ลานสวนป่า

ต้นไม้ที่ชาวเฮช่วยกันปลูกทดสอบ

ต้นนะกู   ต้นสะตอ   ต้นฝาง โตเร็วเท่าๆกัน

แต่ประโยชน์ต่างกันมาก ตะกูเหมาะสำหรับแหกตาขายพันธุ์เท่านั้น

จังซี่มันต้องเขียน ..เรื่องต้นตะกูที่ระเบิดระเบอกันมาแต่ต้นปี ประชาสัมพันธ์กันครึกโครมว่าเป็นต้นไม้โตเร็ว ไม้มหัศจรรย์ ปลูกแล้วหายจน ติดคัตเอ๊าท์มหาละลวยทุกซอกทุกซอย กระต่ายตื่นตูมก็บ้าเห่อซื้อหามาปลูกกันเป็นบ้าเป็นหลัง สุดท้ายก็พบว่ามีคนใจอักเสบกันทั่วประเทศ เท่าที่รู้เจ้าใหญ่นายโต นักวิชาการ ครูบาอาจารย์ พ่อค้าประชาชี ต่างก็โดนดีทั่วหน้ากัน

ที่สวนป่าก็ปลูกต้นตะกู5ต้น ป้าแห่งชาติเอามาให้ทดลอง ซึ่งก็ดี ถ้าไม่ปลูกเดี๋ยวจะโดนข้อหาคุณพ่อรู้ดี แต่ผมก็เคยเขียนติงไว้แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน ว่าอย่าผลีผลามอยากจะรวยง่ายๆรวยเร็วๆ ถ้ามันง่ายมันดีขนาดนั้น ประเทศนี้หายจนไปนานแล้วละลุง

เรื่องมากระจ่างแจ้งแดงแจ๋เอาเมื่อ วันที่16 กรกฎาคม 2552 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี ได้นำทีมอาจารย์ออกมาแถลงข่าวเรื่อง “ไม้ตะกู..ศักยภาพไม้เศรษฐกิจของไทย” ประกอบด้วย ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม คณบดีคณะวนศาสตร์ และคณะ คือ

· ผศ.นิคม แหลมศักดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย

พูดถึงโครงการวิจัย ไม้ตะกู..ศักยภาพไม้เศรษฐกิจของไทยเรา

· ดร.กอบศักดิ์ วันธงไทย

พูดถึง..ประเมินการเจริญเติบโตไม้ตะกู และโรคแมลงรบกวน

· ดร.ไตรรัตน์ เนียนสุวรรณ

พูดถึง..คุณสมบัติและการใช้ไม้ตะกู

· ดร.ผสุธา สุนทรห้าว

พูดถึง..ศักยภาพเศรษฐกิจสังคมของไม้ตะกู และโอกาสในความเป็นไปได้ในการลงทุนปลูกสร้างสวนป่า

คัดย่อใจความได้ดังนี้

ไม้ตะกูได้มีการทดลองปลูกเป็นสวนป่ามากว่า40ปี ในปี2532 ได้มีเอกชนลงทุนปลูกไม้ตะกูป้อนโรงงานไม้ขีดไฟ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งปีพ.ศ.2550 มีการส่งเสริมโดยเอกชนหลายราย ดังเป็นข่าวครึกโครมที่ผ่านมา เรื่องต้นตะกูยักษ์ไม้โตเร็วรวยเร็ว สุดท้ายก็เจ๊งเร็ว อิ อิ..

ไม้ตะกูมีแมลงรบกวนอย่างน้อย 12 ชนิด โดยจำแนกแมลงทำลายใบ 8 ชนิด ทำลายลำต้น 4 ชนิด พบแมลงระบาดรุนแรงในสวนป่าอายุน้อยกว่า1ปี โดยเฉพาะจังหวัดพิจิตรและตราด การสำรวจยังพบว่ามีปลวกทำลายลำต้นไม้ชนิดนี้ด้วย

ลักษณะเนื้อไม้ตะกูมีความละเอียดปานกลาง ผิวค่อนข้างเรียบและสม่ำเสมอ การเรียงตัวของเสี้ยนไม้มีลักษณะตรง เนื้อไม้มีสีขาวนวลทั้งกระพี้และแก่น ส่วนใหญ่จะมีรอยเชื้อราเป็นริ้วๆที่ผิว เนื้อไม้ไม่มีความมันวาว เป็นไม้เนื้ออ่อนและมีความทนทานตามธรรมชาติต่ำ เนื้อไม้ค่อนข้างเบา มีความถ่วงจำเพาะและความแข็งแรงค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับไม้เศรษฐกิจอื่นๆเช่น ยางพารา และยูคาลิปตัส ไม้ตะกูใช้ทำ คาน เสา เพดาน ไม้พื้น ไม่ได้ ทำได้เฉพาะลังไม้ กล่อง ไม้รองเลื่อน รวมทั้งอุตสาหกรรมไม้อัด ก้านไม้ขีด อย่างไรก็ตาม การใช้งานลักษณะนี้จำเป็นต้องผ่านการบำบัดให้ทนทานต่อการทำลายของแมลง ปลวก มอด และเชื้อราเสียก่อนนำไปใช้งาน

