จดหมายรักจากสวนป่า

อ่าน: 1906

เรียน อาจารย์คุณหมออุ๊ ที่นับถือ

ผมก็มีชื่อเล่นเหมือนคุณหมอนั่นแหละ แปลกๆแท้ๆ ยังนึกขำๆ จะต้องเขียนว่า..เรียนคุณหมออุ๊ จากคนชื่ออุ๊ เป็นอุ๊ยกกำลัง2 งานนี้จึงกลายเป็นการผนึกกำลังของคนชื่ออุ๊กับมิตรสหาย ที่จะได้มาช่วยกันบรรเลงจัดค่ายฤดูร้อนนิสิตแพทย์จุฬาฯให้เทิดเทิง

พี่น้องครับ ผมไปรับโพยมาเมื่อคราวไปงานปัจฉิมโอวาทนักศึกษาแพทย์จุฬาที่ชลบุรี ปีนี้คณะอาจารย์และนักศึกษาจะมาเข้าค่ายที่สวนป่าในวันที่ 4-8พฤษภาคม 2555 จำนวน 40 ชีวิต ผมลงรายการไว้ให้นานแล้ว เกรงว่าจะไปชนตูม! เข้ากับคณะอื่น.. ตามธรรมเนียมของชาวเฮ ใครจะไปจะมาผมก็มองหาตัวช่วย ประกอบกับคุณหมออุ๊ก็ตามประชิดถามถึงวิทยากรในรอบนี้มีใครบ้าง ..จะได้ทำหนังสือเชิญไปถึงเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ ผมได้เกริ่นเรื่องนี้บ้างแล้วเมื่อจัดงานเฮที่ผ่านมา และได้เอ่ยมธุรสวาจาผ่านลานปัญญายั่วเย้าขาเก่าเจ้าประจำ
ปรากฎว่าได้ผลแฮะ

มีบางคนสมัครใจทิ้งรายการไปเที่ยวพักร้อนต่างประเทศเฉยเลย
เพื่อความแน่ใจ..โยนหินถามทาง..
ท่านใดจะมาร่วมวงประจงจิตกับค่ายฤดูร้อนคราวนี้บ้าง
เอามือลง..ขอให้ออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว
ขอนับละนะ

1 นายแพทย์สุธี ฮั่นตระกูล
สำนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก
อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000

2 ผศ.ดร.จันทรรัตน์ เจริญสันติ
กลุ่มพยาบาลสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
(เรียนคณบดี คณะพยาบาลศาสตร์)

3 นางสาวสมพร พวงประทุม
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
(เรียนคณบดี คณะเภสัชศาสตร์)

4 อาจารย์ดวงพร เลาหกุล
อาจารย์อาราม อู่ทอง
โรงเรียนมงคลวิทยา
อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน 51000
(เรียนผู้อำนวยการโรงเรียนมงคลวิทยา)

5 แพทย์หญิง ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์
โรงพยาบาลกระบี่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000
(เรียนผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่)

6 นายตฤณ ตัณฑเศรษฐี
มูลนิธิโอเพ่นแคร์
ชั้น 11 อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ
อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

นอกจากท่านดังกล่าวแล้ว ผมขอฝากอีกาคาบข่าวไปถึงอาจารย์ไร้กรอบแห่งนาซา ท่านบางทราย อัยการชาวเกาะ อาว์เปลี่ยน ที่ชาวลาวเรียกว่า ปา-ลี-ยอง-ป้าหวาน หมอเบิร์ด ..ยังมีสมาชิกกลุ่มอีแอบกระดี๊กระด๊าจะมาสมทบตามวาระจรอีกไม่น้อย พวกนี้เป็นนางอายไม่ยอมให้เอ่ยนามตามท้องเรื่อง แต่ตั้งใจมาอย่างดุดันแน่ ถึงเอาลวดหนามล้อมก็แหกด่านเข้ามา เพื่อความไม่ประมาท

อาจารย์หมอเตรียมเข็มมาด้วยนะครับ ถ้าจับฝังเข็มอาการหวือหวาน่าจะสงบลงได้

ส่วนผมต้องการตรวจหูเช่นเคย พักนี้หูชอบหาเรื่องครับ

พวกแซ่เฮนี่ร้อนวิชาทั้งนั้นละครับ ชวนเข้าป่าเข้าดงจึงสนใจกันไม่น้อย ส่วนเนื้อหาสาระและกิจกรรมได้คิดไว้บ้างแล้ว วิทยากรเจ้าเก๋าส์มองตาก็รู้ใจ รู้ทิศทางกันอยู่แล้ว คงจะมีอะไรดีๆมาฝากลูกหลานนักศึกษาไม่น้อย

