มหาลัยซำบายดีบ่?

โดย sutthinun เมื่อ 4 กันยายน 2010 เวลา 7:36 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1243

เรื่องของสถาบันอุดมศึกษา เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังถ้าจะไปกล่าวถึง เพราะอาจจะถูกตีความว่า “ศิษย์ไม่รู้คุณครูบาอาจารย์” ในภาคสังคมคงจะอึดอัดมานาน จะสะท้อนออกในรูปของเสียงเพลง “มหาลัยมหาหลอก” “ติด ร. วิชาลืม” นี่คือเสน่ห์ของการประเมินคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของภาคประชาสังคม ในฐานะของผู้ที่ได้ไปรู้เห็นพันธกิจเหล่านี้อยู่บ้าง ผมเข้าใจและเห็นใจทุกฝ่าย แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าควรจะบริหารปัญหาของสถาบันอุดมศึกษาอย่างไร? เมื่อได้อ่านบทความที่อุ๊ยทยอยเล่า ก็คิดว่าไฟไหม้ที่ไหน ก็ควรเอาน้ำที่ตรงนั้นไปดับ ใครผมยาวก็ควรตัดผมตัวเอง แทนที่จะไปวิ่งโร่ไปตัดผมของคนอื่น เว้นแต่จะมีอาชีพตัดเกษาก็ไม่ว่ากัน อิอิ

การประชุมวิชาการประจำปึ 2553 ที่จัดโดยที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ปอมท.) อุ๊ยและอาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศมาชุมนุมกัน ด้วยโจทย์ที่เอามาสาธยายให้ไม้แก่-ไม้ดัด-ไม้ล้อม-ไม้หอมได้วิเคราะห์ไตร่ตรองสถานภาพของแต่ละองค์กร

การปฏิรูประบบอุดมศึกษาไทย:ฤาจะเป็นความฝัน?

สภามหาวิทยาลัย:ปฐมบทการปฏิรูปอุดมศึกษาไทย

สถาบันอุดมศึกษากับความรับผิดชอบต่อสังคม: ภารกิจที่ท้าทาย

ดูเหมือนอุ๊ยจะประทับใจคุณโสภณ สุภาพงษ์ โม้ซะเลย..ผมได้รับความกรุณาจากคุณโสภณ สุภาพงษ์เสมอ ท่านช่วยเคาะกระโหลกเรื่องที่อุ๊ยเล่า คุณโสภณเป็นนายกสภามหาวิทยาลัย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 40 แห่ง และเป็นมายาวนานแล้วด้วย ในช่วงที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เขาจัดที่นั่งติดกันเสียด้วยสิครับ จึงซุบซิบอุบอิบกันในเรื่องผิดฝาผิดตัวของสังคมและวัฒนธรรมองค์กร ผมจึงซึมซับเรื่องเหล่านี้มาพอควร คนวาสนาดีก็ยังงี้แหละอุ๊ย เรียนต่ำแต่วาสนาดีดกระโหลก อิ อิ

คุณโสภณบรรยายการทำงานของสมองได้อย่างเข้าใจง่าย และทำให้เข้าใจถึงการเรียนรู้ การลอกเลียนแบบ การเพิ่มศักยภาพสมองตั้งแต่วัยเด็ก

@@ การเรียนรู้จะเกิดได้ เมื่อเคยพบความจริง
มีสติ ระลึกได้ รอบคอบ
มีปัญญา
มีสัมปชัญญะ
และเคยเป็นกัลยาณมิตร

คำถามที่คุณโสภณถามที่ประชุมคือ มหาวิทยาลัยเป็นกัลยาณมิตรกับนักศึกษาหรือยัง
มหาวิทยาลัยสนับสนุนการเรียนรู้หรือการเรียนความรู้

การดูแลสังคมนั้น มหาวิทยาลัยได้ทำหรือยัง
@@ จิตที่เรียนรู้จะหยุดคิด จะเกิดมุฑิตาจิต หมดความอิจฉา และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งจะไปส่งผลให้สมองหลั่งสารสุขต่อเนื่องจน เป็นอุปนิสัย
มหาวิทยาลัยได้สร้างมุฑิตาจิตกับผู้เรียนอย่างไร และได้ช่วยเหลือสังคมไปในทิศทางของความสุขจากการให้ หรือยัง หรือว่ามหาวิทยาลัยยังคงวนเวียนกับการให้ความรู้เพื่อการแข่งขันมากกว่าการ เรียนรู้

