มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าเป็นไผ 7
>> ระหว่างที่ผมเขียนถึงสุภาพสตรีนักสู้ผู้นี้ เธอกำลังมีความสุขกับครอบครัวที่อบอุ่นแสนรักที่เมืองกล้วยเล็บมือนาง เรื่องของลูกกำพร้า นิยายดาวพระศุกร์ชิดซ้ายตกขอบเลยเชียวแหละ โลกมีมืด มีสว่าง แต่โลกของครูปู ดิ้นกระแด่วอยู่ในมุมมืด เนิ่นช้าและยาวนาน จุดผันผ่านของชีวิตอัดแน่นด้วยเลือดเนื้อและน้ำตา ไม่ทราบว่าฝ่าฟันผ่านวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่าระดับเส้นยาแดงผ่าแปดได้อย่างไร ระหว่างทางสะสมประสบการณ์ไว้เป็นทุนชีวิต ที่ก่อตัวขึ้นให้เธอเป็นหญิงแกร่งที่ทรงคุณค่าต่อครอบครัวและสังคม ผมอ่านเจ้าเป็นไผครูปูหลายรอบ ทุกคลิ๊กเหมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย และยังเลยเถิดไปถึงขั้นแอบเอาใจช่วย ลุ้นจนตัวโก่งเหยียบเบรคเอี๊ยด ๆๆๆ ถ้าอยู่ต่อหน้าก็จะโผกอดปลอบเธอ..
>> ถ้าครูปูเอาดีทางเขียนหนังสือ นักเขียนซีไรต์ไม่เกินที่จะหวัง ผมจะเฝ้าดูโอกาสที่เธอว่างพอที่จะเขียนอะไรออกมา ผมขอฝันกลางวันกลางแดดเปรี้ยง ๆ นี้แหละ สักวันลานปัญญาจะสร้างนักคิดนักเขียนนักบริการสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าท่านอ่านอย่างละเมียดละไมจะเห็นว่าเจ้าเป็นไผเล่มที่ 1 และเล่มที่ 2-3 ที่จะตามมา เป็นเครื่องยืนยันว่าผมไม่ได้ฝันลม ๆ แล้ง ๆ มีพลังของอิสระชนตัวจริงเสียงจริงเป็นหลักฐาน บทความครูปูมีKey Word มากมาย เธอสร้างสไตล์เขียนและก่อเกิดวรรคทองเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ถึงแม้จะเป็นคนแข็งขนาดกำแพงเมืองจีนเรียกเจ๊ เช่น ..
<< ด้วยอุปนิสัยที่ไม่ยอมใคร โมโหร้าย มักใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันแก้ปัญหา สมัยก่อนเด็กผู้ชายชอบแกล้งเปิดกระโปรงเด็กผู้หญิง (สมัยนี้เป็นยังไงหว่า) แม่ก็อุตสาห์ปกป้องลูกสาวด้วยการให้สวมกางเกงขาสั้นไว้ข้างในกระโปรงอีกชั้นหนึ่ง พร้อมใส่เสื้อคอกระเช้าสีขาวไว้ข้างในเสื้อนักเรียนทุกวัน จริง ๆ เด็กผู้ชายในโรงเรียนก็พอจะรู้กิตติศัพท์อยู่ว่า ยัยคนนี้ไม่ค่อยน่าตอแยสักเท่าไหร่ แต่ก็มีเรื่องจนได้ ทะลึ่งเปิดกระโปรงเพลิน ลืมเงยดูหน้า มาเปิดกระโปรงเราเข้าให้ โกรธมากขาดสติ ล็อคคอเจ้าหมอนั่น แล้วลากหัวไปโหม่งกับเสาปูนหลังห้อง ผลคือเลือดอาบ ร้องจ๊ากโรงเรียนแทบปริ ไอ้เราตกใจทำไม่ถูก (ตอนดูในรายการมวยปล้ำมันไม่เห็นมีเลือดไหลเลยนี่หว่า)
