ผมเป็นโรคหัวใจกระเจิง
อ่าน: 2412
ผมออกเดินทางไปตรวจตือฮวน ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วครับ ชวนคนสวยที่บ้านขับรถไปส่ง เป็นโอกาสดีที่จะได้นั่งปรับทุกข์กันอย่างใกล้ชิด ว่าสังขารนี่หนอ ยุบหนอ พองหนอ..อนิจจัง คนเราเกิดมาตายทุกคน บ้างก็เป็นไปตามขั้นตอน เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย บ้างก็มีอุบัติภัยตามเหตุแห่งวิบากกรรม แต่ถึงยังไงก็ต้องมีวันหลับไม่ตื่นกันทุกคน เป็นความธรรมชาติแท้ ๆ แต่มนุษย์ก็ยากที่จะตัดใจและยอมรับได้แต่โดยดี สรุปว่าการตายคือการลบขยะชีวิตแบบหมดจด เพื่อไปเริ่มต้นที่ภพใหม่ มายังไงไปยังงั้น เอาอะไรติดไปไม่ได้แม้สักผลธุลีเดียว ดังนั้นอย่าประมาท ตราบที่ยังมีลมหายใจอะไรที่ยังไม่ได้ทำก็รีบธรรม ใครที่ลืมกอด ก็กอดซะ
ออกจากสวนป่าตั้งแต่บ่ายวันที่ 8 ไปถึงสารคามเอาบ่ายคล้อยแล้ว จึงขอใช้บริการหนูหนิงกลิ้งช่วยพาพ่อไปเจาะโลหิตที่สารคาม หนูหนิงก็ดีเหลือใจ ช่วยพาไปหาพยาบาลรุ่นน้อง ทำให้ได้ใบตรวจโลหิตไปให้หมอล่วงหน้า ระหว่างรอผลตรวจ หนูหนิงพานั่งรถใหม่คันโก้ไปที่เที่ยวบิ๊กซี ทำไมไม่พาไปบิ๊กดี หรือบิ๊กอีก็ไม่ทราบ
ลาหนูหนิงเดินทางต่อไปขอนแก่น ระหว่างทางเล่าฮูถามว่า มาถึงไหนแล้ว ..เล่าฮูนัดชาวอินโดนีเซียที่ทำวิจัยในสถาบันประเทศญี่ปุ่น จะขอมาคุยเรื่องยูคาลิปตัสด้วย ไปถึงขอนแก่นมืดขมุกขมัว เจอ 2 พระเอกนั่งรออยู่แล้ว ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ออกไปคุยกันที่ร้านMK. อิ่มแล้วตามมาดูpower point ในห้อง กว่าจะจากลา ปาไป 5 ทุ่ม
ตื่นเช้า 8.10 น. คุณแก้ว อุบล โทรมาถาม พ่ออยู่ไหน สักครู่ก็เจอกัน ใช้บริการของพยาบาลชั้นอ๋องเจ้าถิ่น จึงสะดวกสบายทุกอย่าง จุดแรกที่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่รีบแจกผ้าปิดจมูก..มองไปไหนใครก็ปิด เราเอาตามมั่ง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ใช้ผ้าปิดจมูก แสดงว่าโรคหวัด 2009 บุกขอนแก่นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้หน้ากาก กลายเป็นมนุษย์ที่หน้าตาแปลก ๆ ถ้าเป็นแบบนี้สุภาพสตรีแต่งหน้าเขียนคิ้วทาปากก็ไม่มีประโยชน์ สวยแล้วอวดใครไม่ได้ กลุ่มสตรีที่ประเทศอิหร่านปิดหน้าเห็นแต่ลูกตามาหลายร้อยปีแล้ว จึงไม่ต้องใส่หน้ากากแบบพวกเรา