@@ เริ่มที่จิตไม่ใช่ด้วยจำ
เริ่มที่การเรียนรู้ไม่ใช่ความรู้

วันนี้มีนักศึกษาปริญญาเอก เอาวิทยานิพนธ์มาเสนอให้ช่วยพิจารณา ดูว่ามันครบถ้วนสมบูรณเหมาะสมที่จะคำว่า “ดอกเตอร์” นำหน้าชื่อแล้วหรือยัง ผมไม่ได้มีศึกษาสูงถึงขั้นอุดมศึกษา แต่อุดมในความรู้งู ๆ ปลา ๆ มีอิสระที่จะมองแบบเถื่อน ๆ โดยไม่ไปยึดโยงกับกฎเกณฑ์ใด ๆ นักศึกษาท่านนี้นับว่ากล้าหาญมาก ที่จะรับฟังข้อสังเกตุสังกาจากคนที่ไร้ปริญญารองรับ ผมเคยพิจาณาตนเองเหมือนกัน ว่าอาจเอื้อมไปวอแวกับระบบการทำวิทยานิพนธ์ที่เขาวางมาตรการไว้เป็นสากลได้หรือ ด้วยความถ่อมเนื้อถ่อมตน คนนอกระบบก็คงวางตนเองไว้ในระดับที่ไม่ก้าวล่วงกติกาใด ๆ เพียงแต่จะช่วยประคับประคองให้นักศึกษาเข้าลู่ เข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่อยากเห็นการศึกษาที่จบง่าย ๆ แต่ยังงมงายมาก ๆ ติดตัวไปจนตาย !

ประเทศไหน? ที่มีดร.นุ่มนิ่มมาก ๆ ประเทศนั้นกระเทือนทรางเหมือนกันนะขอรับ

มีผู้สะท้อนเรื่องเหล่านี้ด้วยความหวงใยสม่ำเสมอ..มหาวิทยาลัยบางแห่งพยายามรับนักศึกษาเข้ามาเป็นจำนวนวมาก แข่งขันการโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า ตัวเองมีจุดเด่นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นเรื่องที่มหาวิทยาลัยคิดเองว่า พวกเขามีความเข้มแข็งและโดดเด่นในด้านนั้น ๆ   ซึ่งนั่นอาจเป็นความจริง แต่จะเป็นความจริงทั้งหมดหรือไม่เป็นเรื่องน่าคิด มีข้อเท็จจริงที่ว่า บัณฑิตของมหาวิทยาลัยบางแห่ง”ตกงาน”เป็นจำนวนมาก อาจสวนทางกับเกณฑ์การตรวจประกันคุณภาพการศึกษา อีกนัยหนึ่ง คือ มหาวิทยาลัยผ่านเกณฑ์การประกันคุณภาพ ทั้ง ๆ ที่เด็กเรียบจบไป แต่ไม่มีงานทำ มหาวิทยาลัยมักคิดว่าตัวเองมีหน้าที่ผลิต กลับขาดความเข้มแข็ง เข้มข้น เป็นการผลิตบัณฑิตเหมือน”โรงงาน” ที่ผลิตสินค้าออกไปคล้ายคลึงกัน ซึ่งสินค้าบางส่วนไม่มีคุณภาพเพราะผลิตจากโรงงานที่สุกเอาเผากิน

การผลิตออกไปอย่างหละหลวม ไร้มาตรฐาน ไม่ต่างกับอาหาร”จานด่วน” ที่เน้นกินให้อิ่ม แต่ไม่อร่อยและมีคุณค่าเหมือนอาหารจานสด ๆ ร้อน ๆ ของป้าหวาน จึงเกิดบัณฑิตจานด่วนขึ้นมากมาย ในเมื่อกระบวนการผลิตยังขาดแคลนอาคารสถานที่และอุปกรณ์ที่จำเป็น ที่สำคัญคือขาดบุคลากร บุคลาการไม่เพียงพอจำนวนนักศึกษา ยังไม่รวมบุคลากรที่มีอยู่ไม่ได้ทุ่มเทให้กับมหาวิทยาลัยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อาจารย์บางคนยัง”รับจ้างสอน” ตามสถานที่ต่างๆ นิสิตนักศึกษาบางคนที่เข้ามาเรียน แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าอาจารย์ผู้สอนไม่ได้ทุ่มเทเต็มที่กับพวกเขา แต่ก็ต้องจำใจเรียน เพราะมุ่งหวัง”ใบปริญญา” เป็นหลัก ส่วน”ความรู้” เป็นผลพลอยได้ ผีซ้ำด้ามพลอยไปด้วยกัน

