สุขภาพทางสังคม

โดย sutthinun เมื่อ 18 ธันวาคม 2009 เวลา 11:41 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2811

ถ้าสังคมเจ็บป่วยเต็มไปด้วยบาดแผลของความขัดแย้ง

สุขภาวะของประเทศไทยจะเป็นอย่างใดฤๅ

อนาคตของบ้านเมืองเราจะไม่บูดเน่าหรือ

เราจะนั่งๆนอนๆสูดดมลพิษที่เกิดจากภาวะโรคเย้วๆอย่างปกติสุขได้จริงหรือ

ในเมื่อหัวใจเราไม่ได้เป็นพลาสติก!

การเสวนาเรื่องความขัดแย้งในสังคม ในมหกรรมสุขภาพแห่งชาติครั้งที่2 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ที่ห้องหมายเลข2ในหัวข้อ”ทำอย่างไรให้สังคมเกิดสันติสุข”ที่สำนักสันติวิธีสถาบันพระปกเกล้ารับผิดชอบในการจัดประชุมสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ห้องนี้มีลุงเอกเป็นพระเอกส่วนผมและเจ้าหน้าที่เป็นพระรอง มีท่านผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังพอสมควร ห้องเราเปิดรายการด้วยการชวนผู้ร่วมสัมมนาทำกิจกรรมยืดเส้นยืดสาย แล้วปูเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวและในชุมชน คุณชรัส ประเทืองปัญญา เล่าถึงศาลยุติธรรมจัดให้มีผู้สันทัดกรณีมาประนีประนอมข้อบาดหมาง ก่อนที่จะยื้อแย้งกันใหญ่โตจนต้องเป็นภาระให้กฎหายตัดสิน ศาลได้ลองเพิ่มช่องเว้นวรรคให้คู่กรณี..มีโอกาสพบปะกันโดยมีคนกลางคอยตล่อมต่อมความทุกข์ให้คลี่คลายใจกันทุกฝ่าย ค้นหาความเข้าใจและเห็นใจมาเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ เอาน้ำใสใจจริงผสมน้ำโหให้เจือจางลงไป ค้นหารอยยิ้ม..ความเมตตากรุณา..หลายเรื่องเกิดจากความเข้าใจผิดเล็กน้อยแล้วไม่ได้พูดคุยกัน ต่างคนต่างคิดต่างมองหาเหตุผลที่จะเอาชนะกัน ถ้าจะหาเหตุเอาถูก-ผิด ยึดแต่ว่า..เรื่องของข้าใครอย่าแตะ..แค่หมาอึหน้าบ้านก็ฟ้องร้องกันได้ เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งกลายเป็นเรื่องใหญ่โตสร้างความพินาศมานักต่อนักแล้ว

ลุงเอกได้เล่าถึงกรณีนักศึกษาสสสส1ได้เรียนรู้ เล่าถึงผลงานที่อัยการชาวเกาะได้รวบรวมไว้อย่างละเอียดครบถ้วนกระบวนความ  ใครสนใจให้เข้าไปค้นดูได้ที่บล็อกอัยการชาวเกาะ หรือสำนักสันติวิธี  ลุงสุดหล่อยังได้ยกกรณีศึกษาของ3จังหวัดชาดแดนภาคใต้ พบว่าในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนั้น ยังมีความดีงามซ่อนอยู่ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนให้คนภาคใต้และคนไทยทั้งประเทศได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน เพื่อจะบอกว่าปัญหาภาคใต้คือปัญหาของคนไทยทั้งประเทศที่ควรจะร่วมกันรับผิดชอบ ตอนท้ายลุงเอกได้เอาข้อมูลจากสภาพัฒนาการสังคมแห่งชาติมาให้พิจารณาถึงความเลื่อมล้ำทางสังคม ที่คนส่วนใหญ่เพียงหยิบมือเดียว แต่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ทุกประเภทถึง40% ถ้าตราบใดคนที่ได้เปรียบยังไม่ต้องจ่ายภาษีการเล่นหุ้นและภาษีิือื่่นๆอีกหลายประเภท คนยากคนจนเดินชนหน้าชนหลัง หาที่เกาะหาที่อุปถัมภ์หาทางออก จึงเลือกผู้แทนราษฎรมาเป็นปากเสียง ผลลัพธ์เป็นประการใดคนไทยก็คงทราบอยู่แล้ว ถ้าวงจรนี้ไม่ได้รับการแก้ไข เหตุการณ์ขัดแย่งและขัดแข้งขัดขาในบ้านเมืองก็คงเกิดขึ้นอีหรอบเดิมๆต่อไป สถาบันพระปกเกล้าหรือสำนักสันติวิธี ทำหน้าที่ในระดับหนึ่งเท่านั้น เรื่องความเป็นไปในประเทศ เป็นหน้าที่ของทุกคนทุกภาคส่วนจะต้องเข้าใจและยื่นมือมารับเป็นเจ้าภาพร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม

ระบบของสันติวิธี ถ้าจัดให้มีการพบปะกันในบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง หลังจากได้คุยกันแบบตรงไปตรงมา ไม่มีใครแพ้ แต่ทุกฝ่ายเฉลี่ยชัยชนะกลับไปคนละครึ่ง ทำใจกันได้ใหม่ หันมาจับมือกัน ตกลงพบกันครึ่งทาง แล้วก็ร่วมเดินทางไปด้วยกัน หลายคนกลับกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ภาษิตจีนบอกว่า “เป็นคดีกินขี้หมาดีกว่า หรือที่พระอาจารย์พะยอมบอกว่า โกรธคือโง่โมโหบ้า ลองพิจารณาดูหน้าตาคนที่โกรธและเครียดสิครับ ใบหน้าทะมึงตึงยังกะผู้ร้าย ทั้งๆที่วันนั้นแต่งหน้าออกสวยเช้ง! เสียดายแป้งผัดหน้า สีเขียนคิ้ว และลิปสติกทาปากยี่ห้อเริด ..ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยถ้าภายในใจร้อนระอุ

ความโกรธนำมาซึ่งความไม่สบายใจ ไต่ต่อไปถึงความเครียด ภาวะเครียดทั้งกายใจเป็นภัยต่อสุขภาพมหาศาล ระบบภายในอวัยวะทุกส่วนอลเวง คนที่เป็นมากๆถึงกับช็อคหมดสติ ในหนังสือสามก๊ก..ตอนจิวยี่รากเลือดก็เพราะเหตุความเครียดอย่างรุนแรงนี่เอง สวรรค์ในอกนรกในใจนั้นเป็นของแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง การบริหารอาการหน้ามืดเพราะลมเพชรหึง อาฆาตมาดร้ายในสังคมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

ความขัดแย้งคู่กับความใจแคบ ความคับแคบอยู่ที่ใคร แสดงว่าบุคคลผู้นั้นถูกขังอยู่ในคุกที่คับแคบ และทั้งๆที่อยู่ในคุกที่คับแคบกลับอยากให้โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลเข้ามาอยู่ในคุก ความพยายามบีบให้โลกมาอยู่ในคุก ก่อให้เกิดผลกระทบจากความพยายามบีบคั้นให้เข้าไปอยู่ในคุกของผู้อื่น ความลงตัว ความพอดี ความกลมกลืน ความเป็นเนื้อเดียวกัน อันเป็นฐานของจิตใจอันสงบสุจย่อมเสียไปในกระแสความบีบคั้น เราจะวางตัวเช่นใด ที่จะไม่ให้ตัวไปติดบ่วงคุกของคนอื่น การเป็นอิสระจากคุกจึงเป็นเรื่องท้าทายท่านอยู่ใช่ไหม? พยายามถอยห่าง..ควรระวังประเภทเรื่องของข้าใครอย่าเตะ ดูแลกายใจของตนไว้ให้ดี ในสภาวะที่สังคมผิดปกติเช่นนี้

เรามาดูตัวอย่างคนที่คิดดีทำดีกันบ้าง ..ถึงแม้ถูกจับขังคุกจากวัยหนุ่มจนถึงวัยชรา ระยะเวลา27ปีอยู่ในที่คุมขังในฐานะนักโทษกบฏ เขาได้เขียนหนังสืออ่านหนังสือ และเขียนบทความสืjอสารกับโลกภายนอก ผ่านนามปากกาเล็ดลอดไปตีพิมพ์ตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ คุกไม่สามารถคุมขังความดีและภาวะผู้นำของเขาได้เลย ทุกคนรู้ว่าเขาอยู่อย่างผู้นำ คนในชาติบ้านเมืองเขาปรารถนาที่จะเดินเป็นเพื่อนเคียงข้างกับชายชราผู้นี้ตลอดไป

