บริบทสุขภาวะแห่งจิตใจ ****

อ่าน: 2788

เรื่องที่จะเล่าในวันนี้นะเธอ เป็นตอน:จากห่วงโซ่อาหารมาเป็นความห่วงใย

มาจะกล่าวบทไป ถึงเรื่องอาหารการกินของมนุษย์เรา ชนชาติที่สนใจเรื่องนี้น่าจะยกให้คนจีน เจอหน้ากันก็จะทักทาย กินข้าวแล้วหรือยัง ส่วนคนไทยเราจะเน้นที่ความสุขสบาย สบายดีไหม ความห่วงใยแสดงออกถึงความเป็นไปของสังคมนั้นๆ คนไทยนั้นโชคดีนัก ไม่ค่อยจะเดือดร้อนเรื่องอาหารการกินสักเท่าไหร่ พิจารณาดูสำรับกับข้าวของคนไทย จะแตกต่างกว่าคนอื่นเขา มีอาหารคาวและของหวาน ตามด้วยน้ำปรุงรสปรุงใจอีกไม่น้อย คนไทยเสียเวลากับการประกอบอาหารแต่ละมื้อไม่น้อยเลย สังเกตดูรายการอาหารบนโต๊ะดูเถิด ของคาวก็ใช่ว่าจะมีชนิดเดียว ประเภทต้มยำตำแกงครบครันไม่มีตกหล่น วัฒนธรรมทางอาหารของไทยนั้นบ่งบอกถึงความหมายในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แผ่นดินของเราอุดมสมบูรณ์

คนไทยจะมีผักสวนครัวหลังบ้าน มีนิยามมากมาย ผักริมรั้ว ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก สวนครัวหมายถึงในสวนมีสิ่งที่ครัวต้องการครบถ้วน ไม่ต้องวิ่งไปซื้อหาให้เมื่อยตุ้ม เห็นว่าจำเป็นต้องมีพืชผักอะไรก็ปลูกเหน็บไว้ที่โน่นที่นี่ ในตู้เย็นมีอะไร ในสวนครัวมีมากกว่า แถมยังสดๆอีกต่างหาก

การเด็ดพริกขี้หนูเด็ดมะนาวสดๆจากต้นมาตำน้ำพริกกะปินี่นะเธอ

เราจะได้รสของความอร่อยจากความสดแตกต่างจากของซื้อค้างคืนมากนัก

ถึงจะมีวิธีถนอมอาหาร มีตู้แช่ต่างๆ..มันก็ชดเชยไม่ได้หรอก

เป็นแต่ข้อจำกัด หรือมีความจำเป็น..ก็หยวนๆกันไป

ทำให้คนสมัยนี้ลืมเสน่ห์ของคำว่า..ผักสวนครัวไปอย่างน่าเสียดาย

ในวาระที่คณะวิทยากรจัดโครงการเรื่อง การบริการความรู้สุขภาวะเชิงรุก ปลุกกระแสให้ประชาชนดูแลตัวเองและอนามัยสิ่งแวดล้อม มาจัดที่มหาชีวาลัยอีสานคล้ายกับกินยาถูกโรคเลยทีเดียวละครับ เพราะประเด็นและปัจจัยแวดล้อมพร้อมอยู่แล้ว คณะวิทยากรที่ประกอบด้วยแพทย์หญิงรุ่นใหญ่-อาจารย์พยาบาล-นักจัดการความรู้-ครูอาจารย์นักบริหาร-ผสมผสานกับนักกายภาพบำบัด-แม่ครัวหัวป่าส์-คุณป้าชาวบ้านที่รักการปลูกผักเป็นชีวิตจิตใจ เรามีคุณชายซึ่งเป็นชาวกรุงทั้งแท่ง ที่สัมผัสวิถีชีวิตชนบทแบบถึงลูกถึงคนน้อยมาก แต่ในสมองเต็มไปด้วยโจทย์ที่ตกคลักมานาน..ได้นำพาตัวเองมาเรียนรู้เรื่องสุขภาวะของชนบทอย่างถึงลูกถึงคน ถึงเป็นคณะเล็กๆแต่คุณภาพคับครัวด้วยประการละฉะนี้นะเธอ เพราะเขาเหล่านี้มีความเข้าใจในจุดประสงค์ตรงกันอย่างยิ่ง จะคิดจะชวนกันทำกิจกรรมเชิงรุกเรื่องอะไร มันดูเป็นปี่เป็นขลุ่ยลื่นไหล ไม่ต้องมานั่งประชุมคัดเลือกเรื่องที่จะทำ ใครเสนออะไรมามันเข้าที่เข้าทางแลดูง่ายๆไปเสียหมด

