เหตุเกิดในสภาเทศบาล อิอิ

3 ความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 16 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:31 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เรื่องตาหลก #
อ่าน: 2340

 จอมป่วนเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนานแล้ว แต่พอทั่นอัยการชาวเกาะเปิดประเด็นเรื่องที่ไม่น่าจะเอามาพูดกันในที่แจ้ง แถมครูบาก็มาตอกย้ำให้กระเทือนทรวงอีก ก็เลยเอามาเล่าให้ฟังกัน จอมป่วนยืนยันนะครับว่าที่เล่าๆมานี่เป็นเรื่องจริงทั้งนั้นเลยครับ

           ในการประชุมสภาเทศบาลแห่งหนึ่ง ขอใช้ชื่อย่อว่า พ. ก็แล้วกันนะครับ เพราะอาจพาดพิงให้บุคคลอื่นและสถาบันได้รับความเสียหายได้ ท่านเทศมนตรี ( ตำแหน่งสมัยโน้นครับ ) ได้เสนอในสภาเทศบาลเกี่ยวกับเทศบัญัติงบประมาณประจำปี ได้เสนองบลงทุนที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ง่ายๆก็คือเสนอว่าปีหน้าจะก่อสร้างถนนคอนกรีตพร้อมท่อระบายน้ำถนนสายไหนบ้าง ต้องชี้แจงให้ทราบก่อนนะครับว่า การตั้งชื่อถนนสมัยนั้นไม่ค่อยเป็นระบบ ( สมัยนี้ก็ยังเหมือนเดิมครับ อิอิ ) บางครั้งมีถนนเกิดใหม่ เทศบาลตั้งชื่อให้ไม่ทัน ฃาวบ้านก็ช่วยกันตั้งฃื่อกันเอาเองจนเป็นที่ยอมรับ เช่นซอยชนโค เพราะมีสนามชนวัวอยู่ หรือซอยยายรำ ไม่รู้ยายรำเป็นใคร อิอิ

           ท่านเทศมนตรีก็นำเสนอต่อสภาเทศบาลว่า “ กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ……… ..( แล้วก็เสนอชื่อถนนที่จะทำการก่อสร้างในปีหน้า ) ………ก่อสร้างถนนคอนกรีตพร้อมท่อระบายน้ำ  ซอยกลัวเมีย  ความยาว…… เมตร เป็นเงินทั้งสิ้น …….. ล้านบาท ได้เรื่องเลยสิครับ เทศมนตรีกับสมาชิกผู้ทรงเกียรติที่เป็นผู้ชายทั้งหมดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ( นายกเทศมนตรีของ เทศบาล พ. เป็นผู้หญิงน่ะครับ ) ต่างก็ดีใจว่าถนนหน้าบ้านตัวเองจะได้เป็นถนนคอนกรีตก็คราวนี้แหละ

            แต่ก็คงยังไม่แน่ใจ เลยแย่งกันยกมือเพื่อสอบถามให้ชัดเจนว่า ไอ้ซอยที่ว่าเนี่ย มันซอยไหนกันแน่ ในสภาเกิดการชุลมุน วุ่นวาย พอๆกับพวกเฮฮาศาสตร์มาเจอกันนั่นแหละครับ กว่าท่านประธานสภาที่เคารพจะยุติความวุ่นวายลงได้ก็ผ่านไปหลายนาทีครับ ท่านเทศมนตรีก็เลยให้รายละเอียดว่า ไอ้ซอยเจ้าปัญหานี่อยู่ที่ไหน แต่ความวุ่นวายก็ยังไม่จบ มีการประท้วง สมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติฯ ยกมือกันสลอน

            ท่านประธานสภาที่เคารพพยายามควบคุมสถานะการณ์ เลยให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติที่มีอาวุโสอภิปรายก่อน

            “ ท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ผมไม่ได้ติดใจว่าถนนหน้าบ้านผมจะได้งบประมาณก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตหรือไม่ แต่ที่ผมติดใจมากก็คือ ผมคิดว่าไอ้เรื่องกลัวเมียนี่ ผมไม่เป็นสองรองใคร เรื่องถนนผมยอมได้ แต่กรุณาเปลี่ยนชื่อซอยให้ชัดเจน เปลี่ยนเป็นชื่ออะไรก็ได้ ผมไม่ติดใจ แต่อย่าใช้ชื่อซอยกลัวเมีย มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ยอมกันไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด ผมคงกลับบ้านไม่ได้แน่ ถ้าปรากฏว่ามีคนที่กลัวเมียมากกว่าผม ผมจะอธิบายที่บ้านว่ายังไง ท่านประธานสภาที่เคารพกรุณาเห็นใจพวกผมในเรื่องนี้ด้วย ขอบคุณครับ ”

             ที่ประชุมสภาฯ ก็มีมติเปลี่ยนชื่อซอย เพื่อความสงบสุขของครอบครัวของสมาชิก เรื่องราวก็ลงเอยด้วยดี เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ มีรายงานการประชุมเป็นหลักฐานด้วยนะครับ แต่ไปขอที่จอมป่วนเอาเองก็แล้วกัน อิอิ

             ห้ามถามนะครับว่าถนนบ้านผมเป็นถนนคอนกรีตรึยัง ?    รุ่นนี้แล้ว  เดี๋ยวจะหาว่าคุย  อิอิ

     หมายเหตุ :  เรื่องตาหลกนะครับ  ไม่ใช่เรื่องจริง  555555

 

Post to Facebook Facebook


เหตุเกิดที่โรงพยาบาล อิอิ

8 ความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 16 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:28 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เรื่องตาหลก #
อ่าน: 2143

เขียนเรื่อง เฮฮาศาสตร์เทศบาลนครพิษณุโลก  ทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจเขียน  คนไม่ค่อยอ่าน  ทั้งยังไม่ยอมแสดงความคิดเห็น  ( ช่วยอ่าน ช่วย comment หน่อยเถอะครับ  อิอิ )  เลยลองเขียนเรื่องนี้ดู  อยากรู้ว่าชอบอ่านเรื่องไร้สาระกันจริงรึเปล่า ?   อีกทั้งเรื่องนี้อาจถูกใจครูบาได้รับเลือกไปตีพิมพ์ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะตีพิมพ์เร็วๆนี้ก็ได้  ใครจะไปรู้  อิอิ

           เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ  ไม่ใช่เรื่องตาหลก   สาบานได้  แต่จำเป็นต้องปกปิดชื่อของตัวละครเพื่อความปลอดภัยในชีวิต ( ทรัพย์สินไม่เป็นไร )  ขอใช้นามสมมุติว่านายจอมป่วน

           วันหนึ่ง  นายจอมป่วนพาศรีภรรยาคนสวย ( ไม่ใช่แฟนผมนะครับ  แฟนผมสวยคนเดียวซะเมื่อไหร่ อ. สร้อย )  ไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาล ( ตึกที่เกิดเหตุก็ตึกที่จัดมหกรรม KM ภูมิภาค นั่นแหละครับ )  ต้องตื่นแต่เช้า  งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน  เพราะต้องเจาะเลือดตรวจด้วย

           ไปถึงโรงพยาบาลประมาณ แปดนาฬิกาก็เจาะเลือดก่อน  แล้วก็เดินไปร้านอาหารด้านหลัง ( ก็ที่นั่งทานอาหารเช้ากับครูบานั่นแหละครับ  อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นผมนะครับ  นายจอมป่วนเค้าเล่าให้ผมฟังอย่างละเอียด อิอิ )   ทานมื้อเช้าเสร็จก็แวะมาให้คุณหมอตรวจ  คุณพยาบาลคนสวยบอกว่าต้องรอสักครู่คุณหมอถึงจะลงมาตรวจ  แต่จะถามชื่อ  แซ่  อายุ  ที่อยู่  รายละเอียดอื่นๆที่จำเป็นเช่น  แพ้ยาอะไรบ้าง  มีโรคประจำตัวอะไร  เคยผ่าตัดอะไรมาบ้างไหม ฯ  ไว้ให้ก่อน

           หลังจากนั้นก็ให้วัดส่วนสูง  ชั่งกิโล  ตรวจชีพจร แล้ววัดความดัน  ( แล้วถึงจะส่งไปตรวจคลื่นหัวใจ และ X-ray ปอด  พอได้ผลเลือด  ผลการตรวจคลื่นหัวใจและผล X-ray  จึงจะให้พบแพทย์ )

           มันก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นนะครับ  แต่ทว่ากำลังจะไปตรวจคลื่นหัวใจกับ X-ray อยู่แล้วเชียว  คุณพยาบาลคนสวยคงเพิ่งจะนึกออก  เลยตะโกนเรียก
           “ คุณลุงๆๆ  ขอโทษด้วยค่ะ  ขอเวลาแป๊บนึง  ยังซักประวัติไม่หมด  วัยทองต้องถามอีกคำถามนึง  เชิญทั้งคุณลุงคุณป้าทางนี้อีกแป๊บเดียวนะคะ

           นายจอมป่วนกับศรีภรรยาคนสวยก็กลับไปที่โต๊ะคุณพยาบาลคนสวยอีกครั้งนึง
           “  ขอโทษค่ะ  คุณลุงยัง……… กับคุณป้าอยู่มั๊ยคะ
           “  ไม่หรอกครับ  เลิกมานานแล้วครับ  สองคนตายายเข้าวัด  ศึกษาธรรมะกันมานานแล้ว  ”  นายจอมป่วนตอบอย่างฉะฉาน  คุณศรีภรรยาคนสวยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
           ว่าแล้วทั้งคู่ก็เดินไปห้อง X-ray 
           “  แม่ตรวจก่อนก็แล้วกันนะ  พ่อรออยู่ข้างนอกนี่แหละ
           พอศรีภรรยาคนสวยเข้าห้อง X-ray   นายจอมป่วนวิ่งแนบไปพบพยาบาลคนสวยคนเดิม  กระหืดกระหอบขอแซงคิวคนไข้คนอื่น  บอกว่ามีเรื่องสำคัญมาก  เป็นเหตุฉุกเฉิน
            “  คุณพยาบาลคนสวยครับ  ต้องรีบแก้ประวัติให้ผมนะครับ  ผมกลัวคุณหมอเข้าใจผิดจัดยาบำรุงให้ผมอีก  เมื่อกี้นี้ผมบอกความจริงไม่ได้เพราะอาจถึงตาย  คุณป้าแกอยู่ด้วย  ”
           “  จริงๆแล้วผมยังสบายมาก  วันละครั้ง วันหยุดราชการเพิ่มรอบเช้า คุณพยาบาลต้องแก้ประวัติเรื่องนี้ให้ผมนะครับ  ผมกลัวคุณหมอเข้าใจผิด  ให้ยาบำรุงผมมาอีก  ”
           ยังงี้ก็มีด้วย อิอิ  ขำแล้วอย่าลืม
เฮฮาศาสตร์เทศบาลนครพิษณุโลก  นะครับ

 

Post to Facebook Facebook


เอาความลับของหน่วยงานไปเปิดเผย อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 16 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:21 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เรื่องตาหลก #
อ่าน: 1727

เรื่องนี้เป็นเรื่องตาหลก  เล่ากันในวงเหล้านานมาแล้ว ( ตั้งแต่สมัยที่ผู้เขียนยังเป็นปีศาจสุรา )  ไม่ใช่เรื่องของระบบราชการ  โปรดฟังอีกครั้ง  ไม่ใช่เรื่องของระบบราชการ  ทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน
           ในองค์กรแห่งหนึ่ง  จอมป่วนได้บังอาจวิจารณ์เจ้านา์ยหรือลูกพี่ของตัวเอง  จริงๆก็คือด่านั่นแหละ  เที่ยวด่าว่าเจ้านายโง่ทั้งในที่ลับและที่แจ้งมาตลอด  เจ้านายทนไม่ไหวจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาความผิดในข้อหาใส่ร้ายเจ้านาย  ทำให้เจ้านายเสื่อมเสีย  เสียหาย  ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่ทุกๆแห่งเขาทำกัน  
           คณะกรรมการสอบสวนก็สอบสวนด้วยความเป็นธรรม  ไม่ลำเอียงทั้งยังไม่เห็นแก่หน้าของผู้ใดทั้งสิ้น 
           ในที่สุดคณะกรรมการก็ลงความเห็นว่าจอมป่วนไม่มีความผิดตามข้อหาดังกล่าวข้างต้น  แต่ก็ยังให้ลงโทษสถานหนัก  เพราะมีความผิดในข้อหาเอาความลับของหน่วยงานไปเปิดเผย  ทำให้หน่วยงานเสื่อมเสียและเสียหาย  ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือต่อสาธารณชน 

