มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าเป็นไผ 6

โดย sutthinun เมื่อ 17 เมษายน 2009 เวลา 11:37 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ, สังคม ครอบครัว ชุมชน เศรษฐกิจ #
อ่าน: 1621
จนค้นพบตนเองอย่างไม่ผิดพลาดแล้วว่า
“เรา เป็นไผ”
เกิดมาทำซากอะไร
ความสงสัยในหลายๆเรื่องก็หมดไป มั่นใจ แน่ใจ ในพระธรรม ล้าน % …
ฟังดูขี้โม้จริงๆ ของแบบนี้ ต้องลองฝึกเอง ไม่ลองไม่รู้ครับ ทำเองเจอเอง

>> เรื่องที่จะโม้ต่อไปนี้ ภูมิใจเสนอมากขอบอก เพราะเป็นการเขียนถึงทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่ธรรมดา ผมไม่รู้จะเริ่มต้นกับความไม่ธรรมดาให้พอเป็นภาษารู้เรื่องได้ยังไง เพราะทุกเรื่องไร้กรอบ เมื่อไร้กรอบมันก็มากยิ่งกว่าจากโค้งฟ้าหนึ่งไปสู่อีกฟากฟ้าหนึ่ง แล้วไถลไปยังห้วงจักรวาลอันไกลโพ้น จะกี่ล้านปีแสงขี้เกียจนับ ..ผมคิดว่าจินตนาการของนักวิทยาศาตร์ที่เสนองานวิจัยชนะในระดับองค์การนาซ่านั้น มันเหนือความอึ้งกิมกี่มากนัก เอาแค่ได้อ่านที่ท่านอาจารย์ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เขียนก็เป็นอะไร ๆ ที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในใจเรา ยิ่งมาเจอตัวด้วยแล้วเธอเอ๋ย ..คาดคะเนอะไรไม่ได้เลย พลิกผันพลิกแพลงสุดโต่ง ทุกกระบวนการเยี่ยมยุทธเหนือคำอธิบาย อย่าเพิ่งงงว่ามันเขียนอะไรกันวะ เพราะคนเขียนก็งงตัวเองเมี๊ยนกัน อิอิ..

<< อยู่นาซ่าสนุกครับ ผมทำงานวิจัยออกแบบและทดลอง ทุก 6 เดือนต้องมีผลงานวิจัยออกมา เข้าแล็บใช้หุ่นยนต์เคลือบเซรามิคบนไอพ่น แล้วประกอบลูกไอพ่นติดบนยานอวกาศ เพื่อให้บินขึ้นฟ้า เราก็ใช้คอมพิวเตอร์คำนวณแก้สูตร พวกอเมริกันเก่งเรื่องกระบวนการคิด ทำงานเป็นทีม ทำคนเดียวไม่ได้หรอก จึงยากในการขโมยความคิด

ผมได้เรียนรู้จากนาซ่ามาก เวลาสอนอาจารย์จะโยนหนังสือมาให้เล่มหนึ่ง อ่านภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่เราอ่านเร็วอยู่แล้ว ที่นั่นใช้วิธีสอนเหมือนไม่สอน ซักถามและวิเคราะห์กันหนัก ๆ อย่างเช่น คุณเห็นใบไม้ที่โคนกิ่งไม้ ลองคำนวณว่ามีแรงกี่ปอนด์

แต่ผมกลับถามตัวเองว่า ทำไมเราต้องไปถึงสุดขอบจักรวาล 450 ล้านปีแสง เรากำลังบ้าหรือเปล่า สุดท้ายเราทำอะไร ณ วินาทีนี้ ถ้าเราอยู่ขอบจักรวาล เราจะทำอะไร ผมว่า มันไร้สาระ

>> เจ้ากอล์ฟลูกชายโทน เขาเป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิกัน ได้เชื่อมโยงให้เรารู้จักกัน พระอาจารย์ไร้กรอบเคยมาเยี่ยมที่สวนป่า 2-3 ครั้ง เคยให้บรรยายเรื่องโลกร้อนให้ชาวบ้านฟัง ยังติดหูติดตาชาวบ้านถามหาถามถึงเท่าทุกวันนี้ เมื่อทราบว่าผมไปอยู่รังนกกระจอก พระอาจารย์ก็ย่องไปเยี่ยม ผมเคยบุกไปที่พำนักพระอาจารย์ที่อยู่แถวสุขุมวิท พระยาไร้กรอบมีรังอยู่บนคอนโดสูงลิ่ว คงเป็นอาคารชุดเพราะมีหลายห้อง ห้องนั่งเล่นกับห้องทำงานอยู่ด้วยกัน มีหนังสือกองพะเนิน โต๊ะหมู่บูชาอยู่อีกมุมหนึ่ง จากคนที่เคยนับถือศาสนาอื่นแล้วหันมาใส่ใจเรื่องพระพุทธศานาอย่างเข้ม ออกแบบฝึกอบรมลูกศิษย์ให้ไปนอนในป่าช้าเป็นประจำ สไตล์นักวิทยาศาตร์แท้ ๆ ล้วน ๆเชียวแหละ มีตัวอย่างบางตอนดังนี้..

