วันของอู๊ด

โดย sutthinun เมื่อ 28 กุมภาพันธ 2011 เวลา 16:14 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 4968

(อู๊ดน้อยอาบแดด)

อยู่บ้านอย่างนิ่งดูดาย เดินดูวัวดูควายว่าสบายดีหรือเปล่า >> อากาศช่วงเที่ยงคืนไปแล้วเย็นสบายไปจนถึงช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายแดดแผดร้อนระอุ ถ้าไม่มีร่มไม้ใบบังคงแย่กว่านี้อีก เปิดสปริงเก้อร์รอบบ้านเพื่อลดอุณหภูมิ นกตัวเล็กๆดีใจบินไม่ไซร้ขนเล่นน้ำ เริ่มเห็นประกายความสุขจากนกเหล่านี้ ช่างมีความสนุกแบบง่ายๆ

แวะไปที่คอกวัว เห็นเจ้าตัวเล็กที่โผล่มาดูโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระโดดโลดเต้นไปชนหน้าชนหลังพี่ป้าน้าอา แล้วก็แวะมาดูดนมแม่เอาแฮง แม่โคส่วนใหญ่จะนอนเคี้ยวเอื้องไม่อนาทรอะไร ช่วงนี้ทดลองเอาใบปาล์มน้ำมันมาสับผสมกับไม้อื่นให้เจี๊ยะ คนงานบอกว่า>> ก็เคี้ยวตุ้ยไปตามๆกัน

(หนูแดงซ้อมเบ่ง>>)

มีแม่โคท้องแก่ตัวหนึ่งชื่อ “หนูแดง”

เป็นโค3สายเลือด บาร์หมัน+เดร้ามาสเตอร์+ซาฮิวาล

ทำท่าเบ่งทีเล่นที่จริงมาหลายวันแล้ว

เข้าไปตรวจครรภ์ทางสายตา

ก็ไม่แน่ใจว่าจะคลอดเจ้าตัวเล็กวันนี้หรือเปล่า

กลางคืนอาจจะต้องย่องเบาไปดูเรื่อยๆ

เผื่อ>> ห นู แ ด ง ต้ อ ง ก า ร ห ม อ ตำ แ ย

(อู๊ดน้อยนอนสามัคคี)

ผ่านไปทางคอกเจ้าอู๊ด เห็นแล้วอิจฉา ลูกหมูตัวป้อมพากันนอนอาบแดด มีทั้งอาบเดี่ยวและอาบเป็นกลุ่ม พอคนเลี้ยงเอาอาหารมาให้ แม่หมูก็ยันตัวลุกขึ้นร้องอูดๆอ๊าดๆ ลูกๆก็วิ่งตามมาเป็นพรวน คุณแม่กินอาหาร คุณลูกก็กินนม บางตัวก็เริ่มฝึกกินอาหารข้นในราง เป็นชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ดูจากอัตราการเจริญของลูกอู๊ดอ้วนท้วนสม่ำเสมอกันดี คนเลี้ยงบอกว่าควรจะแยกลูกได้แล้ว ไม่งั้นแม่จะผอมโซ

นึกไปถึงหมูป่าที่อยู่ตามธรรมชาติ

มันแยกลูกแยกแม่กันตอนไหน?

ไม่เห็นใครต้องมากำหนดกฎเกณฑ์อะไร

แม่หมูน่าจะรู้ดีใครอื่น

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือผิดนะครับ

ใครมีแฟนชื่อหมูถามให้หน่อยได้ไหมครับ?

อิ อิ..

« « Prev : คนไทยจะอยู่ในสังคมที่ผิดปกติอย่างไร?

Next : มะม่วงกับรอยยิ้มเย็นๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กุมภาพันธ 2011 เวลา 18:42

    อ๋อย..ข้อสอบนี้ยากจังครับ
    คงต้องปรึกษาพวกเรียนวิชาการด้านผลิตสัตว์
    เช่นนักการเมืองไทยแหละครับ
    เพราะพวกนี้เขาผลิตสัตว์เก่งมากๆ
    ออกลูกหลานจนยั้วเยี้ยเต็มสภาไปหมด

    ..โยงมาจนได้ อิอิ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กุมภาพันธ 2011 เวลา 19:11

    วันนี้ไปซื้ออาหารหมู ราคากระสอบละ 700 บาท
    ถ้าผลิตอาหารเองไม่ได้ อาชีพเลี้ยงหมูก็คงจะจบไปอีกอย่างหนึ่ง
    เท่าที่ดูสูตรอาหารหมูพื้นถิ่น
    ต้นกล้วยสับ 100 กก.
    น้ำตาล 4 กก.
    เกลือ 1 กก.
    หมักไว้แล้วทะยอยเอามาเลี้ยง
    อนึ่ง เศษผักเศษอาหาร พอช่วยได้บ้าง
    กำลังทดลองเลี้ยงเพื่อหาทางออก ทางรอด ระดับชุมชนอยู่ครับ
    เอาไว้ฝนมาจะไปขุดหัวกราวเครือ ที่เขาเอาไปทำครีมหน้าเด้งมาผสมอาหารสัตว์
    เผื่อหมูจะเด้งโตกว่าปกติ
    อิอิ

