กฏพระเจ้า/กฎมนุษย์

อ่าน: 2686

ในธรรมชาติมีกฎกติกาเหมือนกัน

เพียงแต่ไม่ได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

มนุษย์ต้องเรียนรู้เอาเอง ถ้าเรียนไม่ถูก ไม่ถึง

เกิดความเข้าใจผิด ทำลายกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ก่อให้เกิดภัยวิบัติต่าง ๆ

อย่างเช่น เรื่องที่เรากำลังพูดถึงโลกร้อน แผ่นดินไหว หิมะตก สึนามิ เป็นต้น

ส่วนกฎของมนุษย์นั้นมีทั้งที่เก็บงำไว้ในใจ และที่ประกาศออกมาเป็นกฎหมาย หรือข้อบังคับต่าง ๆ  กิเลสทำให้เกิดความขัดแย้ง ในใจตนเอง ในครอบครัว ในสังคม ในประเทศ และในโลก ถ้าตราบใดที่มนุษย์ ไม่เรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ ไม่ออกแบบให้สอดรับกัน ยอมรับที่จะอนาทรและดูแลกัน ความสงบสุข สันติสุขในโลกนี้ก็จะเกิดขึ้นได้ยาก

พระเจ้ายุติธรรมเสมอ ประเทศที่อยู่กับความแห้งแล้งตกระกำลำบาก ต้องเรียนให้รู้วิธีที่จะอยู่อย่างสัมพันธภาพกับสภาพแวดล้อม ชาวอิสลามสามารถตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินที่เวิ้งว้างมานานนับแสนปี  ได้ค้นคิดชุดความรู้ขึ้นมาเพื่อนำมาใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน โดยยึดเอาพระเจ้าเป็นที่พึ่งทางใจ เราเดินทางผ่านทะเลทรายระยะทางประมาณ 600 ก.ม. ถนนหนทางแบบมอเตอร์เวย์ ทำให้การสัญจรสะดวกและรวดเร็ว  แต่กว่าจะเจอบ้่านเมืองแต่ละจุด ระยะห่างนับ 100 ก.ม.  ไกด์เล่าว่า ที่นี่ถึงถนนจะมีสภาพดี แต่เขาก็มีกฎกติกาที่เคร่งครัด ห้ามรถวิ่งเกิน 100 ก.ม. /ช.ม. ถ้ารถเสียระหว่างทาง จะมีรถปอเต็กตึ้งสีน้ำเงินวิ่งคอยช่วยเหลือ ถ้าเสียไม่มากก็ซ่อมให้ ถ้าเสียมากลากไปอู่ให้ เป็นบริการฟรีจากรัฐบาล ผมคิดว่าถนนในทะเลทรายตัดตรง ถึงมีเหล็กกั้นให้วิ่งคนละเลน ถ้าไม่กำหนดกฎจราจร รถก็จะวิ่งเร็วเต็มอัตรา นอกจากอันตรายตอนแซงกันแล้ว คนขับหลับใน อาจจะเป็นปัญหาที่เขาระแวดระวัง ตูม! กลางทะเลทรายตายอย่างเขียดลูกเดียว

คณะเรานั่งรถมา 300 ก.ม. แวะเข้าห้องน้ำ รถเติมน้ำมัน เราต่างก็เฮโลไปห้องน้ำ ห้องสุขาเล็กแถมยังเหม็นโฉ่ ผู้ชายสละสิทธิ์ขอไปแอ่นยิงกระต่ายกลางผืนทราย ผมถือโอกาสไปด้วย จะได้มาคุย.. ทะเลทรายรึ ไปฉี่รดมาแล้ว อิอิ.. จุดพักริมทางที่ว่านี้ มีร้านจำหน่ายของขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม แต่ยังไม่ทันสมัยเหมือนร้านริมปั๊มของไทยหรอกนะ ผมซื้อเบียร์มา 1 กระป๋อง อ้่าว! ไหนว่าห้ามดื่มของมึนเมา พบความจริงว่าเบียร์อิหร่านหมักด้วยผลไม้ เทออกมามีฟองเหมือนกัน แต่บ่มีแอลกอฮอร์แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว จะว่าเขาเลี่ยงกฎก็ไม่ใช้ เพียงแต่ทำอิงระบบให้เสมือนจริง ทดลองดื่มแล้วก็เหมือนเราดื่มน้ำผลไม้ดับกระหาย  ร้านอาหารบางครั้งเขาก็เสริฟเบียร์ เป๊ปซี่ น้ำส้ม น้ำดื่ม และนมแพะ  นมแพะนี่เรียกเสียงฮา..บางคนบอกว่าเหมือนกับกินยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน ผมลองดูแล้ว เปรี้ยว ๆ ขื่น ๆ ไม่คุ้นชินไม่อร่อย

(เดินไปแหกกว้าง ๆ มันต๊กกะใจ เดี๋ยวก็ให้ผ่าน ฮ่า ๆๆ )

