ระวังลูกออฟไซด์นะน้อง
อ่าน: 2057
(มะระแก้วหั่นลงหม้อต้มได้เลย..รสกลมกล่อมพอดี)
ใดๆๆในโลกล้วน..อนิจเจิง..
อนิจเจิง อยู่ข้างๆอนิจจัง = กระเจิดกระเจิงใจ
มูลเหตุมาจากดูบอลโลกบ่ได้
แหม‘..แบบนี้คอบอลฟึดฟัดสิครับ
โทรไปถามเจ้าบริการติดจานดาวเทียมก็แบ๊ะๆ
หน้าจอมีตัวอักษรวิ่งบอกว่า..ฟีฟ่ามีปัญหา
จะระงับภาพการถ่ายทอดบอลโลกทุกคู่ตั้งแต่บัดนี้
PSI บริษัทที่บริการระบบดาวเทียมแนะนำให้ไปดูช่องประเทศลาว
สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจไทยชุ่ยกว่าลาว
พี่ไทยเรานี่นะท่าน..ท่าจะเฮงน้อยกว่าซวย
เช้ามาบริษัทนี้แนะนำให้ไปหาระบบก้างปลาแบบเก่ามาใช้ก็จะรับได้
เสาก้างปลาก็รื้อทิ้งไปแล้วเพราะนึกว่าจานดาวเทียมมันเจ๋งที่สุด
สุดท้าย ก็มีแต่ความไม่แน่ไม่นอนเท่านั้นที่แน่นอน
เรื่องก็เลยจบตรงที่ต้องนอนแน่ๆเพราะแก้ปัญหาไม่ตก
เมื่อไม่ได้ดูบอลก็มาดูใจ
มาเตะใจตัวเองเข้าโกล์
เอาบอลมาไว้ฝ่ายหนึ่ง เอาใจ มาไว้อีกฝ่ายหนึ่ง
แล้วเป่านกหวีดให้2ข้างนี้ต่อสู่กัน
นอนใคร่ครวญคิดไปคิดมาไม่นานก็หลับ
ตั้งสมมุติฐานเรื่องความเป็นไปได้
สรุปว่ามีก็ดู ไม่มีก็ดู ผลสรุปเอาตอนเช้า
ไม่เสียเวลาด้วย ดูเฉพาะตอนที่จะแจ้ง
ในความเป็นจริง..ช่วงที่ไม่มีการยิงประตู
ก็จะเห็นมนุษย์วิ่งแย่งลูกกลมๆกันเหมือนคนบ้า
คนดูก็บ้า คนเชียร์ก็บ้า ..คนอยากดูแล้วไม่ได้ดู น่าจะบ้ามากกว่า
อาการแบบนี้ต้องหาทางบำบัด
โรคจิตป่วนควรไปรักษากับหมอจอมป่วน
แต่หมอก็แรดเหลือเกิน..
วิ่งพล่านไปทั่วราชอาณาจักร
จนไม่มีเวลาเขียนบล็อก
ได้ข่าวว่านายกสมาคมเทศบาล
กำลังทวงถามงบประมาณองค์กรส่วนท้องถิ่น2หมื่นกว่าล้าน
เมื่อไหร่รัฐบาลจะโอนมาให้บริหารตามระเบียบที่มีไว้
(มะระแก้วเป็นพืชที่น่าสนใจปลูกช่วงปลายฝนต้นหนาว)
วิธีบำบัดโรคบ้าบอล
ต้มมะระแก้วใส่กระดูกสุกรอ่อน
ใช้มะระแก้ว2ผลกับกระดูกสุกรครึ่ง ก.ก. น้ำเยอะหน่อย
โรยพริกไทยป่น-ซอยต้นหอม-ผักชี-โรยหน้า
รสชาติขมปะแล่มๆ กำลังดี
เป็นเมนูฤๅษีได้อีกอย่างหนึ่ง
แค่นี่ก็: ซดจนท้องกางแล้วละครับ
ส่วนเห็ดเผาะเก็บไว้กินนานๆ
เอาไว้รอกอดมาเยี่ยมก็จะต้มเห็ดให้ลองชิมแทนลูกชิ้น
การคิดเรื่องชอบไม่ชอบมีหลายเวอร์ชั่น
ถ้าเปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นดีอะไรๆก็ชื่นมื่น
ถ้าแก้จิตตกไม่ได้
..ก็จะเหมือนหมาหลงอยู่บนทางด่วน!
ไม่ดูบอล.. หันมาดูใจยามไร้บอล
เราสามารถทำใจให้เป็นบอลได้สบายๆ
หัวใจเราเต้นตลอดเวลาอยู่แล้ว
ระวังแต่ลูกออฟไซด์ก็พอ..นะน้อง
อิ อิ ..
« « Prev : เดือนสิงหาฯไปเที่ยวจุฬาฯไหมน้อง?
3 ความคิดเห็น
ต้มมะระกับหมู ไม่ว่าจะยัดไส้หรืออย่างอื่นก็ตาม สมัยเด็กๆ อาตมาต่อต้านสุดๆ ถ้าไม่มีอย่างอื่นที่ดีกว่าให้เลือกได้ ก็จะตักหรือเกะเอาเฉพาะเนื้อเท่านั้นมากินกับข้าว (น้ำซุปก็ไม่เอา)…
แต่ก็แปลก พออายุค่อยๆ มากขึ้น เริ่มจะชอบฉิันต้มมะระกับหมู (ตอนนี้บวชแล้ว เปลี่ยนกิริยาจากกินเป็นฉัน) และเริ่มเปลี่ยนจากเลือกเฉพาะหมูมาเป็นเลือกเฉพาะมะระ… มีพระหนุ่มรูปหนึ่งในวัด สังเกตเวลาฉันข้าววันพระ อาตมาเลือกเฉพาะมะระ และหลวงพี่อีกรูปใกล้หกสิบแล้วก็เลือกฉันเฉพาะมะระ… จึงเล่าเรื่องคนแก่ชอบของขมให้ฟัง เดียวนี้ รู้สึกว่าเค้าจะเริ่มฉันเฉพาะลูกมะระเหมือนกัน พอตักก็จะหันมาบอกว่า ผมก็เริ่มแก่แล้ว…
สรุปว่า หลายสิ่งหลายอย่าง พออายุยิ่งมากขึ้น ข้อสงสัยบางอย่างในอดีตก็ค่อยๆ คลี่คลายไปเอง…
เจริญพร
มีความรู้สึกตรงกันสำหรับผู้อาวุโส ครับ ้แต่มะระแก้วจะมีรสขมนิดๆ
ไม่ต้องไปต้มเอาน้ำขมออกเหมือนมะระจีน
หั่นต้มไปพร้อมกับเนื้อหมู
ทางภาคใต้น่าจะมีจำหน่ายหรือมีการปลูก นะขอรับ
“ใน ความเป็นจริง..ช่วงที่ไม่มีการยิงประตู
ก็ จะเห็นมนุษย์วิ่งแย่งลูกกลมๆกันเหมือนคนบ้า
คน ดูก็บ้า คนเชียร์ก็บ้า ..คนอยากดูแล้วไม่ได้ดู น่าจะบ้ามากกว่า”
เห็นด้วยขอรับ
จาก… คนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ฮี่ๆๆ :P