หยุดห้าวันนี้มีเรื่องราวดีๆมากมาย ทุกๆวันเป็นวันพิเศษ ถ้าไม่รีบเขียนบันทึก เดี๋ยวก็มีเรื่องราวดีๆเข้ามาอีกมากมาย เขียนไม่ทัน ลืมหมด
ขณะกำลังจะเขียนบันทึกนี้ ก็เปิดดูที่ Manager Room (ร่มธรรม) ว่าผลงานที่ไปช่วยทำเป็นอย่างไร ? แม่นุก็มาขอดูด้วย ชอบใจที่ห้องน้ำที่ไปช่วยก่ออิฐ เสร็จเรียบร้อยดี แถมขออ่านบันทึกของจอมป่วนที่เขียนเล่าเรื่องร่มธรรมอีก (ปกติไม่เคยอ่าน)
ตอนนั่งกินข้าวที่สวนป่า แม่นุก็ชวนคุยกันเรื่องทำไมต้องไปช่วยกันขุดดิน ช่วยกันทำงาน บางเรื่องเช่นล้างจาน ทำกับข้าว ทำความสะอาด ปลูกต้นไม้ก็โอเค แต่ห้องน้ำหรือสิ่งปลูกสร้าง ทำไมไม่บริจาคเงินแล้วจ้างเขามาทำให้ดีๆไปเลย ทำกันเองไม่ค่อยดี ก็พยายามอธิบายให้ฟัง ครูบาก็ช่วยอธิบาย ครูสุฟังอยู่ก็พยักหน้า ร้องว่า อ๋อ เข้าใจแล้ว แต่แม่นุก็ยังสงสัยอยู่ไม่หายเฉพาะเรื่องห้องน้ำนะครับ สงสัยต้องไปอีกหลายรอบ อิอิ
อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง อยากไป พอมีเวลาว่างก็ชวนกันไปทั้งแม่นุและน้องอ้ายด้วย ไม่บอกรายละเอียดอะไรมาก เตรียมตัวรับทุกสถานะการณ์ ไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆด้วยกัน กินยังไง นอนยังไง ต้องทำอะไรก็รับได้หมด
ช่วงเดินทางก็ให้แม่นุกับน้องอ้ายเป็นเนวิเกเตอร์ ช่วยกันดูแผนที่ ก่อนถึงทางแยกก็คอยบอกว่าเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา สนุกดี เที่ยงแถวๆปากช่องพอดี ลุยเข้าร่มธรรมก็ห่วงว่าจะมีข้าวกินไหม แวะกินไก่ข้างทางดีกว่า สั่งไก่ครึ่งตัวก็ไม่ขาย ขายทั้งตัว เลยบอกให้สับเลยครึ่งตัว อีกครึ่งตัวห่อไว้ สั่งส้มตำกับข้าวเหนียวตามระเบียบ สักพักก็บอกแม่ค้าว่าที่ห่อไว้เอามากินซะเลยดีกว่า อิอิ
เข้าไปร่มธรรมก็เจอสมาชิกที่มาสร้างห้องน้ำ (แต่จะขอเรียกว่าสร้างส้วมดีกว่า เห็นภาพดี) ชวนกินก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยที่สุดในโลก แต่ไม่ไหวเพราะกินไก่มาแล้วหนึ่งตัว นั่งคุยกันสักพักก็ชวนกันไปทำงาน สนิทสนมกันเร็วมาก เพราะบรรยากาศเหมือนกลุ่มเฮฮาศาสตร์ สนิทสนมกันง่าย คุยสนุก คอยดูแลเอาใจใส่สมาชิกใหม่ๆทำให้รู้สึกสบายใจ ไม่เครียด เป็นกันเองดีมาก คิดในใจว่าถ้าผู้คนทั้งโลกเป็นแบบนี้ โลกเราคงน่าอยู่กว่านี้อีกมาก แต่ถึงเป็นอย่างนี้ก็น่าอยู่เหมือนกัน คงเป็นที่ใจของเรามั๊ง อิอิ
ไปถึงจุดที่จะสร้างส้วมซึ่งอยู่ที่ลานหน้าองค์พระ ก็มีแบบเขียนไว้ง่ายๆ มีการปักผังไว้แล้ว ก็เริ่มลงมือขุดหลุมกัน คนละไม้คนละมือ (จริงๆใช้สองมือครับ) เครื่องมือมีหลายชนิด ลองใช้ดู ไม่ถนัดสักอย่างเพราะไม่เคยทำ แต่ก็เลือกอันที่พอจะเข้าท่า สลับกันขุด ขุดไปเรียนรู้กันไปเพราะไม่เคยทำกันเลยสักคน
รุ่นพี่ก็สอนให้มีสติ ดูจิต ขำๆๆๆๆๆ มีการบอกให้ทำงานไปก็ท่องไว้ๆๆๆๆ ” เมื่อไหร่จะเสร็จว้า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ”
