ทฤษฎีหญ้าเจ้าชู้

อ่าน: 3920

·

พู(รังแรกเจอภัยพิบัติน้ำฝนถล่มเมื่อคืนสามารถซ่อมแซมได้รวดเร็ว)

ดถึงหญ้าเจ้าชู้พวกเราจะรู้จักไหมนะ ในเมื่อสมัยนี้มีหญ้าพันธุ์ใหม่ๆระบาดไปทั่ว หญ้าพื้นเมืองพื้นถิ่นกลายเป็นหญ้านอกสายตา ใครๆเห็นแล้วรำคราญ มองไม่ระรื่นตาเหมือนหญ้าญี่ปุ่น หรือหญ้านวลน้อยหญ้ามาเลฯที่ปลูกประดับสนามหน้าบ้าน อาการหมั่นไส้หญ้าเกิดขึ้นกับเกษตรกรรุ่นใหม่ เจอเป็นไม่ได้วิ่งโร่ไปหายาฆ่ามาฉีดๆๆให้สูญพันธุ์ ทำไมเป็นยังงั้นก็ไม่รู้นะครับ ชาวไร่ชาวนาสมัยก่อนไม่เห็นมีใครอาฆาตมาดร้ายหญ้าเท่าคนสมัยนี้ หญ้าชนิดไหนก็ใช้เลี้ยงวัวควายได้ รึหันมาใช้ควายเหล็กให้กินน้ำมันแทนหญ้า หญ้าก็เลยหมดความหมายหนักเข้าไปอีก เกิดเป็นหญ้านี่น่าน้อยใจ ใครๆก็จ้องทำลาย

สมัยหนึ่งมีเรื่องฮากันที่สุรินทร์

หัวหน้าพิธีกรรมจัดงานเกี่ยวกับประเพณีของจีน

ได้กล่าวต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยโน้น

“ผู้ ว่ า เ ป รี ย บ เ ห มื อ น ส้ น ตี น น น น น”

“พ ว ก ผ ม เ ป รี ย บ เ ห มื อ น ย อ ด ห ญ้ า”

“ถ้ า ส้ น ตี น เ ห ยี ย บ ห ญ้ า ห ญ้ า ก็ แ บ น แ ต๊ ด แ ต๋”

· ถ้าท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นประธานเปิดงานนี้ ท่านจะกล่าวตอบยังไงดีละครับ ถ้าเริ่มต้นตรงที่ซ่นตีนรับทราบข้อนี้ดี คงจะมันส์พิลึก สิ่งที่กล่าวรายงานไม่ได้เกิดอคติใดๆ อุตส่าห์กลั้นกรองออกมาจากจิตใจบริสุทธิ์ เพราะกรรมการพ่อค้าท่านนี้เป็นคนดีมาก คนรักทั่วเมือง แต่พูดอะไรก็จะพูดตรงๆเช่นนี้ ไม่ได้มีความหมายไปในทางที่แอบแฝงใดๆ

· คราวนี้มาถึงบทบาทหญ้าเจ้าชู้บ้าง โดยทั่วไปหญ้าชนิดนี้ชอบเกิดในพื้นที่โล่งกว้าง เช่นพื้นที่สนามฟุตบอลตามโรงเรียนในชนบท พบเห็นสองข้างทางทั่วไป ตามคันนาหัวไร่ปลายนาก็เจอประจำ เป็นหญ้าที่มีเถาว์เลื้อยไปตามพื้นดิน ขยายพันธุ์โดยชูก้านดอกแข็งๆสูงประมาณ๑ฟุต มีเมล็ดที่ห่อหุ้มด้วยเปลือกแข็งรูปกระสวยเล็กๆ ไม่ว่าสัตว์หรือคนเดินฝ่าไปใกล้ เจ้าเมล็ดหญ้าปลายแหลมก็จะทิ่มเข้าตามผิวหนัง คนไหนเดินผ่านก็จะปักเต็มขากางแกง ไม่ได้ปักนิดๆหน่อยนะเธอ ปักแน่นพรึดเต็มทุกตารางนิ้ว

แปลกแท้ๆ

ปักได้ปักดียังกะมีเครื่องอัตโนมัติรุ่นนาโนทำหน้าที่นี้

ใ ค ร โ ด น ต้ อ ง ม า นั่ ง แ ก ะ ที ล ะ ด อ ก ๆ กว่าจะหมดก็นานโข

มันปักได้ซาบซึ้งตรึงทรวงจริงๆ

เ ค ย เ ห็ น เ ด็ ก บ า ง ค น ถึ ง กั บ เ อ า มี ด เ ห ล า ดิ น ส อ ค่ อ ย ๆ ขู ด อ อ ก จ า ก ก ร ะ โ ป ร ง

· หญ้าเจ้าชู้นับว่ามีอัตลักษณ์ในการขยายพันธุ์เป็นพิเศษ ยากที่จะเห็นในหญ้าชนิดอื่น ทำให้ผมนั่งนึกตรึกตรองว่า ถ้าคนเราใส่ใจเรียนรู้เหมือนหญ้าเจ้าชู้ก็จะดี เห็นความรู้ใหม่ๆดีๆแปลกๆก็เข้าไปก๊อปปี้ หรือคอมเมนท์ไว้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มนุษย์ยุคนี้มีเครื่องมือดูดซับความรู้สะดวกและรวดเร็ว ถ้าลองใช้ทฤษฎีที่ผมกล่าวถึงนี้ น่าจะดีไหมครับ

การเป็นผู้เรียนทำให้ชีวิตมีความหมายและมีศักดิ์ศรี

· ไม่ต้องไปงมโข่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

· ไม่ต้องไปนั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

· ไม่ต้องไปเซ็งกระจาย๓เวลาหลังอาหาร

· ไม่ต้องอยู่กับเรื่องเก่าๆซ้ำซาก

· สามารถยืนอยู่บนลำแข้งตัวเองได้อย่างทรนง

คุณสมบัติของผู้เรียน ก็คือผู้ที่เปิดใจ

อยากรู้ อยากเห็น อยากทดลอง อยากค้นคว้า

อยากเจาะลึก บางคนถึงกับกัดไม่ปล่อย

(รังที่๒ เจอน้ำท่วมมิด แต่ยังอุตส่าห์สู้ซ่อมแซม)

