ฮักโฮมตุ้มโฮมเอาลูกหลาน

โดย sutthinun เมื่อ 5 มีนาคม 2011 เวลา 23:28 ในหมวดหมู่ การเมือง การปกครอง กฎหมาย, สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2476

(เสาหลักของฮักโฮมสคูลลงตัวดั่งกิ่งทองใบหยก)

ผมเห็นวิธีคิดวิธีการสอนลูกหลานที่ฮักโฮมแล้วนึกถึงแม่ไก่เลี้ยงลูก ยามมีภัยมาแผ้วพาลแม่ก็ให้เจี๊ยบน้อยวิ่งเข้าซุกใต้ปีกอย่างมิดชิด เมื่อดูแล้วปลอดภัยก็ให้ลูกๆออกมาปีนป่ายไต่เล่นบนตัวของแม่ หรือไม่ก็คุ้ยเขี่ยใบไม้แห้งหาแมลงให้ลูกๆจิกกิน ถ้าพิจารณาส่วนวิชาชีวิตพื้นฐานที่ว่านี้ จะเห็นว่าการสอนลูกจากประสบการณ์ตรงสำคัญมาก การที่มนุษย์เรียนอยู่กับความจริง น่าจะดีกว่าอยู่ในโลกเสมือนจริงใช่ไหมละครับ เมื่อลูกโตขึ้นพอที่จะผละจากอกแม่ แม่ไก่คงจะพิจารณาแล้วว่าลูกแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญโลกได้ ตอนเล็กๆก็จะทะนุถนอม แต่พอถึงวันที่แม่จะปล่อยละวาง เชื่อไหมครับ แม่ ไ ก่ จ ะ จิ ก ลู ก ไ ม่ ใ ห้ เ ข้ า ใ ก ล้ บ า ง ที ถึ ง กั บ เ ต ะ ก ร ะ เ ด็ น ! เมื่อเจี๊ยบน้อยเจ็บ ก็จะแยกตัวออกไปสู้ชีวิตด้วยลำแข้งของตนเอง เ ท่ า ที่ เ ลี้ ย ง ไ ก่ ม า ผ ม ไ ม่ เ ห็ น ลู ก ไ ก่ ตั ว ไ ห น ต้ อ ง ก ลั บ ม า ใ ห้ แ ม่ เ ลี้ ย ง ดู อี ก แ ม้ แ ต่ ตั ว เ ดี ย ว

(คณะแซ่เฮนั่งชื่นชมและชมชื่น)

แสดงว่าวิชากุ๊กๆศาสตร์

มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้100%

ไม่ต้องมีตัวชี้วัดไม่ต้องมีการประเมิน

ไม่ต้องมีตัวช่วย ไม่ต้องสิ่งใดๆเลย

ใช้ความสามารถของตัวแม่เองล้วนๆ

(รายการโยนไมค์ทั้ง2ฝ่ายขยายความสุข ขยายความสนใจให้เป็นความตั้งใจ)