*ลิงไม่เคยต้องการแหวนมากกว่ากล้วย

ไก่ไม่ต้องการพลอยมากกว่าข้าวเปลือก

คนที่ติดบนเกาะร้างไม่ต้องการเพชรพลอยมากกว่าข้าวและน้ำ

คนเรือแตก ต้องการเศษไม้สำหรับเกาะพยุงชีวิต มากกว่าเรือยอชต์สวยหรู

เศษอาหารมีค่าสำหรับคนโซแต่ไร้ค่าสำหรับเศรษฐีที่บรรจงตัดหูฉลาม

ผ่านริมฝีปากที่แต่งแต้มลิปสติกแท่งละ 2 หมื่น

ขอให้เชื่อเถิดว่า อย่างน้อยคุณก็มีค่าสำหรับตัวคุณเอง ดวงดาวที่ส่องแสงริบหรี่อยู่ไกลโพ้น แม้จะไม่ให้แสงสว่างแก่ใครได้ แต่มันก็ให้ประโยชน์แก่ตัวเอง ตรงที่ทำให้ใครๆรู้ว่ามันคือดวงดาว คุณค่าของสิ่งหนึ่งสิ่งใด จึงมิได้อยู่ที่คุณสมบัติของสิ่งนั้นๆ เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ที่จะใช้ประโยชน์มันต่างหาก

คุณค่าของแร่ธาตุที่เป็นเพชรพลอยทองคำนั้น อยู่ที่ว่ามันหายากและมีอยู่น้อยตามธรรมชาติ เราจึงเก็บงำรักษาไว้เท่าชีวิต แต่ยังน้อยกว่าที่เราขาดความดี และคนดีมากมายหลายเท่า คุณจะทำร้ายความดีและคนดีเหมือนตัดไม้ทำลายป่าอย่างนั้นหรือ คนดีหรือความดีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่หายากพอๆกันกับเพชรพลอยแก้วแหวนเงินทอง เราฆ่าและทำลายความดีและคนดีกันอย่างไม่ยั้งมือ ไม่ผิดกับการตัดไม้ทำลายป่าซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสายธารธารา ประเทศเราทุกวันนี้กำลังประสบปัญหาซ้ำซาก ไม่แห้งแล้งก็น้ำท่วม ขาดป่าเขาลำเนาไพร เพราะเราขาดความดีและคนดีคอยทำนุบำรุงรักษาบ้านเมือง* ศิริพงษ์ จันทร์หอม

(มีต่อ)

« « Prev : TT&T/4 รุ่นมากับฝน

Next : ออฟชั่น “กอด” » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 กันยายน 2010 เวลา 12:13

    คนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงก็มาประชุม แต่ก็คงทำอะไรได้ไม่ทันทีเพราะคนที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการดำเนินด้านบริหารก็ไม่ได้มาร่วมฟังด้วย ปอมท.เข้มแข็งค่ะครูบา แต่ก็ต้องได้รับการสนับสนุนโดยผู้บริหารและสภามหาวิทยาลัยด้วยค่ะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 กันยายน 2010 เวลา 12:39

    จะเชื่อมโจทย์แต่ละอย่างเข้ากันอย่างไร เมื่อไหร่ นี่แหละ ถ้าช้า ไฟก็จะมอด
    นึกได้ก็ลุกขึ้นมาจุดกันอีกเป็นพักๆ
    กลับวันไหนละครับ มานานลูกศิษย์ตั้งตารอ อิอิ

  • #3 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 กันยายน 2010 เวลา 16:09

    กลับตั้งแต่เมื่อวานเย็นเลยค่ะ ไม่มีโปรแกรมอะไรต่อ

    จุดเชื่อมอย่างไรเกินที่จะไปทำค่ะ
    เจียมเนื้อเจียมตัว อิอิ

  • #4 ออต ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 กันยายน 2010 เวลา 17:10

    เขาว่ากันว่า
    กรรมการสถาบัน กรรมการสภามหาลัย กรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษา
    เป็นกรรมการที่เดียวแล้วเต็มที่กับมันได้ไหม………………………………….
    ถ้าไม่ได้ก็อย่าหวังว่า อาจารย์เขาจะไม่ไป “รับจ้างสอน” ที่อื่น………………
    อิอิ ไม่แรง แต่เอามาเล่าต่อ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 กันยายน 2010 เวลา 18:04

    เดี๋ยวอาจารย์ก็ไล่เตะก้นหร๊อก มาพูดฟามจริงอยู่ได๊ !!!


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.099315166473389 sec
Sidebar: 0.076318025588989 sec