อาหารมื้อเที่ยงที่แสน อร่อย

15 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ พฤศจิกายน 20, 2010 เวลา 19:38 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 1991

ได้รับโทรศัพ์จากหมอหยก ว่าได้ปลาช่อนนา ตัวโตๆ มาสองตัว สามกิโล ตั้งใจทำอาหารมื้อเที่ยงให้อาม่ากิน เพราะเคยได้ยินอาม่าบ่นเรื่องหาปลาซ่อนจะนำมาทอด แล้วผัดเปรี้ยวหวาน ไม่ได้สักที่ วันนี้เลยโชคสองชั้น ได้ชิมรสมือทำอาหารของหมอหยก ที่บ่อปลาเพิงขายไข่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ แล้วยังได้ปลาช่อนสดที่หมอหยก เป็นคนทำปลาและแล่เนื้อให้เรียบร้อยกลับบ้านมาหนึ่งตัวค่ะ

รายการอาหารที่แสนถูกใจ มีเทมปุระ ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน และถั่วฝักยาว เนื้อปลาช่อนล้วนๆ ทอดน่ากินมากๆ  ไข่เป็ดทุ่งต้ม(ที่ไข่แดงเป็นยางมะตูม) ส้มตำไทยพิเศษใส่พริกเม็ดเดียว(สำหรับอาม่า)  ส้มตำรสแซป น้ำพริก กินกับหนอไม้เผา อาหาร รสจัดๆ อีกสำหรับหมอแหลม( สามีหมอหยก ) มีข้าวเหนียวนึ่งร้อน และข้าวจ้าวให้เลือก อาม่าเลือกกินข้าวเหนียวค่ะ แค่นี้ก็สุดยอดของความอร่อยแล้ว ของหวานมี ฟักทองเชื่อม กล้วยเชื่อม และเผือกเชื่อม ส่วนอาม่าแค่สอนให้หลานชินจังลูกชายคนเล็กของหมอหยก ต้มชาสมุนไพรที่อาม่าเตรียมไปให้ และชอกโกแล็ตไปฝากหลานชิยจัง

นึกดูแล้วก็แปลกเหมือนกัน ว่าทำไมอาม่าสนิทสนมกับครอบครัวหมอหยกมากในเวลาที่รวดเร็ว โดยเฉพาะหลานชินจัง เรียนแค่ชั้นประถม แต่เป็นเด็กที่มีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง ชอบวิชาประวัติศาสตร์ ภาษาไทย และพุทธศาสนา มีความรู้เรื่องพุทธประวัติ ความรู้เรื่องพระที่โด่งดังในประวัติศาสตร์ไทยทุกยุคทุกสมัย และมีเกล็ดความรู้ มากมายอย่างที่หาตัวจับยาก อาม่าได้มาเรียนรู้จากเด็กตัวเล็กๆ มากมาย เล็กแต่ตัว แต่สติปัญญานั้นผู้ใหญ่บางคนสู้ไม่ได้เลย   ชอบค้นคว้าศึกษา มีเรื่องที่ชอบถามอาม่ามากมาย นอกจากนี้แล้ว ที่น่าทึ่งอีกเรื่องคือการช่วยเหลือคน ด้วยการให้โอกาส ให้ยืมเงินทำทุน ซื้อของมาขายทำมาหากินทำให้มีรายได้ แต่ต้องทะยอยคืนทุน ทุกวันอย่างเป็นระบบมีบัญชีกำกับด้วย เห็นแล้วอดชื่นชมไม่ได้ ช่างมีระเบียบ มีวินัย มีน้ำใจ  สามารถช่วยผู้ใหญ่ได้ เป็นที่พึ่งให้ผู้ยากไร้ การหยิบยื่นความช่วยเหลือ และให้โอกาสคนนั้นเป็นบุญทียิ่งใหญ่ค่ะ


พิษคางคกเป็นเหตุ

4094 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ พฤศจิกายน 18, 2010 เวลา 13:07 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 33027