                     คำคม: อ่านเรื่องตาหลกไร้สาระ  ดีกว่าทำเรื่องมีสาระ  แต่ทำร้ายจิตใจคนโดยไม่จำเป็น

Post to Facebook Facebook


พูดไม่เข้าหูคน อิอิ

1 ความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 16 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:17 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เรื่องตาหลก #
อ่าน: 2020

กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานมานี้ ท่านกำนันจัดงานขึ้นบ้านใหม่ มีคนมาร่วมงานเลี้ยงมากมาย ท่านกำนันสังเกตุเห็นว่ามีคนคนนึงนั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จากับใครเลย ก็เลยเดินเข้าไปคุยด้วย เพื่อนๆ ก็บอกท่านกำนันว่า อย่าให้มันพูดเลย มันพูดไม่เข้าหูคน พูดทีไรมีเรื่องทุกที ท่านกำนันบอกว่าไม่เป็นไรหรอก กันเอง อยากพูดอะไรก็พูดเหอะ ไอ้เสือเราก็ยังไม่ยอมพูด ท่านกำนันเลยบอกว่า ไม่เป็นไรน่า นี่บ้านกำนันนะ รับรองไม่มีเรื่องแน่นอน 

ไอ้เสือเราก็เลยยิ้มออก  บอกท่านกำนันว่า  อึดอัดเหมือนกัน  อยากพูดมานานแล้วแต่กลัวมีเรื่อง  กำนันรับรองอย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย  ว่าแต่ว่าเมียกำนันน่ะ  น่าล่อชะมัด 

ไม่ทราบว่านิทานเรื่องนี้สอนอะไร แต่ท่านวิทยากรทั้งหลายเวลาจัดอบรมสัมมนา คนบางคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็น ก็อย่าไปสะกิดต่อมพูดเขามาก เพราะอาจเป็นคนที่พูดไม่เข้าหูคนก็ได้ อาจเจอดีแบบท่านกำนันเข้า แล้วจะมาหาว่าไม่เตือน จะไปโกรธเขาก็ไม่ได้ เพราะดันไปสะกิดเขาให้พูดเอง

ผู้เขียนเองก็เป็นคนพูดไม่เข้าหูคน บอกก็ไม่เชื่อ ตามมาอ่านจนได้ ว่าแต่ว่าคนอ่านก็……….. ชะมัด ( น่ารักน่ะครับ ฮา….. ) อยากรู้ว่ามีคนน่ารักกี่คนก็ดูที่จำนวนคนอ่านก็แล้วกันนะครับ

 

                 คำคม: อ่านเรื่องตาหลกไร้สาระ  ดีกว่าทำเรื่องมีสาระ  แต่ทำร้ายจิตใจคนโดยไม่จำเป็น

 

 

Post to Facebook Facebook


ความหมายของคำว่า “ ประชาสัมพันธ์ ” อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 16 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:10 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เรื่องตาหลก #
อ่าน: 2446

 

ตั้งใจจะเขียนบันทึกหลายเรื่อง  เตรียมข้อมูลไว้พร้อม 
               - มีเรื่องการจัดรูปที่ดินของเทศบาลนครพิษณุโลก
               - จะชวนคนไปเปิดสถานสงเคราะห์สัตว์เทศบาลนครพิษณุโลก  ( แก่นจังไปเยี่ยมเจ้าดอกคูณด้วยกันมั๊ยจ๊ะ  จะไปรับ อิอิ )