กิจกรรมยามค่ำคืนบ่ต้องห่วง ร้อนๆอย่างนี้จะมีอะไรดีกว่าเอาฟางมาปูแล้วนอนดูดาว แต่เชื่อเถอะ..รายการแย่งไมค์ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี ในเมื่อมีนักรักเต็มป่าออกอย่างนั้น ถ้าได้อาจารย์Handy มาบริหารไมค์ละหัวใจผะผ่าวแน่ คอยดูทีท่านักร้องแหบเสน่ห์แย่งไมค์กันก็ชื่นมื่นแล้ว ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือที่ควรเตรียมมา อย่าลืมกล้อง โน็ตบุกค์ และรอยยิ้ม
ตอนนี้เรามีWIFI.ให้ทำการบ้านสะดวกแล้วนะครับ ขอบอก

ช่วงนี้เรากำลังสร้างหมู่บ้านโลก นอกจากจะพาเดินชมแล้ว ยังจะจัดเรื่องเล่า..ว่าหมู่บ้านทะลุโลกเป็นยังไง มีองค์ประกอบอะไรบ้าง คงยกหน้าที่นี้ให้ท่านรอกอดส์เจ้าของต้นเรื่อง ส่วนผมจะชวนคุย:เรื่องผ่าแตงโม, :เรื่องหัวอกของแพทย์ชนบท..อยู่ไหนอยู่ได้ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ แถมยังอยู่สบายถ้ารู้วิธีเข้าไปนั่งอยู่บนตักของชาวบ้าน

ยังมีเรื่องสนุกอีกเยอะ เช่น ทำอาหารด้วยเตาดาโคต้า ตอนนี้พัฒาการขึ้นเยอะแล้วนะครับ นอกจากหุงข้าวหม้อดินสะดวกกว่าเมื่อก่อนแล้ว ยังทำไก่อบโอ่ง ปลาเผาน้ำพริกหนุ่ม ซุปผักสดบันลือโลก เมี่ยงคำของโฉมยง เมนูสลัดสดๆที่ไปเดินตัดฉับๆมากับมือ ส่วนของหวาน นอกจากผลไม้ ยังมีน้ำปั่นมะสังสูตรพิเศษ ให้ชื่นชิมสลายความร้อนยามบ่ายดีนักเชียว หมู่นี้มะตูมหล่นเต็มสวน จะนำเสนอมะตูมไข่หวาน และชวนทำขนมครกตอนเช้า

อนึ่ง ก่อนหน้าจะถึงรายการนี้
จะมีคณะเครือญาติจากFB.ของผมมาเยี่ยมยาม
หลายคนเป็นนักชิมระดับอึ้งกิมกี่อยู่แล้ว
เราก็จะพากันซ้อมใหญ่เมนูเด็ดสักรอบสองรอบเป็นการนำร่อง

ส่วนวันงานจริงมีวิทยากรมาจากต่างภาคอยู่แล้ว
คงได้แสดงเสน่ห์ปลายจวักกันอย่างหวือหวา
ถ้าเป็นไปได้ผมจะให้ไอ่ตาหวานมาทำอาหารอินตะละเดียโชว์

ในงานเฮที่ผ่านมา..คุณหมอจอมป่วนจะโชว์ทำกับข้าวให้สนั่น
อุตส่าห์รอดูกัน
ไอ่เราก็นึกว่าท่านเที่ยวไปบรรยายมาทั่วโลก น่าจะมีเมนูเด็ดๆ
สุดท้าย ..กลายเป็นไข่เจียว โธ่ๆๆ


สงกรานต์บ้านกระต๊อบ

อ่าน: 4112

ปีนี้ โชคดีที่มีกระต๊อบใหม่ มาให้อาศัยหลบลมร้อนพักผ่อนกายใจ นั่งๆนอนๆทำงานไปท่ามกลางเสียงนกร้องเพลงตามสุมทุมพ่มไม้ มีแดดบ้าง ลมบ้าง ใบไม้บ้างมาเยือน มีมดดำเป็นผู้คุมกฎความสกปรก ถ้ามีกลิ่นอาหารกลิ่นอร่อย มดยกทัพขบวนยาวเฟื้อยมาทักทายทันที
แสดงว่า..
เพื่อนร่วมโลกไม่ต้องการให้เรานำสิ่งแปลกปลอม
มาทำความแปดเปื้อนพื้นที่ๆเราอยู่ร่วมกับเขา
เราจึงควรจะอยู่อย่างสะอาด สงบ เรียบร้อย แช่มช้อยแต่พองาม
เดินเบา หายใจเบา เอ๊ะยิ้มเบาๆด้วยสิ..