17 พย. 2553 อาม่าหลินฮุ่ย เลือดกระฉูด เจ็บตัว ด้วยความตื่นกลัวของน้องเหมียว เมื่อโดนแทงเข็มฉีดยา เจ้าเหมียวกัดมือ และข่วนมืออาม่า จนหมอหยกต้องเลิกฉีดยาน้องเหมียวก่อน มาเยียวยาอาม่า โดยลาดแอลกอฮอล์ล้างแผล และทายาให้ และพร้อมบอกว่าจะต้องเจ็บปวดบาดแผลมาก เพราะเป็นบาดแผลจากแมวกัด และจะให้ยาแก้ปวดกิน อาม่ารีบปฎิเสธ และบอกว่ามีวิธีดูแลตัวเอง แล้วบีบแผลให้เลือดออกระดับหนี่ง และให้ปากแผลปิดด้วยตัวเองค่ะ

เหตุเกิดจาฝนตกหนักในคืนวันที่ 15 พย. จนถึงเช้ามืด วันที่16 พย.ที่ผ่านมา คางคก กบ อึ่ง พากันออกมามา ร่าเริง โดยเฉพาะ คงคกได้ปล่อยยางพิษไว้ด้วย อาม่าก็ไม่รู้ รีบลงมาจัดการรองน้ำฝนเพื่อเก็บไว้ใช้เยียวยาต้นไม้ เจ้าเหมียวก็ตามลงมา ด้วยความที่เป็นแมวขี้สงสัย ชอบดมกลิ่นที่แปลกๆ ทั่วบ้าน ตกตอนบ่ายได้ยินเหมียวร้องเสียงแปลกมากเหมือเจ็บปวด พร้อมหายใจแปลกๆ จึงรีบโทรฯไปปรึกษาหมอหยก หมอให้รีบพาเหมียวไปให้ดูทันที่ ผลการตรวจพบว่าเจ้าเหมียวโดนพิษคางคก จึงฉีดยาสลายพิษคางคกให้ ซึ่งเจ้าเหมียวนอนในตระกล้าโดยมีอาม่าคอยปลอบโยนลูบหัว หมอหยกก็ฉีดยาให้โดยที่เจ้าเหมียวไม่ร้องไม่สะดุ้ง หมอบอกว่าเอานมสดให้เหมียวกินจะช่วยสลายพิษได้ด้วย พอกลับมา อาม่าก็รีบปฏิบัติตามทันที่ ส่วนอาหารไม่ว่าเนื้อหมูสดๆ และอาหารแมว เจ้าเหมียวไม่ยอมแตะ แม้แต่นิดเดียว

17 พย. ต้องพาน้องเหมียวไปฉีดยาอีกเข็ม  หลังจากกลับมาจากการเข้าเมืองไปซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น ก็ได้เวลาที่ต้องพาเจ้าเหมียวไปฉีดยา เผอิญวันนี้มีคนมาซื้อไข่ไก่สดที่ร้านหมอหยก หลายคน และมีหมาออกมาเผ่นผ่านหลายตัว ทำให้เจ้าเหมียวเครียดเป็นทุนอยู่แล้ว หมอหยกไม่ทันสังเกตุ เพราะน้องเหมียวนอนอยู่ในตระกล้า โดยมีอาม่าลูบหัวอยู่เหมือนเดิม พอหมอหยกจิ้มเข็มเท่านั้นก็ได้เรื่อง หันขวับจะกัดหมอ อาม่าเอามือไปจับตัวเลยโดยงับเข้าอย่างจัง และข่วนแขนได้หลายแผล ด้วยความตื่นกลัว หลังจากทำแผลให้อาม่าเสร็จ ก็มาปลอบโยนเจ้าเหมียว โดยหมอหยกจัดการเองคนเดียว และฉีดยาให้โดยไม่มีอากาต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น หมอหยกอธิบายให้ฟังว่าเขาเครียดมากในตอนแรก และเป็นแมวที่ถูกเอาใจมาก ชอบการดูแลอย่างนุ่มนวลจึงต้องใช้วิธีนุ่มนวลให้สบายใจ แล้วฉีดยาให้ค่ะ