HUG SCHOOL จับเอาความรักมาเป็นตัวตั้ง ทุกอย่างเริ่มต้นจากความรัก ใช้พลังความรักเป็นตัวเดินเรื่องเต็มลูกสูบ คุณครูบางท่านพูดให้เราฟังว่า >>ถ้าครูไม่มีความรักไม่มีความสุข ครูจะสอนให้เด็กเกิดความรักความสุขได้อย่างไร การสอนที่ผ่องถ่ายจากครูไปสู่ลูกศิษย์นั้นทำเล่นๆไม่ดีหรอก วิธีสอนทื่อๆแข็งกระด้างแบบเซ็งๆเด็กรับรู้ได้ เพียงแต่ไม่กล้าบอก เว้นแต่ถ้ามันมากจนเหลือขอ เด็กก็จะเบื่อการเรียน ทิ้งห้องเรียน ซึ่งจริงๆแล้วเด็กหนีหน้าครูที่ไม่มีความรักให้เขานั้นเอง ผมไม่เชื่อว่าการใส่หน้ากากสอน จะปั้นให้เด็กเป็นคนดีคนเก่งได้ เออ..แล้วครูไม่เก่งไม่ดี จะสอนให้ลูกศิษย์เก่งและดีได้อย่างนั้นหรือ การเป็นครูที่ดีนั้นแสนยากนัก ถ้าไม่มีความเป็นครู ก็จะเป็นได้แค่เป็นคนรับจ้างสอนเท่านั้น ถึงจะเรียกตัวเองว่าครู ก็เป็นแบบข้างๆคูๆแถกไถไปอย่างนั้นเอง สงสารเด็กไทยเป็นบ้า ถ้าเด็กคนไหนจับฉลากเจอครูที่สอนแบบซังกะตายไปวันๆ อนาคตเด็กในห้องนั้นคงถูกคุมกำเนิดความก้าวหน้า สรุปว่าความเป็นครูหลอกกันไม่ได้หรอกนะครับ ตรงกับที่หมอจอมป่วนจารึกไว้ในบล็อกว่า>>ห ม า ยั ง รู้ ว่ า ใ ค ร รั ก มั น !

(แต่ละห้องคุณครูกับคุณลูกศิษย์เรียนแบบอี๋อ๋อกันอย่างสนุกสมวัย)

ฮํกโฮมสคูล เกิดจากความฝันของกลุ่มคนรักศิลปะดนตรีและการเต้น ที่ผ่านการทำงานระดับอาชีพและนักวิชาการ ที่เห็นตรงกันว่า ศิลปะไม่ว่าจะเป็นแขนงใด มีส่วนหล่อเลี้ยงให้ชีวิตมีความสมบูรณ์ และมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ -ความสุข-สร้างสรรค์-สุนทรียศาสตร์-ทักษะ-จะแทรกเข้ามาในจังหวะที่เหมาะสมและกลมกลืน ด้วยมือชั้นครูที่จะดูว่าแค่ไหนพอดีกับลูกศิษย์แต่ละคน

(ขนมอร่อย เสียงเพลงไพเราะ ใช้หัวใจร้อง ใช้หัวใจฟัง)

เราจะประเมินความเป็นครูได้อย่างไร?

1. เด็กชอบครู เด็กจะเข้าใกล้ซักถามจิจ๊ะอี๋อ๋อ

2. เด็กชื่นชมครู อยู่ใกล้ๆวนเวียนช่วยทำนั้นทำนี่

3. เด็กเชื่อฟังครู เด็กไว้ใจครู ให้เรียนอะไรก็จะเต็มใจและตั้งใจ

4. เด็กรักเคารพครู ในชั้นนี้ ครูจะพาเข้าสู่บทเรียนอะไรก็จะสะดวกลื่นไหล

5. เด็กศรัทธาครู ถ้าสัมพันธภาพระหว่างครูกับลูกศิษย์เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ทุกอย่างถือว่าบรรลุอย่างสมบูรณ์ คุณครูกับลูกศิษย์ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน จะนำไปสู่การสร้างนิสัยที่ดี คุณครูที่ไล่เรียงมาตามลำดับชั้นนี้ ถ้าใครอยากเห็นมาดูได้ที่ฮักโฮมสคูลแห่งนี้ หรือที่อื่นๆก็คงมีอยู่มิใช่น้อย เพียงคุณครูตัวจริงเสียงจริงเหล่านั้นจะทำหน้าที่ด้วยความปกติ ไม่ได้ต้องการอวดโชว์ใคร ผลลัพธ์อยู่ที่อนาคตของลูกศิษย์ที่ผ่านมือผ่านใจไปแต่ละรุ่นๆ