          แต่คิดไปคิดมา  เขียนเรื่องดีๆมีสาระดีกว่า  อิอิ  เรื่องนี้นู๋นิด กระบวนกรการจัดการขยะมูลฝอยโดยชุมชน ( CBM )  เป็นคนเล่าในการอบรม  เลยจำมาเล่าต่อ  นู๋นิดบอกว่าจำเขามาอีกที  ของใครก็ขออนุญาตนะครับ  แต่ผมต่อเติมจนเพี้ยนไปหมดแล้ว  55555
          ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้  จอมป่วนนั่งอ่านบันทึกใน G2K อยู่ดีๆก็วูบหมดสติไป  ยมทูตก็มารับตัวไป  เปิดสมุดบัญชีความดีความชั่ว  เป็นครั้งแรกที่มีคนที่มีความดีและความชั่วเท่ากันพอดี   เลยให้จอมป่วนเลือกว่าจะไปสวรรค์หรือนรก
          ถ้าไม่แน่ใจก็ให้ไปเที่ยวดูทั้งสองแห่งก่อน  แล้วค่อยตัดสินใจก็ได้  จอมป่วนก็เลือกไปเที่ยวนรกก่อนแล้วค่อยไปสวรรค์  จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปกลับมา  เพราะยังไงๆก็เลือกสวรรค์อยู่แล้ว  แหมได้ทัวร์นรกฟรีๆ  มีที่ไหน ?
          พอไปนรก  อ้าวเจอแต่พรรคพวกเก่าๆ   นั่งตั้งวงเหล้ากัน  มีสาวๆตรึมเลย  รูปร่าง  แต่งเนื้อแต่งตัวอย่าให้บอกเลย  มีคาราโอเกะด้วย  แอร์เย็นฉ่ำ  ก็แวะไปทักทาย  กรึ๊บสักสามสี่กรึ๊บ  กอดสาวไปสามสี่คนเอง  สุดยอดๆๆๆๆ  โดนไกด์เตือนว่าได้เวลาไปดูสวรรค์แล้ว  แหมจอมป่วนเกือบตัดสินใจไม่ไปสวรรค์แล้วเชียว  อิอิ
          พอจอมป่วนไปถึงสวรรค์  ธรรมชาติก็สวยงามดี  ลมเย็นๆแบบลมชายทุ่ง  นางฟ้าก็สวยดี  แต่เรียบร้อยซะไม่มี  แล้วจะจีบได้ไหมเนี่ย  ธรรมะธรรมโมจัง  แม่คู๊ณ  เทวดาก็มีแต่ที่สำรวมๆ  จะไหวมั๊ยเนี่ย  แกล้งถามว่ามีเบียร์เย็นๆไหม  ปัทโธ่  มีแต่น้ำผลไม้  เนื้อล่ะมีมั๊ย  ปัทโธ่โว๊ย  มีแต่ผัก  ( ขอโทษด้วยครับ  จอมป่วนระงับอารมณ์ไม่ได้ครับ )
          จอมป่วนนึกขอบใจท่านยมทูตที่ให้เลือก  ไม่งั้นก็คงตัดสินใจผิดเลือกสวรรค์ไปแล้ว  คงเสียใจไปจนวันตาย ( อ้าวลืมไปแล้วหรือว่าเรียบร้อยไปแล้ว  อิอิ )  จอมป่วนได้แต่บ่นพึมพำว่า  แหมน่าจะเลือกมาดูสวรรค์ก่อนแล้วไปเที่ยวดูนรกจะได้ไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา  นรกครับๆๆๆๆ  ใครเลือกสวรรค์ก็บ้าแล้ว  555555  จอมป่วนตัดสินใจ
          ท่านยมทูตก็ไม่ว่าอะไร  รีบพาไปตามความต้องการของจอมป่วนเลย
          พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ( อุทานเสริมบทของใครเนี่ย  ขอยืมใช้หน่อยนะครับ  )  เที่ยวนี้ทำไมมันยังงี้โว๊ย  กะทะทองแดงใบมหึมา  ต้นงิ้วครับ  ใช่แล้วครับ  ต้นงิ้วๆๆๆๆ  มีคนเอาสามง่ามทิ่มให้ปีนด้วย  ไอ้แอร์เย็นๆ  เพลงเพราะๆ   สาวสวยๆ  เหล้าบางๆเย็นๆหายไปไหนหมด   ไม่ได้ๆๆๆๆ  ต้องใช้สิทธิ์ประท้วงหน่อย  ไม่ยอมเดี๋ยวเดินขบวนซะเลยเนี่ย
          ท่านยมทูต  คนชอบวิ่ง เอ๊ย  คนชอบป่วนไม่ยอมๆ  ไม่เหมือนอีตอนมาเที่ยวชมเลย  ยังงี้หลอกลวง  ถ้าไม่จัดให้เหมือนเดิม  จะต้องฟ้องคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
          จอมป่วนที่รัก  อันแรกที่จอมป่วนเจอน่ะ  เค้าเรียกว่าการประชาสัมพันธ์นะจ๊ะ   ของจริงก็อย่างที่เห็นอยู่นี่แหละ
          จ๊ากส์ๆๆๆๆๆ   ไม่ยอมๆๆๆๆๆ   สะดุ้งตื่นมาดูบอลยูโร  พอดี   แหมๆๆๆๆเกือบไปๆๆๆๆๆ   กลัวจริงๆเชียวไอ้การประชาสัมพันธ์เนี่ย   555555

 

 

คำคม:  บางครั้งสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น   สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิด   บางครั้งสติ สำคัญสุด สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา แบบคนชอบวิ่งจอมป่วน  อิอิ

Post to Facebook Facebook


สภาพปัจจุบันของการจัดการขยะมูลฝอยของเทศบาลนครพิษณุโลก

5 ความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 15 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:56 ในหมวดหมู่ การจัดการขยะ, จอมป่วน #
อ่าน: 5146

                                                                                            

ก่อนจะเล่าเรื่องการจัดการขยะมูลฝอยด้านต่างๆให้ฟัง ก็ขอคุยให้ฟังก่อนว่าปัจจุบันการจัดการขยะมูลฝอยของเทศบาลนครพิษณุโลกมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เผื่อจะทำให้เป็นที่สนใจมากขึ้น จะได้ติดตามดูว่าเดิมเป็นอย่างไร ทำอย่างไรถึงได้ผลออกมาเป็นอย่างนี้

                                                                    

                                                                                          
           อันแรกก็จะคุยให้ฟังก็คือที่หลุมฝังกลบขยะ หลุมฝังกลบขยะของเทศบาลนครพิษณุโลกปัจจุบัน ได้งบประมาณจากโครงการเมืองหลักสมัยก่อนโน้น อยู่ที่ตำบล บึงกอก อำเภอบางระกำ ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก ประมาณ 40 กิโลเมตร พอได้รับมอบหลุมฝังกลบขยะมา ก็ทำไม่เป็น เพราะไม่เคยทำ พอดีเป็นช่วงเริ่มโครงการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนเมืองพิษณุโลกที่ได้รับการสนับสนุนจาก GTZ ก็เลยขอ ผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมันมาอบรมวิธีทำงานที่บ่อฝังกลบขยะ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำให้ปรับปรุงบ่อขยะให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย

 

                              

 

ต่อมาก็มีการศึกษากรรมวิธี การบำบัดเชิงกลชีวภาพ หรือชื่อย่อเรียกว่า MBT ( Mechanical Biological Waste Treatment ) โดยทดลองทำจริงโดยแบ่งขยะส่วนหนึ่งมาทำการทดลองเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ซึ่งปัจจุบันก็ใช้วิธีนี้ในการกำจัดขยะมูลฝอยอยู่ กรรมวิธีนี้อันดับแรกก็คือการบำบัดเชิงกล ( Mechanical ) ต้องทำการแยกขยะที่ไม่เหมาะกับกระบวนการ เช่นเศษขยะชิ้นใหญ่ๆ แบตเตอรี่รถยนต์ ยางรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ใช้แล้วและมีขนาดใหญ่ ในบางกรณีต้องใช้เครื่องบด บดเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจึงจะนำเข้าสู่กระบวนการได้ ขั้นต่อไปก็เป็นขั้นตอนชีวภาพ ( Biological ) ก็คือนำเอาขยะที่เหลือทั้งหมดมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทำการหมัก ( ขั้นตอนต่างๆเหมือนการหมักปุ๋ยทุกประการ แต่วิธีการจะเป็นแบบไม่ต้องกลับกอง เพราะมีการนำเอาอากาศเข้าไปในกองโดย มีท่อนำอากาศเข้าไป เพราะอากาศร้อนจะลอยตัวขึ้น อากาศเย็นก็จะหมุนเวียนเข้าไปแทนที่ ทางเทคนิคเรียกว่า Static Passive Aerated Method )  

