วันนี้คุณดื่มน้ำแล้วหรือยัง

โดย sutthinun เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:50 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2598

(ปรับสภาพน้ำดื่มเพื่อชีวิต)

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำชามแห้งชาม น้ำท่วมภาคใต้ หรือว่าการแสวงหาแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรและผลิตพลังงานในอนาคต น้ำพวกนั้นยังเป็นเรื่องไกลตัว ขอเล่าถึงเรื่องน้ำในร่างกายในชีวิตประจำวันเรานี่แหละ ..หลังจากสืบค้นแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับน้ำดื่มและการดื่มน้ำให้ถูกวิธี เป็นเรื่องที่มีความหมายมากนะครับ ไม่ใช่แค่การลดละเลิกสุราหรือน้ำอัดลม แต่เป็นน้ำดื่มของเราแต่ละวันนี่แหละ เขาอธิบายถึงอุณหภูมิของน้ำ ควรจะดื่มน้ำที่ไม่ต้องแช่เย็นหรือใส่น้ำแข็ง ควรจะดื่มน้ำช่วงไหนวันละกี่แก้ว สรุปว่าน้ำสัมพันธ์กับสุขภาพเราอย่างยิ่ง


(อาหารใช้เมนูฤๅษี โดยเฉพาะน้ำเต้า

เอามาต้มอย่าให้สุกมาก เคี๊ยวกรุ๊บๆยังกับกระดูกอ่อนสุกร)

น้ำสะอาดเราจะหาได้ที่ไหน ที่สวนป่าจะรองน้ำฝนไว้ หลังจากนั้นก็จะเอามาผ่านเครื่องกรอง ต่อมาป้าจุ่มแนะนำเครื่องปรับสภาพน้ำดื่ม มีผู้สันทัดกรณีเล่าว่า เครื่องนี้ถ้าเป็นสินค้านำเข้าราคาประมาณ3-4หมื่นบาท แต่เครื่องที่วิศวกรด้านไฟฟ้าไทยเราค้นคิดประดิษฐ์ขึ้นมาเอง ขายได้ในราคาไม่กี่พัน มีข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปรับสภาพน้ำดื่มเพื่อชีวิตย่อๆดังนี้

เครื่องTIP เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของน้ำทั่วๆไป ซึ่งมีกลุ่มโมเลกุลขนาดใหญ่(11-13โมเลกุลต่อกลุ่ม)ให้เป็นน้ำที่มีโมเลกุลที่เล็กลง5-7โมเลกุลต่อกลุ่ม) มีคุณสมบัติเป็นน้ำด่างอ่อนๆ และมีออกซิเจนสูงขึ้น โดยอาศัยหลักการทางฟิสิกส์ในการจัดเส้นแรงแม่เหล็ก ให้มีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กที่สูงมากพอ เพื่อเหนี่ยวนำให้เกิดอิเล็กตรอนอิสระไหลเวียนภายในโมเลกุลของน้ำ เป็นผลให้เกิดการแตกตัวออกเป็นกลุ่มของโมเลกุลที่เล็กลงเรื่อยๆ

ยังมีคุณสมบัติอีกหลายประการ เอาไว้ผมทดลองได้ผลประการใดจะเอามาเล่าให้ฟังในภายหลังดีไหมครับ ไหนๆก็เป็นหนูลองยาแล้ว นอกจากจะดื่มน้ำที่ได้จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ น้ำที่ได้จากภูมิปัญญาพื้นบ้านก็น่าสนใจไม่น้อย เพิ่งอ่านเจอเรื่องเก๋ากี้ เขาบอกว่ามีคุณสมบัติดีเหลือหลาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความฟิต เพิ่มภูมิคุ้มกัน กุ๊กทั่วไปจะใส่ในอาหารประเภทต้มตุ๋นต่างๆ เห็นเม็ดแดงๆเขาใส่เพื่อปรุงรส แต่ในมิติของสมุนไพรแล้วน่าสนใจมาก เมื่อรู้ว่าดีกว่าที่คิดก็ซื้อมาชงน้ำร้อนดื่มประจำ และใส่ในอาหารทั่วไป

