ได้เจอคนใจดี (อีกแล้ว)
วันนี้ไปรับเมล็ดพันธุ์ข้าวชนิดดีที่คัดแล้ว จากศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น โดยอาจารย์ พิศาล กองหาโคตร นักวิชาการเกษตร ชำนาญพิเศษ ได้เตรียมเอาไว้ให้ 3 กิโลกรัม จริงๆตั้งใจจะไปซื้อ แต่อาจารย์ไม่ยอมรับเงิน บอกพันธุ์นี้ ไม่ใช่ของหลวง ไม่ขาย เป็นข้าวหอมชนิดดี ของอาจารย์เอง และมอบให้แม่ใหญ่เอาไปทดลองที่โรงเรียน พร้อมทั้งสอนวิธีการเตรียมปลูกกล้าลงกระบะพลาสติคมาด้วย
อาจารย์พิศาล บอกว่า ข้าวชนิดนี้ คัดแล้ว ไม่ต้องแช่น้ำ แล้วนำไปห่อค้างคืนอีก แบบที่ชาวบ้านเขาทำกัน สามารถเอาเมล็ดแห้งๆนี้ ไปโรยใส่ถาดปลูกได้เลย โรยเสร็จ เอาดินกลบ ฉีดน้ำฝอยๆให้ชุ่ม แล้วก็เอาผ้าหรือกระสอบคลุม สามวันพอเห็นต้นงอกออกมาจากเมล็ดแล้ว ก็เอาที่คลุมออก รดน้ำฝอยๆเช้าเย็น (ห้ามใช้สายยางฉีด เดี๋ยวเมล็ดข้าวกระเด็นออกหมด) เพียงสิบห้าวัน ต้นข้าวก็จะโตพร้อมที่จะนำเอาไปโยนได้เลย ดังนั้นช่วงกลางเดือน เด็กๆคงได้ไปโยนกล้ากันแน่ๆ
แม่ใหญ่ก็เลยกลับมาวางแผนกับคณะครู ว่า วันจันทร์ ที่ 4 นี้ แม่ใหญ่จะแบ่งถาดพลาสติค เตรียมใส่ดินก้นหลุมมาให้ แล้วแจกถาดไปให้แต่ละห้องสักห้องละ 3 ถาด แล้วให้เด็ก ช่วยกันเอาเมล็ดข้าวมาโรยใส่หลุม หลุมละ 3 เมล็ด ใช้เวลาไม่นาน ก็คงโรยข้าวได้ครบทั้งสามถาด เด็กโตก็จะให้ตักดินกลบเมล็ดข้าวเอง แต่เด็กสามขวบ อาจต้องให้ครูช่วยทำต่อจนเสร็จ แล้วก็ให้ติดชื่อแต่ละห้องไว้ที่ก้นถาด ให้รับผิดชอบรดน้ำดูแลถาดใครถาดมัน ตลอดทั้ง 15 วันต่อจากวันที่ปลูกเป็นต้นไป
โรงเรียนเราทั้งสองโรง มี นักเรียน 21 ห้อง ก็จะได้กล้า 63 ถาด ซึ่งเมื่อต้นข้าวงอกเต็มที่แล้ว ก็เอาไปโยนได้ 1 ไร่พอดี
เมล็ดพันธ์ที่เหลือ ส่วนหนึ่ง จะแบ่งเอาไปให้ลุงโก้ (ช่างไม้) รับผิดชอบ เพราะมอบให้แกอ่านกรรมวิธีเรื่องเจาะรูกระดาน แล้วเอาเมล็ดข้าวคลุกกับดินหยอดลงรูบนไม้กระดาน แล้วก็นำไปหล่นลงในนา แบบที่อาจารย์ทวิชแนะนำ ไว้ในเรื่องการทำนาแบบหยอดหล่นแล้ว แกว่าแกเข้าใจ แม่ใหญ่จะลงไปร่วมหยอดหล่นกับแกด้วย เพราะคิดว่า ไม่น่าจะทำยากสักเท่าไหร่ ส่วนนี้ กะว่าจะทำสักครึ่งไร่
ส่วนสุดท้าย อีกครึ่งไร่ จะเอาไปให้คนงาน เตรียมปลูกกล้าในกระบะ แต่จะทำทีหลังเพื่อให้กล้าโตทัน วันที่จะเชิญชวน คณะครูและพนักงาน ที่สมัครใจ รวมทั้งญาติๆที่จะมาจากกรุงเทพ เพื่อทำบุญครบรอบวันตาย คุณยายจ๋า วันที่ 30 กรกฎาคม ก็จะได้มาร่วม “ลงแขก” กัน ในช่วงบ่ายหลังจากทำบุญแล้ว
เฉพาะพันธุ์ข้าวพระราชทานที่ป้าจุ๋มส่งมาให้ แม่ใหญ่จะลงมือปลูกกล้าเอง เพราะมีอยู่แค่ห้าซอง ไม่กี่เมล็ด ลองดูสิว่าจะปลูกสู้พวกเด็กๆ ได้หรือเปล่า และเมื่อกล้าขึ้นดีแล้ว จะเตรียมแปลง เอาไว้ต่างหากตรง หัวนา และก็จะ(พยายาม) ดำเองให้ได้ครบทุกต้น (พูดแบบนี้ ลูกๆมาอ่าน โดนโห่แน่ๆ) สำเร็จหรือไม่ค่อยว่ากัน ของอย่างนี้ ไม่ลอง ก็ไม่รู้
ก็ขอส่งข่าวมายัง ออต ป้าจุ๋ม คุณบางทราย ป้าหวาน และท่านอื่นๆ ที่ว่างๆ และนึกสนุก จะมาร่วมดำนาด้วยกัน หรือถ้า อาจารย์ทวิชนึกสนุกจะมาหยอดหล่น ก็จะเลื่อนนาหยอดหล่นไปไว้ในวันเดียวกันกับนาดำ กำหนดการนี้ คงจะไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว เชิญทุกๆคนไว้เลยนะคะ