มองให้เห็นความงดงาม
(เฟิร์นก้าดำบนตอผุ/ผสานระหว่างชีวิตกับไร้ชีวิต แต่มีชีวา)
ความดีงามซุกอยู่ทั่วมุมโลก ธรรมชาติเก็อาบน้ำแต่งตัวเองให้ไฉไลอยู่เสมอ พืชหลายตัวมีเอกลักษณ์เด่น ๆ เฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น ใบพลู พอโดนฝนคลี่ใบเขียวสดใสเป็นมันวาว เหมือนกับมีแว๊กซ์พ่นเคลือบไว้ ความมหัศจรรย์มีความพร้อมมูลมากนักถ้าเราจะมองให้เห็น ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน ..เรียกว่าตาถึง แต่ชาวเราจะไม่พอ ควรจะใจถึงด้วย เคยสังเกตเซียนส่องพระไหมครับ นอกจากใช้สายตาแล้ว ยังมีกล้องขยายส่องอยู่เป็นานสองนานก็ไม่เบื่อ ส่องเหมือนจะให้ทะลุเข้าไปถึงไหน ระหว่างที่ส่องพระก็ส่องใจตัวเองไปด้วย คิดใคร่ครวญอย่างละเอียดประณีต แต่ชาวเราถ้าเอาใจมองธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ตัว เราจะเห็นความดี ความงดงาม ความเคลื่อนไหวของธรรมชาติ
(โรสแมรี่กำลังเติบโตกลางแดดยามเช้าตรู่)
วิธีเคลื่อนไหวของธรรมชาตินั้นน่าเรียนรู้ยิ่งนัก
ยอดพืชไต่ราวสาวตัวเองขึ้นที่สูง
ถ้าสังเกตวันต่อวันเราจะเห็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
มือที่เกี่ยวกระหวัดยื่นไปเกาะกิ่งไม้
เมื่อมั่นคงแล้วก็ค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นไป ขึ้นไป
ทั้ง ๆ ที่ไม่มีบันได หรืออุปกรณ์ช่วยอื่นใด
นี่แหละพลังการพึ่งตนเองในธรรมชาติเขาละ
(ปลาตัวน้่อยกับอ่างบัวลงตัวอย่างสมบูรณ์)
พืชมีการแก้ปัญหาด้วยตนเองตลอดเวลา
วิธีแก้ปัญหาของพืชยิ่งน่าสนใจ
การสะสมอาหารในพืชหัวต่างๆ
การแตกกิ่งใหม่เมื่อกิ่งเก่าโดดพายุหักสะบั้น
การปล่อยยางไม้ออกมาคลุมบาดแผลที่เกิดในลำต้น
แม้แต่หญ้าเจ้าชู้ก็มีวิธีขยายพันธุ์โดยอาศัยปักเกาะชายกางเกงไปไหนไปด้วย
ลูกยางที่หมุนติ้วลอยตามลมตกที่ไหนขยายพันธุ์ที่นั่น
เม็ดต้นตีนเป็ดบางเบายิ่งกว่าปุยนุ่นจึงลอยไปทั่วสวน
หลังฝนตกแดดอบอุ่นก็เปิดฟ้ากว้างสว่างไสว
แดดเปรียบเสมือนสปอตไลด์ให้แสงเงาตามจังหวะ
เกิดภาพสวยงามกว่ายามค่ำคืน
หนูหลอดเดินมาพร้อมกับแสงแดด
ถือจานเห็ดสีสวยใส
เอามาให้ลุงต้มแกง
กินเอาแฮงมื้อนี้
นี่แหละความดีมนุษย์+บรรณาการจากสวรรค์
แคว๊กๆ
1 ความคิดเห็น
เสียดาย แห้วเห็ดสวนป่าซะงั้น อิอิ