เมื่อคิดเรื่องสุขภาพเชิงกระบวนการก็ขออนุญาตชวน

หมอเจ๊-ป้าหวาน-เป็นพี่เลี้ยงดูแลด้านคลินิกวิทยา

อุ้ยดูแลด้านสภาพคล่องกระแสจิต สมาธิ การดูแลใจ

รอกอด เป็นพี่เลี้ยงเรื่องข้อมูลสุขภาพ

ป้าจุ๋มสงเคราะห์ยาสมุนไพร

แห้วศรีมีหน้าที่โทรกวนหาเรื่องรายวัน

ท่านบางทราย-ตาหวาน ช่วยตรวจสอบเรื่องอาหาร

ถ้ามีทีมงานคอยเป็นพี่เลี้ยงอย่างนี้

งานซ่อมเสริมสุขภาพน่าจะมีเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟัง

เรื่องอาหารการกินสำคัญมากนะครับ

คนที่ทำอาหารเก่งและอร่อย เพิ่งอสัญกรรมไปด้วยโรคมะเร็งตับ

ใครตับหวาน ตับขม จะมาร่วมวงนี้ก็ยินดีนะครับ

จบข่าว..

« « Prev : เรื่องเกิดตอนดึกๆดื่นๆ

Next : ดูใจห่าน.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

12 ความคิดเห็น

  • #1 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2009 เวลา 20:27

    กริ๊ง… ซา วัด ดี๋ เจ้า… 
    ลานสวนป่า (499)
    บันทึกนี้ของพ่อเป็นบันทึกลำดับที่ 499 บันทึกหน้าก็จะเป็นลำดับที่ 500 พอดี 
    พรุ่งนี้ดื่ม (น้ำ) ฉลองกันหน่อยดีฝ่าเนอะ พ่อ เนอะ  (^_____^)

  • #2 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2009 เวลา 21:32

    เก๋ากี้ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่บ้านจะซื้อไว้ใส่แกงจืด บางทีก็กินแห้งเล่นๆ ..กินแห้งๆ อร่อยค่ะ เหมือนกินองุ่นแห้ง หรือเม็ดผลไม้แห้งต่างๆ ราคาไม่แพงเท่าผลไม้แห้งชนิดอื่นหาซื้อได้ง่ายด้วยค่ะ

    เรื่องจิตใจเดี๋ยวนี้เปลี่ยนจากระวังรักษาใจไปเป็นตามดูใจค่ะ ถ้ามีสติก็ดูเร็ว เกิดปุ๊บรู้ปั๊บว่าโกรธ ว่าดีใจ เสียใจ กังวล พอรู้ตัวเดี๋ยวอารมณ์ก็หายเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น …ตามดูใจดีกว่าค่ะครูบา..ใจคนเราเหมือนธงสะบัดปลายตามลมแรง เดี๋ยววูบเดี๋ยววาบ..ตามดูเรื่อยๆ เห็นความไม่เที่ยงแม้แต่ใจตัวเราเอง….

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 4:32

    โรคใจวูบ น่ากลัวเท่าๆกับโรคหัวใจวูบ เดี๋ยวนี้ตายเยอะ
    อุ้ยบอกมา เช๊ะโป๊ะเลย
    เห็นภาพเลย  ปลายธงสะบัด สติคนเราชอบสะบิ้ง กลิ้งเป็นน้ำอยู่บนใบบอน
    จบข่าว

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 4:34

    กรุงเทพฯ มีน้ำอะไรน่าดื่ม น่าสนใจ
    ยังนึกไม่ออก นอกจากน้ำเป-ล่า
    6 โมงเย็น มาดวลน้ำกันหน่อย ที่814
    แคว๊กๆ จบข่าว