<< ผมค่อนข้างจับฉ่ายแมน ชอบขับรถ เดินป่า ธรรมชาติ และศิลปะ ตอนอยู่นาซ่าผมเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จนไม่มีวิชาอะไรให้เรียนแล้ว ผมก็เลยเกิดคำถามว่า วิทยาศาสตร์เองก็มั่วเยอะ ใช้วิธีการอนุมานและตั้งสมมติฐานเยอะ ก็เลยถามตัวเองว่า ฉันกำลังทำอะไรอยู่ พอได้อ่านบทความของไอสไตน์ เขียนไว้ก่อนตายว่า ศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดคือ พุทธะ ผมก็งง! ตอนนั้นผมยังเป็นคริสเตียน ผมต้องขอบคุณท่านอาจารย์พุทธทาส ท่านเขียนเชื่อมโยงพุทธกับคริสต์ได้ดีมาก สุดท้ายแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน แต่วิธีการเข้าหามีหลายวิธี ไม่ต่างจากการขึ้นภูเขา พระพุทธเจ้าพูดอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่งมงาย คนมาปฏิบัติธรรมทางพุทธ ถ้าขี้เกียจจะไม่ค่อยเห็นผล

>>จะว่าถึงลูกถึงคน มันก็เป็นอะไรมากกว่านั้น วีรกรรมที่สร้างกับใครฝังลงไปในกระโหลกของผู้ที่เกี่ยวข้องไปจนวันตาย ยกตัวอย่างสมัยที่ไปสอนนักศึกษาวิศวะกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย >>

..เขาเคยพาเด็กวิศวะไปที่ริมสระว่ายน้ำ เรียนไปและดูนิสิตสาว ๆ ว่ายน้ำไปด้วย คาดว่าคงไปเรียนเรื่อง คลื่น ระหว่างท่าฟรีสไตล์ กับท่าผีเสื้อ คลื่นที่เกิดขึ้นของท่าไหนถี่กว่ากัน ระหว่างชุดทูพีซกับวันพีซ แรงเสียดทานกับน้ำ ชุดไหนมากกว่ากัน แนวการศึกษาน่าจะออกไปทำนองนี้ แต่ที่ชอบที่สุดคือตอนที่เขาออกข้อสอบ ข้อสอบของเขาสั้นและกระชับมาก


จงออกข้อสอบเอง พร้อมเฉลย

โหย…เด็กวิดวะอึ้งกันทั้งห้อง คำตอบส่วนใหญ่เป็นการตั้งโจทย์แบบง่าย ๆ เช่น ปั้นจั่นมีกี่ชนิด ผลปรากฎว่าได้ศูนย์กันทั้งห้อง เพราะเป็นคำตอบที่ไม่ได้แสดงความคิดที่ลึกซึ้งสมกับที่เรียนมาทั้งเทอม..

>> อ่านเรื่องนี้แล้ว เราจะเห็นการคิดการเรียนการปฎิบัติอย่างนักวิทยาศาสตร์มืออาชีพ มองอะไร คิดอะไร ทำอะไร ต้องเอ็กซเรย์ทุกเรื่อง ความเป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้โดยบังเอิญ ไม่ได้ฟลุ๊ค ไม่ได้ชิงโชคหรือจับฉลากเป็น >>

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ผู้ชายอารมณ์ดี ปัจจุบันเป็นพ่อของลูกสองคน นักเขียน วิทยากรอิสระที่ปรึกษามืออาชีพให้องค์กรรัฐและเอกชนหลายสิบแห่ง เจ้าของบริษัทพรีม่า แมเนจเม้นท์ จำกัด และนักปฏิบัติธรรม เขาเป็นนักอ่านตัวยง อ่านหนังสือเร็วมาก จนบรรณารักษ์ห้องสมุดสงสัยว่าอ่านจริงหรือเปล่า ขณะที่เด็กคนอื่นๆวิ่งเล่น แต่เขาอ่านหนังสือที่คนอื่นไม่อ่าน ตอนเรียนมัธยมปีที่ 1 อ่านสารานุกรม (Encyclopedia ) 30 กว่าเล่ม และอ่านแบบเรียนมัธยมปีที่ 5 ของพี่ชาย ทำให้ไม่ค่อยสนใจการเรีย น กระทั่งไปเรียนต่างประเทศจนจบปริญญาเอกวิศวกรรมเครื่องกลและวัสดุศาสตร์ และทำงานองค์การอวกาศนาซ่านาน 7 ปี