เป็นอันว่าได้แผล พร้อมได้ความรู้ สองสามวันนี้คงทำอะไรไม่ถนัด เพราะผลพวงจากจากน้องเหมียวกัดนิ้วแม่โป้งซ้าย และเล็บจิกลึกเกือบถูกเส้นเลือดข้อมือขวา เลยได้แผลทั้งสองมือ  ก็เป็นธรรมดาที่เจ็บแต่ไม่ถึงกับระบบตามที่หมอหยกบอก และก็ไม่กินยาแก้ปวดด้วย…อิอิ


บุญเสมอจึงเจอกัน

123 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ พฤศจิกายน 3, 2010 เวลา 0:31 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 2169

บุญเสมอจึงเจอกัน กำลังกังวลใจเรื่องน้องเหมียว แมวที่ป่วย กลับจากไปเที่ยวมาเก๋า ฮ่องกง ห่อเหี่ยวใจยิ่งนัก แมวดูไม่ดีเลย เช้าวันที่ 31ตค. มีเหตุให้ออกจากบ้านเพื่อสร้างพลังและกำลังใจให้ตนเอง ตลาดกลางไม้ดอกไม้ประดับโคกกรวด เป็นสถานที่สามารถสร้างสิ่งเหล่านนี้ให้กับอาม่าได้ และที่แห่งนี้เองที่มีครอบครัวที่ขายไม้ดอกไม้ประดับ มีคุณแม่ขายอาหาร เป็นครอบครัวที่น่ารัก และใส่ใจอาม่าเสมอมา  พอเห็นหน้าอาม่าดีใจกันใหญ่ ทั้งแม่ลูกพูดพร้อมกันว่า อาจารย์อายุยืนจริง กำลังพูดถึงก็มาพอดี  กำลังจะเพาะเมล็ดมะละกอพันธุ์ดี ที่ได้รับจากท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ถ้างอกและแข็งแรงแล้วจะให้อาจารย์เอาไปปลูกที่บ้าน อาจารย์ทานข้าวหรือยัง พอบอกว่ายังเท่านั้นเอง ทั้งแม่ลูกรีบจัดข้าวพร้อมไก่ทอดร้อนๆ หั่นเป็นชิ้นพอคำ และน้ำซุปหนึ่งถ้วย มาให้กินเป็นอาหารเช้า กินเสร็จยังให้ต้นไม้เล็กๆ อีกสองกระถาง ให้เอากลับมาด้วย อิ่มท้องแล้วก็กินยาพญามือเหล็ก

จากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน ผ่านเพิงข้างทางขายไข่ไ่ก่สดๆ ของซีพี จึงแวะซื้อ ผู้ชายวัยกลางคน คนขายไข่พูดจาน่าฟังมากและรู้ได้ทันที่ว่าไม่ใช่คนธรรมดา ….และทราบว่าเป็นสัตวแพทย์ จึงปรึกษาเรื่องแมวที่ป่วย และเล่าความเป็นมาทั้งหมดให้ฟังพร้อมประวัติการรักษา…น้องหมอจึงบอกว่าให้ พาน้องเหมียวมาให้ดูพร้อมเอกสารการรักษาติดมาด้วย อาม่าดีใจมากรีบกลับมารับเจ้าเหมียว พร้อมเอกสารการรักษา รีบขับรถมาหาน้องหมอทันที่ พออ่านประวัติการรักษาเสร็จ น้องหมอโทรฯหาหมอเจ้าของไข้ทันที่สอบถามรายละเอียดและผลเลือด ดูเหมือนตอนคุยกันเป็นภาษาที่น่าฟังอย่างยิ่ง ทั้งสองฝ่ายให้ความเคารพกันและกันช่วยเหลือกันเป็นอย่างดียิ่ง สักพักน้องหมอจับแมวออกจากตระกล้าตรงไปที่ต้นไม้ ให้น้องเหมียวเกาะต้นไม้ น้องเหมียวรีบเกาะต้นไม้ทันที่หมอก็ยิ้ม หมอดูตาน้องเหมียว แล้วยิ้มอีกครั้งหมอบอกว่า อาจารย์เคยสังเกตุตาแมวไหม ว่าตาสองข้างไม่เหมือนกัน เขาเรียกว่าแมวตาเพชร อาม่าตอบว่าค่ะเห็นว่าตาสองข้างไม่เหมือนกัน เวลาเขาเผลอจะเห็นชัด ลูกชายของหมอรีบบอกว่า ตาสีมรกต หมอจึงบอกว่าเป็นแมวพันธุ์ผสม ที่สืบสายพันธุ์แมวโบราณของไทย อะไรกันนี่ อาม่าไม่มีความรู้เรื่องแมวเลย และน้องเหมียวเขาหนีตายจากถูกมอเตอร์ไซชน เข้ามาหลบอยู่ในสวน ได้ยินเสียงร้องน่าสงสาร จึงเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่วันนั้นที่อายุไม่ถึงอาทิตย์ จนบัดนี้กว่าสิบปีแล้ว

