มหาชีวาลัยอีสานเปิดห้องเรียน

อ่าน: 1244

(เด็กๆชวนกันออกมาวิ่งเล่น)

เรื่องนี้ไม่ได้พูดเล่นเอามันส์แต่อย่างใด เปิดล้านเปอร์เซ็นต์ ในชั้นแรกเปิดระดับประถมต้น ต่อไปทุกๆ6เดือนจะเปิดชั้นประถมปลาย มัธยมต้น มัธยมปลาย ไปจบตรงระดับอาชีวะศึกษา ส่วนระดับอุดมศึกษา จะเปิดเป็นสถานที่ให้นักศึกษามาพักพิงเป็นกลุ่ม ยกบ้านให้หลังละ2คน ถ้าจับกลุ่มกันมามากก็พักแบบบ้านใกล้เรือนเคียง จะเตรียมเครื่องครัวไว้ให้ทำอาหารกินเอง ถ้ามากันคราวละ4-6คนกำลังเหมาะ จะได้ช่วยกันทำการบ้านงานบ้านงานครัวกันสนุก ประเภทหัวเดียวกระเทียมลีบก็มาได้นะครับ ถ้ามุ่งมั่นจะฉายเดี่ยว เปิดกว้างให้ตามใจปรารถนา..

มีคนแซวว่า..รับคนอกหักไหม?

ตอนนี้ยังไม่พร้อมครับ

พร้อมเมื่อไหร่จะมีบ้านหลังเล็กๆติดป้าย..

ค น หั ก พั ก บ้ า น นี้ อิ อิ. .

ถาม นักศึกษาจะมาทำอะไร

อ้าว!-ช่วงปิดเทอม–ช่วงพักผ่อน-ช่วงเขียนงานวิทยานิพนธ์–ช่วงลงพื้นที่เก็บข้อมูล-ช่วงที่เซ็งบางกอกอยากจะออกมาสูดโอโซน–หรือช่วงที่อยากจะมาปฏิบัติทำ.. งานนี้รับแนวความคิดของอุ้ยจันตาที่อยากจะให้สวนป่าแปลงสภาพเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมไว้ด้วย

บ่มีปัญหาหรอกอุ้ย

จะเตรียมกลดไว้ให้พร้อม

เอาผ้าพลาสติกปูพื้นแล้วโยงยอดกลดไว้กับกิ่งไม้

ปล่อยผ้ามุ้งลงแล้วมุดเข้าไปนั่งสงบจิตสงบใจ

เช้า-บ่าย เดินจงกรม

:: การเดินจงกรม ช่วยให้เราเปิดหูเปิดตาต่อสิ่งมหัศจรรย์ที่มีอยู่มากมายในจักรวาล และมันจะเปลี่ยนโลกให้เป็นแดนสงบสุข มันจะช่วยให้เรากำจัดสลัดทิ้งความทุกข์โศก ความเศร้าและความกังวล มันจะนำสันติสุขมาให้ ขณะเดียวกันการเดินจงกรมก็ช่วยให้เราแลเห็นความทุกข์ในชีวิตได้เหมือนกัน หากเราไม่อาจแลเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเบื้องหน้าและรอบกายของเรา เราจะคาดหวังที่จะแลเห็นธรรมชาติของเราได้อย่างไร?

:: การแลเห็นธรรมชาติของตัวเรา เราจะต้องเปิดตา และตื่นขึ้นต่อสถานการณ์เป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลก และนั่นจะทำให้เราแลเห็นได้อย่างสมบูรณ์ถึงธรรมชาติในตัวเรา และธรรมชาติแห่งพุทธของเรา ความอดอยาก การไล่ล่าความมั่งคั่ง อำนาจเหล่านี้ไม่ได้แยกขาดจากธรรมชาติของเรา การเดินในที่ร่มครึ้มของต้นไม้ และทางเดินที่ปกคลุมด้วยใบไม้ที่ร่วงหล่นอันงดงาม เหล่านี้คือทางเดินจงกรมของเรา ขอให้เราเพลิดเพลินกับทางเดินเหล่านี้ มันจะไม่นำพาเราไปสู่ความหลงลืม  แต่ในขณะที่เราเดิน เราจะจำได้ และตื่นขึ้น เพื่อที่จะแลเห็นทุกข์ที่แท้จริงของโลก “ของฝากจากการเดิน โดยพระราชภาวนาวิกรม”วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี

(เด็กๆออกมาเรียนรู้กับแม่ในสวน)