คืนนี้ออกมานอนครั้งแรก
เปิดไฟทำงานอ่านหนังสือ..สักพักแมลงจะบินมา
เขาคงมาดูว่า..มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ทำไม!! ที่นี่สว่างจัง.. จึงมากันบินมาตอมไฟ
บางคนเข้าใจว่าแมลงชอบเล่นไฟ..จริงรึ!
แมลงอาจจะบินมาเพื่อหาวิธีลดแสงสว่างลงก็ได้นะ

ไม่เป็นไรเพื่อนเอ๋ย ..ปิดไฟก็ได้ ..
นั่งเงียบๆท่ามกลางแสงเดือนหรุบหรู่ ฟังเสียงนกเพรียกไพร เป็นอะไรหรือเจ้านกน้อย นอนเหงาเปล่าเปลี่ยวหรือไร จึงส่งเสียงเว้าวอนอยู่ทั้งคืน นั่งไปสักพักชักจะสะลึมสะลือ เอาผ้าขาวม้ามาปู หยิบผ้าห่มมาคลุมขาถึงหน้าอก พื้นที่นอนจำกัดแค่ตัวเอนนอนได้ ..นึกไปถึงว่า..วาระสุดท้ายคนเราก็ต้องการพื้นที่แค่กว้างศอกยาววาเท่านั้น
แต่เมื่อยังมีลมหายใจอยู่นี่ละ..มนุษย์เราต้องการพื้นที่ดำรงชีพมากน้อยเท่าใดถึงจะพอดี คนเมืองอาจจะต้องการห้อง/โต๊ะทำงาน คนป่าอาจจะต้องการพื้นที่เพาะปลูกบ้าง ซึ่งถ้าทำอย่างประณีตและเข้าใจ มีวิชาความรู้ที่จะอยู่จะทำในพื้นที่นั้นๆอย่างมีคุณภาพ คนเราก็ไม่ได้ต้องการที่ดินมากมายอะไรหรอก

ถ้าเป็นผม..มีที่ดิน 5 ไร่ก็มากไปแล้ว
แค่ปลูกผัก1ไร่ ก็ทำแทบไม่ไหวแล้ว
ต้องปลูกไม้ผล ไม้ผักยืนต้น เพื่อจะไม่ต้องปลูกบ่อยๆ
เป็นการบริหารการทำงานให้น้อยลงไปส่วนหนึ่ง
พื้นที่ๆเหลือปลูกผักล้มลุก ผักตามฤดูกาล ไม้ดอกไว้ชื่นชม
แทรกกระถาง/ถุงเพาะชำต้นไม้/แปลงเพาะกล้าไม้ ในที่ว่าง
แค่นี้ แค่นี้จริงๆ ก็อยู่ได้อย่างเรียบง่ายปกติสุข

ถ้าโลภมาก ต้องทำมาก เหนื่อยมาก
จะเหลือเวลาที่ไหนเอามาดูแลตัวเอง จะเอาเวลาที่ไหนมาพักผ่อน
จะมีเวลาที่ไหนไปเรียนรู้ไปใคร่ครวญ
ในเมื่อสาละวนอยู่กับความต้องการที่ไม่มีวันจบ

อยู่กระต๊อบแล้วรู้สึกดี อยู่ในที่น้อยๆ ง่ายๆ ตอกตะปูแขวนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้บ้าง กระต๊อบไม่มีตู้เตียง ไม่มีชั้นเก็บของ ก็ไม่ควรมีมีภาระให้มากมาย คำว่าเสื่อผืนหมอนใบยังมีเสน่ห์ถ้าเราใคร่ครวญ เปลี่ยนตัวเองมาชื่นชมวิธีอยู่วิธีทำที่ไม่ต้องมีสมบัติรุงรังนี่ดีจังเลย มีหม้อหุงข้าวเล็กๆ มีหม้อไฟฟ้าสีแดงที่ใช้นึ่งข้าว ผัก ไข่ ไปพร้อมกัน มีพัดลมตัวน้อยไว้คอยเพิ่มกระแสลมยามบ่าย มีกระติ๊กน้ำร้อนไว้ชงชา อ้อ! มีโน๊ตบุกส์ มีWIFI.ก็สุดหรูแล้ว