ที่ฮักโฮมสคูลไม่มีป้าย “เชิญแวะเยี่ยมโรงเรียนของท่าน” แต่มีเสียงดนตรีฟังสนุกกระชุ่มกระชวย ที่ทุกคนช่วยกันบรรเลงต้อนรับคณะแซ่เฮของเรา ถึงแซ่เฮจะมาน้อยแต่ไม่ได้ลดทอนสไตล์เฮแต่อย่างใดนะครับ ครูแผ่นดิน-ครูอาราม-ครูอึ่ง-ป้าหวาน-ท่านบางทราย-คุณหมอเปา คุณไก่-คุณแก้ว-ผมและโฉมยง นั่งรายล้อมอยู่ฝั่งหนึ่ง ส่วนเจ้าภาพฮักโฮมก็มาทั่วถ้วน ล้วนแต่อยู่ในวัยหนุ่มวัยสาว เข้ามาล้อมวง มีทันตแพทย์หญิงรัชฏา น้อยสมบัติ เป็นผู้ดำเนินรายการโยนไมค์

(นักเรียนโข่งร่วมบรรเลงดนตรีกันอย่างสนุก)

ผู้ที่เป็นเสาหลักของฮักโฮมสคูลคือนายแพทย์ภัทรวุธ วัฒนศัพท์ (หมอนึ่ง) ผู้เชี่ยวชาญผ่าตัดมะเร็งหูคอจมูก แห่งโรงพยาบาลศรีนัครินทร์ คุณหมอเล่าว่าเมื่อก่อนเปิดเป็นคลินิกรักษาคนไข้ ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นคลินิกรักษาอนาคตของชาติ มีขุนพลหนุ่มสาวที่จบทางด้านศิลปะทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาช่วยกันก่อตั้งโรงเรียนที่แสนมหัศจรรย์นี้ จุดน่าทึ่งก็คือทรัพยากรบุคคลล้วนเป็นคนหนุ่มสาว มีคุณหมอหนึ่งกับคู่ชีวิตเป็นผู้ก่อการดี ต้องการจะเห็นโรงเรียนที่บ่มเพาะความดีตามแนวคิดอิสระของตน เอาความชอบความรักในงานด้านศิลปะดนตรีมาเป็นหัวเชื้อปลูกฝังวิธีเรียนรู้ที่อ่อนโยนอ่อนหวาน ปั้นลูกศิษย์ตัวจ้อยให้เป็นพระเอกนางเอกตามความชอบความถนัดของแต่ละคน ไม่ฝืนไม่ปีนเกลียว เอาเด็กเป็นตัวตั้งจริงๆ ช่วยกันถอดรหัสความถนัดในตัวเด็กมาขัดเกลาให้แวววับวาวยิ่งขึ้น

(การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องทุกข์และเครียด ครูออตกับลูกศิษย์แสดงให้เราดู)

การเรียนที่สนุกจะนำพาความรู้แทรกซึมเข้าไปในจินตนาการของเด็ก คุณครูทุกท่านเทใจสอนเยี่ยงนี้ จะเหลืออะไรอีกละครับ ทั้งครูและลูกศิษย์เนียนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เดินไปในเส้นทางเดียวกัน หลอมใจเรียนว่างั้นเถอะ

ครูนุช ครูการ์ด ครูเฟิน ครูชาย ครูตั้ม ครูน้ำ ครูแคน ครูเติ่น ครูหนู ครูตาล ครูออต เรียงล่ายซ่ายเล่าความในใจให้เราฟัง ยังมีแม่ใหญ่ (อาจารย์ทรงศิริ สุวรรณศร) มาหยอดยาดมให้ชาวแซ่เฮเป็นปลื้ม แม่ใหญ่บอกว่าแอบตามอ่านบล็อกของพวกเราทุกคน ตอนนี้ก็เข้าไปเป็นขาใหญ่ในเฟสบุกค์อีกแน๊ะ เป็นแม่ครูที่ไม่ยอมทิ้งลายชั้นครูจริงๆ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ เราอาจจะเห็นแม่ไม้ชั้นครูมากกว่านี้ ได้แต่เสียดายที่มีเวลามองตากันน้อยไปหน่อย แต่ก็ทะลุใจไปถึงไหนๆนะแม่นะ อิ อิ