งานนี้ต้องลงมือทำแล้วค่อยๆจูนหาจุดใช่..ดีไหมครับ เราต้องฟังให้มากกับข้อเสนอแนะผู้ที่มาสัมผัสวิถีชีวิตแบบนี้ ตื่นเช้าๆแทนที่จะเดินจงกรมเหมือนทั่วไป ผมก็จะแจกวัวแม่ลูกอ่อนให้จูงไปอาบแดด วัวเล็มหญ้าไป เราก็เดินสูดโอโซนไป อยู่ท่ามกลางความสงบอากาศเย็นสบายตามธรรมชาติ ไ ม่ ต้ อ ง ก ร ะ หื ด ก ร ะ ห อ บ รี บ เ ร่ ง แ ต่ ง ห น้ า แ ต่ ง ตั ว เ พื่ อ ม า ก ร ะ จุ ก อ ยู่ ต า ม ไ ฟ แ ด ง ห ร อ ก น ะ ค รั บ ผมทดลองดูแล้ว..เพลิดเพลินจำเริญใจเหลือเกิน นกโพระดก นกกาเหว่า นกเขา บินมาขันคูให้ฟังใกล้ๆ

ช่วงเช้าใช้เวลา2ชั่วโมงเดินดูวัวแทนการเดินจงกรม ก็ปล่อยให้วัวเดินกลับคอกเอง ส่วนนักปฏิบัติทำก็แวะเข้าแปลงผักสวนครัว ชอบผักชนิดไหนก็จัดเมนูตามใจชอบได้ เด็ดๆปรุงๆร้อนๆแค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ หลังจากอิ่มก็ทำการบ้านที่หอบมาด้วย จนกระทั่งบ่ายแก่ๆแดดร่มลมตก ถ้าอยากจะยืดเส้นยืดสาย ก็เข้าแปลงผัก ปลูกผัก รดน้ำใส่ปุย เก็บผลไม้ หรือจะเลือกผ่อนคลายผูกอู่นอนฟังเพลงก็แล้วแต่..

(เรียนอย่างร่าเริงสนุกสนาน)

สถาบันวิจัยสังคมจุฬา แจ้งว่าจะขอพานักศึกษาลงมาสวนป่าในช่วงวันที่ 25 เดือนนี้ ประจวบกับผมต้องลงไปใต้ จึงขอเลื่อนไปต้นเดือนหน้า แต่ที่แน่ๆที่จะมาให้ปรึกษาหารือในวันที่17 คือคณะฮักโฮมสกูล แม่ใหญ่กับคุณจิ๊บลูกสาวและออตจะมานอนโสเหล่หนึ่งคืน

มีคนถามว่าเปิดโรงเรียนไม่เกรงปวดกะโหลกรึ!

บ่มีปัญหาครับ

ผมมีครูอึ่งครูอารามแม่ใหญ่อุ้ยอยู่เคียงข้าง

หน้ามืดมาก็กริ๊งกร๊างปรึกษา

ใ บ ป ร ะ ก อ บ วิ ช า ชี พ ค รู ไ ม่ มี จ ะ ทำ อ ย่ า ง ไ ร ?

ผมไม่ใช้หรอกครับ

..ผ ม มี ใ บ สั ม ม า ชี พ เ ต็ ม ส ว น ป่ า

ใ บ ไ ม้ ต้ น ไ ม้ มีปะเลอะจะกลัวอะไร

“แต่ยังมีปัญหาครูช่วยสอน

ครูดีๆเขาก็งอนทำเฉยๆ

ชวนคนไหนก็ไม่สนใจเลย

มีไหมเอ่ย..ครูอกหัก..ขอสักคน”

เช้านี้โรงเรียนเปิดเทอม 6.30. ผมไปเปิดห้อง เด็กๆวิ่งมาเป็นพรวน ตอนนี้มีนักเรียน6ตัว อยู่ในวัยกะเปี๊ยกรูปร่างใกล้เคียงกัน กระโดดโลดเต้นคึกคักสนุกสนาน วิ่งตามแม่ไปยังแปลงหญ้า คุณแม่ก็ก้มหน้าก้มตากินอาหาร คุณลูกก็ชวนกันวิ่งเล่นในป่าไม้ นานๆคุณแม่ก็จะเงยหน้า ถ้าไม่เห็นก็จะร้องหา..พวกตัวเล็กก็จะวิ่งมา บางตัวก็ดูดนม บางตัวก็ยืนรอชวนเพื่อนไปวิ่งเล่นกันต่อ

เมื่อคำนวณตามอายุแล้ว ทุก6เดือนลูกโคชุดนี้ก็จะยกไปเรียนชั้นประถมปลาย ทำการหย่านม กินหญ้าและอาหารหยาบได้แล้ว เลี้ยงต่อไปอีก6เดือนนักเรียนห้องนี้ก็จะขึ้นไปอยู่ชั้นมัธยมต้น 6เดือนถัดไปจะขึ้นชั้นมัธยมปลาย พออายุ2-3ปีก็จะเรียนระดับอาชีวะ

