หนำเลียบ ไม่ใช่หนำใจ

โดย sutthinun เมื่อ 4 ตุลาคม 2010 เวลา 1:35 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 6721

ผมเพิ่งจะมาเจอต้นหนำเลียบครั้งแรกที่มหาสารคาม ดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวน ชวนแวะกินอาหารเช้าที่ร้านคุณยายสมใจ อยู่ตรงข้ามสถานีปศุสัตว์มหาสารคาม มีผู้แนะนำว่าร้านนี้ปลูกผักไฮโดรโฟรนิก ระหว่างที่เราเดินชมแปลงผักหลังร้าน เจอเจ้าของใจดีมาคุยด้วย อ่านตามนามบัตรทราบว่าเป็นอาจารย์สอนคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผ.ศ.ลัดดา แสนสีหา อาจารย์พาเดินชมต้นไม้ ไปเจอเจ้าต้นนำเลียบอายุ 3ปี มีลูกห้อยเป็นพวงด้วยนะ ตรงจริตคนที่ชอบปลูกไม้แปลกๆ อาจารย์ลัดดาเล่าว่า เอาต้นพันธุ์มาจากเชียงใหม่ เอาละสิ รีบยกหูไปหาครูอึ่ง ครูอารามเล่าว่าที่บ้านก็เคยมีต้นนี้แต่โค่นทิ้งไปแล้ว โธ่ๆๆ ยังติดใจคำว่าคณะพยายาล จึงโทรหาอุ้ย >>โลกกลมอีกแล้ว อุ้ยบอกว่าอาจารย์ลัดดาเรียนรุ่นเดียวกัน และเคยแวะมาที่ร้านนี้เสียด้วย วันหลังจะถามให้ ซื้อต้นพันธุ์หนำเลียบได้ที่ไหน

ไม่ใช่อะไรหรอก

ปลูก 3 ปี ก็มีลูกแล้ว

จะเอาหนำเลียบมาผัดใส่หมูสับกินกับข้าวต้ม

เมนูนี้ ช้าหน่อยนะครับ

สั่งวันนี้ อีก 3 ปี ยกมาเสิร์ฟ อิ อิ

หลังจากนั้นก็ไปพบนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มีทั้ง ป.โท และป.เอก ตั้งหน้าตั้งตาโม้ตั้งแต่ 9 โมงเศษจนถึงเที่ยง ในหัวข้อการจัดการความรู้ท้องถิ่น ประเด็นเกริ่นนำอยู่ที่ยุคนี้มีการกระจายความเจริญลงสู่ท้องถิ่น ถนนทุกสายมุ่งมาชนบท ถามว่า คนที่อยู่ในส่วนภูมิภาคควรจะตั้งรับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง หรือควรทำการบ้านอะไรบ้าง โดยเฉพาะสถาบันที่มีเป้าหมายว่าจะพัฒนาท้องถิ่น : ความรู้ในท้องถิ่นอยู่ที่ไหน อยู่ในสภาพอย่างไร เกี่ยวข้องกับสถานการณ์อย่างไร โจทย์ที่เกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์น่าจะมีประเด็นไหนบ้าง ที่ผ่านมามีกรณีศึกษาไว้อย่างไรบ้าง

เล่าถึงวิธีสืบค้น วิธีไปสัมผัสท้องถิ่นในมิติ่ต่างๆ เล่าไปเล่ามาก็วกมาหากลุ่มเฮฮาศาตร์ เสียดายซีดี.ป้าหวานส่งมาไม่ทัน ไม่งันเปิดให้ชมสะท้านห้องไปแล้ว ไม่มีรูป ฟังเพลงกอดพอกล้อมแกล้มไปก่อน มีนักศึกษาท่านหนึ่งคว้าไมค์แนะนำตนเองว่าอดีตเป็นประธานนักศึกษามหาวิทยาลับราชภัฏบุรีรัมย์ สมัยนั้นมีคนกล่าวขานถึงครูบาว่าเป็นNGO.ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน จึงไม่เข้าไปหา มาวันนี้บอกว่านึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา ถ้าไปรู้จักครูบาตั้งแต่สมัยโน้นป่านนี้คงได้้อะไรๆไปเยอะ อาว! อย่างนี้ก็มีด้วยเรอะ โธ่ๆๆ

เล่าถึงหนังสือเจ้าเป็นไผ หนังสือแห้วซ่าส์

บอกว่าวันนี้แจกฟรี!