(ความรัก ความอ่อนโยนอ่อนหวาน ช่วยบริบาลลูกศิษย์ตัวจ้อยของฮักโฮมฯ)

โรงเรียนที่คุณครูทั้งหมดร่วมทุกข์ร่วมสุขกันหาไม่ได้งายนักหรอก การรวมพลังที่จะปลุกพลังบวกในตัวของแต่ละคนออกมานั้น รับทราบได้จากที่ครูแต่ละท่านเล่าถึงความเป็นมาของตนเองในสไตล์ของฮักโฮมฯ มีลูกหยอด ลูกปลื้ม ยุให้โชว์ดนตรีสดๆประกอบคำบอกเล่า เสียงกีต้า เสียงแซกโซโฟนก้องกังวานไปทั้งห้อง เสียงร้องเพลงสดๆทำให้วงโสเหล่เมื่อคืนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ จับเค้าได้ว่า..คุณครูฮักโฮม เอาทักษะชีวิต + ประสบการณ์ชีวิตมาสอน จะทำเช่นนี้ได้ ก็มีแต่ครูมืออาชีพเท่านั้น

(เด็กๆเดินเข้าออกมาเก็บความรู้ในบรรยากาศที่จัดให้สบายๆ)

เพียงชั่วเวลาสั้นๆมิตรภาพงอกงาม

บ่งบอกให้รู้ว่าความฝันที่ผมอยากให้เป็นจริง

>> น่าจะมีบัณฑิตที่จบการศึกษาแต่ละภาควิชารวมตัวกันตั้งโรงเรียนขึ้นมา

วันนี้มีของจริงๆเกิดขึ้นแล้วในแผ่นดินอีสาน

นั่งโทนโท่อยู่นี่ไง ตัวเป็นๆทั้งนั้น

(การลงขันความรักเกิดขึ้นตลอดเวลาที่เราเป็นลูกศิษย์ในช่วงสั้นๆ)

ผมอิ่มทั้งใจทั้งท้องเพราะมีขนมอร่อยมาเลี้ยงด้วย บรรยากาศที่เรียบง่ายเป็นกันเอง ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร หมอหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเมื่อเร็วนี้ไปชวนคนไข้ที่ผ่าตัดกล่องเสียงให้เล่นดนตรี ช่วยละลายความเหงาเศร้าได้เป็นอย่างดี พูดถึงเรื่องการเล่นดนตรี บางคนบอกว่าชอบแต่เล่นไม่เป็นสักอย่าง รวมทั้งผมเองนี่แหละ ว่าแล้วคุณครูเชอรี่ก็เอาดนตรีมาแจกพวกเราครบทุกคน คุณหมอหนึ่งเอากีต้าร์มาโหมโรง หลังจากนั้นดนตรีในมือเราแต่ละคนส่งเสียง เสียงแปลกๆแตกต่างผสมกันเข้า เหมือนกับเสียงกบเขียดและแมลงร้องผสมโรงกันยามฝนตก ตอนนี้คงไม่มีกบเขียดตัวไหนกางโน้ตร้องหรอกนะครับ แต่ฟังรวมๆแล้วก็บอกนี่แหละวงดนตรีชั้นนำในโลกธรรมชาติ หมอหนึ่งสอนให้เรารู้ว่า..ดนตรีนั้นไม่ยากเลยใครๆก็เล่นได้ เห็นไหมละ พวกเราเล่นกันได้ทันทีทันใดในบัดเดี๋ยวนั้น นี่แหละวิธีการสอนชั้นครูของฮักโฮมสคูล ทั้งๆที่ติดใจในเรื่องราว แต่ก็ต้องล่ำลาก่อน4ทุ่ม กลุ่มแซ่เฮยกทีมไปร้านอาหารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมบึแก่นนคร อ้าว! มาเจอคุณครูจากฮักโฮมสคูลมาร้องเพลงที่นี่อีก อาหารอร่อยมาก อิ่มจนอืด แล้วแยกย้ายกันนอน