แต่ก็นั่นแหละเธอ..กว่าที่ขบวนการจะเดินทางมาถึงตรงจุดนี้ได้

มันมีที่ไปที่มาของการสะสมต้นทุนในเรื่องเหล่านี้

เธอรู้ไหม? กว่าจะเกิดกว่าจะเป็นคณะที่มีศักยภาพครบเครื่องเรื่องการวิจัยอัตลักษณ์สังคม มันไม่ใช่ว่าจะเกิดจะมีกันง่ายๆ ใช่ว่าคณะวิทยากรเพิ่งจะเจอกันครั้งสองครั้ง เราขลุกกันมานานจนมองตาก็รู้ใจ ได้แลกเปลี่ยนความรักความรู้ทั้งทางตรงทางอ้อม หลายปีมาแล้วที่นัดมาซ้อมฝีมือกันเป็นระยะๆ ถ้ า ท่ า น ติ ด ต า ม อ่ า น ก ร ะ บ ว น ก า ร ข อ ง ช า ว เฮฮาศาสตร์ในลานปัญญา ก็จะเข้าใจเข้าถึงในบริบทที่กล่าวถึงนี้ จากบทความที่เกริ่นถึงความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง”  ตัวนี้แหละสำคัญนัก คนเราถ้าชอบพอชอบใจคบกันจนคุ้นเคยกันอย่างญาติ ทุกอย่างก็เปิดโล่งสะดวก การทำกิจกรรมที่เส้นทางสว่างโล่ง มันจึงได้เรื่องได้ราวระดับมีชีวิตชีวาก้าวกระโดดโลดเต้นได้ ทุกเรื่องที่ทำ..

§ เราใช้ดุลยพินิจเสวนาภาคปฏิบัติแบบไม่ได้แยกส่วน

§ เรามองถึงต้นทุนชีวิตและบริบทของสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง

§ เรามองถึงความเป็นไปในมิติของชีวิตโดยรวมแห่งยุคสมัย

§ เรามองถึงความเป็นอยู่ที่เป็นสุขภาวะทั้งมวล

เรามองจาก-ก้นครัวไปหา-สวนครัว-ไปสู่กระบวนของการกินอยู่กับปาก-ความลำบากไปอยู่ที่ท้อง-“คนเราเอาอะไรใส่ปาก ผลก็ออกมาเป็นอย่างนั้น การชี้ให้เห็นจุดพลิกผันที่เปลี่ยนแปลงทั้งในส่วนดีและส่วนด้อย ยกตัวอย่างเช่น การคุยกันถึงเรื่องยา มีผู้สันทัดกรณีให้ข้อมูลในวงกว้าง ว่าประเทศนี้บริหารหยูกยากันอย่างไร นับตั้งแต่ต้องพึ่งพาอาศัยนำเข้ายาจากต่างประเทศ การกำหนดเงื่อนไขให้แก่ผู้รับบริการ กฎเกณฑ์การใช้ยาในสภาพและสภาวะต่างๆ ประเทศเราต้องมีรายง่ายเพิ่มขึ้นปีละหลายหมื่นล้านบาท

การดูแลรักษาและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บมันไปโยงกับความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย

คนไทยมีชุดความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะในระดับใด?

ถ้ามีความรู้ถูกต้องและพอเพียง ก็จะช่วยให้กระแสการดูแลตนเองในภาคประชาคมมีความเป็นไปได้มากขึ้น

ปัญหาอยู่ที่จะ ค้นหาความรู้ดังกล่าวได้จากที่ไหน?

ใครเป็นเจ้าภาพหลัก เจ้าภาพรอง เจ้าภาพร่วม

ประเทศนี้ จะต้องหางบประมาณมาสร้างสุขภาวะสังคมเท่าไหร่มันถึงจะพอ ถ้าเรายังให้น้ำหนักกับการพึ่งพาภายนอกจนสุดโต่งในสภาพเตี้ยอุ้มค่อยเช่นนี้ การที่ ดร. จันทรัตน์ เจริญสันติ แห่งคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ใส่ใจในเรื่องนี้ มันจึงเสมือนการจุดคบเพลิงในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั่นแหละเธอ เรื่องนี้ไม่ใช่จะสรุปอะไรได้ง่ายๆ เป็นแต่ขอเปิดประเด็นให้ฉุกคิดในมุมสร้างสรรค์ เราคนไทยเราสามารถจะทำอะไรช่วยเหลือตัวเองและช่วยกันเองได้

ถ้าพิจารณาให้ดี เรามีบริบทที่เป็นทุนในเรื่องนี้ไม่น้อยหรอก ถ้ารู้จักเอาวัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาไทยมาเคาะสนิมโดยผู้ที่เข้าใจ เรื่องความเป็นไปของโลกเก่าและวิทยาการใหม่ๆ อนึ่ง ท่านเหล่านี้ต่างก็มีบทบาทเกี่ยวข้องในหน้าที่การงานอยู่แล้ว จึงพอจะมองเห็นแผนภูมิของสุขภาวะเชิงรุก ว่าจะรุกคืบกันอย่างไร?