คิดพาะค่าลายเซ็นตามราคาหน้าปก

ขายยกชุดๆละ3 เล่ม

มีคนสนใจพอสมควร

เอาติดตัวมาน้อย

ได้รับวันนี้ไปบางส่วน

ที่เหลือคงต้องส่งตามมาภายหลัง

คณะบดีมากินข้าวมื้อเที่ยงด้วย คุยกันสาระพัดสารเพถึงเรื่องเก่าๆผสมใหม่ๆ ก็มีทั้งปัญหาและเรื่องที่กำลังจะคิดทำกันใหม่ๆ โดยเฉพาะการผลิตบัณฑิตในระดับต่างๆ อิ่มแล้วก็ต้องมาขึ้นเวทีต่ออีกก๊อก2 งานนี้โม้จนกระจุย เนื่องจากนักศึกษาจำนวนมาก จะจัดกิจกรรมอุปกรณ์ไม่พร้อม จึงให้นักศึกษาเขียนจดหมายน้อย ในประเด็นที่สนใจและอยากจะถาม จึงเป็นรายการตอบ-ถาม-เสียมากกว่า และก้าวล่วงไปถึงการทำวิทยานิพนธ์ของบางท่าน จนสมควรแก่เวลา ตามธรรมเนียมก็ถ่ายรูปนั่นแหละ มีทั้งเป็นกลุ่มและรูปคู่รูปเดี่ยว ก็ไม่ว่ากัน แอ็คตามอัธยาสัย ต่อด้วยการเซ็นชื่อแจกหนังสือ

ตอนเย็นทางเจ้าภาพบอกว่าอาจารย์สมบัติขอล็อคตัว ชวนไปชมการจัดการศึกษาที่เรียกว่าบ้านหลังเรียน เห็นว่าเป็นการจัดการศึกษาในรูปแบบใหม่ คือนัดเด็กๆมาพบปะกันหลังจากกลับโรงเรียนแล้ว นับว่าเป็นแนวคิดใหม่ ที่ชุมชนช่วยกันดูแลบุตรหลานให้มาช่วยกันจัดเรื่องการเรียนรู้ในกิจกรรมต่างๆแบบมีส่วนร่วม อาจารย์อมรวิชช์ นาครทรรพ จากโครงการรามจิตติสนับสนุนไปถึงทุกอย่างเตรียมการไว้แล้ว มีเด็กๆและชาวบ้านรออยู่

ไปถึงเด็กๆแสดงกิจกรรมที่ทำ เช่น

การเผาถ่านผลไม้

การทำสมุนไพร

และรายการที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง

เจ้าบ้านทยอยยกอาหารมาเลี้ยง

พร้อมกับชมการฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นบ้านของเด็ก

อิ่มแล้วเด็กๆช่วยกันเก็บของ ล้างจาน บางคนแยกย้ายกลับ บางคนนอนเป็นเพื่อครูคุณป้า  มานอนดูหิื่่งห้อยกัน นึกดีใจแทนเด็กๆกลุ่มนี้ที่ได้รับการดูแลจากชุมชนอย่างดี ทราบว่ามีผู้มาชมกิจกรรมอยู่เนื่องๆ รวมทั้งฝรั่งชาวต่างชาติก็มาชม เจ้าภาพผู้อารีชวนให้นอนที่บ้านริมทุ่ง ปลูกแฝงไว้ในสวนที่ร่มรื่น แต่กว่าจะได้นอนก็คุยกันจนดึกดื่น พรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้าไปเมืองแดดสองยาง แล้วต่อไปกาฬสินธ์ุ

จึงขอลาไปนอนฝันถึงหนำเลียบก่อนนะครับ

« « Prev : ด้วยปัญญาและรอยยิ้ม

Next : นอนภูพานคิดถึงตาหวานตะงิดๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 ตุลาคม 2010 เวลา 11:48

    ดร. ลัดดา เรียนจบ มช.ทั้ง ป. โท และเอก เป็นผู้ช่วยอธิการบดี ม. สารคาม เท่าที่ทราบดูแลงานที่คุณแผ่นดินทำ
    โลกกลมอย่างที่ครูบาว่าไว้ค่ะ ทางสายอีสานมีเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง …(ครูบาได้เจอ 2 คนแล้ว) สำหรับตัวเองแล้ว เพื่อนคือของขวัญสำหรับชีวิตค่ะครูบา ได้ทราบข่าวเพื่อนๆ ก็ถือว่าเป็นข่าวดี ขอบพระคุณค่ะครูบา

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 ตุลาคม 2010 เวลา 20:29

    เย็นนี้สั่งหมูสับหนำเลี๊ยบมาฉลองเสียเลย

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 ตุลาคม 2010 เวลา 18:57

    เป็นเรื่องโอละพ่อไปแล้ว
    ครูอารามเพิ่งให้ข้อมูลใหม่
    ที่เห็นในภาพกินบ่ได้ เป็นหน่ำเลี๊ยบสาบพันธุ์ไม้ประดับ
    ของจริง เขาเรียกสมอจีน
    ต้องปลูกนานเป็นสิบปีถึงจะมีลูก โธ่ๆๆๆๆ
    ขอบคุณครูอารามที่มาช่วยแก้โง่ให้อย่างทันการ อิอิ

  • #4 aram ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 ตุลาคม 2010 เวลา 22:20

    ชื่อว่า หนำเลี๊ยบเทียม ไม้ประดับ ดอกสีขาว สมอจีนที่โรงเรียนมีต้นนึงครับเพาะจากเมล็ดใบคล้ายต้นพระเจ้าห้าองค์เลย น่าจะลองเสียบยอดดูได้ครับ
    http://gotoknow.org/blog/aram/192760


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.66517114639282 sec
Sidebar: 0.17825102806091 sec