วันนี้ หลังจากผมลงเวทีประชุมที่โรงแรมพูลแมนฯแล้ว พวกเราก็แวะไปฮักโฮมสคูลอีกรอบหนึ่ง ครูออตสอนลูกศิษย์ตัวจ้อยเรียนศิลปะการวาดรูปบนฝักหางนกยูงแห้ง เปรียบเทียบกับการวาดรูปในกระดาษ ลูกศิษย์ครูออตสนุกและร่าเริงมาก เป็นการเรียนที่มีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง จะมีวิธีไหนดีกว่าการเรียนจากการปฏิบัติอีกละครับ เด็กๆเอาผลงานมาอวดพวกเราด้วย แหมถ้าเมืองไทยมีโรงเรียนอย่างนี้มากๆ เด็กไทยคงจะพัฒนาปัญญาวิไลโลด ก็ได้แต่หวังว่าคณะคุณครูของฮักโฮมฯ คงจะขยายหน่อความดีนี้ไปพื้นที่อื่น คุณหมอหนึ่งคุยกับป้าหวาน ครูอึ่ง หมอเปา แห่งโรงเรียนมงคลวิทยาอย่างผู้ที่อยู่ในสายการศึกษาด้วยกัน หลังจากได้ข้อคิดเป็นหมั่นเป็นเหมาะระหว่างกันแล้วเราก็อำลา

ป้าหวานพาไปเลี้ยงอาหารอีสานที่ร้านระเบียบไก่ย่าง

ปลาเผาร้อนๆควันฉุย

ไก่ย่างหนังกรอบเนื้อเหลืองอ๋อย

ต้มแซบกระดูกอ่อน

ส้มตำสารพัดสูตรเรียงล่ายซ่าย

ปั้นข้าวเหนียวคนละมุบละมับ

แถมท้ายด้วยทับทิมกรอบ

(ไปแวะเยี่ยมอาม่า)

ป้าหวานเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหาร สมใจนึกคุณหมอเปาที่ตั้งใจจะชิมอาหารอีสานฝีมือแม่ครัวอีสานแท้ๆ หลังจากนั้นเราชวนกันไปเยี่ยมอาม่าของพระอาจารย์แพนด้าที่หมู่บ้านอาม่าอาการดีขึ้นแล้ว คุณหมออนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านเมื่อวานนี้ อาม่ามีลูกหลานเป็นแพทย์หลายคน เรื่องการดูแลรักษาจึงเต็มที่ทุกด้าน คาดว่าอีกไม่นานคงจะหายเป็นปกติ

ด้วยอานิสงส์แห่งความดี

ป้าหวานเลี้ยงดูพวกเราอย่างดี

ป้าหวานจึงได้รับข่าวดี

หลังจากนั้นเราแยกย้ายกันกลับบ้าน

ผมกลับสวนป่ากับโฉมยง

คณะมงคลวิทยาทราบว่าคืนนี้แวะนอนที่จังหวัดเลย

พรุ่งนี้สายๆก็คงจะกลับถึงเมืองละปูน

ขอบคุณท่านบางทราย ป้าหวาน ชาวฮักโฮม

ลาที มิใช่ลาก่อน วันหลังจะย้อนมาให้เลี้ยงอีก คิ คิ.