พอเหนื่อยเข้าหน่อยก็เริ่มบ่น ว่าคนเราจะกินอะไรกันนักหนา ถ้ากินกันน้อยๆก็ขุดหลุมเล็กๆตื้นๆก็พอ เริ่มมีเครื่องมือกรู ส้วมกรู……..อิอิ
พอมีข่าวว่าจะได้รถขุดตักเล็กมาช่วยขุดหลุมก็เกิดโครงการใหม่ขึ้นทันที ป้าแอนกับโยมศจีออกความเห็นว่าน่าจะรื้อสังกะสีห้องน้ำข้างกุฏิพระออก เทพื้นใหม่แล้วก่ออิฐแทน ทำหลังคาให้ใหม่ ขยายให้อาบน้ำได้ด้วย เลยย้ายมาช่วยกันรื้อห้องน้ำข้างกุฏิพระแล้วเทปูนพื้นใหม่ มาทราบทีหลังว่ารถขุดตักติดงานไม่มาตามนัด งานเลยเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ตั้งใจไว้เดิม บุญก็มากตามไปด้วย อิอิ
นอกจากช่วยกันทำงาน ก็กินข้าว คุยกัน ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น แล้วก็นั่งคุย นอนคุยกัน ใครอยากทำอะไรก็ตามอัธยาศัย
ที่นั่งคุยกันก็มีการแนะนำให้ดูแลสุขภาพกายให้ดี ดูแลเรื่องอาหารการกิน เลือกอาหารที่ไม่มีสารพิษ ออกกำลังกาย เพราะจะทำให้การดูแลจิตใจดีขึ้นด้วย ก็จริงนะครับเพราะขุดส้วมครั้งนี้มือก็ไม่แตก(ใส่ถุงมือทำงาน) ไม่ปวดเมื่อย คงเป็นเพราะการออกกำลังกายเป็นประจำ
จริงๆก่อนมาก็อ่านบันทึกของ อ. วรภัทร์มาแล้ว…..
….
หลายคน “เมาปฏิบัติธรรม” แค่เริ่มต้น เสีย สละ เก็บขยะ ยกจาน ล้างจาน ทำความสะอาดห้อง ล้างห้องน้ำ ฯลฯ ก็ไม่เอาแล้ว จะเอา แต่ นั่งสมาธิ เดินจงกรม มันไม่มีทางพ้นทุกข์หรอก
- การได้ปรับตัว การเสียสละ อยู่ร่วมกัน เรียนรู้ ทำงานร่วมกัน การแบ่งปัน การให้ (ทาน) การทำเพื่อส่วนร่วม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เกียจคร้านการงาน ฯลฯ เป็นอีกมิติหนึ่ง ของ การปฏิบัติธรรม
…….
ในค่ายร่มธรรม ทุกกิจกรรม ทุกวินาที คือ การปฏิบัติ คือ การเรียนรู้ เรา อาจจะมี กิจกรรม ที่ดูแล้ว ไม่มีวันเสร็จ แต่ เราก็ทำ เพราะ เป้าหมายหลัก ไม่ใช่ อยู่ที่ สร้างบ้านดินเสร็จ สร้างโน้นสร้างนี่เสร็จ แต่ อยู่ที่ สร้างบ้านที่แข็งแกร่งในจิตใจของตัวเรา มีความทนทาน มีภูมิต้านทานต่อ การเปลี่ยนแปลง แรงปะทะของอารมณ์ ฯลฯ
……….
ก็เลยพาตัวเองและครอบครัวมาปฏิบัติ-ทำ มาเรียนรู้ตามแนวทางของร่มธรรม มาครั้งเดียวคงไม่บรรลุอะไรหรอก แต่ได้เริ่มต้น สัมผัสอะไรบางอย่าง คงจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะได้ฝึกปฏิบัติต่อไป
มาคราวนี้ได้เพื่อนใหม่ที่น่ารักอีกหลายคน ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ขากลับรู้สึกว่าครอบครัวของเราสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิม คุยกันมากขึ้นกว่าเดิม เอื้ออาทรกันมากกว่าเดิม เวลาใครหงุดหงิดก็จะคอยเตือนกันว่าหงุดหงิดไปทำไม รู้สึกว่าการได้อยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน งานจะเสร็จไม่เสร็จก็ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ได้ทำอะไรๆร่วมกันด้วยความรู้สึกที่ดีๆ
ว่าแล้วแม่นุก็มาอ่านบันทึกนี้เป็นคนแรกก่อนจะนำขึ้นลานปัญญา แถมช่วยแก้คำผิดให้และชมว่าเขียนน่าอ่านดีอีกด้วย อิอิ
Facebook