เทียบกับเมื่อก่อน ที่นี่ไม่มีอะไรเลยเราก็อยู่มาแล้ว ผ่านมาแล้ว
ปัจจุบันสิ่งที่มีที่สมทบเข้ามามากขึ้นๆ..
มากไปก็เป็นภาระ..เดี๋ยวมด แมลง ปลวก ก็จะมาประท้วงอีก
ความพอดีพอเพียงเป็นวินัยกำกับกิเลสเราเหมือนกันนะเธอ
ชีวิตที่พอดี เดินอยู่สายกลางของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน
ของใครของมันออกแบบกันให้ลงตัวลงใจเถิดนะ

มีแฟนหลายคนไม่ดี ถูกมองว่าหลายใจ
แต่ถ้ามีเพื่อนมากมาย..เพื่อนที่รู้ใจ
เพื่อนที่รักและไว้วางใจได้ ..มีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีใช่ไหมละเธอ

อุ้ยจันตา..บอกว่า..
วันไหนเศร้าเพื่อนก็เล่าเรื่องให้หัวเราะ
วันไหนอกเดาะ..ก็มีอกให้ซบสะอื้นไห้

สงกรานต์..คนไกลขอส่งกระแสใจมาถึงเพื่อนทุกคน
ขอให้ชีวิตชุ่มเย็นเหมือนน้ำฝนที่โปรยปราย
หล่นไปตกตรงไหนความชุ่มชื่นงอกงามเขียวระบัด
ชีวิตยิ้มชื่น ผ่อนคลาย หัวเราะได้ ก็พอแล้ว
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด..
จงคอมเมนท์ บ้างเถิด ..
คิ คิ..


โลกในความคิดคำนึง

อ่าน: 1271

__++

เกือบไปแล้วไหมละ ต่อๆไปมนุษย์เราก็จะเผชิญกับจุดใจหายใจคว่ำมากขึ้น วิกฤติโลกที่ยากจะป้องกันหรือต้านทาน ที่มนุษย์ยังแก้ไม่ตกก็คือภัยพิบัติจากธรรมชาตินี่แหละ มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ช่วงที่โลกค่อยๆเย็นลงมันคงเกิดการหดตัว หลายแสนปีแล้วก็ยังไม่นิ่งไม่อยู่ตัว วันดีคืนดีมันก็บิดขี้เกียจ พวกมนุษย์ก็พล่านกันสิครับ เมื่อก่อนอาจจะหลายร้อยหลายพันปีเปลือกโลกลุกขึ้นมาเขย่าครั้งหนึ่ง เดี๋ยวนี้บ่อยขึ้นเพราะน้ำมือมนุษย์นี้แหละ ที่ชอนไขโลกจนเสียศูนย์ ตั้งแต่เราใช้น้ำมัน เราสูบของเหลวจากพื้นพิภพเป็นจำนวนเท่าไหร่ เทียบกับแม่น้ำใหญ่ๆได้กี่สาย ดูดเอาของเหลวจากส่วนลึกระดับนั้น..มีอะไรเข้าไปแทน รึปล่อยให้มันเป็นโพรงว่างเปล่า

เปิดพื้นที่ให้เปลือกโลกขยับ
ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ..
ส่วนด้านบนพื้นภิภพเล่า..สร้างเขื่อนสร้างตึก ระเบิดภูเขา
เปลี่ยนแปลงเปลือกโลกผิวนอกไม่แพ้การเจาะพรุนด้านใน
ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการอาศัยอยู่บนโลกในนี้แบบโง่ๆ
มีสรรพสัตว์ชนิดไหนบ้างที่ทำลายโลกใบนี้ได้เท่ามนุษย์

แล้วยังทะลึ่งสถาปนาตัวเองว่า..เป็นสัตว์ประเสริฐสัตว์ชั้นสูง!
เป็นได้จริงๆหรือในเมื่อโง่วายป่วงอย่างนี้

ถ้ามนุษย์เรียนรู้จากธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ความพอดีพองามในสังคมโลกมนุษย์จะดีกว่านี้มาก คนยุคก่อนเขาคิดได้นะ เขามองเห็นธรรมชาติเป็นผู้มีพระคุณ เปรียบเสมือนมารดา แม่คงคง แม่โพสพ ในเบื้องต้น ต่อมาก็แปรเปลี่ยนเป็นแม่แปลกสาแหรกไปต่างๆนานา แม่ยก ไม่รู้ยกอะไร คล้ายแม่แรงรึเปล่า