เมื่อออกจากคุก เขาได้ร่วมมือกับผู้นำผิวขาวในยุคนั้นเจราจาสันติภาพ จัดให้มีการเลือกตั้งโดยให้คนดำมีสิทธิ มีความเสมอภาคเท่ากับคนผิวขาว  และตัวเขาเองลงเลือกตั้งด้วย ผลคือเขาได้รับคะแนนอย่างท่วมท้น ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประทศแอฟริกาใต้ นอกจากนี้บำเน็จรางวัลหรับผู้อดทนทำความดีทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

เนลสัน แมนเดลลา หลังจากได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว เมื่อครบวาระได้ขอจบการทำหน้าที่นี้ แม้จะมีผู้คนร้องขอให้รับตำแหน่งนี้ต่อไป เนลสันบอกขอบคุณที่ไว้วางใจ แต่ขอดำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียว ทั้งๆที่เขาเป็นผู้นำในฝันที่ดีที่สุดของประชาชน เนลสัน แมนเดลลา อธิบายต่อคนที่รักของเขาว่า ถ้าเกิดว่าเขารับตำแหน่งนี้ไปจนกระทั่งตนเองตายคาตำแหน่ง ถ้าเขาดีจริงก็เป็นความโชคดีของประเทศ แต่ถ้าเขาเกิดบ้าอำนาจกลายเป็นผู้นำที่ไม่ดีขึ้นมา ประชาชนก็ไล่เขาลงตำแหน่งยาก อีกอย่างหนึ่ง ภายหลังที่ประเทศนี้มีประธานาธิบดีคนใหม่ หากประธานาธิบดีคนใหม่ยึดอำนาจแล้วปกครองประเทศนี้ โดยบอกว่าเขาจะอยู่ไปจนตาย เมื่อประชาชนไล่เขาลง แต่เขาไม่ยอมลง พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า ก็อดีตประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดอลา ยังอยู่จนตายแล้วทำไมเขาจะอยู่ไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่เนลสัน แมนเดอลาขออยู่ตำแหน่งนี้แค่วาระเดียว เพราะอยากให้ประเทศมีตัวอย่างที่ดี เขาลงจากเก้าอี้ในขณะที่ผู้คนแซ่ซ้องสรรเสริญ

เราเคยเห็นผู้นำอย่างนี้ไหม?

เนลสัน แมนเดอลา ลงจากเก้าอี้ผู้บริหารประเทศ

ไปนั่งเก้าอี้แห่งความรักของมวลมนุษยชาติ

กลายเป็นทูตสันติภาพโลกขององค์การสหประชาชาติ

ตั้งมูลนิธิเพื่อลูกเล็กเด็กแดง มูลนิธิดูแลผู้ติดเชื้อHIV

ตัวเขากลายเป็นสัญญลักษณ์ของสันติภาพสากล

ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนในโลกใบนี้เสมือนหนึ่งประธานาธิบดีของโลก

วันเกิดทุกปีมีผู้จัดงานเฉลิมฉลองให้ทั่วโลก

นี่คือผู้นำที่ใครๆอยากเดินตาม

ถ้าเราทำเพื่อตัวเองก็อยู่แค่วันขึ้นเชิงตะกอน แต่ถ้าทำเพื่อคนทั่วไป จะอยู่ยืนชั่วฟ้าดินสลาย ถ้าผู้บริหารเอาตัวเองเป็นมาตรฐานเสมอไปในบ้าน ในบริษัท ในสถาบัน ในองค์กร หรือแม้แต่ในระดับประเทศ ผู้นำที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางล้วนแต่เป็นทรราชเผด็จการทั้งนั้น ไปดูเถอะ เบนิโต มุโลลินี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โจเซฟ สตาร์ลิน ยังไม่นับพอลพต หรือในฝั่งเอเซียอาคเณย์ของเราซึ่งไม่ต้องระบุชื่อ ที่บริหารโดยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ล้วนแต่มีชะตากรรมที่อัพโชคทั้งนั้น น่าเสียดายผืนแผ่นดินทอง ที่เป็นบ่อเกิดของยิ้มสยาม โชคร้ายเหลือเกินที่เราไม่มีผู้นำที่คิดได้แม้เศษเสี้ยวของเนลสัน แมนเดอลา เรามีแต่นักบริหารเขี้ยวลากดิน จนผืนดินเต็มไปด้วยริ้วรอยของความวิบัติ สุดท้ายทำให้ทำให้สังคมผิดปกติ เกิดความทุกข์ใจไปทั่วแผ่นดิน