สักครู่เดียวภรรยาของน้องหมอก็มาถึง หมอหยกเป็นสัวต์แพทย์ที่ออกไปช่วยเหลือรักษาสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เป็ดไก่ ห่าน  หมู วัวควาย หมาแมว ฯลฯ. ท่านอุทิศชีวิตช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านผู้ยากไร้  นอกจากนั้นยังช่วยเหลือคนยากไร้ให้ช่วยกันเลี้ยงปลาเลี้ยงสัตว์ ปลูกข้าว ปลูกผัก ผลไม้ในที่ดินของท่าน และสอนให้ทำงาน แบ่งหน้าที่ชัดเจน แบ่งรายได้ให้อย่างยุติธรรม ทุกคนมีรายได้ จากผลผลิตที่ตัวเองทำได้  ทำให้เป็นแหล่งพึ่งพิงของผู้ยากไร้กลุ่มหนึ่ง

หมอหยกคุยกับสามีอยู่พักหนึ่ง ก่อนมาตรวจน้องเหมียวอย่างละเอียด และบอกว่า อาจารย์พามาฉีดยาสามเข็มต่อเนื่องกันสามวันนะค่ะ และอธิบายให้ฟังว่าน้องเหมียวไม่สบายอ่อนเพลียมาก แมวเป็นสัตว์กระเพาะเดียว เป็นสัตว์กินเนื้อ ให้เอาเนื้อหมูสดๆ ที่มั่นใจว่าไม่มีพยาธิให้กินต่อเนื่องกันสามวัน เขาจะฟื้นตัวได้เร็ว

อาม่าทำตามหมอสั่งอย่างเคร่งคัด น้องเหมียวดีขึ้นทันตาเห็น วันนี้ครบสามวันร้องกินเนื้อสดและและปลาสด ดูสดชื่นขึ้นรวดเร็วเมื่อฉีดยาครบสามเข็ม คุณหมอบอกว่าอีกอาทิตย์ให้พาน้องเหมียวมาฉีดวัคซีนรวม และวัคซีนป้องกันโรคสุนัขบ้า อาม่าถามคุณหมอเกี่ยวกับค่ารักษาด้วยความเกรงใจ คุณหมอบอกว่าคิดค่าฉีดยาครั้งละ 50 บาท ครบสามเข็มค่อยจ่าย วันนี้ฉีดยาครบสามเข็มแล้ว อาม่าบอกว่างั้นอาม่าขอทำบุญ จึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ คุณหมอบอกว่ามากเกินไป นี่รวมทั้งค่าฉีดยาวัคซีนครั้งต่อไปก็ยังเหลือ อาม่าบอกว่าตั้งใจทำบุญค่ะ

บุญเสมอจึงเจอกัน อาม่าประทับใจคุณหมอคู่นี้มากๆ  และวันนี้ได้ดื่มน้าชาเกษรบัวหลวงสดๆ จากฝีมือน้องหมอ ที่เก็บบัวหลวงจากสระที่ปลูกเอง นอกจากนั้นยังเก็บดอกบัว ฝักบัวกำลังกิน ฝักบัวอ่อนให้นำไปจิ้มน้ำพริกด้วยค่ะ อาม่านำดอกบัวมาจัดแจกันไหว้พระในคืนนี้ด้วยค่ะ ขอทุกคนได้รับบุญทั่วถึงกันค่ะ



Main: 0.54161500930786 sec
Sidebar: 0.29695677757263 sec