ป้าจุ๋มโทรประสานกับเลขาหมอไว้แล้ว แต่คุณหมอยังไม่มา จึงปรึกษากับเลขาคุณหมอว่าจะขอพาพ่อไปตรวจหัวใจกับปอดก่อน ว่าแล้วก็พาเดินไปซ้ายที ขวาที เอ็กซเรย์ปอดแล้วไปตรวจคลื่นหัวใจ ไปนอนตุ๊บ ๆ ต้อม ๆ ให้คุณพยาบาลเอาสายมีปลายจุ๊บ ๆ มาแปะที่เท้า แขน หน้าอก พักเดียวกราฟหัวใจก็ไหลออกมาจากเครื่องปริ้นเตอร์ ส่วนผลเอ็กซเรย์นั้นไปโผล่ภาพที่หน้าจอคอมฯของคุณหมอ คนไข้ไม่ต้องถือแผ่นฟิล์มไปเหมือนสมัยก่อน โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น พัฒนาระบบการยื่นเอกสารสะดวกกว่ายื่นหมูยื่นแมวเสียอีก
9.00 น. รศ.น.พ.พิศาล ไม้เรียง มาประจำห้องเบอร์ 8 ผมกับคุณแก้วไปนั่งฟัง คุณหมอไล่ไปที่ละโรค
· หัวใจเต้นแปลก ๆ ส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอีกที
· ปอดดูฟิล์มแล้วเป็นเส้นคล้ายกับมีอาการหวัด
· ตับยังอักเสบ
หมอสั่งยาบำรุงให้ แล้วนัดอีกทีวันที่ 1 ตุลาคม สรุปว่าตับหัวใจปอดตือฮวนยกชุด ยังต้องดูแลต่อไป หมอแนะนำอย่านอนดึก อย่ากินมาก พักผ่อนให้มาก ออกกำลังกายบ้าง กินอาหารที่มีประโยชน์ ควรดูแลตัวเองอย่างประณีต
เรื่องหัวใจไม่จบง่ายๆ รักใคร รักแล้วรักเลย อิ อิ.. ตอนบ่ายต้องไปตรวจแบบแอคโค่ หมอจับนอนเอียง ๆ เอาเยลลี่มาทา แล้วเอาเครื่องจิ้ม ๆ ตรงใกล้หัวใจ ได้ยินคุณหมอคุยกันว่า..ความดันไม่มี เบาหวานไม่มี บุหรี่ไม่สูบ จะมีแต่อายุเท่านั้นที่เข้าข่ายบ้าง มีเส้นเลือดหัวใจโตนิดหน่อย หัวใจก็เล็ก ๆไม่มีอะไร
ผมแอบนึกในใจ..
หัวใจเล็กแต่ชอบทำอะไรใหญ่ ๆ นะหมอ อิอิ..
ยังเสียวไม่หาย เกรงว่าคุณหมอจะตรวจเจอ
>> โรคหัวใจรุงรัง
เรื่องเจ็บป่วยก็ว่ากันไป
เรื่องน้ำใจไมตรีก็ยากที่จะลืม
ขอบคุณวงศาคณาญาติ ที่เป็นห่วงคนขี้โรค
ขอขอบคุณทุกความห่วงใยและเมตตาจิต
ได้ฝาก “เจ้าเป็นไผ” ให้คุณแก้ว คุณประกาย
ส่วนเล่าฮู กับ หนูหนิง ผมลืมให้..
>> โรคเผลอใจ
ก็เป็นยังงี้แหละพี่น้อง อิอิ..
« « Prev : ดูรูปก่อน เรื่องตามหลัง อิอิ
Next : ความรู้เพื่อชีวิตชุมชน » »
18 ความคิดเห็น
หมอว่าไว้ถูกแล้วครับ ร่างกายไม่ใช่เหล็กไหล ฝืนไปก็ทรุดโทรม ต่อให้มีภารกิจอันยิ่งใหญ่ แต่ถ้าร่างกายทำไม่ไหว ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลยครับ
แล้วกระดูกหลังได้ตรวจหรือเปล่าค่ะ ที่มีอาการแล้วแปลบชาถึงขา ที่หมอเถื่อนช่วยกันนวดที่วัดพระบาทห้วยต้มค่ะ
ปวดเอว-ขา ไว้รักษากับหมอเถื่อน แซ่เฮ ครับผ๊ม !