กฎกติกาหนึ่งที่ฮากระเจิง ระหว่างตรวจคนเข้าเมือง

เขาจะสุ่มสำรวจ เพื่อค้นหาคนลักลอบเข้าเมือง

โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่หน้าตาดี

เจ้าหน้าที่เข้าเมืองจะให้แหกตา สแกนลูกกะตาไว้ตรวจสอบ

เผื่อจะตรงกับประวัติอาญชญากรรม

พวกเราโดนกันไปหลายคน

เพื่อน ๆ เก็บมาเล่าฮากันท้องคัดท้องแข็ง

ณ วันนี้ มนุษย์ทุกชนทุกเผ่า ยังจะต้องเรียนรู้เรื่องกฎกติกาของธรรมชาติอีกมากนัก เท่าที่รู้ ที่ทำอยู่ตอนนี้ อาจจะอยู่ในขั้นอนุบาลเท่านั้น ยังไม่มีชุดความรู้ที่จะปกป้องดูแลต้นทุนของโลกได้.. ระหว่างที่เราบินผ่านดินแดนเหล่านี้ จะสังเกตุเห็นภูเขาเตี้ย ๆ มีสภาพเป็นเขาหินที่แห้งแล้ง ส่วนภูเขาสูงจะมีหิมะปกคลุม ฤดูร้อนหิมะละลายไหลงมาสู่ที่ราบกลายเป็นแม่น้ำให้คนในเมืองใช้อย่างสบาย ในกรุงเตหะราน น้ำไหลผ่านลงมาตามท่อน้ำทิ้ง 2 ข้างทาง บางคนเอาถังตักน้ำล้างรถริมถนนนั้นเอง น้ำส่วนหนึ่งอาจจะซึมลงไปใต้ดิน ..เมืองเล็กๆในทะเลทราย มองเห็นแท็งน้ำตั้งอยู่ เข้าใจว่าเขาคงจะใช้น้ำบาดาล เพราะไม่มีแหล่งน้ำที่ไหนไหลผ่าน ถึงไม่มีป่าไม้ เขาก็มีน้ำจากหิมะละลายไหลมาทดแทน ที่ไหนมีน้ำมนุษย์ก็ดิ้นรนอยู่ได้ การปลูกต้นไม้ของที่นี่ยากลำบากมาก ต้องเดินท่อน้ำหยดให้ บางแปลงโตแล้วก็ยังยืนตายหลายสิบเปอร์เซ็นต์

เราได้ไปดูการประชุมรัฐสภาพของประเทศอิหร่าน

ระหว่างยืนรอทำเรื่องเข้าไปชม

เห็นชาวอิร่านกลุ่มหนึ่งทั้งหญิง-ชาย นับพันคนเดินขบวน

นึกแปลกใจว่าเมืองที่เคร่งงวด เขายังผ่อนคลายให้ใช้สิทธิชุมชนได้ตามสมควร

คณะเราเข้าไปนั่งชมการประชุมที่ชั้นบนของรัฐสภาฯ

สมาชิกรัฐสภาเขาอภิปรายด้วยการอ่านเอกสาร

ดูแล้วไม่เร้าใจ

สู้ของไทยไม่ได้.. เล่นลิ้นไ้ด้ฉอด ๆๆๆ ดุเด็ดเผ็ดมันส์

จะแย่กว่าของอิหร่านก็ตรงที่หนีประชุมนี่แหละ่่

ทำให้ประธานสภาเสียเวลานับองค์ประชุมอยู่เรื่อย ๆ

บ้านเราจึงดำเนินงานทางการเมืองอย่างขลุกขลัก

กฎหมายแต่ละมาตราจะผ่านได้ รัฐบาลก็เจ๊งโบ๊ะ

แสดงว่าคนอยู่ในทะเลทราย หรือคนอยู่ในที่อุดมสมบูรณ์ก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก

ยังสาละวนอยู่กับกฎเกณฑ์ ที่พยายามจะบังคับและความคุมกิเลส

มนุษย์นี่หนอ..

« « Prev : รวยเลอะเทอะ

Next : คำนิยม เจ้าเป็นไผ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น

  • #1 มิสเตอร์สะตอฯ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:48

    กราบขอบพระคุณมากๆ เลยครับ สำหรับบันทึกนี้

    แบ่งแยกแบ่งส่วนกันด้วยกฏ บูรณาการกันด้วยใจ
    มนุษย์เราสร้างกฏเกณฑ์ขึ้นมาก็เพื่อทำให้มนุษย์ด้วยกันเป็นทุกข์
    กฏธรรมชาติก็ไม่ยอมรับในการอยู่ร่วม จึงสร้างกฏใหม่ที่คิดว่าจะใหญ่และคุมธรรมชาติ ทั้งๆที่ชีวิตมีแค่ไม่เกินร้อยปี
    การยกระดับจิตใจจึงเป็นประเด็นสำคัญที่มนุษย์เราละเลย เพราะมีสิ่งดึงดูดอื่นให้ทำและเสียเวลากับสิ่งเหล่านั้นไปเท่าไร

    การควบคุมไม่ให้คนทำชั่ว หรือจะดีกว่าสนับสนุนให้คนทำดี กลุ่มหนึ่งอยู่ด้วยความกลัว อีกกลุ่มอยู่ด้วยความสุขใจ
    แล้วไทยเราละจะเลือกแบบไหน หรือว่าผสมผสานจะได้กลัวผสมสุขทุกข์ผสาน

    มนุษย์นี้หนอ…. ทำดีให้เห็นก็เย็นใจ มัวทุกข์ทำไมใจมันร้อน ความทุกข์ในทุกวันนี้เกิดจากความไม่มี และอยากมี เป็นส่วนใหญ่ หากละความไม่อยากมี
    ไม่อยากได้ เราจะพบความสุขอีกบานเลย

    บันทึกนี้เป็นอาหารสมองของคนเลยละครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.73823404312134 sec
Sidebar: 0.40213894844055 sec