เจอหน้ากันตอนเช้าก็รำพึงถึงเรื่องมุมมองเกี่ยวกับยาของคนสมัยนี้

คนยุคนี้รู้จักยาในลักษณะของ-เม็ด-ผง-แค็ปซูล-ในหลอดยาฉีด หรือที่เรียกว่ายาสำเร็จรูป อ้าว! แสดงว่ามียาที่ไม่สำเร็จรูปอยู่ด้วยสิ มันอยู่ที่ไหนละ ในเมื่อเกิดมาก็เห็นแต่ยาสำเร็จรูป เจ็บป่วยไปโรงพยาบาลก็เจอการตรวจการจ่ายยาใส่ซองเล็กๆ ยาที่เป็นใบไม้ดอกไม้รากไม้แก่นหรือกระพี้ไม่รู้จัก ทั้งๆที่ตนเองก็สัมผัสอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผักผลไม้ที่รับประทานไม่ได้รู้สึกรู้สาว่ามันเป็นยารักษาอะไร นึกว่ากินเข้าไประงับความหิว บางครั้งไม่หิวก็ต้องกินเพราะเป็นเรื่องค่านิยมไปแล้ว ไม่ได้ฉุกคิดว่า..ร่างกายไม่หิว..อาจจะประเมินได้ว่า..ร่างกายยังไม่ต้องการอาหาร ฝืนกินเข้าไปตามความอยากความอร่อย มันก็พุงโย้สิเธอ ..วินัยในการรับประทานอาหารเป็นเรื่องที่ต้องว่ากันยาว ถ้าคลิกตรงจุดนี้ได้ สุขภาพของคนไทยก็เดินมาถูกทางหน่อยหนึ่งและเธอ

เรื่องกินเรื่องใหญ่ ทำให้มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่ต้องสร้างความตระหนัก

เพราะมันเป็นบ่อเกิดและต้นเหตุสำคัญของการดำรงชีวิตและการมีคุณภาพของชีวิตที่ดี เรามาพิจารณาการกินอยู่ของคนไทยยุคนี้ดูสิเธอ มีจุดไหลที่จะตะล่อมเข้าทางตามหัวข้อเสวนาปฏิบัติการครั้งนี้ได้ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราก็เอาช่วงที่เรามาอยู่ร่วมกันนี้และเปิดบทเรียนสารบัญหน้าแรก

มื้อเช้าชวนกันเข้าสวนครัว ผมพาไปเดินชมผักพื้นที่ถิ่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ช่วงฝนดีอย่างนี้ ยอดอ่อมแซบ ยอดตำลึง ยอดโสม ยอดกระดุมเงิน ยอดมะรุม ยอดมะกล่ำ ยอดชะอม ยอดมะระขี้นก ยอดน้ำเต้า ถ้าจะเขียนทั้งหมดก็เสียเวลา มะ..ชวนกันถือตะร้ากับกรรไกรเดินกันฉับๆไปข้างบ้าน เลือกตัดเอาสิ เขียวพรึดเต็มสวนอย่างนี้ อยากจะชิมอะไรก็ตัดฉับๆๆไม่ถึง 10 นาทีก็ได้ครบสารพัดผักที่จะผัดไฟแดงกินกับข้าวต้ม เวลาที่เหลือก็โม้ชี้ชวนกันให้ดูสภาพสวนครัวธรรมชาติ นี่ๆๆๆไม่ได้ปลูกเองสักกะหน่อย ที่เดินลุยมานั้นย่ำบนผักทั้งนั้น มันเหลือเฟือไหมละบรรณาการจากจากธรรมชาติ  อ่อมแซบที่เห็นตรงหน้านี้ตัดไปผัดกระทะร้อนได้สัก500กระทะมะละมัง เลี้ยงคนได้เป็นพันใช่ไหมละเธอ