« « Prev : มินิเฮฮาศาสตร์ เมืองดอกคูณเสียงแคน

Next : คุณพยาบาลเจ้าขา.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 5:36

    อ่านแล้ว ให้รู้สึก อิ่ม และ อุ่น ครับ ขอส่งกำลังใจมาชื่น มาชม มาเชียร์ ให้สิ่งดีๆเยี่ยงนี้ อยู่ยั้ง ยืนยง มั่นคง และ “วัฒนา” ต่อไปไม่หยุดยั้ง เรื่องที่คิด กิจที่ทำยังแน่นหนาสาหัสอยู่พอประมาณครับ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คงมีโอกาสบ้างที่จะได้ไปร่วม ซึมซับ รับความรู้ ในบรรยากาศแบบนี้บ้าง

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 6:09

    กำลังใจมาไกลจากเมืองหอยใหญ่ หนทางข้างหน้ายังอยู่อีกไกล ฟ้าสีทองผ่องอำไพ วับแวมอยู่ข้างหน้า จะหาโอกาสไปเยี่ยมพระอาจารย์อยู่นะครับบบ

  • #3 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 9:30

    การเรียนของเด็กๆ สำคัญมากครับ แต่การเรียนของคนแก่สำคัญกว่า เพราะคนแก่คือ “อนาคตของชาติ” ที่แท้จริง ก็ใครเล่าที่เป็นต้นคิด โฮมสกูล ก็อดีตอนาคตของชาติทั้งนั้น อิอิ

    ที่น่าคิดต่อคือ วิญญาณของคนที่ตายแล้วนั้น เราจะให้การศึกษาอย่างไร ศาลเจ้าสกูล??

    คือถ้าเราให้การศึกษากับวิญญาณพวกนี้ให้ดีๆ เกิดชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นเด็กฉลาดไงละครับ ไม่ต้องมาเสียเวลาสอนกันให้เหนื่อยยาก

    แต่นี่ศาลเจ้าต่างๆ เราก็ติดสินบนกันมาก เลี้ยงอาหารหรู ทำให้วิญญาณพวกนี้ติดนิสัยไม่ดี ตั้งแต่ยังไม่เกิด..เฮ้อ

  • #4 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 9:40

    เคยฝันทำโรงเรียนแบบนี้แหละค่ะพ่อ เล็กๆ และให้คนตัวเล็กที่พิเศษมีความสุขกับการเรียน แต่เมื่อคิดว่าถ้าเราไม่อยู่แล้ว ใครจะทำต่อ(ฟะ) เลยพับเก็บเข้ากระเป๋าไป ไม่งั้นจะเป็นภาระให้คนข้างหลังอีก :(

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 9:41

    โฮมสคูล ก็มีแล้ว
    ศาลเจ้าสคูล ใครจะเป็นคนเริ่ม
    ต่อไปแทนที่จะเผากงเต๊กเป็นรถ ตึก แบ็งค์ ก็อาจจะเผาโน๊ตบุกส์ เผาตำรา ส่งไปมากๆ
    เลิกติดสินบน ติดต่อการเรียนรู้รับรู้ผ่านทางการเข้าฝัน ฝนให้ดี ฝันให้ได้เรื่องได้ราว แคว๊กๆๆ

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 9:44

    ถ้าเบริ์ดทำน่าจะพริ้วไสวไปโลด เด็กๆคงมีความสุขเอิ๊กอ๊าก ลงมือทำก่อนดีไหม ส่วนใครจะสานต่อ ก็อาจจะบริหารผ่านยมฑูตอย่างที่ท่านจอหงวนทวิชว่า รึไม่ก็รีบๆหาทายาท คิ คิ

  • #7 ออต ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 19:24

    เอาไปโพสในกลุ่มฮักสคูล พากันอ่านใหญ่และอดยิ้มไม่ได้
    ครูนุชถามว่า วันไหนเอาเอายกสองอีก อิอิ

  • #8 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 19:36

    แก๊ง! พี่เลี้ยงลง !

  • #9 ลานเวลา » ตามไปเฮ..ตามไปฮัก..ที่ Hug School ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 เมษายน 2011 เวลา 15:27

    [...] บันทึกครูบา 2 http://lanpanya.com/sutthinun/archives/5677 [...]


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.080684900283813 sec
Sidebar: 0.046689033508301 sec