เขียนขยักไม่ให้เครียดไปอย่างนั้นเอง สรุปว่าวิกฤติกิเลสยากที่พวกหัวเดียวกระเทียมลีบจะไปทำอะไรได้ เมื่อความคิดโลกมันจมดิ่งไปปานนั้น สิ่งที่พวกพอจะมีสติอยู่บ้างคิดทำ ก็คงเป็นการช่วยกันเหยี่ยวยาธรรมชาติเท่าที่จะทำได้ ดีกว่างอมืองอเท้าทำตาปริบๆ และการเข้ามาช่วยกันทะนุบำรุงธรรมชาติ ก็เท่ากับได้กล่อมเกลาจิตใจของตนเองไปด้วย

“คำว่าธรรมชาติบำบัดนั้นมันตีความได้กว้างไกลไปถึงจักรวาลโน่น”

เรื่องเหล่านี้เป็นบุญเป็นกุศลที่ได้รับตรงๆ
ปลูกมะม่วงมันไม่ออกลูกเป็นซองมาม่าหรอกนะเธอ
คนเราเกิดมามีเวลาไม่มากนัก
กว่าจะผ่านวัยเด็กมาถึงวัยทำงานก็ลองคิดดู
จะมีเวลาทำงานเต็มที่ได้กี่ปี
หลังจากนั้นสังขารก็ถดถอย
ถึงทำงานก็คงจะทำได้ไม่เต็มที่เหมือนวัยกลางคน
แต่ถ้าทำการบ้านมาดีแต่ต้น
ยามถึงวัยบ่ายคล้อย..ธรรมชาติก็จะดูแลตอบแทนเรา

สิ่งที่มนุษย์ต้องการคงจะไม่เหมือนกันทั้งหมด
แต่ก็มีหลายส่วนที่ต้องการตรงกัน
เช่นเรื่อง อากาศ อาหาร อารมณ์ อนามัย ที่ปกติสุขและปลอดภัย
และยังมีเรื่องอื่นๆที่นับล้านเรื่องที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นมา
ปัญหาคือเราไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ถ้าค่อยๆคิดค่อยๆทำที่ละเล็กละน้อยตามลำดับ
เราก็จะไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากคร่ำครวญถึงปัจจัยต่างๆ

สุดท้ายก็คิดว่า..ตนเองผ่านวาระที่จำเป็นนั้นมาแล้ว หมดโอกาสแล้ว จำยอมรับสภาพ หมดกำลังใจ ที่จะคิดจะทำอะไร สุดท้ายจิตใจก็ห่อเหี่ยว อยู่ไปวันๆอย่างซักกะตายไปยังงั้นเอง อยู่อย่างพลุกพล่านและฟุ้งซ่าน คงคิดจนเซ็งด้านไปหมดแล้วละมัง ในทุกครั้งที่มานั่งเป็นไอ่เบื้อหลังพวงมาลัยรอไฟเขียว

ชีวิตคนเรานี่นะติดไฟแดง
ถ้ามดแมลงพูดได้..มันคงหัวเราะเยาะจนฟันโยก
เพราะชีวิตของสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกนั้นไม่ต้องติดต้องรออะไรเลย
ไม่ใช่เพียงแค่ติดไฟเขียวนี้หรอกนะ
ชีวิตของเธอยังติดโน่นติดนี่พะรุงพะรังรอบตัวและรอบใจ

ลองถามตัวเองดูสิ..วันนี้เธอติดอะไร
บางคนอาจจะตอบว่าติด FB. ติดกาแฟ ติดเกมส์ ติดทีวี ติดๆๆ
ถ้าให้ดีช่วยกันต่อให้ติดกับธรรมชาติเถิด
แล้วเธอจะรู้ว่าธรรมชาติไม่ธรรมดา
มีความลึกซึ้งกว่าที่เคยรู้สึกและเข้าใจมากกว่าที่เคยรับรู้
ลุกมาพร่ำกลางดึกก็ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจบ้างไหมหนอ

โลกได้ตักเตือนแล้ว..ในชีวิตเธอจะต้องซ้อมรับความเสี่ยงเป็นระยะๆ
ตอนนี้เธอกำลังเสี่ยงอะไร เสี่ยงทาย หรือเสี่ยงเซียมซี
ใบที่ 16 ..บ่งบอกว่า..
อ่านเรื่องใดๆแล้ว..ควรจะคอมเมนท์กลับมาบ้าง
แคว๊กๆ


ฐานกาย ฐานใจ ไปไหนมา?