· ถ้าเด็กไทย คนไทยมีนิสัยเยี่ยงนี้ คุณภาพของการจัดการความรู้ของคนไทยไปโลดแน่ เท่าที่เห็นๆ ส่วนมากมักจะประมาทกับการเรียนรู้ อยากจะเรียนง่ายๆ ทำวิทยานิพนธ์ง่ายๆ จบง่ายๆ โธ่ แม่คุณ ถ้ามันทำง่ายแล้วได้ประสิทธิผลดีคงไม่มีใครมาบ้าทำให้มันยุ่งยากหรอก ในบางเรื่องบางกรณี ม นุ ษ ย์ ยั ง ไ ม่ พ บ วิ ธี สั น ด า ป ค ว า ม รู้ ไ ด้ เ ร็ ว ก ว่ า นี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับสติปัญญามีข้อจำกัด เรื่องนิสัยการเรียนรู้ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นลำดับ ถ้าตั้งต้นตั้งใจดี เราก็เขยิบเข้าไปหาตัวความรู้ได้ตามขั้นตอน แต่ถ้าคิดเบี่ยงแบนจากความเป็นจริงมันก็ยากละครับ

สู้สิ่งยากตรงๆจะไม่ดีกว่าหรือ

ในเมื่อทุ่มเทจะศึกษาแบบเจาะลึกก็เจาะให้มันหมดก๊อกไปเลย

จะขยักขยุกขยิกทำไมเล่า

หรือพอใจกับที่ตัวเองไม่มีความรู้ความสามารถจริง

แต่ก็สามารถฝ่าไปรับ กระดาษเปื้อนหมึก ม า อ ว ด ใ ค ร ๆ ไ ด้

ถ้าแบบนี้ไม่เข้าเกณฑ์ทฤษฏีหญ้าเจ้าชู้หรอกนะเธอ

สงสัยว่าจะเป็น ห ญ้ า ตี น ตุ๊ ก แ ก

ยามได้ยินเสียง กั๊ บ แ ก กั๊ บ แ ก ก็สะดุ้ง

กลัวจะโดนล้วงตับ หรือลองวิชา

เอาเป็นว่า เ รี ย น เ ล่ น ๆ ก็ ไ ด้ แ ต่ ข อ ใ ห้ รู้ จ ริ ง ๆ ก็ แ ล้ ว กั น

รู้ไม่จริง อนาคตจ่ายค่าโง่บานตะไทเลยละเธอเอ๋ย

ค ว ร ดำ เ นิ น ต า ม ค ร ร ล อ ง -รู้จัก –รู้จริง –รู้แจ้งก็พอ

ก า ร เ ป็ น ห ม า ห ล ง อ ยู่ บ น ท า ง ด่ ว น จะสนุกตรงไหนละเธอ

อาการมันหนักกว่า ห ม า ห อ บ แ ด ด ส มั ย ก่ อ น เ สี ย อี ก

ถ้าอยากจะฟังเรื่องนี้เต็มๆ

วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ภาคบ่าย

มีรายการสัมมนาแพทย์พยาบาลทั่วประเทศ

เ ร า ม า เ จ อ กั น ที่ เ มื อ ง ท อ ง ธ า นี ดี ไ ห ม ?

อย่าเผลอไปนัดกิ๊กเที่ยวละ

เอาถ่านหุงข้าวขีดกาวันที่ติดฝาบ้านไว้เลย

เ ดี๋ ย ว จ ะ ห า ห ล่ อ ไ ม่ เ ตื อ น

คริ คริ


กองทัพมด***

อ่าน: 1797

(คณะวิจัยทำการวัดอัตราการเติบโตของต้นไม้)

วันนี้อาบน้ำซักผ้าเองได้แล้ว ที่ผ่านมามือโดนงูรัดทำอะไรไม่ถนัด ทำได้ดีอย่างเดียว คือนอนครวญคราง วันนี้ค่อยยังชั่วจึงเก็บเสื้อผ้าที่สุมไว้มาชำระ แล้วเก็บผักมาทำซุป สายหน่อยเดินไปดูคนงานปลูกหญ้าปลูกผัก ทำทุกวันก็ยังไม่ทันการ มีงานปลูกมันเลือดจ่ออยู่ ถ้าปลูกทันฤดูกาลมันก็ดีนะเธอ เราไม่ต้องรดน้ำต้นพืชก็ได้รับน้ำฝนเย็นๆหยั่งรากตั้งตัวได้เร็ว

ใกล้จะเที่ยง คุณวิฑูรย์ เหลืองวิริยะแสง กับคณะผู้เชี่ยวชาญจากสำนักวิจัยกรมป่าไม้ มาติดตามวัดความก้าวหน้าของกลุ่มไม้อาคาเซียที่มาปลูกเพื่อการวิจัยร่วมกับมหาชีวาลัยอีสาน ง า น ติ ด ต า ม ค ว า ม เ จ ริ ญ ข อ ง ผ ล ก า ร วิ จั ย ต้ อ ง ทำ ต่ อ เ นื่ อ ง อ ย่ า ง น้ อ ย ๔ ปี ๆ ล ะ ๒ – ๓ ค รั้ ง และต้องทำอย่างเคร่งครัดด้วยนะ ไม้กลุ่มนี้ผมได้ส่งให้เครือข่ายไปปลูกทดลองด้วย เพื่อกระจายข้อมูลและให้ประเมินสภาพที่แตกต่างกันได้ มาวัดผลคราวนี้ คุณวิฑูรย์ร้อง โอ้โห ต้ น ไ ม้ เ ร่ ง ส ปี ด ส์ ขึ้ น เ ย อ ะ แนะนำให้ตัดแต่งกิ่งข้างล่างไปเลี้ยงวัวและแพะแกะได้แล้ว

เรื่องสำคัญที่เราคุยกันรอบนี้ก็คือ

“งานวิจัยไม้พยุงในประเทศไทย” และ“โรคระบาดของยูคาลิปตัสในประเทศไทย”

(อาการของโรคแตนเบียนทำลายไม้ยูคาลิปตัส)

· เรื่องโรคยูคาฯระบาดทั่วโลกเป็นข่าววงในที่รู้เฉพาะกันในวงการป่าไม้ ประเทศต่างๆไล่มาตั้งแต่อินเดีย พม่า ลาว ไทย ไปจนถึงจีน โดนกันทั่วหน้า แม้แต่ซีกโลกอื่นก็ไม่เว้น ประเทศในย่านนี้โดนแตนตัวเบียนชนิดหนึ่งระบาดเข้ามาวางไข่ ทำให้ต้นยูคาที่ยังเล็กหรือหน่อที่เกิดขึ้นใหม่ยอดและใบหยิกงอ เจ้าแตนเบียนที่ว่านี้จะเข้ามาเจาะวางไข่ตามก้านท่อน้ำเลี้ยงใบ ทำให้การปรุงอาหารพิกลพิการ ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก

· ครั้งที่ไปประชุมที่กรมป่าไม้เมื่อคราวที่แล้ว คณะวิจัยก็เร่งหาข้อมูลกันจ้าละหวั่น เพราะแตนเบียนที่ว่านี้บุกเข้ามาครอบงำผืนป่าในไทยแทบทั้งหมดแล้ว วันนี้เราจึงเดินพิจารณากัน พบว่าไม้ยูคาลิปตัสที่สวนป่าบางต้นก็โดนเข้าแล้ว โดยเฉพาะต้นเล็กๆ บางพันธุ์ก็ยังไม่เป็นไร การปลูกไม้หลายสายพันธุ์ดีตรงนี้เอง ผมจึงมีการบ้านติดตามต่อว่าพันธุ์ไหนหัวแข็ง พันธุ์ไหนหัวอ่อนต้านแมลงไม่ไหว

คุณวิฑูรย์ ขอตัดกิ่งอาคาเซียพันธุ์ดีของเราไปเพาะเนื้อเยื้อ

ที่สวนป่านี่นะไม่ได้ขี้ไก่นักหรอกเธอ

มี ง า น วิ จั ย ดี ๆ ซ่ อ น อ ยู่ เ ย อ ะ

เ รื่ อ ง อ า ค า เ ซี ย ทำ วิ จั ย กั บ ที ม ก ร ม ป่ า ไ ม้ แ ล ะ ข อ ง อ อ ต เ ต ร เ ลี ย

พบว่า พั น ธุ์ ไ ม้ บ า ง ตั ว ที่ ผ ม มี เ ป็ น พั น ธุ์ ดี ที่ สุ ด ใ น โ ล ก

เอาละสิ ดียังไง แหมงานนี้ยาว

ถ้าอยากฟังก็ต้องตามไปงานสัมมนาเรื่อง “วนวัฒนวิทยาฝ่าสิ่งแวดล้อมของประเทศ”

วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมชั้น๗ อาคารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เวลา ๑๔.๔๕-๑๖.๓๐ น.

ผู้ดำเนินรายการ คุณกิตติ สิงห์หาปัด

คณะอภิปรายประกอบด้วย

. ดร นิพนธ์ ตั้งธรรม มก.

ดร. ส่งเกียรติ ทานสัมฤทธิ์ แห่ง ปตท.

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ แห่งFBสวนป่า

อธิบดี กรมป่าไม้

· ท่านใดสนใจเรื่องป่าๆก็เชิญนะครับ เป็นการจัดงานวิจัยประจำปีของคณะวนวัฒวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน มีการแสดงผลงานวิจัย ส่งงานวิจัยของสำนักต่างๆมากมาย ปีนี้ คปร. ร่วมจัดครบรอบ๖๐ปีด้วย จึงอลังการน่าสนใจนัก ไ ม่ อ ย่ า ง นั้ น ค น ป่ า ไ ม่ ย่ อ ง อ อ ก ไ ป จ า ก ป่ า ห ร อ ก น ะ เ ธ อ อิ อิ

· ตอนบ่ายชวนคุณชายไปเที่ยวจังหวัด เพื่อสำรวจอุปกรณ์ที่จะเอามาสร้างบ้านสาวโสดและร้านค้า รวมทั้งบ้านอุโมงค์ด้วย ผมได้เลื่อยสตีลตัดไม้ตัวใหม่มาแทนตัวเก่า ที่ส่งไปซ่อมที่บริษัทใหญ่บางกอก รายการซ่อมออกมาเป็นหางว่าว ล่อไป ๖-๗ พันบาท แบบนี้ซื้อใหม่ดีกว่า ควักกระเป๋าดังแคว๊ก ของใหม่ราคา ๑๐,๕๐๐ บาท

แหม เ กื อ บ ก ร ะ เ ป๋ า แ บ น แ ฟ น ทิ้ ง แ ล้ ว ไ ห ม ละ

คราวนี้ละ จะได้มีเครื่องมือมาแต่งต้นไม้ให้ทรงพุ่มสวยงามยังไงก็ได้

พูดถึงงานแต่งสวนแล้วคิดถึงพี่ปกรณ์ คนใกล้ตัวพี่แต๋ว ของเรานั้นแหละ

ฝีมือแต่งสวนร้ายกาจนัก แถมยังขยันจนปลวกเรียกเฮีย

· โฮมโปรที่บุรีรัมย์ก็มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศนั้นแหละ สินค้าแต่งบ้านมีให้เลือกจนน้ำลายหก ผมไปดูมุมแสดงผ้าม่านต่างๆ ชอบใจทั้งนั้น ก ะ ว่ า บ้ า น ส า ว โ ส ด จ ะ ใ ช้ ม่ า น แ ท น ผ นั ง อยากจะรับแดดรับลมเย็นก็ชักม่าน อยากหลบสายตาหนุ่มชีกอก็ปิดม่าน คงจะถูกใจไอ่แห้วไม่น้อย บางคนไม่ชอบไม่เปิดโล่งต้องการความมิดชิด ก็จะตีฝาติดประตูหน้าต่างแล้วล้อมลวดไฟฟ้าให้ ออกจากผ้าม่าน ไปดูประตูหน้าต่างบานเลื่อนกระจกสำหรับติดตั้งร้านค้า แวะไปมุมโชว์กระเบื้องปูพื้น ที่จะเอามาปูบ้านอุโมงค์ ไ ป เ จ อ ก ร ะ เ บื้ อ ง หิ น อ่ อ น ข น า ด ต า ร า ง เ ม ต ร สวยจนอดใจไม่ไหว คุณชายกระเป๋าฉีกอีกรอบ แ ถ ม ยั ง ก ร ะ ซิ บ ว่ า อ ย า ก จ ะ ไ ด้ อ ะ ไ ร ก็หยิบเล๊ย บอกแล้วก็หันไปกดรวมตัวเลข แล้วหันมาบอกว่าตัวเลขรายจ่ายยังน้อยไป อ้าวเป็นงั้นไป แวะไปซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเล็กๆมาคนละใบ ตัวเลขยังไม่พออีก อ้าวนี้ไง เ ก้ า อี้ บุ น ว ม พั บ ไ ด้ ลองนั่งๆนอนๆดูแล้วชอบมาก เอาไปตั้งใต้ร่มไม้นอนอ่านหนังสือ สุขบรรเจิดเลยเชียวละ หมดแฮง ชวนคุณชายเอ้า MK. อิ่มแล้วก็เข้าป่าสิครับ