เพศเมียทำการผสมพันธุ์

เพศผู้เลี้ยงขุน

เบ็ดเสร็จจบหลักสูตรภายใน4ปี

อีก 4 เดือนแม่โคสาวชุดที่2จะเบ่งลูกออกมาอีก

วงจรของการเรียนก็จะย้อนมาอีกวาระหนึ่ง

สนใจส่งลูกหลานมาเรียนไหมครับ

ที่ นี่ ไ ม่ มี แ ป๊ ะ เ จี๊ ย ะ

มี แ ต่ เ จี๊ ย ะ กั บ แ ป๊ ะ

แ ล ะ มี ค ว า ม สุ ข ที่ จู ง ไ ด้

« « Prev : จะสมานฉันท์ ท้องอิ่มต้องมาก่อน

Next : มองการศึกษาเห็นอะไร » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011 เวลา 9:41

    ตอนนี้ ลงทะเบียนเรียนทางไกลผ่านบล๊อกมาได้ 2ปีแล้วค่ะ จะขึ้นปี 3แล้ว อ้าว ลงทะเบียนกับใครล่ะ มหาลัยนี้ยังไม่เปิดรับเลย นี่แหละคนดื้อตาตี่มาเอง ที่ไหนๆก็มีครู คนไหนๆก็เป็นครู พืชผัก สัตว์น้อยใหญ่และธรรมชาติก็เป็นครู ออกแบบหลักสูตรเอง เรียนเอง ทำแบบฝึกหัดเอง และออกข้อสอบเอง ปริญญาไม่ต้อง ขอแต่ความรู้ วุฒิบัตรไม่ต้อง ขออยู่ใกล้ๆความคิดของครู ความเป็นอยู้ให้ดูให้รู้ให้เรียนของครู และที่สำคัญ สายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยง เราเรียนเอง หาเองดูเอง จะเข้าถึงได้ไม่เท่ามีผู้โยงสายส้มพันธ์เข้าสู่เรื่องนั้นๆ เป็นผู้จุดเทียน ไม่ต้องเป็นตาบอดคลำช้าง ใครหาเจอ ใครสาน ใครสร้าง เป็นเรื่อง อิอิ ขอรับกร้าผ้ม

    หาวิธีแพ๊คขวด ก็ประลองปัญญาไม่น้อย แพ๊คอย่างไร ให้มีผู้อ้าแขนรับ ไม่เมินหน้า รักแล้วรอหน่อยคร้าบ

  • #2 Suree ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011 เวลา 10:28

    ครูบาค่ะขอเรียนวิชาหน้าที่พลเมือง และวิชาปลุกพลังบวก นะค่ะ ตุลานี้จะสมัครเรียน 35 คนค่ะ

    มีโอกาสจะสมัครเป็นครูช่วยสอนค่ะ

  • #3 Suree ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011 เวลา 10:33

    ครูบาค่ะ ขอเสนอการทำสื่อการสอนค่ะ มองว่าทุกความเห็น
    ทุกคำพูดของครูบาน่าจะจัดทำเป้นคู่มือเรียนเป็นหมวดหมู่

    ไว้สำหรับผู้ที่จะมาเรียนที่นี่ค่ะ

    คิดภายใต้มุมมองว่าครูบาจะได้ไม่เหนื่อยเกินไปค่ะ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011 เวลา 16:12

    รอรับขวดพลาสติกด้วยใจระทึก จะอัดมาได้แค่ไหนหนอ จะฝากผักไปให้นะหป้าหวาน คิดเมนูล่วงหน้าได้เลย อิ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2011 เวลา 16:37

    ขอบคุณครับอาจารย์ ช่วงนี้ฝนชุก มีงานให้ทำเยอะ งานจรก็มาก
    เรื่องทำสื่อน่าสนใจมาก คงต้องมีอาสาสมัครช่วยทำ วันที่ 17 ช่วงที่ออตมา
    จะลองหารือกันนะครับ หรือท่านใดจะช่วยคิดช่วยทำก็จะเร็วขึ้น
    ค่ายพยาบาลเดือนตุลาฯน่าจะสนุก เพราะเป็นปลายฝนต้นหนาว
    คุณหมอป่วนก็จะเอานักศึกษาแพทย์มาอีก แต่ยังไม่กำหนดวัน
    ค่ายCotto ที่มาช่วงเดือนกรกฎาคม จะลองให้ปรับปรุงเตาถ่านเป็นบ้านใต้ดิน
    ถ้าเสร็จเรียบร้อยจะได้เข้าไปนอนอุ่นในหน้าหนาว
    เท่-ยาย-สบายดีนะครับ

  • #6 Suree ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2011 เวลา 19:31

    เท่ ยาย สบายดีค่ะ ยายฝากขอบคุณนะค่ะ ผักที่ให้มาทำกับข้าวไปวัดด้วยค่ะ รับบุญด้วยกันนะค่ะ

    จะลองหาวิธีออกแบบนำนักศึกษาไปช่วยถอดบทเรียน ทำสื่อที่สวนป่านะค่ะ

  • #7 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2011 เวลา 20:29

    ขอบคุณครับอาจารย์ บางทีนักศึกษาอาจจะพบวิธีทำสื่อในสไตล์ที่ดีกว่าคนแก่รุ่นเราก็ได้ น่าสนใจๆๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.070945978164673 sec
Sidebar: 0.080374956130981 sec