นอนภูพานคิดถึงตาหวานตะงิดๆ
อ่าน: 6892ตื่นแต่เช้ามาชิมข้าวต้มที่เด็กๆมีน้ำใจเตรียมไว้ตั้งแต่ย่ำรุ่ง ก่อนจะมุ่งไปอีสานเหนือ วันนี้ได้รับการอุปการะหลายเรื่อง รถตู้มหาวิทยาลัยฯพาชาวคณะออกเดินทางไปจุดแรก เพื่อพบกับขนมเทียนแก้วเจ้าดังระเบิดแห่งกัณฑลักษณ์วิชัย เจ้าของใจดีมาก สละเวลามานั่งคุยแล้วยังเลี้ยงกาแฟแกล้มขนมเทียนอีกด้วย
ขนมเจ้านี้ไม่ธรรมดานะครับ รู้จักกันในนามขนมเทียนแก้วแม่พูลศรี มีใส้อร่อยมากเนื้อเทียนใสๆ ห่อด้วยใบตองรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ ปอกออกมาหยิบใส่ปากพอดีคำ ตามด้วยกาแฟร้อนยามอากาศชื่นเธอเอ๋ย พอดีพอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน เจ้านี้ขายมานาน ค่อยๆพัฒนาการขึ้นจนมีชื่อเสียง จากที่ผลิตจำนวนร้อยเพิ่มเป็นพันแล้วเพิ่มเป็นหมื่นในปัจจุบัน ช่วยให้ข้างบ้านเรือนเคียงพลอยมีงานทำไปด้วยหลายครัวเรือน
ได้ข้อมูลที่ไม่ธรรมดามาดังนี้
ใบตองสั่งมาจากจังหวัดสุโขทัย
ชลอมใส่ขนมสั่งมาจากจังหวัดนครพนม
ความเป็นเครือข่ายกันนี้สืบทอดมายาวนานตั้งแต่ครั้งคุณแม่ยังสาว
ถามว่าทำไมถึงต้องไปสั่งปัจจัยการผลิตข้ามจังหวัดด้วย
ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปสัมภาษณ์กันเอาเอง ไม่บอกหรอก!
มีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 200,000 บาท
ปั้นขนม-นึ่ง-ส่ง-ทั้งวัน
ได้รับเครื่องหมายโอท็อประดับ4 ดาว
มีแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตเชิงอุตสาหกรรมขนมไทยในเร็วๆนี้
คณะเราเดินทางต่อไปยังสวนอาหารเฮือนดวงจำปา ของลุมโชฎึก คงสมของ อยู่ที่บ้านสะอาดใต้ ตำบลเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ลุงโชฏึกเคยทำงานการบินไทย คงจะเบื่อเมืองกรุงเหลือทน จึงบ่ายหน้ากลับมาบ้านเก่าด้วยความคิดความคันเต็มพิกัด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มาซื้อท้องทุ่งนา 50 ไร่ ในราคาประมาณ 2 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ลงมือเนรมิตรพื้นที่โหลๆธรรมดาๆให้เป็นสวนอาหารเชิงอัตลักษณ์ของคนอีสานอย่างบรรเจิด คุณลุงเล่าว่า ของดีอีสานมีอยู่มากมายโดยเฉพาะวัฒนธรรมและวิถีไทอีสาน มันไม่ควรจะจมหายตายซากไปกับกระแสเถื่อนที่โหมกระหนำอีสาน ลุงโชไม่คิดเฉยๆแต่ทำให้ดู ว่าวิถีไทอีสานที่ควรจะฟื้นฟูขึ้นมานั้นหน้าตาเป็นอย่างไร?
