ดูใจห่าน..

โดย sutthinun เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 5:52 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2857

สืบเนื่องจากอุ้ยชี้ช่อง เริ่มเรื่องให้เอ๊ะดีมาก

เรื่องจิตใจเดี๋ยวนี้เปลี่ยนจากระวังรักษาใจไปเป็นตามดูใจค่ะ ถ้ามีสติก็ดูเร็ว เกิดปุ๊บรู้ปั๊บว่าโกรธ ว่าดีใจ เสียใจ กังวล พอรู้ตัวเดี๋ยวอารมณ์ก็หายเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นตามดูใจดีกว่าค่ะครูบา..ใจคนเราเหมือนธงสะบัดปลายตามลมแรง เดี๋ยววูบเดี๋ยววาบ..ตามดูเรื่อยๆ เห็นความไม่เที่ยงแม้แต่ใจตัวเราเอง….”

ผมเองแหละมีจุดด้อยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เป็นคนที่เอาตัวเองเป็นตัวตั้ง เพราะมีอิสระไม่ได้อยู่ในกำกับของใคร ไม่ต้องขออนุมัติใคร คิดอยากจะทำอะไรก็ลุยเลย ที่ซ้ำร้ายไม่ค่อยขอ-และฟังความเห็นใครเสียด้วย..เนื่องจากทำเร็วความเห็นภายนอกตามมาไม่ทัน ลุยหน้าเดินไปแล้ว ดังนั้นเรื่องขาดตกบกพร่องไม่ต้องห่วง เจอประจำ.. มักจะต้องตามซ่อมแซมสิ่งชำรุดภายหลัง ซึ่งก็ทำได้ไม่มากนัก เพราะมีเรื่องลุกลี้ลุกลนใหม่ๆมากวักมือเรียกอยู่หย๋อยๆ.. ที่ผ่านมาเป็นยังงี้ละครับ ระบบการทำงานแบบสุกๆดิบๆเหมือนลาบก้อยอีสาน คนถิ่นนี้จึงเป็นพยาธิใบไม้ในตับสูงที่สุดในโลก

มาถึงตอนนี้หมดแรงแล้ว ใจเย็นพอที่จะทำอะไรช้าๆ..ผ่อนพักตระหนักรู้อย่างที่ชาวจิตปัญญาเขาว่ากัน เมื่อย้อนกลับมาดูสิ่งรอบๆตัว พบว่าผมมีครูที่ดีมากสอนเรื่องการดูแลใจ รักษาใจ บริบาลน้ำใจให้กันและกัน มีตัวอย่างหลายเข่งอยู่ในสวนป่าแห่งนี้ โดยเฉพาะความรู้ในธรรมชาติ เป็นบทเรียนสดๆร้อนๆ ประทับใจประมาณ10เรื่อง วันนี้ขอเล่าเพียง2กรณีตัวอย่างนะขอรับ

ตัวอย่างที่1

ปีนี้เลี้ยงห่านไว้3ตัว ตัวผู้หนึ่งตัวเมียสอง ต่อมาตัวผู้หายไป เข้าใจว่าอาจจะโดนหมากัด เหลือ2อนงค์นาง 6โมงเช้าจะเดินนวยนาดผ่านหน้าบ้านทุกวัน ..ทำไมต้องเดินโชว์ผ่านประจำให้เห็นก็ไม่รู้นะ..เดินไปก็ร้องไป..เข้าใจว่าอาจจะคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กัน เหมือนกับเราไปเที่ยวกับเพื่อนที่ถูกใจกระมัง ต่อมาอนงค์หนึ่งออกไข่ ห่านนั้นหมอบในรังไข่ในแต่ละวันนานมาก แม่ยาหยีเพื่อนรักก็เหงาสิครับ เดินโด่เด่ตัวเดียว ร้องเรียกเพื่อนเสียดังลั่น เมื่อไม่เห็นเพื่อนมา ก็ไปนั่งเฝ้าเป็นครั้งคราว นั่งคอยนานๆก็คงเบื่อ ร้องโหวกเหวกเดินออกไป นานๆก็จะแวะมาชวนเพื่อนอีก

ผมแอบเห็นบางครั้งเพื่อนก็ลุกออกเดินมายืดเส้นยืดสาย

ไปกินหญ้ากินน้ำ

เพื่อนคู่หูก็เร่เข้ามา

อาจจะถามว่า ..