นอกจากจะได้ชิมผัดผักสดๆอร่อยแล้ว

ผักพวกนี้ปลอดสารพิษปลอดมลภาวะใดๆ

เป็นอาหารอันโอชะที่เข้าข่ายสุขภาพท้องไส้ยิ่งนัก

จุดสุดท้ายขึ้นอยู่กับฝีมือการควงตะหลิวของแม่ครัวแล้วละเธอ

อยากจะอร่อยแค่ไหนพลิกแพลงอย่างไรก็เชิญ

นอกจากข้าวต้มแล้ว ผัดผักกระทะร้อนแล้ว ยังมียำผลไม้ที่หนูฝนบรรจงแสดงฝีมือ เธอเก็บผลไม้นานาชนิดมาลงจาน ตบแต่งสวยงามด้วยใบชะพลูและดอกอัญชัน ได้รับคำชมอื้ออึงว่าอร่อย..ยังมีน้ำซุปผักและอาหารที่เป็นบรรณาการจากสวรรค์อีกนะเธอ ป้าสอนนะสิ.. ตื่นไปเก็บเห็ดมาให้เต็มตะกร้า มีเห็ดหลายชนิด แต่ครูอารามสนใจเห็ดผึ้งขมยูคาฯ จึงชวนป้าสอนไปทำลาบเห็ดยูคา ใส่เครื่องลาบตำรับชาวเหนือที่เตรียมมา แค่นี้แหละเธอเอ๋ย ได้เรื่องเลยยย..เห็ดยูคาที่ต้มเอาความขมออกคลุกเล้ากับเครื่องลาบ โดยผู้สันทัดกรณีอาหารพื้นถิ่นเมืองลำพูน กินกับแคบหมูกรอบที่เอามาด้วย ตามได้ผักจิ้มลาบอีสาน มันเป็นอะไรที่ต้องเขียนไปน้ำลายหยดแม๊ะ มันเข้าเครื่องเข้ารสเด็ดสระระตี่จนเล่าไม่ถูก

รู้แต่ว่า ณ บัดนี้เราค้นเจอเมนูเห็ดจานเด็ดขึ้นแล้ว

ถ้าใส่ข้าวคั่วแบบลาบอีสานเข้าไปด้วยจะเป็นยังไงละ

ถ้านำไปวิเคราะห์ถึงสารอาหารจานนี้จะเป็นยังไงละ

ถ้านำเอาตำรานี้ไปชี้ชวนคนอีสานลาบกินทุกหมูบ้านมันจะอร่อยเหาะขนาดไหน

เราได้เห็นบริบทของคำว่าเชิงรุกหน่อยแล้วใช่ไหมละเธอ

มาถึงมื้อกลางวัน ตั้งใจว่าจะทำอาหารจานเดียว จึงวางแผนทำก้วยเตี๋ยวกัน ระดับแม่ครัวหัวป่าส์จะทำตามก้นคนอื่นได้ไปทำไมละ เราก็พลิกแพลงทำให้อร่อยขึ้นได้รับประโยชน์มากขึ้น ไม่งั้นจะเรียกว่าเชิงรุกเรอะ..โฉมยงกับเจ้าหนูฝนเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ ผมรับหน้าที่เพาะถั่วงอกมาสมทบ โห! ก้วยเตี๋ยวมื้อนี้หอมฉุยตลบไปทั้งบ้านด้วยกลิ่นว่านสาวหลง หมูมักเนื้อนุ่ม น้ำซุปมี2แบบ แบบน้ำซุปกระดูกไก่ กับน้ำซุปเห็ด6ชนิด สำหรับท่านที่จะชิมก้วยเตี๋ยวมังสะวิรัติ ยังมีเส้นให้เลือกอีก3ชนิดนะเธอ  เส้นเล็ก-เส้นหมี่-เส้นก้วยจับ ปรุงกันชุลมุม สุดท้ายก็ชิมกันทั้ง2แบบ ล่อกันจนตาค้างและพุงกางทั่วหน้า ให้รู้ฤทธิ์เสียบ้างว่าก้วยเตี๋ยวภาคพิศดารที่อร่อยที่สุดในโลกนั้นเป็นอย่างไร?