 
ในการตั้งกองหมักก็จะตั้งกองบน Pallet ไม้ เพื่อให้อากาศผ่านเข้ากองขยะได้ มีการวางท่อเข้าไปในกองขยะ ท่อจะเป็นท่ออ่อนเจาะรูไว้ ( Perforate Corrugated Tube ) มีการคลุมกองหมักด้วยเศษกิ่งไม้ใบหญ้าแห้งหนาประมาณ 30 ซม. ทำหน้าที่กรองลดกลิ่น ( Biofilter ) ตั้งกองไว้ 9 เดือน ช่วงนี้จะต้องควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณออกซิเจนในกองหมัก อินทรียสารต่างๆก็จะย่อยสลายหมดและกองก็จะแห้งและยุบตัวลง เวลานำไปฝังกลบก็จะสามารถบดอัดให้แน่นกว่าเดิม ปัญหาเรื่องกลิ่นและน้ำเสียก็ลดลง สามารถยืดอายุการใช้งานของหลุมฝังกลบขยะออกไปได้ 2.5 – 3 เท่าของเดิม

                                                                             

ขณะนี้ทางเทศบาลได้มีการศึกษาทดลองร่วมกับ Ecosiam company ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทปูนซิเมนต์นครหลวง มีการนำเอากองที่อายุครบ 9 เดือนแล้ว มาร่อนเพื่อแยกเอาอินทรียสารชิ้นเล็กๆออก ส่วนนี้จริงๆแล้วก็คือปุ๋ยหมัก ( Compost ) ดีๆนี่เอง แต่เราถือว่ามีการปนเปื้อนเพราะการคัดแยกขยะของเรายังไม่ดีพอ ไม่ได้คัดแยกขยะอันตรายออกตั้งแต่ระดับครัวเรือน จึงมีการปนเปื้อนตั้งแต่ต้นทาง ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นปุ๋ยหรือนำเข้ามาใช้ในห่วงโซ่อาหาร ( Food Chain ) จึงได้นำกลับไปใช้ในกระบวนการ MBT ใหม่อีก
ส่วนที่เหลือซึ่งมีขนาดใหญ่จะเป็นเศษถุงพลาสติกและโฟมซึ่งจะแห้ง มีความชื้นต่ำและให้ค่าความร้อนสูง ได้นำไปทดลองใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตปูนซิเมนต์ เบื้องต้นทางด้านเทคนิคไม่มีปัญหา ขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนศึกษารายละเอียดของค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อเจรจากันในเชิงธุรกิจต่อไป
                    
   

ซึ่งถ้าสามารถดำเนินการได้ เหมือนที่ทำกันในต่างประเทศก็จะสามารถพัฒนาไปสู่ Zero Landfill ต่อไป กล่าวคือแทบไม่ต้องใช้หลุมฝังกลบขยะเลย ขยะที่ผ่านกระบวนการ MBT แล้ว ก็จะส่งไปใช้เป็นเชื้อเพลิงเลย ก็จะลดปัญหาการไม่มีที่ฝังกลบขยะ และเป็นการใช้ขยะมูลฝอยมาใช้เป็นพลังงานทดแทนต่อไปในอนาคต

ล่าสุด  นอกจากการศึกษาทดลองร่วมกับบริษัท Ecosiam  แล้ว  ยังได้บันทึกข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยนเรศวร  เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำวัสดุเหล่านี้ไปใช้เป็นพลังงานทางเลือกอื่นๆ  และมีบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งที่สนใจ  และขอวัสดุไปทำการทดลอง  และศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำไปใช้เป็นพลังงาน

 

 

 

Post to Facebook Facebook


นิทานธรรม - ดับทุกข์ผิดทาง อิอิ

2 ความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 15 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:51 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, ธรรมะ #
อ่าน: 2840

 

ไปศึกษาธรรมครั้งนี้ไม่ได้เคร่งเครียดมากอย่างที่คิดนะครับ  หลวงพ่อท่านมีเรื่องเปรียบเทียบ  มีนิทานเล่าให้ฟังสลับเหมือนกัน  จะเอามาเล่าให้ฟังเรื่องนึง  ดัดแปลงจากของหลวงพ่อนิดหน่อย  อิอิ

จอมป่วนปวดหัวเป็นประจำ  ทำยังไงก็ไม่หาย  ไปหาหมอ  หมอก็ตรวจหมดทุกอย่างแล้วพบว่ามีผิดปกติอยู่อย่างเดียว  คิออัณฑะกดเส้น  ทำให้ปวดหัว  ลองรักษาทุกวิธีก็ไม่หาย  หมอเลยบอกว่าเหลือวิธีสุดท้ายคือต้องตัดอัณฑะทิ้ง  จอมป่วนคิดอยู่หลายเดือน  กล่องดวงใจน่ะครับ  ไม่คิดมากได้ไง  แต่ในที่สุดก็ทนต่ออาการปวดหัวไม่ไหว  ยอมตัดอัณฑะทิ้ง

หลังผ่าตัด  หายปวดหัวก็เลยไปเดินซื้อเสื้อผ้าที่ห้างเล่น  สาวห้างนี่เก่งมากเลยครับ  เห็นหน้าจอมป่วนก็บอกได้หมด  เสื้อขนาดเท่าไหร่ ?    คอขนาดเท่าไหร่ ?  แขนยาวเท่าไหร่ ?   แม่นยำมาก