  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กุมภาพันธ 2011 เวลา 20:11

    แม่เคยเล่าว่าคุณตาเลี้ยงหมูด้วยรำข้าวขาว (เหมือนแป้งเลยค่ะละเอียดขาว ต่างจากรำข้าวเปลือกนะคะ รำข้าวเปลือกไว้เลี้ยงเป็ด) แล้วก็ปลายข้าวต้มกับน้ำเพราะที่บ้านคุณตามีโรงสี หยวกกล้วยสับ(เพราะมีกล้วยเต็มสวน) เวลาอาหารแต่ละมื้อก็จะต้มปลายข้าวกับน้ำจนสุก (จะเละๆหน่อย) ที่ต้องต้มจนสุกเพราะถ้ากินปลายข้าวอย่างเดียวมันจะท้องอืดแล้วเอารำข้าวขาวคลุกไปด้วย (รำข้าวขาวจะหอม) แถมหยวกกล้วยสับสดๆ สนุกชะมัดเลยล่ะค่ะ

    ผักตบชวาที่ดึงขึ้นมาจากคลองหน้าบ้าน (คลองดำเนินสะดวก) มันก็ชอบกิน เอาผักตบขึ้นมาแล้วคว่ำให้รากอยู่ข้างบนไก่ก็จะมาจิกกุ้ง หอย ปู ปลาตัวเล็กๆที่อยู่ตามรากผักตบ พอคุ้ยเขี่ยได้ที่ก็เอาไปให้หมูกิน มันก็กินสนั่น

    ได้ผักที่เหลือจากสวนผักแถวนั้น ก็ช่วยกันขนมาให้มันกิน ถ้าอีกสักอาทิตย์จะขายคุณตาจะให้กินแต่ปลายข้าวแช่น้ำ เท่านั้นอย่างอื่นไม่ให้มันกินเลยค่ะ เพราะช่วยให้น้ำหนักมันขึ้นดีและเป็นสารเร่งเนื้อแดงตามธรรมชาติ ด้วยความที่อยู่ติดคลอง หมูที่บ้านคุณตาเลยได้อาบน้ำทุกวัน ยิ่งใกล้ขายมันกินแต่ปลายข้าวแช่น้ำแล้วก็อาบน้ำนอนกลิ้งเล่นบนเล้าทั้งวัน แม่บอกมันปุ๋ง(ตด) สนั่นคอกเลย (สงสัยท้องมันอืด) ฮี่ฮี่ฮี่

  • #4 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กุมภาพันธ 2011 เวลา 21:13

    หมูมันน่ารักมาก เลี้ยงมันแล้วมีความสุขมาก แต่ตอนจะขายมันนี่สิ

    ตอนผมเด็กๆ 7 ขวบ ก็เลี้ยงหมู ต้มข้าวผสมรำ หยวก ผักบุ้ง ผักตบ หญ้าวาให้มันกินทุกวัน เสาร์อาทิตย์หาผักอื่นให้มันกิน อาบน้ำให้มัน แล้วขี่หลังมันเล่น

    อยู่มาวันหนึ่ง มันเกิดญาณวิเศษว่าแม่จะให้คนขายมาจับหมูไปขาย โลละ 5 บาท วันนี้ผมและพี่สาวโดดเรียนมาตอนเที่ยง มาถึงบ้านคนซื้อมาเตรียมจับหมู

    เราสองคนประท้วงด้วยการร้องไห้ ร้องอยู่นั่นแหละ และตามไปส่งหมูมันขึ้นรถไปโรงฆ่าด้วย

    วันนี้ก็เห็นหมูมันถูกบรรทุกรถวิ่งไปโรงฆ่าเนืองๆ

    สงสารมัน สงสารทุกอย่าง ตัวเองก็สงสาร เราเองก็ต้องกิน
    กินผักก็ฆ่าผัก กินหมูก็ฆ่าหมู
    ชาติหน้าไม่ต้องเกิดก็คงดี จะได้ไม่ต้องกิน

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กุมภาพันธ 2011 เวลา 22:08

    เมื่อก่อนเคยเลี้ยงหมูพื้นเมือง ท้องโย้ลากดิน ลูกออกมาตัวป้อมๆน่ารักมาก โฉมยงขายทิ้งโดยไม่บอก เสียดายมาก เลี้ยงไว้ให้วิ่งเล่นก็ปลื้มแล้ว อยากจะหามาเลี้ยงใหม่

    เคยเลี้ยงหมูป่า เขี้ยวโง้ง ส่วนตัวเมียตอนท้องโตจะกระโดดออกจากคอกหายเข้าป่าไป พบว่าไปกัดต้นไม้เล็กๆเอาใบมาทำรังเป็นบริเวณหลายตารางเมตร ถ้าไม่ผิดสังเกตุตรงนี้หาไม่เจอแน่ เพราะแม่หมูหลบออกไปทำรังไกลนับร้อยเมตร แต่พอคลอดลูกแล้ว ลูกหมูป่าวิ่งพล่าน จับมาเข้าคอก ไก่หลงบินไเข้าไป โดนกัดคอขาด >> เรื่องหมู แต่ไม่หมูเอาเสียเลย อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.31386685371399 sec
Sidebar: 0.050681114196777 sec