อ่าน: 1387

ฐานกาย-ฐานใจ เรื่องนี้พระอาจารย์ไร้กรอบนำเสนอไว้อย่างน่าสนใจ ท่านจัดรายการกระทุ้งใจในวงน้ำชาในสื่อในหนังสือและในห้วงคิดคำนึงของลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอ รวมทั้งผมด้วยแหละ ซึ่งถูกยั่วยวนให้คิดต่อตามประสาของคนป่า ที่มองจากป่าออกไปข้างนอก มองแบบคนป่าด้วยนะ ผิดถูกไม่รู้ละ

..ถ้ารู้แล้วเราจะมาเรียนทำไมละครับ ?

ผมไม่กลัวความไม่รู้และความโง่ของตัวเอง

โง่เรื่องอะไรโง่อย่างไรก็โพทะนาไปทั่ว

ให้ใครๆได้ยินได้รู้..เขาจะได้เมตตามาอุปการะความรู้

นี่คือสิ่งที่ฐานกายส่งออกไป..ประกาศว่าไอ่หมอนี่มันไม่ประสีประสาอะไรหรอก

โปรดอย่าเกรงใจ..อยากจะสั่งจะสอนอะไรก็อัดมาเต็มที่เล๊ย

นี่คือทางออกทางปฎิบัติที่ดีของคนโง่อย่างผม

ทำตัวให้เป็นผู้เรียน พร้อมเรียน แสดงออกว่าเรายังเป็นนักเรียน

การเป็นนักเรียนที่ดีอย่าไปมากเรื่อง เปิดหู เปิดตา เปิดใจ

ถ้าเปิดไม่เป็นบอกมา..

จะเอาเครื่องเปิดกระป๋องไปเปิดให้..

อย่าไปเสียเวลาวางท่า..อย่าไปวิตกกังวลกับการถูกคนอื่นมอง

ห้ามความคิดคนมองได้ที่ไหนละ ..อย่าไปเสียเวลาตรงนั้น

บางคนห่วงเรื่องภาพพจน์ เรื่องนินทา เรื่องซุบซิบ

แหม..การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนอีโต้มาโย้หัว

ไม่ต้องระแวดระวังกลัวว่าคนอื่นจะว่าเราไม่รู้ เราไม่ฉลาด จึงอมภูมิ

อมไปทำไมครับ.? อมยิ้มไม่ดีกว่ารึ! 

อยู่กับความจริงได้จะสบายไปสิบอย่าง

อย่างที่1 คิดถูกคิดดีคิดจากฐานความเป็นจริง

อย่างที่2 รู้ตัวเองว่าเจ้าเป็นไผ อยู่กับความรู้อะไร มีกึ๋นพอแล้วหรือยัง!

อย่างที่3 เจ้าพาตัวเองเรียนเรื่องอะไร เพื่ออะไร

อย่างที่4 เจ้ามีวิธีเรียนอย่างไร

อย่างที่5 เจ้ามีครู มีเพื่อน มีตัวช่วย มีคนอุปการะความรู้มากไหมพอไหม?

อย่างที่6 เจ้าเรียนเชิงรับและเรียนเชิงรุกในสัดส่วนเท่าใด

อย่างทึ่7 เจ้ารู้แล้ว เจ้าใช้ความรู้ได้มากน้อยแค่ไหน ใช้ไปในลักษณะใด

อย่างที่8 กายกับใจเจ้าตั้งอยู่บนฐานปกติหรือยังแกว่ง

อย่างที่9 เจ้ามีความรู้เพียงพอที่จะบริหารชีวิตและสังคมแล้วหรือยัง

อย่างที่10 กาย/ใจ ของเจ้าแข็งแรงพอที่จะลุยแล้วหรือยัง

กายผมอยู่ในป่า ใจผมอยู่บนท้องฟ้า คนอยู่ป่าก็คิดๆๆและคิดสิครับว่า..จะเอาความรู้อะไรมาเสริมสร้างพื้นที่ๆตนอยู่อาศัยให้ดีขึ้นสมบูรณ์ขึ้น ไม่ใช่ไปอยู่ตรงไหนทำให้มันเสื่อมลงๆ  แล้วก็สาละวนแก้ปัญหาที่ตนเองสร้างมันขึ้นมา อยู่ที่ไหนไปทำเรื่องติดลบที่นั้น แบบนี้ชีวิตมันก็ทุเรศทุรังนะสิ คิดบวกเป็นไหม ติดเครื่องหมายคูณให้ชีวิตได้ไหม เครื่องหมายลบเครื่องหมายหาญค่อยๆใช้ลดลง สมัยที่เรียนสอบตกวิชาคำนวณ โตมาก็เรียนชดเชยได้นี่เธอ..