เ รื่ อ ง ข อ ง เ รื่ อ ง ที่ คุ ณ ช า ย ใ ห้ ซื้ อ ข อ ง ไ ม่ อั้ น

คุณชายจะเอาไปแลกบัตรสมาชิกฟรี

โธ่ โธ่ และโธ่

รู้อย่างนี้ สั่งไปแล้ว ทั้ ง ร้ า น เ ท่ า ไ ห ร่ ? อิ อิ

· มาถึงสวนป่าสักครู่เมฆลอยต่ำ ทำท่าจะโปรยละออง รีบเก็บเสื้อผ้าเข้าร่ม ไม่นานฝนก็เทลงมาจั๊กๆ ไม่มีลม ฝ น ต ก อ ย่ า ง มี ม า ร ย า ท ม า ก แมลงเม่าเริ่มบินมาทักทาย มากขึ้นมากขึ้น จั๊ ก ก ะ จั่ น ก็ ม า กั บ เ ข า ด้ ว ย จึงจับไว้ให้บ้านโน้นดู ว่ า เจ้ า หั ว โ ต ปี ก ใ ส ๆ นี่ แ ห ล ะ ที่ ก รี ด เ สี ย ง ร ะ ง ม ป่ า เห็นท่าไม่ดีจึงปิดไฟไล่แมลง นอนรอแมลงเม่าหนี รอไปรอมาก็หลับผล็อย ใครโทรมาก็บ่ได้ยิน ขอโทษด้วย ไม่ได้เมินหรือเล่นองค์อะไรหรอก หลับลึกไปจนถึง๒ทุ่ม

(กองทัพมดทำงานทั้งคืน)

· ตื่นขึ้นมารีบไปดูบ้านเรือนเคียงกัน แอบมองทุกวันเลยเชียว ก็รังมดดำนั่นแหละ ติดตามตั้งแต่เขาก่อรังด้วยดินก้อนเล็กๆที่คาบขึ้นมาจากใต้ดิน เป็นเรื่องที่น่าศึกษามาก มดจะทำงานทั้งวันทั้งคืน เ จ้ า ตั ว เ ล็ ก ๆ จ ะ ค า บ ดิ น ว่ า ว า ง ต า ม จุ ด เ ป๊ ะ ๆ ตรงจุดโน่นนี่รอบๆเป็นวงกลม ค่อยๆสูงขึ้นๆ สังเกตดูมีโฟร์แมนตัวใหญ่คอยสังเกตการณ์ ผมละทึ่งนักมดมีระบบบริหารงานกันอย่างไรจึงมีประสิทธิภาพสูงยิ่งนัก ทั้ ง ๆ ที่ ม ด ไ ม่ ไ ด้ มี ม า ต ร ฐ า น K P I . บ้ า ๆ บ อ ๆ เ ห มื อ น ข้ า ร า ช ก า ร เธอก็รู้ตอนนี้ฝนตกทุกวัน บ้านดินก้อนเล็กๆบอบบางจะต้านน้ำยังไงไหว เมื่อวานเจอฝนก็ฟุบแบนไปทีหนึ่ง ไปดูคราใดมดงานก็ขนดินขึ้นมาตั้งฐานจากของเดิมขึ้นมาใหม่ รึ ก า ร ที่ โ ด น ฝ น ต ก เ ป็ น ก า ร บ ด อั ด ดิ น ใ ห้ รั ง ม ด

ถ้าเป็นคนเราเจอพายุพัดบ้านพังเดือนละ๓-๔ครั้ง

คงยกธงขาว วิ่งโร่ไปขอเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยกันแล้ว

แ ต่ นี่ ม ด ผู้ ท ร ะ น ง

ผมตื่นเอาไฟฉายไปส่อง

ก็เห็นมดยังขนดินอย่างขยันขันแข็ง

· ไม่มีตัวไหนบ่นว่าเหนื่อย

· ไม่มีตัวไหนอู้งาน

· ไม่มีตัวไหนท้อถอย

· ไม่มีตัวแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายให้ขายขี้หน้าชาติพันธุ์มด

ทุกตัวรวมพลังอย่างหัวเด็ด

นี่ ยั ง ไ ง ล ะ ที่ ม า ข อ ง คำ ว่ า ก อ ง ทั พ ม ด

ใครๆอยากเห็นคนไทยรวมพลังกันอย่างนี้บ้าง

แ ต่ ที่ มี ที่ เ ป็ น เ ห็ น แ ต่ ก อ ง ทั พ ห ม า

แ ย ก เ ขี้ ย ว แ ย่ ง อ า ห า ร ทั้ ง ๆ ที่ อ ยู่ บ้ า น เ ดี ย ว กั น

เ ร า จ ะ บำ บั ด โ ร ค ห ม า ขี้ เ รื้ อ น ยั ง ไ ง ดี ล ะ ค รั บ !

ฮึฮือ ฮึฮือ


บทนำ โมเดลบุรีรัมย์

อ่าน: 1656

 

ชื่อและเรื่องนี้มีที่ไปที่มาพอสมควร เมื่อครั้งงานประชุมประจำปีของสภาวิจัยแห่งชาติเชิญไปโม้ เ รื่ อ ง ง า น วิ จั ย ไ ท บ้ า น มีคนลงชื่อเข้าร่วมรับฟังเต็มห้อง ก็ห้องที่เขายกให้เราเป็นผู้นำเสนอนั่นแหละ นอกจากคุยน้ำลายแตกฟองแล้ว ผมเอาผลิตภัณฑ์ในสวนไปโชว์ ฉายPower pointให้ชมด้วย ตามสไตล์บ้านนอกขนานแท้ แต่เป็นเรื่องจริงที่ผุดขึ้นมาจากแผ่นดินอีสาน สะท้อนให้เห็นบริบทของการเรียนรู้แบบงูๆปลาๆตามความนึกคิดแห่งตน ไม่ได้มีกรอบ หรือตีตนก่อนไข้แต่ประการใด ทำ อ ะ ไ ร พู ด ไ ป อ ย่ า ง นั้ น    รู้ อ ะ ไ ร ก็ ว่ า ไ ป ต า ม นั้ น   คิ ด อ ะ ไ ร ก็  แ จ้ ง ไ ป ต า ม นั้ น   ไม่ได้อวดโอ้อวดอ้างเกินจากที่ได้ลงมือกระทำมา