>> บุคคลที่เราอยากเจอ อยากจะสนทนาด้วยอย่างมาก

อยากจะไปเยี่ยมไปรับความรู้

ผมคิดว่าชาวเฮคงนึกถึงพระอาจารย์ไร้กรอบ

เราจึงมีรายการที่จะบุกสำนักร่มธรรม

ดังนั้นเนื้อหาที่นำมาเสนอในเจ้าเป็นไผนี้

ก็เพื่อจะยั่วยุให้น้ำลายสอเต็มกระพุ้งแก้ม

ถ้าใจเรียกร้องและโหยหาอยากจะไปสัมผัสจอมยุทธแห่งสำนักร่มธรรม

ก็ขอใบคิวได้ที่คุณน้าแห่งชาติ

แล้วท่านจะได้ร่วมยกโขยงไปบุกรังพญาอินทรีย์ในเฮ 9  อิ อิ ..

« « Prev : มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าเป็นไผ 5

Next : มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าเป็นไผ 7 » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 กานดา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 เมษายน 2009 เวลา 13:08

    ขอบพระคุณข้อคิดที่ได้จากตรงนี้ค่ะ 

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 เมษายน 2009 เวลา 18:54

    อิอิอิ อ.ไร้กรอบท่านเยี่ยมจริงๆค่ะ ทั้งความคิด ความรู้ ปัญญา รูปแบบการเรียน หรือการถ่ายทอด แต่แหม..อยากอ่านชีวิตรัก อ.ไร้กรอบจริงๆนะคะ จะสนุกเท่าป้าจุ๋มมั้ยน้อ (อันนี้ต้องกระซิบอิอิอิ ^ ^)

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 เมษายน 2009 เวลา 20:19

    อ.ไร้กรอบครอบครัวอบอุ่นมาก มีบุตรี 2 คน แม่บ้านเก่งที่ซู๊ด

  • #4 mimography ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 เมษายน 2009 เวลา 22:04

    เห็นชื่อ อ.ไร้กรอบ ครั้งแรกจากร้านหนังสือ
    ที่รวมบทความจากโกทูโน มีพ่อครูบาเขียนความรู้สึกด้วย
    หยิบขึ้นมาอ่านด้วยความสนใจว่า ทำไมต้องเป็น คนไร้กรอบด้วยนะ อิอิ

  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 เมษายน 2009 เวลา 11:15
    • ผมเห็นมนุษย์ปลาดไม่บ่อยครั้งนัก
    • หนึ่งในชีวิตก็ อ.ไร้กรอบนี่แหละ
    • คนอาราย..หักมุมชีวิตได้อย่างน่าจับเอามาซักฟอกเสียให้ขาวสะอาด ปราดเปรื่อง เรื่องรือ ระบือลั่น
    • ผมหละอยากมาคลุกคลีชีวิตแบบนี้ เอาความคิดมาเคาะกะโหลกหนาๆของผมบ้าง
    • เป็นคนที่ทะลุ ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆอย่างผม
    • การกระโดดจากดินไปมองฟ้า  แล้ววกกลับมาสู่ดิน มันก็พิลึกกึกกือแล้ว
    • ยังจะมาสร้างความฉงนสนเท่ห์ที่มาถวายชีวิตให้เป็นพุทธบุตร
    • ในหนังสือร้อยปีท่านพุทธทาสนั้น ที่มีบทความของอาจารย์ อ่านแล้วก็ต้องบอกว่า เฮ 9 ผมพลาดไม่ได้อย่างแน่นอนนับถอยหลังแล้วหละครับ
    • เฮ่อ……มีสักกี่คนในเมืองไทยที่เป็นอย่างนี้
  • #6 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 เมษายน 2009 เวลา 18:01

    รู้จักชื่ออาจารย์วรภัทรนะรู้จัก แต่อ.ไร้กรอบเป็นใครนั้นไม่รู้
    จนกระทั่งได้เจอตัวเป็นๆที่บ้านป้าจุ๋ม……. หึ หึ หึ
    คนอะไรไวก็จริง…แต่ก็ไวไม่ทันเด็ก
    เป็นมนุษย์ประหลาดที่น่าสน
    กับความคิดความอ่านความในใจในการดูแลโลก
    ชอบใจที่เมืองไทยมีคนไทยอย่างนี้อยู่ค่ะ

  • #7 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 เมษายน 2009 เวลา 18:55

    อิอิ นึกคำเดียวกับท่านบางทรายเลยค่ะ มนุษย์ประหลาด อิอิ
    แต่น่ารักและมอบบทเรียนได้เนียนที่ซู๊ดเลยค่ะ ดีใจที่ได้มีโอกาสเรียนรู้จากอาจารย์ด้วยคนนะคะ ^_^ 


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.057168960571289 sec
Sidebar: 0.07097601890564 sec