..ถามตัวเองสิว่า..ชีวิตนี้ต้องการมีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร? กายใจเราต้องการสิ่งใดบ้าง ปัจจัย4ใช่ไหม? ปัจจัยรองปัจจัยเสริมควรมีอะไร ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ต้องการสิ่งใดเป็นอย่างน้อย แล้วเราสนองสิ่งนั้นได้แค่ไหน ใคร่ครวญวางแผนชีวิตไว้อย่างไร ทำตามที่ออกแบบในใจไว้ได้หรือไม่ ในความฝันใฝ่มีความจริงอยู่กี่%

หลายท่านอาจจะคิดว่าไม่พร้อมไม่สะดวกไม่ๆๆๆและไม่โว้ย !

อันนี้ก็ไม่ว่ากัน..มันขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง

แต่ถ้าหัวใจเสริมใยเหล็ก..มันจะละลายอุปสรรคได้หมดสิ้น

ความแข็งแกร่งของจิตใจนั้นสำคัญนัก

ไม่มีสิ่งใดในโลกแข็งเท่า

ถ้าเอาแต่คิดเยาะแยะวันนี้จะได้เล่นFB. หรือชวนกันไปย่ำดวงจันทร์รึเธอ..

ถ้าไม่มีทุนใจสะสมมากพอมันก็จะกลายเป็น..แข็งใจ ฝืนใจ ปีนเกลียวใจ

อานุภาพของจิตใจไม่เพียงพอที่จะเป็นพลังให้เดินหน้าต่อยอดเรื่องหนักๆและสำคัญได้

เราจะเห็นว่าศาสดาของโลก..ล้วนแล้วแต่เป็นนักผ่าตัด ผ่าหมาก เรื่องเป็นเรื่องตายของมนุษยชาติทั้งสิ้น ท่านมองว่า..มนุษย์มีกิเลสเป็นตัวหล่อเลี้ยงความเป็นไปของพลโลก ถ้ากำกับความคุมกิเลสได้พอสมควร สังคมมนุษย์ก็อาจจะพอประคับประคองอยู่กันไปได้ แต่ถ้าศาสนาเอากิเลสไม่อยู่ โลกนี้ก็จะปึงปังโครมครามเกิดสงคราม เกิดวิกฤติที่จนวิบัติรุนแรง สร้างความทุกขเวทนาไปทั่วโลก

โลกไม่เคยว่างเว้นปัญหาที่เกิดจากกิเลส

ถ้าไม่มีปัญญาพอฟัดพอเหวี่ยงกับวิกฤติปัญหาอาการก็น่าเป็นห่วง

ปัญญาที่ว่าอยู่ที่ไหน? อยู่กับใคร อยู่อย่างไร?

ที่น่ากลัวปัญญายุคใหม่ส่วนใหญ่ไม่บริสุทธิ์

มักจะปนเปื้อนกิเลสแทนที่จะเป็นสีขาวก็เป็นสีเทา

ดูง่ายๆ..คนที่คิดอะไรได้ก็จะจดลิขสิทธิ์ บวกค่าความคิด เอาเปรียบเพื่อกอบโกย

นี่ถ้าพระพุทธเจ้าจดลิขสิทธิ์ ..จะเกิดอะไรขึ้น

  • โลกตะวันตกคิดแต่เรื่องสนองกิเลส
  • โลกตะวันออกคิดเรื่องกำกับควบคุมกิเลส
  • ปัจจุบันเทคโนโลยีล้ำยุคกำลังดึงแนวคิดทั้ง2ฝ่ายนี้มาเผชิญกัน

ไอสไตน์มองว่า..ความรู้ที่มนุษย์มีอยู่ตอนนี้ไม่เพียงพอที่จะสร้างสันติภาพสันติสุขให้โลกใบนี้ได้ เท็จจริงอย่างไร ท่านก็มีสมองคิดเองได้ประมาณการได้ใช่ไหมเล่า

ไม่ใช่เอาสมองไปซ่อนไว้ในหมวกกันน็อค!

