อุ๊ยจันตาตามมาติดๆ
อ่าน: 1297
เรื่องความเชื่อที่ถูกต้อง จะนำไปสู่การเชื่อถือ แล้วพัฒนาไปเป็นศรัทธา สังคมไทยในอดีตมีพลังศรัทธาสูงมาก จะสังเกตจะพบเห็นในวิถีไท ในจารีตประเพณี และที่ฝังลึกลงไปในวัฒนธรรมไทย ศาสนาพุทธเป็นวินัยทางสังคมที่ยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนให้มองเรื่องความดีมีคุณค่ามากกว่าเป็นมูลค่า ผลตอบแทนทางด้านจิตใจ ถ้าเข้าถึงจะเกิดความปิติสุขและความสงบสุข ถ้าขยายวงกว้างออกไปจะเห็นสันติภาพและภารดรภาพ
ในอดีตชาติมีพวกเราเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะพิธีกรรมธรรมบูชา เริ่มจากจัดเก็บดอกไม้มาร้อยให้สวยงามเพื่อนำไปบูชาพระ การจัดทำบายศรีในงานประเพณีสำคัญๆ พบว่าอุ้ยจันตากับเจ้าหนิงกลิ้ง รับผิดชอบด้านนี้ ไม่ว่าจะวันพระวันโกนวันสำคัญๆเกี่ยวกับพิธีกรรม สองแม่นางคู่นี้จะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงนำลูกมือนั่งร้อยมาลัยและจัดพานพุ่มบายศรีอย่างวิจิตรบรรจง มิน่าละ ชาตินี้อุ้ยจึงชอบเข้าวัด เที่ยววัด รู้เรื่องวัดละเอียดลึกซึ้ง ถ้าใครจะไปเที่ยววัดอย่าลืมชวนอุ้ยก็แล้วกัน ผมเคยขอรับบริการมาแล้ว ยังติดใจไม่หาย คิ คิ.
ไหนๆก็เข้าวัดแล้ว เราเข้าไปดูในอุโบสถ คนที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ นอกจากมีความรู้ความชำนาญแล้ว การดูแลสถานที่พุทธบูชานั้น ถ้าทำด้วยจิตใจที่เข้าใจทุกอย่างจะเรียบร้อยไม่มีที่ติ ในประเทศอินเดีย ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลเทวสถานสำคัญๆ มักจะสืบทอดกันมาเป็นร้อยเป็นพันปี ดังนั้นเทวสถานในประเทศอินดีถึงจะมีอายุนับพันปี ก็ยังไม่แตกหักปรักพังเหมือนเช่นโบราณสถานในบ้านเรา ในมิติอดีตกาล เราพบคนสกุลเฮผู้คงแก่เรียนทำหน้าที่ดูแลห้องพระ มองแล้วมองอีก ยังไงๆก็ใช่แน่ ท่านไร้กรอบของเรานี่เอง
มิน่าละตอนแรกๆท่านนับถือคริสต์
ต่อมาได้ศึกษาพุทธศาสนาจนจะแจ้งเจนใจแล้ว
ปัจจุบันท่านแทบจะเป็นมัคทายกวัด
กำลังสร้างสถานที่ร่มธรรมอยู่ที่อำเภอปากช่อง
มีคนถามว่า แล้วหลวงพี่ติ๊กในอดีตชาติเป็นอะไร
ผมตีความได้ไม่แน่ใจนัก
ว่าท่านเป็นเณรน้อยเจ้าปัญญา หรือว่าเป็นเด็กวัด
เพราะมีหน้าที่ซัก ตาก เก็บ สบงจีวรให้พระ
ผมโทรบอกเล่าเรื่องนี้กับท่านหลวงพี่
ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่สั่งความไว้ว่า
ถ้าจะไปเที่ยวจังหวัดเลย
อย่าลืมนิมนต์อาตมาด้วยก็แล้วกัน
: หมายเหตุ ผู้ที่เกี่ยวข้องในคิวนี้
หลวงพี่ติ๊ก เป็นเณรน้อยเจ้าปัญญา
ท่านไร้กรอบ เป็นมัคทายก
อุ้ยจันตา เป็นหัวหน้าแผนกทำบายศรี
หนิงกลิ้ง เป็นลูกทีมอุ้ยจันตา
Next : ขบวนป้าๆมาแล้วเด้อ จิบอกไห่ » »
4 ความคิดเห็น
vbvbvb = อิอิอิ แหมว่าแล้วเชียว ^ ^
-เท่าทีจำได้รู้สึกว่าหลวงพี่ติ๊กนี่จะมีหน้าที่คอยจัดผ้าไตรและเครื่องไทยทานทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับสำหรับถวายในพิธีสงฆ์ทั้งหมดเลยด้วยค่ะ
-สำหรับอุ๊ยจันตานั้นเป็นหัวหน้าแผนกบายศรีโดยมีหนิ๋งกลิ้งคอยช่วยเช็ดช่วยฉีกใบตอง…เพิ่งเข้าใจ…ว่าทำไมชาตินี้อุ๊ยจึงเกิดมาสวยและใจสงบนิ่ง…
อิอิ….มิน่าล่ะ อุ๊ยจะหน้าไม่ดำเหมือนท่านหัวหน้ากองฟืน….55555
เรื่องพิธีกรรมเอาแต่เรื่องจัดพานบายศรีก็ดีนะคะ …ดีกว่าต้องไปฆ่าสัตว์เข้าพิธีด้วย..อิอิ
……………………
ชอบเรื่องที่ครูบาเขียนในประเด็นที่ให้เห็นว่า การจะใช้ชีวิตแบบพอเพียงสำหรับหมู่เหล่า และช่วยให้สังคมอยู่รอด ทุกๆคนจะมีหน้าที่ตามความสามารถและถนัดกันไป …
ส่วนที่ครูบาเขียนมาทั้งหมด ดูจะเป็นภาพของชนเผ่าที่รักสงบ ไม่มีการรบพุ่งเลย ยามที่ถูกกดดันก็จะแสวงหาทางเลือกที่จะเร่ร่อนมากกว่าจะรบพุ่ง??? และดูจะเป็นชนเผ่าที่มุ่งเรื่องของปากท้อง (อิอิ) กับการสร้างความสุขอุดมสมบูรณ์บนแหล่งธรรมชาติโดยไม่ได้ไปทำลายหรือล้มล้างธรรมชาติ
เข้าประเภท “ขอของป่าหามาแค่พอยาใส้” ไม่สะสมจนเกินจำเป็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้อดออม …แม้แต่เก็บพริกก็ยังเก็บพันธุ์ที่หลากหลาย…อิอิ
อยู่กันเรื่อยไปตามประสาคนรักสงบ วันไหนวันพระก็มีพิธีน้อมนำให้ใจผ่องแผ้ว มีหลักธรรมนำชีวิต
ใครทำหน้าที่อะไรก็สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะขึ้นไป
ชีวิตแบบในบันทึกของครูบา..ดูเหมือนเป็นอดีต ….แต่ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากจนทำไม่ได้…แต่การจะประยุกต์อย่างไร ถึงจะทำให้การที่ทุกๆคนอยู่ร่วมกัน มีความผูกพัน ให้อภัยกัน และรับภาระกิจของตัวเองอย่างเบิกบาน….ก็เป็นโจทย์ที่อยากขบคิดต่อเหมือนกันนะคะครูบา
อิอิ
[...] Melatonin ด้วย …แถมก็นึกเห็นภาพตัวเองทำบายศรีแล้วก็อดยิ้ม [...]