>> ผมเพิ่งเจออาจารย์พิชญ์สินี อัครโกศลเดชา แบบจัง ๆ เมื่อปีนี้เอง เจอแล้วทุกอย่างก็ติดเทอร์โบ บางทีมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญๆก็จะอาศัยม้าเร็วที่แทบจะเหาะมา หลังจากที่เธอลงมาสวนป่า ก็มีเรื่องร้องขอเธอมากมาย เธอประกาศตัวว่าเป็นคนไฮเปอร์ แหมมาเจอไฮป๋าก็ช่วยกันทำงานอุตลุด งานแซ่เฮมีพันธกิจที่เหมาะกับคนที่ทำงานแบบสายฟ้าแลบเหมือนกัน เปอร์แค่ไหนก็รับได้ทั้งนั้น ท่านรอกอดมีวิธีทำให้ไฮเปอร์ เป็นเปอร์เฟค .. คอยดูปูเปอร์เฟคจะเป็นยังไง..อิอิ
>> ด้วยความไฮเปอร์ ตกเย็นไม่มีใครอยู่ ครูปูต้องไปหานู่นนี่ทำแก้เซ็ง เดินตระเวนไปตามโรงฝึกของแผนกวิชาต่าง ๆ เพื่อรับข้อสอบหรือใบงานมาบริการพิมพ์ให้ชาวบ้านเขาฟรี เพียงเพราะไม่มีอะไรทำ จนทำให้เพื่อนครูหลายคนประทับใจ (คงคิดว่าเรามีน้ำใจ ที่แท้ก็ไฮเปอร์ อิอิ) เลยสมัครเป็นเพื่อนแท้ของครูปูตั้งแต่บัดนั้นจนถึงวันนี้เลยค่ะ ไฮเปอร์ยกกำลัง 2 ยิ่งมาเจอกามนิตเหน่อก็กระเจิดกระเจิงนะสิครับ ครั้งแรกที่ครูปูบุกสวนป่า นั่งรถทัวร์ไปถึงตี 4 เรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างลุยต่อไปตามถนนลูกรัง ไปถึงหัวฟูทาฝุ่นแดงแทนแป้งยี่ห้อแพง
>> ครั้งที่ 2 ครูปูเจอรายการโยนไมค์ฯสารพัดหน้าที่ ร้องเพลง ดำเนินรายการ ผัดผักบุ้ง นวด สว. ถ้าเป็นคนอื่นร้องจ๊ากส์์ไปแล้ว แต่นี่ปูนะครับ ปูที่ผ่านร้อนผ่านหนาวสาหัสกว่านี้มากนัก จึงสบาย ๆ ยิ้มได้เมื่องานมา..ช่วงที่ผมมีวิกฤติเฉพาะหน้า คงเหมือนเล่าปี่มีขงเบ้งอยู่ข้าง ๆ ถ้ามีครูปูอยู่ในรัศมี ผมใช้สายตากดปุ่ม ยิ่งกว่าปิ๊งแว๊บอาจจะเรียกว่าปิ๊งว๊าบกระมัง ..บอกให้สาธิตการกอดวิทยากร ครูปูทำได้คะแนนเต็ม ได้จังหวะ ได้บรรยากาศ เรียกความรู้สึกร่วมที่ผู้ชมคาดไม่ถึง ผมไม่สงสัยเลยที่ครูปูมีศักยภาพเหลือล้น เมื่อได้อ่าน..
<< รางวัลที่ได้คือการเป็นฮีโร่ขวัญใจยามยากของเด็ก ๆ และผู้ปกครอง พ่วงท้ายด้วยการเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า ลูกเมียน้อย และหมั่นไส้เป็นทุนเดิม จับกลุ่มกัน 20 คน ตั้งแต่ระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานและครูลูกทีมอีกจำนวนหนึ่ง ขึ้นไปยื่นข้อเสนอกับผู้บริหารว่า ให้เลือกเอาระหว่างเสา 20 ต้น ที่ค้ำยันโรงเรียนเพิ่งเปิดใหม่แบบนี้ กับยัยนั่นคนเดียว โรงเรียนจะเลือกใคร ถ้าเลือกพวกเขากรุณาเชิญครูปูออกเพื่อความสงบของโรงเรียน ถ้าเลือกครูปูไว้พวกเขาก็จะไป คำตอบคือ “ปูเค้าไม่เคยทำอะไรผิด จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องไล่เขาออก ส่วนคนที่กำลังรวมหัวกันมาบีบคั้นผู้บริหารอยู่นี่ขอให้พิจารณาตัวเองด้วย ว่าเหมาะสมหรือไม่”