แล้วไม่ยอมคิดอะไร?

ถ้าเป็นอย่างนี้..ก็ไม่ทราบว่า..จะป้องกันก้อนสมองโง่ๆไว้ทำไม?

แหม..จัดหนักไปหน่อย..เรื่องอย่างนี้เขียนยาวก็ไม่ดี

เอาไว้อ่านต่อก๊อก 2 ภาคบ่ายดีไหมครับ?

เอ้อ..จะอ่านให้มันส์ๆก็ควรคอมเมนท์แทรกความคิดเห็นมาบ้าง

ปล่อยให้คนป่าพล่ามเหมือนผีบ้า..เดี๋ยวผีก็มาหลอกจริงๆหร๊อก..

อิอี  อิอี..


ผ่าง ผ่าง ประกาศ และประกาศ

อ่าน: 1515

 

ต่อไปนี้พ่อใหญ่อุ๊จะแถลงข่าว

พ่อใหญ่ลีดังเพราะตีกลองประชุม พ่อใหญ่อุ๊จะขอตีเกราเคาะFB.บ้างนะขอรับ

เรื่องที่จะขออนุญาตทำการประชุมญาติโกโหติกาทั้งหลาย ก็คือการเปลี่ยนแปลงในการเขียนบันทึกให้ไฉไลกว่าเดิม นั่นคือ..จะบันทึกในลานปัญญาแล้วลิงก์มาFB.นะครับ เหตุผลเพราะจะทำให้อ่านง่าย ลงภาพประกอบได้ตามจุดที่จะอธิบายเพิ่มเติม คุณๆที่อุปการณะความรู้ผมทุกท่าน ก็คงเข้ามาถ่ายเทความรู้ความคิดได้ดังเดิม เพียงแต่จะไม่ส่งสามารถส่งข่าวไปเคาะประตูบ้าน ทั้งๆที่อยากจะไปยืนรอหน้ารั้วบ้านเหมือนเดิม

ยังไงๆก็อย่าเพิ่งทิ้งพ่อใหญ่อุ๊เด้อ

เสียเวลาทำความคุ้นเคยหน่อยก็จะสดใสตะติ๊งหน่องเหมือนเดิม

ขอเวลาอีกสักจิ๊ดหนึ่ง เอาไว้ให้จัดระบบWiFI. ให้เจิดจรัสกว่านี้

คาดว่า..หลังสงกรานต์เล็กน้อย

เราจะสามารถยกระดับกระชับพื้นที่สัญจรสื่อผ่านดาวเทียมอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณที่น่ารักทั้งหลายก็จะได้ชมการรายการคริปวีดีโอของหมู่บ้านโลกฝีมือคอนดรั๊กเตอร์

แบบกระชั้นชิดวันต่อวันเลยละขอรับ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

โปรด ผ่าง ผ่าง ประกาศ  และประกาศ ให้ทราบโดยทั่วกันได้

แชร์ลูกโซ่เขายังทำได้

ทำไมแชร์ความรักจากพ่อใหญ่จะทำไม่ได้ละครับ

บ๋ายๆ  หลับฝันดีเด้อพี่น้อง

หลับขอให้ได้เงินหมื่น

ตื่นขอให้ได้รับเงินเดือนอัตราขั้นต่ำหมื่นห้า

ไม่ผิดหวัง ไม่ประสบเคราะห์หามยามร้าย

ขอให้ได้พบแต่ความสุขสบาย

  • ที่ยิ้มหวานก็ขอให้หวานกว่าเดิม
  • ที่ใบหน้าหวานก็ขอให้หวานแฉล้มสม่ำเสมอ
  • ที่แต่งกลอนเก่งก็ขอให้เก่งเนียนเป็นธรรมชาติ
  • ที่ทำกับข้าวเก่งก็ขอให้แฟนข้างโต๊ะชมไม่ขาดปาก
  • ที่ทำงานเก่งก็ขอให้เจ้านายเพื่อนรอบข้างรักและชื่นชม
  • ที่คอมเมนท์ไม่เก่ง..ก็ขอให้ขยันออกความคิดเห็นมากขึ้น
  • ที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้..ก็ยิ้มหน่อยเถิด..อมยิ้มก็ดีหร๊อก..แต่ยิ้มกว้างๆ..จะดีกว่า

 



Main: 0.10493087768555 sec
Sidebar: 0.22448420524597 sec