หลังจากโม้ไปจนจบถ้อยกระทงความ

เปิดโอกาสให้ท่านที่สนใจอภิปรายความคิดเห็น

มีท่านผู้ฟังลุกขึ้นสนับสนุนความคิดที่เสนอพอสมควร

มี อ า จ า ร ย์ สุ ภ า พ ส ต รี ท่ า น ห นึ่ ง ลุ  ก ขึ้ น ชี้ แ น ะ ว่ า

นี่แหละโมเดลบุรีรัมย์”

 

ผมนะไม่ได้ฮิตคำตามความนิยมแห่งยุคสมัยหรอกนะครับ ถ้าให้เลือกตั้งชื่อเองก็คงไม่ตั้งชื่อนี้ แต่เมื่อมีท่านผู้มีเกียรติกรุณาอุปการะความคิดเห็น ผมถือว่าฟ้าบันดาล ทุกท่านที่ฟังมีส่วนร่วมส่วนคิด แล้วสามารถขมวดเรื่องทั้งหมดไว้ใน Key Word “โมเดลบุรีรัมย” ก่อนจะมาถึงตรงนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องโมเมชั่นนะเธอ ใช้เวลาร่วมสิบกว่าปี เริ่มตั้งแต่ศาสตราจารย์เสน่ห์ จามริก แห่งสถาบันLDIตัดสินใจยกทีมลงลุยบุรีรัมย์ เพื่อค้นหาคำตอบว่า ชนบทไทยจะก้าวเดินไปทางไหน คนชนบทจะไปกันอย่างไร หลังจากที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ สภาการศึกษาแห่งชาติ สถาบันเอไอที และสถาบันอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชาติ ยกพหลโยธามากันเต็มรถบัสบุกสวนป่า มีอาจารย์สิปปนนท์ เกตุทัต อาจารย์ประเวศ วะสี เป็นหัวขบวน บางท่านตกขบวนเช่น ท่านองคมนตรีสุเมธ ตันติเวชกุล ต่อมาเป็นเลขาสภาพัฒน์ฯ ยังมาบ่นภายหลังตอนท่านมาเยี่ยมคนเดียว ท่านชี้ไปที่รูปข้างผนังบอกว่า ผ ม เ สี ย ด า ย ที่ ติ ด ง า น ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ม่ ไ ด้ ม า ใ น ค ณ ะ นี้

ส่วนบรรยากาศเป็นยังไงติดตามอ่านในหนังสือ

ตอน ก ว่ า จ ะ มี ฉ า ย า ขี้ โ ม้ ใ ช่ ว่ า จ ะ ไ ด้ ม า ง่ า ย ๆ

ตามที่ท่านอาจารย์ประเวศ วะสี บันทึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

หลังจากนั้นก็มีคณะต่างๆทยอยมาดูผม เอ๊ย มาดูงานนับคณะไม่ถ้วน และผมเองก็ถูกเชิญให้ไปถอนขนห่านในเวทีต่างๆตลอดระยะเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เดินทางจนแทบขาขวิด ซึ่งมันก็แปลกอยู่เหมือนกันนะครับ ที่คนไม่ได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย แต่ก็ได้รับเชิญในไปประชุมไปบรรยายมาทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ มานั่งพิจารณาตอนช่วงที่สังขารยักแย่ยักยัน ก็สงสัยตัวเองว่า_มันเป็นไปได้ยังไงวะ

เพื่อที่จะตอบคำถามตัวเองให้เป็นหลักเป็นฐาน

ผมจึงคิดรวบรวมเรื่องราวแต่หนหลังมาพิมพ์ไว้ให้ลูกหลานได้อ่าน

เป็นงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาชนบท

ในบริบทของวิธีพัฒนาการเรียนรู้ของคนอีสาน

ที่สถาบันLDIร่วมกับพวกคนแก่หนังเหนียวช่วยกันตั้งโรงเรียนภาคประชาชนขึ้นมา

ชื่อว่า โรงเรียนชุมชนอีสาน

เรื่องสำคัญที่สนุกมาก

ถ้าสนใจก็ต้องติดตามอ่านในหนังสือ ต อ น โ ร ง เ รี ย น ชุ ม ช น อี ส า น

ผมแต่งเพลงให้โรงเรียนไว้ด้วยนะเธอ

จะฟังไหมละ จะร้องให้ฟัง

“โรงเรียนชุมชนอีสาน พัฒนาการพื้นฐานปวงชน

ถึงอยู่คนละแห่งละหน ก็ดั้นด้นค้นหากันเจอ

เราจะเรียนด้วยกัน เราจะไปด้วยกัน เพื่อสร้างความฝันให้มันเป็นเจริง

เพลงมันยาว เอาเป็นว่านักเรียนที่ว่านี้ล้วนเป็นผู้สูงวัยเป็นส่วนใหญ่ มีหนุ่มสาวผสมบ้างแต่ก็น้อยมาก เรียกว่ารุ่นเดอะงั้นเถอะถึงจะได้รับการเชิญมาเข้าโรงเรียนนี้ กระบวนการที่ว่านี้ได้ฝังตรึงใจผมตลอดมา แม้แต่เวลาเขียนในFBมีคนเข้ามาขอเป็นเพื่อน ผมก็ย้อนไปรำลึกถึงภาพที่คนเดินข้ามทุ่งข้ามท่ามานั่งชุมนุมเรียนใต้ต้นไม้ในท้องนา ไม่ได้มาแค่พบปะกันเฉยๆนะเธอ ทั้งครูทั้งนักเรียนร่วมร้อยชีวิตกินนอนเรียนร่วมกันในท้องไร่ท้องนา ทำครัวทำอาหารเลี้ยงดูกันอึกกะทึกไปทั้งท้องทุ่ง ยกเอาวิถีชีวิตคนอีสานมากองไว้ แล้วช่วยกันพิจารณาวิถีชีวิตในปัจจุบัน แล้วช่วยกันมองไปข้างหน้า