  • #5 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 15:08

    ปาป๊าจะดื่มน้ำทุกเช้าวันละ 8 แก้ว โดยดื่มติดกันเลยนะคะ ไล่จากน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง 1 แก้ว ต่อด้วยน้ำผึ้ง 1 ชต.ผสมน้ำอีก 1 แก้ว แล้วไล่ตามด้วยน้ำเปล่าอีก 6 แก้ว โดยใช้เวลาค่อย ๆ ดื่มอย่างนี้ประมาณครึ่งชม.กว่าจะครบกระบวนการ ทำทุกวันตั้งแต่เบิร์ดจำความได้จนปัจจุบัน น่าสนใจคือตั้งแต่ปาป๊าป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบแล้วต้องกินยาเยอะมาก ทั้งยาลดความดัน คุมโคเลสเตอรอล ยาขับปัสสาวะ ยาต่อมลูกหมากโต ยาละลายลิ่มเลือด ฯลฯ ซึ่งน่าจะมีผลต่อไต แต่ทุกครั้งที่ตรวจเลือดผลไตปาป๊าปกติและอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากสำหรับคนอายุเกือบ 70 อย่างนี้ ซึ่งหมอบอกว่าน่าจะมาจากที่ปาป๊ากินน้ำเยอะมาตลอดทำให้ล้างท่อในร่างกาย …ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะว่ามีผลหรือเปล่า   

    เบิร์ดดื่มน้ำอุณหภูมิห้องมาตลอดค่ะพ่อ ไม่สนตู้เย็นเท่าไร และดื่มน้ำเยอะมากไม่เคยนับว่ากี่แก้ว / วันแต่จะดื่มเรื่อย ๆ ทั้งวัน เป็นที่รู้กันว่าแก้วน้ำบนโต๊ะทำงานเบิร์ดมักจะมีน้ำเต็มเกือบตลอดเวลาเพื่อพร้อมดื่ม และมีขวดน้ำสำรองไว้ในตู้ข้างหลังเสมอครั้งละ 2 ขวดลิตรซึ่งต้องเปลี่ยนทุกวันเพราะเบิร์ดดื่มหมด  ผลเลือดเบิร์ดไม่เคยมีปัญหา ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีอะไรทั้งนั้น …

    เห็นด้วยกับการดื่มน้ำสะอาดนะคะ  ^ ^

  • #6 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 15:10

    แหมลืมบอกไป สมองคนเรานั้น น้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญนะคะ อิอิอิ

  • #7 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 17:06

    ผมกินน้ำ MRET มาหลายปีแล้ว และมีเครื่องทำน้ำโมเลกุลเล็ก (ตัวสีฟ้าในรูปแรก) ซึ่งยังไม่ได้ลองเลยครับ แต่อ่านคู่มือดู รู้สึกสมเหตุผลดี(กว่า)

  • #8 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 18:35

    เอ้าดื่มน้ำสะอาดนี่แหละ ช่วยสุขภาพตัวเองได้ง่ายและดีด้วย
    ดื่มกันเถิดนะ

  • #9 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 18:36

    แนวคิดเรื่องมีน้ำอยู่ใกล้มือพร้อมดื่ม เป็นเรื่องที่ดีมากนะเบิร์ด
    ที่สวนป่าก็เริ่มทำอย่างนั้น
    ช่วงที่เดินในสวน ไปเสียบกิ่งไม้ ยังมีขวดน้ำดื่มเล็กติดตะกร้าไปด้วย คิคิ

  • #10 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2009 เวลา 0:05

    การดื่มน้ำยังมีเรื่องให้ระวังในเรื่องดื่มมากเกินขนาดนะคะ ดื่มมากไปจะมีอาการของน้ำเป็นพิษได้ค่ะ 
    ดังนั้นจึงต้องมีเพดานของจำนวนที่ดื่ม สามารถใช้จำนวนไม่เกิน 3 ลิตร/24 ชั่วโมง อย่างที่รอกอดใช้อยู่กับตัวเองได้ค่ะ
    ส่วนจำนวนที่เบิร์ดแนะนำนั้นเป็นค่าเฉลี่ยสำหรับคนทั่วๆไปดื่มน้ำต่อวัน

