The Ladder of Inference
อ่าน: 21967 ……….
The Ladder of Inference
The Ladder of Inference comes from Peter Senge’s book “the Fifth Discipline Field book” and is based on our commitment to our beliefs once made.
We live in a world of beliefs we self-generate based on conclusions made and inferred from what we observe, plus our past experiences. Our ability to achieve results is eroded by feelings that are:
Our beliefs are the truth
The truth is obvious
Our beliefs are based on true data
The data we select are the real data
………..
เอามาจาก http://www.jadcommunications.com/yvonnefbrown/files/The%20Ladder%20of%20Inference.pdf
วันนี้ตั้งใจจะเขียนบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนรู้จากสวนป่าต่อ แต่อ่านบันทึก เผื่อจะได้คำตอบ จากลานเสรี ของ freemind (อ่านบันทึกแล้วแอบชอบเพราะรู้สึกว่าจริตจะตรงกัน เดี๋ยวก็รู้ว่าจริงรึเปล่า ?) ต่อด้วยบันทึก บทเรียนสวนป่าของบางทราย ของพี่บางทราย ก็เลยอยากเขียนบันทึกนี้แทน
ก็เคยสงสัยมานานว่าทำไมคนเราไม่เหมือนกัน ชอบสีต่างกัน ทำไมคนเราคิดไม่เหมือนกัน นั่งฟังเรื่องเดียวกันก็รับรู้ต่างกัน
ฟังคนที่เราชอบก็ว่าพูดดีมาก มีเหตุผลมาก แต่คนอื่นดันบอกว่า พูดยังงี้ได้ไง? ทำยังงี้ได้ไง?
ก็นึกถึง The Ladder of Inference ที่ฝรั่งพยายามอธิบายเรื่องนี้ ก็เลยเอามาเล่าต่อ เรื่องนี้บรรจุลงใน Series เรื่องที่อยากพูด ของจอมป่วนไว้แล้ว
ไม่อยากอธิบายต่อแล้ว ค้นๆเอาเองบ้างก็ดีนะ
ใครอธิบายเป็นภาษาไทยแนวชาวบ้านได้ก็มาช่วยต่อยอดด้วยนะครับ ถ้าได้แบบแนวธรรมะก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง อิอิ
« « Prev : พวกเรา เรื่องของจอมป่วนตอนที่ 4 ได้อะไรจากสวนป่า ?
Next : แค่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ » »
6 ความคิดเห็น
สุดยอดไปเลย ขอบคุณเฮียตึ๋ง ดีมากครับ
Inference ไปเปิด dic.ดู เขาปลว่าอนุมาน
อนุมาน ไปเิปิดพจนานุกรมดู เขาแปลว่า คาดคะเนตามหลักเหตุผล
อ้าว….มีคำว่าคาดคะเน…ไปเข้า speculation ของ อ.โสรีช์หรือเปล่า…
ตามหลักเหตุผล….ไม่ได้กวน..หลักของใคร ทำให้เกิด ผลของใคร
ตอบแบบ อ.โสรีช์…ป้าหวานอยากตอบว่า ไม่ตอบ
ตอบแบบ อ.ดร.วรภัทร ป้าหวานอยากตอบว่า ไม่มีที่สิ้นสุด
ตอบแบบอาม่า ป้าหวานอยากตอบว่า ไม่รู้ ไม่ชี้
ถามกลับ…ทำไมต้องใช้คำถามว่าทำไม (Why )
เพราะคำตอบมันมาจาก อย่างไร อะไร….
ไปถึง อิทัปปัจจยตา
เราเลือกเชื่อเพราะ ถูกใจ(ด้วยสารพัดเหตุผล) เพราะตรงกับความเชื่อ ความคิด ประสบการณ์ที่เราสร้างข้อสรุปว่าเป็นเช่นนี้แน่แล้ว
คำตอบนี้จึง “ถูกใจ ใช่เลย”…. ถูกผิดว่ากันอีกที ก็แล้วกันนะคะ
คิดไปคิดมา ที่ว่าดีว่าถูก อาจไม่ใช่เสียแล้ว
ขอบคุณค่ะ
เพราะเหตุของสมมุติสัจจะที่ต่างกันนี่แหละ
ทำให้น้ามองเห็นหัวใจตัวเอง และหัวใจคนอื่น(ที่มีสมมุติสัจจะ)ต่างจากเรา มากขึ้น
เพราะสุดท้ายแล้ว ก็มาตรงกับคำถามที่ว่า หัวใจดวงเดียวกันหรือเปล่า ทำไมต้องรอให้ถึงวันนั้น
อิอิอิ( เรื่องของตรู)คริคริคริ
[...] เคยเขียนเรื่อง The Ladder of Inferrence [...]
[...] The Ladder of Inference ไว้แล้ว [...]