เสน่ห์ของชีวิตขึ้นอยู่กับที่การเรียนรู้ถึงรากเหง้าของความขัดแย้ง และค่อยๆขจัดรากเหง้าของความขัดแย้ง ซึ่งก็คือความเห็นแก่ตัวให้บรรเทาเบาบางลงไป การสร้างอนุเสาวรีย์สูงใหญ่เป็นสิ่งท้าทาย การสร้างฐานะให้ร่ำรวยเป็นสิ่งท้าทาย ความพยายามให้ได้มาซึ่งเกียรติยศและอำนาจเป็นสิ่งท้าทาย แต่หากสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหลักฐานที่แสดงออกของความเห็นแก่ตัว คุณค่าที่เกิดขึ้นก็ไม่แทบจะควรแก่การเอาใจใส่เลย

ต้นไม้เล็กๆที่เราปลูกไว้อย่างเข้าใจว่า นี่คือการลงแรงที่จะให้ประโยชน์แก่แผ่นดิน ท้องฟ้า อากาศ แม่น้ำ และผู้คน แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ก็ยิ่งใหญ่ เพราะต้นไม้นั้นเป็นหลักฐานของใจซึ่งกว้างไม่เห็นแก่ตนที่ดำรงอยู่เกื้อกูลโลกไปอย่างไม่หยุดยั้ง โลกจะงดงามและร่มเย็นด้วยต้นไม้แห่งความเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นอย่างแน่นอน หากทุกคนขจัดรากเหง้าของความเห็นแก่ตัวด้วยการปลูกต้นไม้แห่งความเสียสละไว้ในแผ่นดิน ในจิตใจ และในชีวิตของทั้งตนเองและผู้อื่นอยู่เสมอๆ แผ่นดินขวานทองแห่งนี้จะเลิกอับอายชาติอื่น และยิ้มสยามจะกลับคืนมา

  • ที่ผ่านมาเสียงส่วนใหญ่ได้พยายามทำการบ้าน

ด้วยการสวมสายข้อมือสีเหลือง

นัดกันใส่เสื้อสีชมพูไปลงนามถวายพระพร

ติดตั้งป้ายปกป้องสถาบัน

ติดสะติ๊กเกอร์เรารักในหลวง

และแต่ละจังหวัดนัดกันร้องเพลงชาติไทยทุกเย็น

ถือว่าได้ทำหน้าที่เพื่อสังคมระดับหนึ่ง

ซึ่งเหมาะสมกับสภาพบ้านเมืองที่ปกติ

  • แต่สภาพการณ์ทางสังคมที่บาดเจ็บเพราะความข้ดแย้งทุกย่อมหญ้าเช่นทุกวันนี้

สิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่สะท้อนจึงไม่มีพลังพอที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ถ้าเรายังเอาวิธีการเก่ามาแก้ไขวิกฤติการณ์ใหม่ๆแปลกๆนอกกติกา

ช่วยกันดูแลประเทศที่เจ็บป่วยนี้ด้วยเถิด

ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเดินไปถึงวันที่ต้องหามประเทศไทยเข้าห้องไอซียู

  • เอาอย่างนี้ดีไหมครับ

ลองขยับบท..ฉันรักประเทศไทยเชิงรุกของภาคประชาคมทุกภาคส่วน

ด้วยการเขียนป้ายผ้าติดตามบ้านเรือนของตนเอง..

“ขอร้องเถอนะ ยุติก่อม๊อบเสียที น่าเบื่อมากรู้ไหม ขอบคุณ”

  • ข้อมูลบางส่วนคัดจากหนังสือ

กระแสธารแห่งชีวิต โดย.อาจารย์โสรีย์ โพะธิแก้ว

เนลสัน แมนเดลลา : รัฐบุรุษที่ชาวโลกยกย่อง โดย ว.วชิรเมธี

« « Prev : จดหมายรักถึงลุงเอก

Next : รำพันกลางป่าคอนกรีต » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 เวลา 12:24

    ตอนที่เบิร์ดเป็นคณะกรรมการฟื้นฟูฯที่ยโสธร พี่จากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ให้เบิร์ดกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเอง มีช่องหนึ่งถามว่าบุคคลในดวงใจของคุณคือใคร เบิร์ดตอบว่า”เนลสัน แมนเดลลา” ขอบคุIที่พ่อเขียนเกี่ยวกับผู้นำคนนี้นะคะ ^ ^

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 เวลา 12:44

    แหมถ้าอยู่ใกล้ๆ  จะชวนมาดวล อ่อมแซบไฟแดงเสียเลย แคว๊กๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.68896317481995 sec
Sidebar: 0.79633188247681 sec