ทำไมเธอไม่เบ่งไข่เสียที เราจะได้มานั่งกกไข่คุยกันให้สำราญใจไปเลย

ผมเองก็ลุ้นนะครับ

จะได้แบ่งไข่ห่านมาต้ม

ให้ฟักไปก็เท่านั้นเพราะไม่มีเชื้อ

แต่ก็เห็นใจ เหลือไข่ไว้ให้3ฟอง

ตอนที่แม่ห่านจะออกจากรัง

เธอจะตะกุยขนและเศษใบไม้ปกปิดไข่ไว้มิดชิด

มองเผินๆไม่เห็นไข่หรอกนะ

เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า

สัตว์โลกทั้งหลายมีความเอื้ออาทรให้แก่กันอย่างเต็มเปี่ยม

ตัวอย่างที่2

เมื่อปีที่แล้ว เราเอาไข่ไก่ต๊อกมาฟักรวมกับไข่ไก่ป่าและไก่แจ้

เมื่อได้ลูกเจี๊ยบออกมาก็เลี้ยงรวมกัน

จนกระทั้งไก่กลุ่มนี้โตขึ้นๆ

ผมนึกว่าเจ้าไก่ต๊อกจะไปเข้าฝูงคุณต๊อกด้วยกัน

ผิดถนัดครับ ต๊อกตัวนี้เมินเผ่าพันธุ์ได้จะได๋

คุณแจ้กับคุณต๊อกอยู่ด้วยกันแต่อ้อนแต่ออก

ไม่เคยห่างกันเลย

เกาะกันแจไปไหนไปด้วยกินด้วย

ผมกำลังติดตามดูด้วยความระทึกใจ

วันใดที่ไก่แจ้มีคู่ เจ้าต๊อกจะทำอย่างไร

1-ไปอาสาเป็นเพื่อนเจ้าสาว

2-เป็นพี่เลี้ยงลูกไก่

นึกไม่ออกจริงๆว่าในอนาคตความรักระหว่างเผ่าพันธุ์จะเป็นฉันใด

เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า

รัก-ชอบ-เสียอย่าง ไม่รู้ละ..ถึงไหนถึงกัน อิ อิ..

คำที่ขอถาม

  1. สัตว์ปีกที่เล่านับถือศาสนาอะไร ทำไมรักใคร่โอบเอื้ออารีกันดีเหลือเกิน
  2. สัตว์เหล่านี้ เรียนรู้อย่างไร ทำไมถึงมีคุณธรรม จริยธรรม เมตตาธรรมสูงมาก
  3. มนุษย์เราจะจำลองวิชาความรู้จากสัตว์เหล่านี้ได้อย่างไร?
  4. คุณเคยกินไข่ห่านต้มแล้วหรือยัง?
  5. คุณเคยเลี้ยงห่านแล้วหรือยัง?
  6. คุณมีเพื่อนที่แสนดีเท่าที่ห่านมีแล้วหรือยัง?

จบข่าว

« « Prev : วันนี้คุณดื่มน้ำแล้วหรือยัง

Next : ตอน: นางฟ้ากับป้าหวาน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 16:49

    บ่เกยเลี้ยงห่านครับ
    แต่เกยเอาไข่เป็ดมาให้แม่ไก้ฟักไข่ (เป็นการทรมานแก่ไก้รึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะลูกไก่ออกเมื่อฟักได้ ๒๑ วัน แต่แม่ไก่ต้องกกไข่เป็ดอีกจนครบ ๒๘ วัน เจ้าก๊าบน้อยถึงจะออกมาจากไข่)

    ที่น่าสนใจและเห็นใจก็คือตอนที่นั่งดูแม่ไก่เลี้ยงลูกเป็ด
    แม่ก็เฝ้าคอยสอนให้ลูกคุ้ยเขี่ย แต่ลูกก็ทำไม่เป็นสักที
    ยิ่งตอนที่ลูกเป็ดพากันกระโดดลงน้ำตามสัญชาตญาณ เห็นแม่ไก่วิ่งร้องโวกเวกไปมาบนฝั่งปานว่าจะเป็นบ้าเป็นหลัง
    ผมเลยเลิกใช้แม่ไก่กกไข่เป็ดตั้งแต่นั้นมา
    ไก่แม่ดำตัวนี้ สุดท้ายก็มาตายด้วยกรงเล็บเหยี่ยวขณะที่โฉบลงมาจับลูกเจี๊ยบ นางไก่แม่ดำโผเข้าปกป้องต่อสู้จนเจ็บตาย

    ความรักของ “แม่” ยิ่งใหญ่ ยิ่งนักครับ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 18:21

    โอ้ว ประทับใจมาก สังสัยจะมีภาค2 อิอิ

  • #3 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:00

    อืม ได่นี่มันรักคู่ของมันด้วยนะคะ ที่บ้านมีไก่แจ้อยู่คู่หนึ่ง ไปไหนไปด้วย วิ่งหนีวิ่งด้วย กินอะไรกินด้วย นอนที่ไหนนอนด้วย อย่างสม่ำเสมอ
    คู่นี้ได้มาจากลูกน้องเขาจับมาส่งให้ที่หน้าบ้าน เขาบอกว่าฝากเลี้ยงสักเดือนเหอะนะ เดี๋ยวมันก็จะออกไข่ให้ได้ชื่นชม
    เลี้ยงมาจนจะเกือบสองปีแล้ว ไม่เห็นไข่ซักกะฟอง  พยาย้าม พยายามหาที่ให้มันวางไข่ยังไงก็ไม่ได้ผล
    ตะหงิดๆในใจอยู่ว่า หรือว่าเจ้าแจ้คู่นี้ มันเป็นเพศผู้ทั้งคู่ก็ไม่รู้
    ครือว่าไม่มีความรู้ในการแยกเพศไก่ดูด้วยตา…กเลยได้แต่ภาวนา..ไข่เหอะ..ไข่เหอะ..มันก็ไม่ไข่
    รุ่งเช้าของทุกๆวัน มันก็จะมาส่งเสียงร้องชวนคุยที่ประตู เอียงหน้าเอียงตา เมียงมองว่าอยู่ที่ไหนกัน
    ไม่เห็นมันก็จะถอยส่งเสียงขันร้องเรียกคน เห็นคนมันก็จะก้าวเข้ามาเมียงมองทุกที ช่วยทำให้คนในบ้านมีชีวาดีเหมือนกัน…..อิอิ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 เวลา 19:44

    สงสัยตอนต่อไปจะต้องเขียนเรื่อง ไก่แจ้ในดวงใจเสียแล้ว
    ผมมีตัวหนึ่งคล้ายๆกับที่หมอเจ๊เล่านี่แหละ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.054774045944214 sec
Sidebar: 0.046782970428467 sec