ลุงโชไปซื้อเรือนเก่าอีสาน เอามาตบแต่งขึ้นใหม่ตั้งตรงจุดที่เด่นสะดุดตา มืบ้านเฮือนอีสานหลายลักษณะ เป็นบ้านพักหลังเล็กๆ-ขนาดกลาง-และอาคารนอนรวม มีบ้านประชาสัมพันธ์ บ้านนวดแผนไทย ร้านอาหาร แม้แต่โรงเรียน ก็สร้างเอาไว้ หลังจากทักทายกันพอสมควรแล้ว ลุงโชฏึกพาเราเดินชมอาณาจักรท่านกลางบรรยากาศสะอาดเย็นสบาย บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์ประดิษฐ์ประดอยอย่างลงตัว บางบ้านมีแปลงนาแทนแปลงหญ้าอยู่ข้างบ้าน บางบ้านมีแหล่งน้ำเล็กๆปลูกบัวและพืชน้ำ ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยต้นไม้พื้นถิ่นที่กำลังเติบโต บริเวณดังกล่าวเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ “ครูบ้านนอก” เวอร์ชั่น2 ลุงโชยังสนุกกับการโชฝีมือไปเรื่อยๆ จัดลานหน้าบ้านโล่งให้ลมโชย บนเรื่องก็มีชานยื่นออกมาให้เอาเสื่อมาปูนอนชมจันทร์ หน้าฝนอย่างนี้กบเขียดร้องระงมหลังจากที่ไปซื้อมาปล่อยไว้จำนวนมาก ไก่ป่าหลายสิบตัวเดินทอดน่องอย่างมีความสุข
ลุงโชเล่าว่า อาจจะเปิดรับแขกมาพัก-สัมมนา-จัดกิจกรรมได้ในเร็วๆนี้ จะชวนช่างฟ้อนจากวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์มาแสดง จะชวนชาวบ้านรอบข้างให้ผลิตข้าวปลาอาหารปลอดภัย ระหว่างเลี้ยงอาหารกลางวัน ลุงโชงัดเอาไวน์ขวดโตมารินแจก กับข้าวทะยอยมาเต็มโต๊ะ อาหารอร่อยการคุยยิ่งออกรส ลุงโชมีมุมมองของผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว ให้ความเห็นแต่ละอย่างสะดุ้งโหยง ! ไม่รู้บ้าอะไร ชอบปลูกต้นไม้วันพ่อวันแม่ ซึ่งบางทีมันก็ไม่เหมาะกับฤดูกาล ต้นไม้ตายมากกว่าที่จะโต แต่ก็บ้าทำกันอยู่อย่างนี้แหละ ประเทศไทยมันพัฒนาได้ ขนาดดวงจันทร์ยังแห่กันไปพัฒนา เรื่องเหล้ายามีแต่พระกับหมาเท่านั้นที่ไม่ชอบเหล้า ใครจะดื่มไม่ดื่มไม่ควรจะไปยุ่มย่ามให้มากนัก ควรสอนให้รู้จักประมาณตัวเอง ชาวบ้านมาคนเอาเงินแสนมาจูงเล่น (หมายถึงพวกเลี้ยงโคงามพันธุ์ฮินดูหูบิด) บ่ายแล้วก็ต้องอำลาลุงโช
เราเดินทางต่อไปยังเมืองฟ้าแดดสงยาง เจ้าอาวาสเมตตาอธิบายถึงที่ไปที่มาของดินแดนแห่งประวัติท้องถิ่นยุคพันกว่าปี เราได้เห็นเสมาหินจำนวนมาก ล้วนแต่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยเห็นทั่วไป คาดเดาว่าเมื่องนี้น่าจะเป็นเมืองเก่าหรือเมืองลูกหลวงของพื้นถิ่นแถบนี้ หลวงพ่อกรุณาไปอธิบายให้ความรู้แก่คณะเราต่อที่ปราสาทบ้านยาคู ซึ่งกำลังวางแผนที่จะบูรณะขนานใหญ่ ไกด์สาวเล่าว่าจะได้งบมาพัฒนาปีนี้ยี่สิบกว่าล้านบาท ในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะมีความสำคัญเช่นในอดีตเมื่อพันปีที่ผ่านมา
คณะเราเดินทางต่อไปยังศูนย์พัฒนาการภูพาน ตามแนวพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร ต้องนั่งรถไปอีกร้อยกว่ากิโลเมตร ผ่านทางคดเคี้ยวบนภูพาน เราไปถึงที่หมายจวนค่ำ หลังจากขนของเข้าห้องพัก ก็ชวนกันออกไปดวลข้าวต้มที่ตัวจังหวัด ร้านนี้คิดค่าข้าวต้มถ้วยละ 3 บาท แถมยังติดป้ายบอกว่าข้าวต้มร้านนี้ เป็นข้าวสั่งมาจากบริษัททิฟฟาริน อิ่มแล้วแวะซื้อบัวสวรรค์มา2หัว ปอกชิมแล้วกรอบน้ำฉ่ำอร่อยดี มาถึงบ้านพักรับรอง ต่างคนต่างเข้าห้องด้วยความอ่อนเพลีย
แต่ถึงยังไงๆคืนนี้ก็มีเรื่องที่จะพูดถึงนางไม้
ที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นยางขนาดใหญ่ภายในศูนย์
เจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูจุดขาวกระดำกระด่าง
บอกว่า>> อย่าไปเข้าใจว่าเป็นเชื้อรานะครับ
ล้วนเป็นฝีมือนักบ้าหวยทั่วสารทิศมาเอาแป้งทาหาหวย
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
แม่นมาหลายงวดแล้วนะเธอ
งวดที่ผ่านมาก็มีคนถูกไม่น้อย
เรื่องอย่างนี้แล้วแต่อัธยาสัยและวาสนา
ผมไม่กล้าไปรบกวนนางไม้หรอก
เว้นแต่สวรรค์จะมีตาก็ไม่ว่ากัน อิ อิ..
« « Prev : หนำเลียบ ไม่ใช่หนำใจ
Next : ไปเติมความรู้ที่ภูพาน » »
ความคิดเห็นสำหรับ "นอนภูพานคิดถึงตาหวานตะงิดๆ"