ขอบคุณค่ะ ครูบาที่เขียนบันทึกเล่าเรื่องการไปตรวจและผลการตรวจ…รอมาทั้งวันแต่ไม่กล้าโทร..เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นจังหวะกำลังตรวจหรือเปล่า
ความดันไม่มี เบาหวานไม่มี ตับอักเสบยังมี ปอดเหมือนเป็นหวัด
ความดันทุรังมี เบาสบายใจมี …อ้าว…อุ๊ยแอบวินิจฉัยเกินหมอ….อิอิ
ตกลงครูบายังไม่ได้ตรวขาหรือคะ หมอเถื่อน มาติดตามอาการ..อิอิ
วันนี้ไปประชุมที่ลี้ และเลยไปดูต้นเอกมหาชัย ถามคนที่นั่นบอกว่า ก่อนหน้านี้ฝนตกทั้งวันมาสองวันแล้ว ปรากฏว่าต้นไม้ยังอยู่ดี ส่วนใหญ่ไม่มีน้ำขังในหลุม บางหลุมมีต้นผักกาดเล็กๆ งอกมาแล้วค่ะ
ช่วงนี้ชาวบ้านกำลังปลูกข้าวโพด ถ่ายรูปได้นิดหน่อย ฝนลงเลยไปไม่ถึงส่วนโครงการหลวง ระหว่างทางฝนลงหนัก น้ำไหล่บ่านองถนนอยู่เหมือนกัน แต่ต้นไม้คงไม่เป็นอะไรค่ะ
อ้าว..พิมพ์ตรวจขา เป็น ตรวขาไปซะแล้ว ^^
ขอบใจจ๊ากหน๊กที่ส่งข่าวเรื่อง เอกมหาชัยที่ พระบาทห้วต้ม
ส่วนโรคปวดขาสงวนสิทธิ์ไว้ให้หมอแซ่เฮ
เรื่่องโรค ก็ดูกันไป ในเมื่อมันมาขออาศัยอยู่กับเรา
ถ้าเราจอดวันไหน โรคก็พลอยจบไปวันนั้นด้วย
ไปด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน บ่เป็นหยังดอกอุ้ย
แค่ไหนก็แค่นั้น อยู่มาก็นานพอสมควรแล้ว
ถ้าอยู่จนหง่อมจะทำอะไรได้ นอกจากเป็นภาระคนอื่น
ไปก่อนหง่อมดีที่สุด
ผลการตรวจที่เล่าให้ฟัง ยังไม่สามารถอธิบายเรื่องที่ปวดโอดโอยที่จนมุมหมอเถื่อนหลายๆคนที่วัดพระบาทห้วยต้ม
หากเป็นไปได้ ลองเสนอขอตรวจกระดูกหลังและตรวจตับอ่อนในแง่มุมที่ไม่เกี่ยวกับเบาหวานดูหน่อยน่าจะดีนะค่ะ
จะได้สบายใจว่าไอ้ที่คิดว่าจะไปทำอะไรแบบดันๆ เบาๆสบายๆตามสไตล์ครูบานะมันไม่มีอะไรที่พึงระวังทีเผลอค่ะ
ไม่พึงสงวนสิทธิ์ไว้ให้หมอเถื่อนชาวเฮรักษาจนกว่าจะรู้แจ้งว่าเผลอได้ค่ะ
ตรวจกระดูกกระเดี้ยวกับตับอ่อน จะทำในลำดับต่อไป ตามมที่หมอเจ๊บอกนะครับ
เจอคำคุณหมอเข้าแล้วครับ ดูแลสุขภาพอย่างปราณีต เหมือนเกษตรปราณีต 1 ไร่เลยครับ
ขอให้ครูบาฯ หายเร็วๆ นะครับ
นายกล้วยไข่ครับ (ไม่ใช่ SCG แต่ไปช่วยถมถนนครับพร้อม SCG Paper)
แหมสะดุ้งเลยค่ะพ่อ ชักสงสัยว่าตัวเองจะเข้าข่ายหัวใจรุงรังกะเขาด้วย 55555555
พบการตรวจแบบจับต้องของหมอเถื่อนผู้ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะทางการขยำบอกว่า พ่อเอวเคล็ด ก๊ากๆๆๆ
หมอ(ดูเถื่อน)ทำนายว่า อาการแปลบแล้วชาถึงขา เป็น หมอนรองกระดูก(สันหลัง) ทับเส้นประสาท….อิอิ หมอเองก็สงสัยตัวเองจะเป็น….555
หมอนรองกระดูก กระดูกอ่อน น่าเอาต้มจืด อิอิ
อิอิ รักษาสุขภาพนะคะ
หลงทางเสียเวลา หลงพยา-บาล ทำยังไง
หลงพยา-บาลก็เอามาเก็บไว้ที่บ้าน อิอิ
โฮ เป็นคำตอบที่สุดยอด