กางเกง  เอวเท่าไหร่ ?  ขายาวเท่าหร่ ?  แถมรู้ด้วยว่าจอมป่วนนี่ประเภทเสื่อผ้าขนาด M  แต่เป้า XXL  อิอิ

สาวห้างทายถูกหมดเลย  แต่ทายขนาดกางเกงในของจอมป่วนผิด ?  รึเปล่า ?  เพราะสาวห้างบอกว่า  จอมป่วนนี่แปลก  ต้องใช้กางเกงในขนาด XXL   จอมป่วนเถียงหัวชนฝาว่าผิดๆๆๆๆๆ   ผมใช้ขนาด L  เอง ( จะรู้ดีกว่าเจ้าตัวได้ไง ? )

สาวห้างเลยบอกว่าไม่ผิดหรอกค่ะ  เจอมาเยอะแล้ว   นี่ถ้าใช้กางเกงในขนาด L นะ  มันจะเล็กไป  มันจะรัดแล้วไปกดเส้น  จะทำให้ปวดหัวไม่หาย  แนะนำไปหลายคนแล้วให้เปลี่ยนขนาดกางเกงใน  หายปวดหัวทุกคนเลย  จริงๆนะ

จอมป่วนได้ยินก็เสียใจ  เสียดายเป็นอย่างยิ่ง  ……  นี่ถ้าเจอสาวห้างก่อนก็แค่ซื้อกางเกงในขนาดที่เหมาะสมใส่  ไม่ถึงกับต้องไปตัดลูกอัณฑะทิ้ง  แง…….ๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  การแก้ปัญหามีหลายวิธี  การดับทุกข์ก็มีหลายวิธี  จะเปลี่ยนกางเกงใน  หรือจะตัดลูกอัณฑะทิ้งก็เลือกเอาแล้วกันครับ  อิอิ

คำคม - เรียนธรรมะแบบเฮฮาศาสตร์ 

 

Post to Facebook Facebook


บทสรุป ธรรมสถานพระธาตุผาซ่อนแก้ว

4 ความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 15 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:44 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, ธรรมะ #
อ่าน: 1973

                                               

 

วันนี้ไปสอนหนังสือที่เพชรบูรณ์  ต้องออกไปรอรถของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามที่ปากทางเข้าสถานปฏิบัติธรรม  เพราะกลัวจะเสียเวลาเข้าออกประมาณ 20 นาที  เดี๋ยวไปสอนสาย  อิอิ

สอนหนังสือเสร็จกลับบ้าน  แวะเอาหนังสือเซียมซีพุทธไปให้ราณี  ราณีเปิดดูเห็นลายเซ็นผู้แต่งหนังสือเขียนว่า  ให้ ( ราณี )  ยิ้มแก้มแทบฉีกเลยนะ  55555

ว่างๆก็เลยมานั่งสรุปว่าไปครั้งนี้รู้สึกอย่างไร  ได้อะไรมาบ้าง  ขืนรออีก 2-3 วันคงจะลืมหมดแน่เลย

ในภาพรวม  การเดินทาง  ที่พัก  อาหาร  สถานที่  สดวกดีครับ  ไม่หรูหราแต่พอเพียง  อาหารมีกับสองอย่าง  ของหวาน 1 อย่าง  คณะได้รับอนุญาตให้ทานมื้อเย็น  ไม่งั้นแย่แน่ๆเลย  อิอิ  เป็นที่ที่ไปฝึกภาวนา  ศึกษาธรรมะครับ

กิจกรรมต่างๆที่ทางสถานปฏิบัติธรรมจัดให้ดีมากๆครับ  มองในฐานะที่จัดการอบรม สัมนาอยู่บ่อยๆ  บอกได้เลยครับว่ามืออาชีพ

คณะวิทยากร ( ทีมงานของหลวงพ่อและหลวงพี่ครับ ) ออกแบบกิจกรรมได้เหมาะสมกับกลุ่มที่ไป  มีการศึกษาผู้ที่ไปศึกษาธรรมเป็นอย่างดี  ( ฝ่ายที่ไปต่างหากที่ไม่ทำการบ้านไปเลย ประเภทไปแต่ตัวกับหัวใจ  วัดดวงเอาข้างหน้า  รวมทั้งคนชอบวิ่งด้วยครับ  เพราะกลับจากมาเลย์เซียก็ไม่ได้โงหัวเลย  เขามาอุ้มไปตอนเช้ามืดเลย )  กิจกรรมต่างๆสอดคล้อง  เหมาะสม  ลำดับก่อนหลังสมบูรณ์แบบครับ  มีทั้งการสอน  การฝึกปฏิบัติ   สอนกราบพระ เดินจงกรม  การนั่ง  การยืน  การเดิน  การนั่งกรรมฐาน  การฝึกภาวนาหรือวิปัสสนาการสนทนาธรรม  การให้ไปช่วยสร้างเจดีย์  การทำความสะอาดที่พัก  ต้องหอบที่นอนหมอนมุ้งเอง  ทานอาหารก็ต้องล้างจาน  ล้างช้อน ส้อม  ล้างแก้วน้ำเอง  กิจกรรมทุกอย่างเป็นการฝึกฝน  เป็นบทเรียนให้ถอดหัวโขน  ละวาง  ฯลฯ   ตลอดเวลาที่อยู่ก็สบายใจ  ปลอดโปร่ง  หลวงพ่อ  หลวงพี่มีความรัก  ความเมตตาที่อยากจะสอนให้เราเป็นคนดี  รู้จักแก่นแท้ของศาสนาพุธ  มีทักษะการสอน  ลำบากก็เรื่องเดียวครับ  คือตอนนั่งพับเพียบนานๆ  อายุมากแล้ว  แถมไม่ค่อยได้เข้าวัดก็เป็นอย่างนี้แหละครับ

ในด้านความรู้และประสบการณ์ที่ได้ก็มีประโยชน์มากครับ  เพราะเคยอ่านหนังสือธรรมะมาบ้าง ( แก่นพุทธศาสน์ ของท่านพุทธทาสภิกขุเล่มเดียวอ่านตั้ง 5 ปี อิอิ )  การฝึกปฏิบัติเรียกได้ว่าไม่เลย