การคัดคนเข้าเรียนใน ส ถ า บั น พ ร ะ ป ก เ ก ล้ า ก็เข้าทำนองนี้ หรือแม้แต่การตั้ง ก ลุ่ ม เ ฮ ฮ า ศ า ส ต ร์ เราก็มุ่งคัดคนที่หัวใจเสริมใยเหล็ก อ้าว มา ถึ ง ก า ร ส ร้ า ง ห มู่ บ้ า น โ ล ก คอนดรั๊กเตอร์ก็ตั้งสมมุติฐานว่าเราจะหาสมาชิกโดยวิธีไหน ทำอย่างไรถึ ง จ ะ ไ ด้ ค ลำ ใ จ เ ธ อ ดู ก่ อ น ถ้าใจไม่นิ่งใจไม่มั่นคง มานั่งหง๋อยเหงาเศร้าสร้อยในสวนป่า มันคงเป็นภาพที่ไม่เจริญใช่ไหมละครับ ถ้ามาแล้วกะเปิบกะป๊าบลงมืออย่างทำโน่นนี่ อ ย า ก แ ส ด ง ฝี มื อ อ ย า ก ถ่ า ย เ ท ค ว า ม รู้ อ ย า ก ร ะ ด ม ค ว า ม ส า ม า ร ถ อ ย า ก เ ป็ น ผู้ ร่ ว ม เ รี ย น รู้ อ ย า ก ม า ช่ ว ย เ ป็ น วิ ท ย า ก ร ถ้าคุณสมบัติประมาณนี้ อ ย า ก จ ะ วิ่ ง ไ ป ก อ ด อ อ ด อ้ อ น ใ ห้ ม า

ถ้าทุกอย่างเริ่มที่ใจมั่นคงมีจุดประสงค์แน่วแน่

การดำเนินการเรื่องต่างๆจะประสบผลสำเร็จง่ายขึ้น

รึอย่างน้อยๆ ก็ ยั ง มี เ รื่ อ ง ค้ า ง ค า ใ จ ติ ด ตั ว ไ ป ต ล อ ด

เหมือนที่ผม ส รุ ป ปิ ด เ รื่ อ ง ร า ว ข อ ง โ ร ง เ รี ย น ชุ ม ช น อี ส า น ไ ม่ ไ ด้

จะต้องใช้เวลาทำการบ้านต่อเติมมาจนร่วมเวลาเกือบยี่สิบปี

ดังนั้นหนังสือเรื่องโมเดลบุรีรัมย์ จึงรวมรวมการบ้านที่ค้างคาไว้ทั้งหมดมาขมวดหางสิงห์ไว้ทั้งหมด เนื่องจากมีสาระกระโดดและดิ้นได้ ต้องใช้เวลาต่อถ้อยร้อยวจีกันพอสมควร แต่ไม่นานเกินรอ ช่วงที่คุณชายลงมาเที่ยวนี้ก็จะจับงานเรื่องต้นฉบับหนังสือสามสี่เล่มที่จะพิมพ์พร้อมกัน มีทั้งที่พิมพ์เพิ่มไผหนึ่งไผสอง และเรื่องที่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะเรื่อง “คนนอกระบบ” ที่สำนักงานสภาการศึกษาให้ผมเขียนแจกหมดไปนานแล้ว พักหลังผมจะหาให้ท่านที่สนใจก็ยังยาก จึงดำริที่จะพิมพ์ขึ้นใหม่เป็นครั้งที่สี่ แต่จะขอสะสางเรื่องขยะออกไปให้ไฉไลน่าอ่าน ขออนุญาตเรียนให้ทราบว่า ควรติดตาม อ ย่ า ก ร ะ พ ริ บ ต า

มีตอน ค รู บ า ฉุ ด ส า ว เ ชี ย ง ใ ห ม่ ด้ ว ย น ะ เ ธ อ

นี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ

ฉุดตัวเป็นๆ ขึ้ น ร ถ บึ่ ง จ า ก เ ชี ย ง ใ ห ม่ ม า อี ส า น นี่ แ ห ล ะ

โธ่ ก ว่ า จ ะ มี เ มี ย กั บ เ ข า สั ก ค น มั น ช่ า ง แ ส น จ ะ โ ค ต ร ทุ ลั ก ทุ เ ล

ใ ค ร ว่ า ส า ว เ ห นื อ ใ จ ง่ า ย ผ ม เ อ า ค อ เ ป็ น ป ร ะ กั น

จีบมาแปดปียังไม่สำเร็จ

ถ้า ไ ม่ ฉุ ด เ อ า จ ะ ไ ด้ ไ ห ม นี่

แหม เ ท ใ จ ป ลิ้ น เ ขี ย น ใ ห้ อ่ า น อ ย่ า ง นี้ แ ล้ ว

ยัง ไ ม่ อ่านก็ใจดำเหลือทน

เอายังงี้ดีไหม ท่านใดซื้อหนึ่งเล่มแถมกอดหนึ่งครั้ง

โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึกระทวย

อิ อิ


อยากจะอบหัวใจเธอจังเลย

อ่าน: 4886

งานวิจัยไทบ้าน เรื่องความมั่นคงทางอาหาร

หมู่นี้มีการพูดถึงการเตรียมตัวเรื่องภัยพิบัติอยู่บ้าง ในฐานะผู้สอดรู้สอดเห็นก็เก็บเอามาคิดว่า ระดับอย่างเราๆจะเริ่มต้นตรงจุดไหนดี บังเอิญพี่แต๋วคุยเรื่องเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผมก็ไม่ทราบว่าสองสาวเขาคุยตกปล่องร่องชิ้นกันยังไง มาทราบว่าก็อีตอนที่มีการสั่งซื้อเตาอบพลังงานแสงแดด และมาเห็นของจริงก็ตอนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าใจดีบรรทุกมาส่งให้ถึงบ้าน โอ้โฮ ผมนึกว่าจะเล็กๆ ใหญ่แทบเต็มกะบะรถบรรทุกเล็กเลยละครับ เมื่อมีปัจจัยการทดลองอย่างนี้แล้ว ผมก็เลียบเคียงถามโฉมยงว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เธอบอกว่าจะเอามาอบสมุนไพร แล้วแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะเรามีวัตถุดิบทั้งปี ใครไปใครมาก็จะเอามาให้ทดลอง ถ้าคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับก็จะทำการเผยแพร่ต่อไป

(ทดลองอบกล้วย)

เธอว่า การที่มีเครื่องมือให้ทดลองทำให้ความคิดเดินออกจากการครุ่นคิดคำนึง

เช้านี้ เธอทดลองเอากล้วยสุกสามเครือ ปอกเปลือกแล้วแช่น้ำปูนใส

เอามาวางเรียงในตู้อบ เป็นการทดลองจากของจริงฉลองเป็นปฐมฤกษ์

เมื่อได้ทำอะไรเชิงปฏิบัติการ ง า น ที่ สั ม ผั ส ไ ด้ ส ะ ท้ อ น ค ว า ม รู้ สึ ก นึ ก คิ ด เธออธิบายเป็นฉากๆว่า ถ้าเรามีเครื่องอบชนิดนี้สี่ตู้น่าจะพอดีกับงานเริ่มต้นแปรรูปเพื่อถนอมอาหาร สำหรับการป้องกันภัยพิบัติ