    กินน้ำน้อย จะมีการดึงเอาเกลือที่จะขับทิ้งกลับมาเก็บไว้ให้เป็นปัญหากับภาวะเคมีในเซลล์ แล้วยังทำให้กรดยูริคนั้นเพิ่มสูงขึ้นด้วย
    กรดยูริคถูกกักเอาไว้สูงๆจะนำไปสู่การเกิดนิ่วในไต และส่งผลให้ไตทำงานแย่ลงๆต่อไป

    ดูผลเลือดของพ่อครูที่ป้าหวานส่งไปให้แล้ว ขอสั่งว่าให้ดื่มน้ำจำนวนเดียวกันกับรอกอดนะคะ
    (2.5 ลิตรสำหรับการดูแลการทำงานของร่างกายที่มีน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. ไม่ให้เครื่องในร้อน อีกครึ่งลิตร เติมไปเพื่อช่วยดึงเกลือ ดึงน้ำตาลออกทิ้ง)

    ค่ากรดยูริคในเลือดที่มันสูงอยู่นะ น่าจะมีเรื่องมาจากกินขนมฝรั่งและอาหารที่มีเกลือโซเดียมสูงบ่อยๆก็เป็นได้นะคะ
    สั่งอีกแหละว่า่พ่อครูควรจำกัดจำนวนโซเดียมที่กินเข้าไปด้วยนะคะ  แหล่งโซเดียมเขียนบอกเอาไว้ในลานปัญญานี้ให้แล้ว

    การกินอยู่ที่ลดไขมันลงมากมายแล้วนั้นดีแล้วค่ะ เพราะมันช่วยทำให้ปล่อยกรดยูริคออกจากร่างกายง่ายขึ้นมากมาย

    ระวังเรื่องกินอาหารที่ใช้แป้ง หรือถั่ว หรือเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลหวานๆไว้นะคะ กินมากไปจะทำให้การปล่อยทิ้งเจ้ากรดยูริคไม่ดีค่ะ

    แล้วอย่าอด เพราะการอดอาหารทำให้มีการละลายไขมันมาใช้เพิ่มขึ้น แล้วไปทำให้กรดยูริคสูงขึ้นได้ทันทีทันควัน

    ถ้าปวดข้อ แสดงว่าเป็นโรคเก๊าท์แล้วนะคะ ถ้าไม่มีก็แค่กรดยูริคสูงเท่านั้นค่ะ (จากสาเหตุที่บอกก่อนหน้าแล้ว)

    สงสัยงานนี้ เมนูไข่เจียว ควรจะพิจารณาจัดมื้อกินให้ห่างๆหรือปรับวิธีปรุงอีกหน่อยนะคะ ด้วยเหตุของการปรุงด้วยน้ำมัน

    แหล่งอาหารที่ทำให้กรดยูริคสูงได้มีความรู้เขียนไว้อยู่ที่นี่แล้ว เรียนรู้เองได้เลยนะคะ  อะไรควรกินน้อย อะไรกินมากได้

  • #11 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2009 เวลา 7:22

    ขอบคุณหมอเจ๊ ที่มาตีแตกเรื่องน้ำ ให้เห็นข้อปฏิบัติที่ถูกต้อง
    รับไปดำเนินการครับผ๊ม อิอิ

  • #12 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2009 เวลา 0:25

    มื้อไหนกินไข่เจียว มื้อนั้นกินน้ำมะพร้าวอ่อนตามด้วยเด้อ จะดีต่อสุขภาพของพ่อครูค่ะ

    เพื่อจะได้มีหลักในการกะปริมาณน้ำดื่มให้สอดคล้องกับน้ำหนักตัวและปลอดภัย  ให้ดื่มประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัวค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.56294703483582 sec
Sidebar: 0.2861020565033 sec