หลวงพ่อสอนเรื่องแรกก็คือเรื่องสติ  ต่อไปเรื่อยๆจนถึงเรื่องการฝึกภาวนาหรือวิปัสสนา  ทำให้เข้าใจหลัก  ได้แนวทางการปฏิบัติ  ที่เคยอ่านเคยเข้าใจมา  บางตอนบางช่วงที่ขาดวิ่น  ไม่เข้าใจก็กระจ่างขึ้น  แต่ยังเหลืออีกมาก  ก็คงไม่รีบร้อนอะไร  หมั่นฝึกปฏิบัติไป  มีข้อสงสัยอะไรก็หาเวลาไปนั่งฟังหลวงพ่อใหม่  ไปซักถามที่ลานธรรมจักรเล็กใหม่ก็ได้

อาศัยที่ได้ฟัง อ. วรภัทร์ ภู่เจริญและได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์มาแล้วบ้าง  ได้ไปพบปะอาจารย์วิศิษย์ วังวิญญูที่เชียงราย  รวมทั้งได้มีโอกาสศึกษาจาก อ. มนตรี  เทพมือกีร์ต้าปากกามารที่สวนป่า  ไม่นับที่ได้พบปะนอนคุยกับท่ายครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์อีก  ทำให้เข้าใจสิ่งที่หลวงพ่อสอนได้ง่ายขึ้น  อาจพูดได้ว่าพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง  จริงๆนะ  ไม่ได้โม้

ได้ความรู้สึกดีๆ  ทั้งจากทีมงานของเทศบาลนครพิษณุโลกที่ไปด้วยกัน  ได้ความประทับใจจากคุณตุ้ย  คุณเชอรี่และทีมงานที่มีน้ำใจช่วยสอนการปฏิบัติให้  ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  แถมต้องเดินทางกลับบ้านค่ำๆมืดๆโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทนใดๆ  สัมผัสได้ถึงความตั้งใจ  ความเต็มใจที่ผู้คนทั้งหลายมอบให้  เป็นแรงบันดาลใจที่จะพยายามทำความดีต่อไป

ก่อนอื่นเลย  หลวงพ่อสอนให้ดูแลตัวเอง  ศึกษาตัวเอง  ศึกษาเข้าไปในตัว  และจิตของเรา

มาทบทวนดูเรื่องของตัวเองกับเฮฮาศาสตร์บ้าง  ที่สวนป่าและทีมงานเฮฮาศาสตร์ที่ไปช่วยงานกันโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทนใดๆ  ทั้งการช่วยอบรมชาวบ้าน  การอบรมนักศึกษา  การอบรมกระบวนกร  รวมทั้งการไปช่วยอบรมกันนอกสวนป่าเมื่อชาวเฮฮาศาสตร์ได้รับการร้องขอ  ก็ไม่ผิดอะไรกับที่ได้ไปเจอที่สถานปฏิบัติธรรม

นึกถีงครูบาที่เต็มใจต้อนรับคณะที่ไปเยี่ยม  พรรคพวกเพื่อนฝูง  ลูกๆหลานๆที่ไปช่วยกันเมื่อทราบข่าว  ใครถนัดด้านไหนก็ไปช่วย  ด้านการอบรมเป็นกระบวนกร  เป็นวิทยากร  ไปทำงาน  ทำความสะอาด  ล้างส้วม  ทำอาหาร  ดูแลเรื่องที่พักให้คนที่มาเยี่ยม  ทีพัก  อาหารก็ธรรมด๊าธรรมดา

นึกถึงลุงแหวง  คนตาดุแต่มีน้ำใจ  ทราบว่าครูบาหรือชาวเฮฮาศาสตร์ต้องการความช่วยเหลือก็ไม่พูดไม่จา  ทำโดยไม่บ่น ( หรืออาจบ่นบ้างแต่ไม่เคยได้ยิน อิอิ )  ทำมานานแล้ว  และคงจะทำต่อไปอีกนาน

นึกถึงอุ๊ยจั๋นตาที่อุตส่าห์เดินทางไปล้างห้องน้ำ  ทำอาหารให้พรรคพวกจะได้มีเวลาฝึกอบรมกัน  แล้วมานั่งถามเอาเองตอนดึกๆ

นึกถึงหมอเจ๊  ที่มาจากกระบี่  มาเป็นวิทยากรให้ที่สวนป่าโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทนใดๆ  แค่คิดถึงการเดินทางก็ท้อแล้วครับ

นึกถึงน้าอึ่งอ๊อบ  น้าแห่งชาติ  นั่งเครื่องบินมาลงที่ กทม.  แล้วเหมาแท็กซี่มาสตึกพร้อมกับแป๊ด  หรือตอนที่น้านั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่มาลงที่บุรีรัมย์แล้วต้องต่อรถไปสตึกอีก  เพียงแค่มาช่วยงานทุกอย่างที่ทำได้  เป็นวิทยากรก็เป็นได้ดีด้วย

เคยบอกครูบาว่าถ้าจะไล่ชื่อ  ไล่ไม่หมดเดี๋ยวท้องอืด  แต่วันนี้ขอท้องอืด  ไล่ไม่ครบครับ  ลุงเอก  อัยการชาวเกาะ  ขจิต  นายออต  สายลม  ………

คิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีครับ  ได้เจอแต่คนดีๆ  ทำให้มีแรงบันดาลใจให้ทำความดี  หลวงพ่อถามว่าอายุ 50 เศษแล้ว  คิดว่าเหลือเวลาทำความดีอีกเท่าไหร่  ไม่นับเวลากิน  นอน  ทำธุระอย่างอื่นบ้าง  จะเหลือเวลาทำความดีอีกสักเท่าไหร่  แล้วจะเริ่มทำความดี  ทำประโยชน์ช่วยเหลือคนอื่นบ้างเมื่อไหร่  ถ้ายังไม่ได้เริ่มทำเลย  จะเริ่มเมื่อไหร่  มันจะไม่สายเกินไปเหรอ ?