<< ปรากฏว่าไปกันยกเซ็ท พ่วงท้ายกะปริบกะปรอยตามหลังไปอีกแทบหมดโรงเรียน หอบแฟ้มงาน เอกสาร ไฟล์งานต่าง ๆ ไปด้วยเต็มอัตราศึก ทำเอาวุ่นวายน่าดู แทนที่ครูปูจะสำนึกอะไรบ้างกลับไม่สน ไม่เอะใจอะไรสักนิด ไม่อยู่เหรอ ทำเองก็ได้ (วะ) รับสมัครใหม่ทันที จัดกำลังน้อง ๆ ที่เหลือไม่ถึง 10 คน แบ่งงานกันใหม่ และลงไปร่วมกับเขาด้วยทุกจุด ทำให้งานไม่ได้รับผลกระทบเหมือนที่ใครคาดคิด จำนวนนักเรียนนักศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปี โรงเรียนมีความก้าวหน้าและพัฒนาตลอด
>> ถ้าใครอ่านเรื่องครูปูแล้วรู้สึกเฉย ๆ แสดงว่าหัวใจเป็นพลาสติกไปแล้ว
เรื่องราวของเธอเขียนย่อๆยั้งๆยังเพียงนี้
ลองติดตามจะได้วิธีกำกับและบริหารตัวเองที่สุดยอด
ความไฮเปอร์ตั้งเด็ก ๆ ทำให้เธอร้อง ๆ รำ ๆ เก่งจริงหรือ
>> คุณยายจะเอาผ้าแวว ๆ สี ๆ มาโพกหัวให้ จับนุ่งโจงกระเบนใส่เสื้อคอปิดแขนยาวสีเจ็บ ๆ (คุณยายตัดเย็บให้ครูปู เพื่อการแสดงนี้โดยเฉพาะ) แล้วให้ถือหวีเล่มใหญ่ ติ๊ต่างเอาว่าเป็นขวาน เอามือไขว้หลัง แล้วโยกตัวไปมาซ้ายทีขวาที
บทร้องเท่าที่จำได้ มีว่า
พม่ารำขวาน พวกชาวบ้านตีกลอง
ฟัง ๆ เสียงมันดังเท่งมอง ฟัง ๆ เสียงมันดังเท่งมอง
เสียงปี่ เสียงกลองสลับกันไป
พวกเราอย่าช้าลุกขึ้นมาเร็วไว
รำเถิดรำไป ตามท่าพม่าเอย…
นอย นอย หน่อย น๊อย หน่อย นอย น๊อย หน่อย นอย นอย
« « Prev : มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าเป็นไผ 6
Next : มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าเป็นไผ 8 » »
7 ความคิดเห็น
เห็นด้วยกับพ่อค่ะ เคยเจอน้องครูปูครั้งหนึ่งที่เซ็นทรัลพร้อมคนเสียงเหน่อก่อนไปสวนป่าฯ เห็นว่าภายใต้ความคล่องแคล่ว ประเปรียวมีความใส่ใจ อ่อนโยน ตั้งใจ และจริงใจอยู่เต็มเปี่ยม …เป็นคนน่าดู น่าติดตามอีกคนหนึ่งเชียว อิอิอิ
ปูกลับจากใต้วันไหน มีเรื่องกวนใจอีกแล้ว
ของฝากไม่ต้องนะ ขอรอยยิ้ม กับเสียงจ๊ะจ๋าเร็วๆ ก็พอ
เคยพูดกับพี่ครูปูหลายครั้ง และบอกกับใครๆ
ว่าเป็นความอัศจรรย์ใจอย่างที่สุดที่ได้เจอพี่สาวที่มีความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง
เป็นความอัศจรรย์ในชีวิตของมิมเลยทีเดียวที่ได้พบเจอพี่สาวที่น่ารักอย่างพี่ครูปู
พี่ครูปูมีความมหัศจรรย์หลายอย่าง ที่ไม่สามารถบอกใครให้เข้าใจได้
นอกจากจะสัมผัสด้วยตนเองเท่าน้นค่ะ
อิอิ
เห็นด้วยกับพี่บู๊ดที่กล่าวถึง
คนอารายอยู่ไม่สุข อยู่นิ่งไม่ได้
เป็นคนไฮเปอร์ที่สมาธิไม่สั้น
ทำอะไรทำจริง สมหญิงกล้า
ดีใจที่ได้เจอะเจอและรู้จักกันค่ะ
ไมตรีที่ส่งผ่านนั้นอบอุ่นเหลือหลาย
ยังติดใจฝีมือนวดอยู่เลยค่ะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ช่วยให้ครูปูได้ย้อนมองตัวเองเพิ่มอีกนะคะ
จะพยายามคุมให้อยู่แค่ไฮเปอร์ไม่ก้าวเกินไปกว่านี้ค่ะ
แฮ่ ๆ
^_^