กระแสแหกตาในช่วงต้นปี2550 พบว่ามีเกษตรกร12,318 คน หลงเชื่อปลูกไปในเนื้อที่32,475ไร่ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนหมุนเวียนประมาณ533ล้านบาท เป็นค่าแหกตาที่แพงเหลือใจ มีการกระจายเมล็ด กล้าไม้คลอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ แต่ยังขาดความชัดเจนในส่วนของผู้รับซื้อไม้และโรงงานแปรรูปและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม้ตะกูเป็นวัตถุดิบ

ในส่วนของผลตอบแทน ด้านการคำนวณค่ามูลค่าสุทธิปัจจุบัน และอัตราผลได้ต่อต้นทุนที่ระดับดอกเบี้ยร้อยละ6 และรอบกำหนดตัดฟันเท่ากับ5ปี พบว่าประสบปัญหาการขาดทุน ในสถานภาพปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนกับพืชเศรษฐกิจ5ชนิด ได้แก่ไม้ยูคาลิปตัส ไม้ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม้ตะกูให้ผลตอบแทนต่ำสุด

เรื่องนี้สุดเศร้าโศกจริงๆพี่น้อง ประเทศนี้กำลังต้องการคนรักป่าไม้ปลูกต้นไม้ เมื่อมาเจอบทหลอกแหกตาคนยากคนจนก็เศร้าสุดทรวงสิครับ มันเป็นบทซ้ำซ้อนในแง่ของการทุพลภาพด้านวิชาความรู้ของประเทศนี้มานานแล้ว โจทย์การวิจัยของนักวิชาการไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ ว่าจะวิจัยเรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง ยังดีนะครับที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นเจ้าภาพไขความกระจ่างเรื่องนี้ และขอขอบคุณหนังสือเทคโนโลยีชาวบ้านที่ช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริง ไม่อย่างนั้นเจ้าต้นตะกูบ้านี่..มองครั้งใดก็จะสะท้อนความเจ็บปวดที่เสียรู้พวกมารมอดไม้ พวกนี้เป็นนักแหกเนตรมืออาชีพ คอยดูเถอะแต่ละปีจะปั่นกระแสไม้นั้นไม้นี้ พอผ่านไป1ปีก็ปัดก้นหนีไปพูดเรื่องอื่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งๆที่มีหลักฐานออกทีวีประโคมข่าวกันใหญ่โต มันน่าจับมาแก้ผ้าเอามดแดงเคาะใส่ยิ่งนัก เจ้าพวกมอดไม้ใจร้ายพวกนี้

ถามว่ามีคำแนะนำไหม

ผมไม่บังอาจตัดสินใจแทนท่านที่ลงทุนไปแล้ว ถ้าเป็นผม..จะไปสำรวจดูว่ามันเจริญงอกงามทั้งแปลงไหม คุ้มค่ากับการใช้ที่ดินไหม เปลี่ยนใหม่ดีไหม ปลูกไม้ชนิดต่างๆที่เป็นประโยชน์มากกว่า อ้าว ! แล้วจะปลูกอะไรยังไงกันละ แหมเรื่องนี้ใช่ว่าจะขี้คุย ถ้าอยากรู้อยากเห็นมันต้องมาดู ที่สวนป่าสนามชัย ทำให้ดู อยู่ให้เห็น มีตัวอย่างแนวทางการปลูกสร้างสวนป่า ผมนะโดนแหกตามาก่อน แต่ไม่ใช่ให้ใครมาแหกนะขอรับ ผมแหกตาตัวเอง ทดลองเอง จึงรู้ว่าอันไหนดีไม่ดีพอประมาณ ไม่ได้เก่งกาจเป็นพหูสูตอะไรหรอก ยังรู้แค่หางอึ่ง..

ต้นตะกูก็ปลูก ไว้นะ

คำตอบอยู่ที่ว่า..จะทำอะไรต้องเรียนเสียก่อน

จะเดาสุ่มแล้วให้มันรวย จะไม่ง่ายไปหน่อยหรือครับ

ผมนะห่วงเหลือเกิน

โดยเฉพาะคนที่โดนแหกตาไปรอบที่แล้ว

ถ้ามาโดนแหกอีกรอบที่2-3

ลูกกะตาจะไม่กลับไปอยู่ข้างหลังหรือครับ

ผมมีเรื่องจะชวนปลูกสนุกๆได้ประโยชน์โดยตรงมากมาย

แค่ปลูกต้นมะรุมเอามาใบเอาดอกเจียวไข่

เอาใบบัวบกมาปั่นคั้นน้ำดื่ม

แค่นี้ก็หายเจ็บอกเหมือนตกต้นแหกตากูละครับ

อิ อิ..

« « Prev : จดหมายรักครูสุ

Next : จดหมายรักน้าอึ่งอ๊อบ » »