สรุป

ให้เริ่มสำรวจตัวเอง  เริ่มศึกษาธรรมะ  เริ่มฝึกปฏิบัติ  อาจใช้เวลาอีกนาน  แต่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้  ค่อยๆฝึกไป  ค่อยๆเรียนรู้ไป  ไม่สายเกินไปหรอกครับ

เริ่มคิดดี  ทำความดี  ช่วยเหลือผู้อื่นบ้างตามกำลังสติปัญญา  กำลังทรัพย์  กำลังกาย  แล้วจะพบกับความสุข

ย้ายบ้านมาเขียนบันทึกที่นี่  รู้สึกว่าสบายใจและอยากเขียนมากขึ้น  อิอิ

 

 

Post to Facebook Facebook


ธรรมสถานพระธาตุผาซ่อนแก้ว ( 3 )

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 15 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:41 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, ธรรมะ #
อ่าน: 4519

 

วันนี้เป็นวันที่สามที่มาที่ธรรมสถานพระธาตุผาซ่อนแก้ว   ตื่นตีสี่เช่นเคย  ไปสวดมนต์เช้า  ใส่บาตร   ออกกำลังกาย  รับประทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปฟังคำสอนของหลวงพ่ออำนาจต่อ  วันนี้พูดเรื่อง กังขา สอนให้เข้าใจ  หายสงสัยข้อสงสัยต่างๆ    ดับทุกข์อย่างไร ตายแล้วไปไหน ?

 

แล้วก็ปล่อยให้ไปช่วยกันสร้างพระเจดีย์  ช่วยกันแต่งผนังน่ะครับ  เป็นการปฏิธรรมไปด้วยในตัว  หลวงพี่บอยคอยให้คำแนะนำครับ

 

อาจารย์สอนได้ผลดีมากครับ  ตอนกลางวัน  ระหว่างรับประทานอาหารกลางวันก็มีการสนทนากันหลายเรื่อง  เช่น  ตายแล้วไปไหน ?  ….. ?   แสดงว่าที่เรียนมาเข้าใจดีมาก อิอิ

 

ตอนบ่ายก็ไปช่วยสร้างเจดีย์ต่อ   ห้าโมงเย็นก็ไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่ออำนาจต่อ  ก็มีการถามคำถามอีกครั้งว่า  ตายแล้วไปไหน ? ….?    อาจารย์เลยแถมให้  ด้วยการมานำการทำสมาธิ  และวิปัสสนา  หลังสวดมนต์เย็น  ท่านอาจารย์บอกว่าจะวาดรูปมอบให้เทศบาลนครพิษณุโลก 1 รูป  เพื่อเตือนใจให้ชาวเทศบาลนครพิษณุโลกไฝ่ศึกษาธรรมะ  และฝึกภาวนาต่อไปด้วยครับ

 

ขอตัวนอนก่อนเช่นเคย  เพราะต้องตื่นนอนต่สี่เช่นเคย  และพรุ่งนี้ต้องไปสอนที่เพชรบูรณ์ด้วยครับ  อิอิ

 

เข้าใจอะไรๆมากขึ้น  แต่คงต้องฝึกปฏิบัติอีกนาน  แถมคงต้องหาเวลาไปสอบถาม  เรียนรู้จากหลวงพ่อ  หลวงพี่บ่อยๆครับ

 

Post to Facebook Facebook


ธรรมสถานพระธาตุผาซ่อนแก้ว ( 2 )

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 15 กรกฏาคม 2008 เวลา 11:26 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, ธรรมะ #
อ่าน: 2275

 

วันนี้ตื่นตีสี่  สวดมนต์เช้าตอนตีห้า  แล้วใส่บาตร  ออกกำลังกาย  ทานอาหารเช้าแล้วก็เริ่มการอบรมตอนแปดโมงเช้า  หลวงพ่ออำนาจท่านเมตตามาสอนเรื่องของ  สติ  สัมปชัญญะ  หิริ-โอตัปปะ  และการภาวนา  วิปัสสนาต่อ

ติดตามด้วยหลวงพี่โอ๋  มาช่วยแนะนำ  แนวทางการปฏิบัติ

ตอนบ่ายหลังจากจบชั่วโมงของหลวงพี่โอ๋  คณะของเราก็โชคดีอีกเช่นเคย  ได้ทีมงานของคณะเต้าเต๋อ ( มวยจีน ) เทศบาลนครพิษณุโลก  ซึ่งจะยกทีมมาปฏิบัติธรรมเป็นประจำช่วยเป็นวิทยากรฝึกปฏิบัติให้อีก  คุณเชอรี่ซึ่งนำทีมมาบอกว่าเป็นบุญสัมพันธ์ทำให้ได้มีโอกาสเช่นนี้

ทางทีมวิทยากรก็เริ่มด้วยการนอน ( Body Scan )  ต่อด้วยการนั่งวิปัสสนา  การยืน  และการเดิน

พอห้าโมงเย็นก็มีโอกาสได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่ออำนาจอีกครั้งหนึ่ง  ก็ทำให้กระจ่างขึ้นในหลายๆประเด็น  ที่สำคัญหลวงพ่อสอนว่า  บางเรื่องเป็นเรื่องของการปฏิบัติให้เรียนรู้เอง  เข้าใจเอง  เป็นเรื่องของความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้  อิอิ

ทานมื้อเย็นเสร็จ  ก้ต้องไปสวดมนต์ตอนเย็น  วันนี้หลวงพี่บอยมานำสวด  หลวงพี่บอยเพิ่งลงจากการไปบำเพ็ญภาวนาในถ้ำบนหน้าผาสูงชันนานถึงสามวัน  กลับลงมาตอนบ่ายๆก็ต้องมาช่วยแนะนำพวกเรา

คณะของเราชอบหลวงพี่บอยมากๆ  เพราะใจดี  เป็นกันเอง  สอนสนุกมากๆ  เข้าใจง่าย  แล้วถึงจะนำสวด  สวดสั้นๆ ( ชอบตรงนี้ด้วยครับ )   ไม่นานครับ

นี่ก็ต้องรีบเข้านอน  เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสี่อีกแล้ว  อิอิ

 

Post to Facebook Facebook



Main: 0.21847105026245 sec
Sidebar: 0.041002035140991 sec