· ตู้แรกจะอบผลไม้

· ตู้ที่สองจะอบอาหารประเภทเนื้อ

· ตู้ที่สามจะอบสมุนไพร

· ตู้ที่สี่จะอบพืชผัก เห็ด ต่างๆ

เ ร า จำ เ ป็ น ต้ อ ง ใ ช้ ถึ ง สี่ ตู้ เ ล ย รึ

เธอบอกว่าที่จำเป็นเพราะเรามีวัตถุที่แตกต่างกัน

ก า ร แ ย ก ตู้ อ บ จ ะ ทำ ใ ห้ ก ลิ่ น อ า ห า ร ไ ม่ อ อ ก ม า ตี กั น

ที่จริงเธออยากได้ห้าตู้ด้วยซ้ำไป

อ้าว ตู้ ที่ ห้ า จ ะ เ อ า ม า อ บ อ ะ ไ ร เธอบอกว่าประเภทของวัตถุดิบมีความแห้งระเหยไม่เท่ากัน ถ้าไม่มีตู้สำรองเราก็จะรอคอยนาน งานไม่ต่อเนื่อง ที่ทดลองวันนี้ ตู้ดังกล่าวจะรองรับกล้วยสุกได้ประมาณหกเครือ ถ้าทดลองจนได้สูตรแน่ใจอาจจะต้องขยายเป็นโดมขนาดใหญ่ เครื่องมือชุดนี้จึงเหมาะสมมากที่จะเอามาฝึกทักษะการถนอมอาหารต้นทาง ต่อ เ มื่ อ ชำ น า ญ แ ล้ ว เ ร า ค่ อ ย ข ย า ย ผ ล เ ป ลี่ ย น กิ จ ก ร ร ม เ ป็ น กิ จ ก า ร

(มันเลือด-เผือก-กล้วย ปลูกไว้เยอะจะเอามาอบทำแป้งไว้เจี๊ยะยามยากหรือเกิดภัยพิบัติ)

ส่วนผมนั้นมองอีกแบบหนึ่ง ถ้าเรามีเครื่องอบอย่างนี้ ช่วงที่ผมขุดมันเลือด ขุดเผือก เก็บเมล็ดถั่วพู ถั่วเขียว เมล็ดถั่วลิสง และข้าวโพด เราก็สามารถเอามาอบให้แห้งแล้วป่นเป็นแป้งเก็บไว้ได้ เป็นการถนอมเอาไว้ในยามยาก เมื่อได้แป้งแต่ละชนิดแล้วเราก็จะนำมาเรียนรู้ประกอบอาหารเมนูต่างๆ เครื่องมือพวกนี้จึงเป็นอุปกรณ์การค้นคว้า หาทางออกเกี่ยวกับอาหารยามภัยพิบัติในเชิงการวิจัยแบบไทบ้าน ถ้าเราประมวลความรู้ดั่งเดิมมาต่อยอดกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมยุคสมัยใหม่ เราก็จะได้ชุดความรู้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำคัญมันบ่งบอกว่า แนวคิดนี้ได้ประยุกค์ขึ้นตามครรลองของวิถีไทย

ถ้าไม่มีตรงนี้ เราก็จะนึกถึงแต่มาม่า

ข้าวกล่องที่บูดง่าย

โดยหาคำตอบไม่ได้ว่าในแต่ละท้องถิ่นจะพึ่งตนเองได้อย่างไร?

ถ้ามันไม่เกิดภับพิบัติ ก็ยังเดินหน้าระบบการพัฒนาอาหารสำเร็จรูปได้

จะเห็นว่า เครื่องมือที่จะนำไปสู่คำตอบไม่ได้แพงมากมายวายป่วงอะไร

ถ้ามีผู้สนับสนุนในจุดที่มีความพร้อม ความต้องการ ความมุ่งมั่น

ตู้อบอาหารแสงอาทิตย์มันไม่ใช่จะเอามาทำแต่เนื้อแดดเดียวหรอกนะเธอ

เ ร า จ ะ อ บ ทุ ก อ ย่ า ง ที่ ข ว า ง ห น้ า

โดยเฉพาะหัวใจคนโลเล อยากจะอบทำแห้งไว้จะได้ไม่ออกไปเพ่นพ่านหลอกใครๆ

เ ป็ น ก า ร บ้ า น ที่ ท้ า ท า ย ไ ห ม ล ะ พี่ แ ต๋ ว จ๋ า อิ อิ


จะเอายังไงกับภัยพิบัติ

อ่าน: 1798

จะเอายังไงกับภัยพิบัติ

· พิษภัย เภทภัย ภัยพิบัติ ภัยวิบัติ สารพัดภัย แวะเวียนมาเยี่ยมเราบ่อยขึ้น สาเหตุเพราะมนุษย์เราไปนี่แหละไปทำลายความปกติของธรรมชาติ เมื่อสภาพสมดุลของโลกเสียหาย กลไกของระบบธรรมชาติได้รับผลกระทบ ความเป็นปกติก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นธรรมดา และส่วนมากก็เป็นไปทางลบมากว่า สองสามปีมานี้อากาศผิดปกติทั่วประเทศอย่างเห็น เป็นไปได้ไงครับ ที่อีสานอากาศจะเย็นสบายกว่าเชียงใหม่ ภาคเหนือทั้งหมดทุกรมด้วยควันไฟป่าปีละสองเดือน รู้ทั้งรู้ที่เห็นตำตาก็แก้ไขอะไรไม่ได้

แ ล้ ว สิ่ ง ที่ ซุ ก ซ่ อ น อ ยู่ น อ ก ส า ย ต า จะเป็นยังไง

มันจะไม่บูดเน่าแล้วบูดเน่าอีกรึครับ

เรื่องพวกนี้พูดไปคนก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่

ขนาดปีที่แล้วเจอน้ำท่วมแทบตาเหลือกก็ยังอยู่อย่างประมาทกันต่อไป
อย่าเชื่อ นักการเมืองกระล่อนจะช่วยดูแลอะไรเราได้

แผนงานป้องกันภัยต่างๆก็ทำแบบเด็กอมมือ

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั่นแหละดีที่สุด

· ช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา ผมออกจากลานปัญญามาจีบสาวๆสนุกสนาน ต่อไปนี้ก็จะกลับเข้าบ้านแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงๆก็จะโพสต์ข้อความโยงมาถึงเฟสบุกส์อยู่ดี แต่เนื้อหาอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง คงจะเข้าสู่กระบวนการของหมู่บ้านโลกเป็นหลัก ถ้าใครติดตามอ่าน”ลานซักล้าง” จะเห็นว่าคอนดรั๊กเตอร์ ทำการบ้านรอมาเป็นระยะๆ วันนี้เดินมาถึงหมู่บ้านโลกตอนที่ หก แล้วนะเธอ

