูปูได้รับการสั่งจองบ้าง แต่ถ้ามีจำหน่ายเมื่อวานนี้ ครูปูรับเละครับ

>> คนหัวโต คงจะสะสางต้นฉบับ ทำอะไรๆให้เรียบร้อย แล้วเดินหน้าต่อ

ในช่วงที่เว้นวรรคนี้ใครมีข้อคิดเห็นอะไรก็พูดจากับคนหัวโตโดยตรง

อย่าให้ความรักความปรารถนาดีพลิกแพลงพลิกคว่ำพลิกหงายอีก

กว่าจะรู้จัก และรักกันได้ มันง่ายที่ไหนเล่า

ด้วยพลังศรัทธาของชาวฮาที่มีต่อกันเชื่อว่าเราน่าจะจ๊ะจ๋ากันได้เป็นปกติ

จะฝืนใจยังโง้นยังงี้ยังไงๆก็ยังมีแก่ใจให้กันอยู่มิใช่หรือ

เท่าที่รู้จักกันมาก็ไม่เห็นใครมีหัวใจเป็นพลาสติกสักคน

อิ อิ แอ๊ะ แอ๊ะ กระแซะ กระซิก กันเหมือนเดิมเถิดนะ

เรามีเวลาอยู่บนโลกนี้ไม่ถึง 100 ปีกันสักคน

การที่ได้พบได้รู้้จักเพื่อนดีๆสักคนก็นับว่าเป็นวาสนาแล้วในชาตินี้

เฮฮา 10 จะไปน่าน ข้ามไปหลวงพระบาง ข้ามแม่น้ำโขง

เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง..ให้มันไหลงไหลงทะเล

>> ผมมีการบ้านด่วนติดพันมาจากงานระพี

เดือนนี้จะขึ้นไปเยี่ยมครูอึ่ง ครูอาราม

ไปเยี่ยมวัดพระบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

ไปสำรวจ 2 ข้างถนนเข้าวัดเพื่อปลูกต้นเอกมหาชัยจำนวน 2,000 ต้น

ไปจัดการให้รถแม็คโครขุดหลุมใส่ปุ๋ยรอ

เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะนัดหมายพี่น้องสายเหนือไปปลูกกัน

นัดพระเณร 200 รูป ชาวเขา 500 คน ปลูกกันคนละต้นสองต้นก็เรียบร้อย

รายการนี้ไม่ได้ปลูกฟรีมีคนออกทุนให้ไปทำ

แต่ก็ตั้งใจว่าจะทำแบบวัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง

ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นขอเวลาแป๊บหนึ่งเคลียตารางใจเสียก่อน

แล้วจะโฟนอินไปบอกดีไหมขอรับ อิ อิ..

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก รอกอด :

<sup>พุทธ ศักราช 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านพระบาทห้วยต้ม ทอดพระเนตรเห็นสภาพพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นขาดแคลน มีเด็กเล็กที่เป็นโรคขาดสารอาหารจำนวนมาก ประกอบกับมีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงซึ่งอพยพมาจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่มีชนเผ่ากะเหรี่ยงรวมตัวกันมากที่สุดของภาคเหนือ และมากที่สุดของประเทศไทย โดยวิถีชีวิตของเผ่ากะเหรี่ยงมีอาชีพทำนาทำไร่ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและยังมีการลักลอบปลูกฝิ่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดพระเนตรเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและเพื่อลดการ ตัดไม้ทำลายป่า พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการหลวงส่วนพระองค์เมื่อ พ.ศ. 2521 โดยมีคณาจารย์และข้าราชการาจากหน่วยงานต่างๆ เป็นอาสาสมัครดำเนินงานวิจัยพืชเมืองหนาว เพื่อให้ชาวเขาหันมาปลูกพืชทดแทนฝิ่นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2535 โครงการหลวงจึงได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิโครงการหลวงโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์ในปัจจุบัน
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม ตั้งอยู่ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีพื้นที่รับผิดชอบ 24,084.93 ไร่ ครอบคลุม 8 หมู่บ้าน ประชากรประมาณ 9,000 คน 1,760 ครัวเรือ ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสลับเนินเตี้ย ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงซึ่งเคร่งครัดถือปฏิบัติมังสวิรัต และมีคนเมืองรวมอยู่บ้าง
การเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าจังหวัดลำพูน ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 106 ถึงอำเภอลี้ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1087 ตรงไปถึง กม. 7 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 173 กิโลเมตร หากเดินทางมาจากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 106 และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าทางหลวงหมายเลข 1087
หมายเหตุ.- ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภทหรือใช้บริการรถยนต์รับจ้าง จุดจอดในตัวเมืองอำเภอลี้ ราคาค่าโดยสารคนละ 20 บาท
กิจกรรมท่องเที่ยว
- ชมแปลงทดลองและสาธิตพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก ภายในศูนย์ฯ
- ชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ การทอผ้าแบบทอมือโบราณ การขุดศิลาแลง การทำเครื่องเงิน
- ชมวัดพระบาทห้วยต้ม พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย วัดพระพุทธผาหนาม วัดบ้านปาง
ท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ
- อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ภายในมีแหล่งท่องเที่ยว อาทิ แก่งก้อ น้ำตกก้อหลวง ถ้ำยางวี ทุ่งกิ๊ก ผาดำ-ผาแดง
ของฝาก
- หัตถกรรมจักสาน อาทิ ตะกร้า ด้ง เสื่อ
- เครื่องประดับประเภทเครื่องเงิน อาทิ สร้อยคอ กำไล แหวน
- ผ้าทอมือโบราณ อาทิ เสื้อ กางเกง ผ้าถุง กระเป๋าสะพาย ผ้าห่ม
ที่พัก + ร้านอาหาร
- ไม่มีบ้านพักรับรองบริการภายในศูนย์ฯ แต่มีบริการให้ยืมเต็นท์และถุงนอนฟร
ี   - ไม่มีร้านอาหารบริการภายในศูนย์ฯ แต่มีร้านอาหารมังสวิรัติอยู่ในหมู่บ้าน
สถานที่ติดต่อ
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม บ้านผาลาด ต.นาทราย อ.ลี้ จ.ลำพูน 51110 โทร. 0-5351-8059</sup>

« « Prev : เจอแล้วตัวการ

Next : นี่แหละหนอชีวิต » »