อ้าว! คุณชายยังเอาไก่อบมาสมทบอีก

หลังจากผ่านมื้อเที่ยงไปแล้ว ช่วงบ่ายอย่าให้ไปทำอะไรเลย ปล่อยให้นอนสบายๆสักคนละงีบ เดี๋ยวตื่นมาก็ได้เรื่อง หาเรื่องทำกันเองอีกนั่นแหละ ผมก็งีบเหมือนกันนะ อิ่มในสภาวะอากาศเย็นๆอย่างนี้ ใครจะถ่างตาไหว หลับกันเป็นแถวนะสิเธอ

คนที่ตื่นก่อนไปก่อไฟ เด็ดมะเขือยาวมาปิ้ง หมอเจ๊นัดครูอึ่งตำส้มมะละกอ ได้ยินเสียงโป๊กๆ เสียงแห่งความอร่อยเปิดฉากแล้ว ครูอารามรับอาสาปรุงยำมะเขือยาว ผมช่วยลอกเปลือกมะเขือ ครูอึ่งช่วยปิ้ง อุ้ยเอาเศษอาหารไปเลี้ยงวัว เล่าว่าสนุกมากที่เห็นวัวอร่อยไปพร้อมๆกับเรา

วัวเดินมาหาน้ำลายหยดติ๋งๆเลยนะครูบา

เออ หนอ ถ้าพยาบาลเลี้ยงวัวถ้าจะดี

ย า ม วั ว ท้ อ ง แ ก่ ก็ จ ะ ไ ด้ ทำ ค ล อ ด ใ ห้ ด้ ว ย

เมนูมื้อเย็น มียำมะเขือยาวกับส้มตำรสเด็ดไปนอนเอ้งเม้งอยู่ในท้องเรียบร้อย ทุกอย่างผ่านไปอย่างชื่นมื่น อุ้ยปอกลูกพลับใส่กล่องแช่เย็นไว้ หนูฝนเป็นคนเอามาบริการ อิ่มจนอืดอีกแหละพี่น้อง หลังจากนั่งคุยให้พุงคลายตัว ก็ชวนกันไปชมพระจันทร์ที่สุกสกาวที่หมู่บ้านโลก เราปิดไฟฟ้าได้ทุกดวง ลมพัดเย็นๆอย่างกะอยู่ชายทะเล นั่งเล่นเน็ทบ้าง คุยกันบ้าง เล่นลูกยิงใบพัดที่ติดไฟไอซีดวงเล็กๆให้หมุนติ้วแข่งกัน จนกระทั้งลูกข่างใบพัดวิทยาศาสตร์พุ่งไปค้างอยู่บนยอดไม้ ส่งแสงวับแววเหมือนหิ่งห้อยในเทพนิยาย

ได้เวลาพอสมควรชวนกันไปเยี่ยมคุณชาย

แล้วก็บ่ายหน้ามาอาบน้ำพักผ่อน

ก่อนนอนอุ้ยจับผมฉีดยาที่ก้น

แล้วก็สวดมนต์พร้อมกับนวดไปด้วย

เป็นกรรมวิธีชวนให้นอนหลับที่ดีที่สุดในโลก

ผ ม ฟั ง เ สี ย ง ส ว ด แ ล ะ ค ล้ อ ย ต า ม น้ำหนักมือที่นวดผ่อนคลายเบาๆ

เผลอไปไหว้พระอินท์ตอนไหนก็ไม่รู้

ตื่นกลางดึกเข้าห้องน้ำ..เห็นน้าอึ่งนอนขดบนสื่ออยู่ข้างๆ

ทั้ ง ๆ ที่ มี ที่ ห ลั บ ที่ น อ น บ น ฟู ก สุ ข ส บ า ย

คุณน้าแห่งชาติก็จะมีสไตล์คงเส้นคงวายังงี้แหละ

ม า ส ว น ป่ า ค ร า ใ ด ก็ จ ะ ค ว้ า เ สื่ อ ม า ปู น อ น ห ลั บ ง่ า ย ๆ

ตอนดึกๆก็จะคอยดูว่าผมห่มผ้าดีไหม? ถ้าไอค๊อกๆ จะเอาน้ำอุ่นมาให้

บ ริ บ ท ที่ เ ล่ า ม า โ ด ย สั ง เ ข ป นี้ ก็ เ พื่ อ จ ะ บ อ ก ว่ า

คณะวิจัยชุดนี้นี้ปฏิบัติงานเชิงรุกนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในโครงการมากนัก

เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้นับได้ว่าเป็นสุขภาวะแห่งหัวใจ

รุกเข้าไปจนถึงจิตใจ..เชียวนะเธอ

เรื่องอย่างนี้คนล่าช้า คิดช้า อ้อยอิ่ง ไม่ได้แอ้มหร็อก จะบอกไห่

อย่างเก่งก็ทำได้แค่..เชิงลุกลี้ลุกลน เท่านั้น !!   อิ อิ..

« « Prev : ทำไมต้องเชือดไก่ให้ลิงดู

Next : ศึกษาดูงาน มาดูอะไร?**** » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "บริบทสุขภาวะแห่งจิตใจ ****"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.91409492492676 sec
Sidebar: 0.13081812858582 sec