· คอนดรั๊กเตอร์ เขาจะทำเรื่องหลักการ ส่วนข้าน้อยจะทำเรื่องกระบวนการ ถ้าสนใจก็เข้าไปอ่านลานปัญญา คอนดรั๊กเตอร์ พูดถึงภาพรวมของการเกิดภัยพิบัติ ถ้าเรายังสนิมสร้อยอยู่อย่างนี้ คงจะช่วยตัวเองได้น้อย ปกติภัยที่ว่านี้มันก็เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแล้วละครับ เพียงแต่เราไม่ใส่ใจกันอย่างจริงจัง เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ภาคเหนือทั้งหมดถูกรมด้วยไฟไหม้ป่าอย่างที่เกริ่นนำ ต่อมาอากาศร้อนแล้งมหาโหด ลำปาง สี่สิบกว่าองศา ถามว่า มีใครแก้ไขเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมได้รือไม่ เจ้าภาพอยู่ที่ไหน คนรับผิดชอบมีหน้าตาอย่างไร

สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า “มั น ก็ แ ค่ นั้ น แ ห ล ะ ต๋ อ ย ”

สังคมไทยอยู่กันอย่างลูบหน้าปะจมูก สนุกกับการกลบข่าวไปวันๆ อ้าว! เมื่อรู้แล้วจะทำยังไงละ หมู่บ้านโลกก็เดินหน้าต่อไปทุกวัน เมื่อเร็วๆนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตส่งเครื่องอบพลังงานแสงอาทิตย์มาให้ ผมก็นึกว่าเครื่องเล็กๆ ที่ไหนได้ มันเพียงพอที่จะนำมาศึกษาเรื่องความมั่นคงด้านอาหารอย่างดีเลยละครับ เมื่อคืนโฉมยังมาบีบนวดหัวไหล่ให้ สงสัยจะเกิดจากการสะพายกระเป๋าหนักผิดท่า ตอนนี้หัวไหล่ทั้งซีกยังบ่มีแฮง เพลียๆยังไงไม่รู้นะครับ ข น า ด อ ยู่ ใ ก ล้ ชิ ด กั บ ค น รู้ ใ จ ก็ ยั ง ไ ม่ ก ร ะ เ ตื้ อ ง เออ ไม่รู้จะทำยังไงดี วันนี้จะลองนวดครีมที่ผลิตจากลำไย ถ้าหายเธอเอ๋ย จะกระดี๊กระด๊าไปได้อีกนาน

โฉมยงได้ของถูกใจ เล่าให้ฟังว่าจะเอาสมุนไพรมาอบมาทดลอง เมื่อก่อนลูกมะกรูดหล่นทิ้งเต็มพื้น เก็บมาบดปั่นทำครีมอาบน้ำบ้าง บำรุงผิวบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาจะลองเอามาอบแห้งแล้วบดๆๆๆ เอาไปทดลองเรื่องอื่นๆได้กว้างขวางขึ้น

ส่วนผมก็คิดในมุมผม

-ช่วงที่ผักออกเยอะๆผมจะเอามานึ่งแล้วส่งเข้าไปอบแห้ง เก็บไว้ในรูปของการถนอมอาหาร

-ช่วงที่ขุดมันเลือด เผือก เยอะๆก็จะเอามาแปรรูป อบแห้ง บดๆๆเก็บไว้ในรูปแป้ง

-ช่วงที่ผลไม้ออกเยอะๆ เสาวรส มะม่วง ขนุน กล้วย ก็จะลองอบแห้งไว้

-ช่วงที่เมล็ดธัญพืชออกมากๆ ถั่วพู ทานตะวัน ถั่วเขียว ก็จะเอามาอบๆ เก็บไว้

-ช่วงที่มีเนื้อสัตว์ ปลา ทำเนื้อแดดเดียว ก็จะลองทำแบบหลายๆแดด

-ช่วงที่มีสมุนไพรออกมามากๆ ก็จะเอามาอบๆๆและอบให้แห้ง ทำชา ทำประคบ ใส่แค๊ปซูล ก็ว่ากันไป

เรื่องเหล่านี้เรายังต้องเรียนรู้อีกมาก

ท่านผู้สันทัดกรณี จ ะ อุ ป ก า ร ะ ค ว า ม รู้ ก็ เ ชิ ญ เ ล ย น ะ ค รั บ

· ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คิดในแง่ของการเตรียมภัยพิบัติ ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง แต่มันไปเกิดขึ้นกับพื้นที่ของญาติผม คนที่ผมรัก ผมก็จะส่งของพวกอาหารกึ่งสำเร็จรูปเหล่านี้แหละไปปลอบใจเธอ ช่วยเหลือเธอให้เขยื้อนปัญหาได้สะดวกใจยิ่งขึ้น หรือถ้าเรามีมากๆเราก็ยังจะส่งไปช่วยที่อื่นได้อีก

ถามว่า ถ้าเกิดภัยพิบัติมาอีกรอบ เราจะแก้ปัญหาหลักๆกันอย่างไร

ด้านอาหาร ด้านพลังงาน สิ่งอุปโภคบริโภค ได้คำตอบแล้วหรือยัง

คอนดรั๊กเตอร์ ฉุกคิดว่า ถึ ง ส ว น ป่ า จ ะ เ ต รี ย ม ก า ร อ ะ ไ ร ๆ ไ ว้ ดี

แต่คณะญาติไม่สามารถเดินทางมาถึงได้หรอก

น้ำท่วม สะพานพัง ถนนขาด ไปมาหากันไม่ได้จะทำยังไง!!!!

โธ่! จะยากอะไรละครับ

คอนฯก็ควักกระเป๋าซื้อ เ ฮ ลิ ค อ ป เ ต อ ร์ ไ ว้ สั ก ลำ

ถึงเวลาก็ขนพวกเรา บิ น ขึ้ น พั บ พั บ พั บ

อ ย่ า ลื ม เ รี ย ก ไ อ่ แ ห้ ว ติ ด ม า ด้ ว ย ก็ แ ล้ ว กั น

เดี๋ยวไม่มีคนคั้นน้ำเสาวรสให้ชิม

แคว๊กๆ



Main: 0.09269380569458 sec
Sidebar: 0.077207088470459 sec