อำลาน่านสะท้านทรวง
ตื่นเช้าลงมาเจอกันที่มุมกาแฟ น้าอึ่งอ๊อบ คนสวยแซ่เฮ เดินทางมาสมทบจากเชียงใหม่ตอนตี 3 เจอหน้าก็กอดต้อนรับตามธรรมเนียม หลังจากนั้น อาเหลียง น้องบลู น้าหยง คุณหมอจอมป่วน ปินโต กระติกน้ำ ป้าจุ๋ม ตาหวาน รอกอด พร้อมหน้าพร้อมตา ตกลงกันว่าจะเที่ยวในตัวเมือง ไปวัดภูมินทร์อันดับแรก ช่วงเช้า ๆ แดดอุ่น ๆ.. วัดวาอารามสวยงามยามต้องแสงสุริยา ลงรถ เดินชม ถ่ายภาพหมู่ ผมมองไปเห็นต้นไม้ดอกเมล็ดกำลังแตกฝัก จึงขอถุงพลาสติกมาเขย่าฟักเอาเมล็ด เป็นกลุ่มไม้ที่มีเมล็ดเล็กมาก ห่อหุ้มด้วยใยที่บอบบาง เจอลมคงจะปลิวไปงอกในที่ต่าง ๆ ได้ มีดอกสีเหลืองอร่าม เหมาะที่จะปลูกตามวัด จึงช่วยกันเก็บกับคุณน้าแห่งชาติได้ 1 ถุง คงมีเมล็ดไปปลูกหลายหมื่นต้น จะเอาดอกสีเหลืองไปปูพรมที่มหาชีวาลัยอีสานนะขอรับ
ชมวัดจุใจแล้ว ระหว่างรอพิพิทธภัณฑ์เปิด เดินออกจากกำแพงวัด มาเจอรถเข็นวิ่งผ่าน น้าอึ่งอ๊อบถามว่าขายอะไร แม่อุ้ยตอบว่าขายข้าวหลาม ..อ้าวแบบนี้ต้องจอดๆๆๆ..เปิดผ้าคลุมออกกระบอกข้าวหลามเรียงล่ายซ่ายมีหลายรส ที่พิเศษก็คือเผามาใหม่ ๆ ยังอุ่นๆ ข้าวหลามนี่นะหาชิมที่ไหนก็พอได้ แต่ที่ออกจากเตาอุ่นๆหอมละมุนคุณเอ๋ยหาได้ที่ไหน พวกเรามะรุมมะตุ้มปอกชิมกันรอบๆรถเข็นนั่นแหละ ประจวบเหมาะกับยังไม่ได้กินอาหารเข้า เจอเมนูข้างถนนเหมือนบรรนาการจากสวรรค์ กินข้าวหลามแล้ว..มองหาน้ำ เจอร้านขายข้าวซอยเล็กๆสะอาดน่าอุดหนุน เข้าไปนั่งสั่งอาหาร น้ำ มาเติมพลัง ระหว่างนั้นน้องเบิร์ดบึ่งรถจากเชียงรายมาถึง ก็กอดกันอุดตลุดในร้านนั่นแหละ แซวกันสนุกแต่เช้า
กินข้าวซอยเฮฮา แล้วพากันไปชมสมบัติล้ำค่าแห่งเมืองน่าน ที่พิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายรูป ไปเจอแผ่นไม้มะค่าโมงใหญ่มาก เส้นผ่าศูนย์กลาง 3.80 เมตร หนาเกือบคืบมาโขว์ไว้ด้านหน้า เจ้าหน้าที่อนุญาติให้ถ่ายภาพได้ จึงเอารูปมาอวด แผ่นไม้ที่เห็นราคาไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ที่เลื่อยออกมาเป็นแผ่นโต ๆ ทั้งต้นจะเป็นเงินกี่ล้านลองคำณวนดูเถิด ทรัพยากรล้ำค้าอยู่ยั้งมาเป็นร้อย ๆ ปี โดนมนุษย์ใจดำทำลายโดยไม่รู้คุณค่า เห็นแล้วเสียดายจนบอกไม่ถูก ไม้แผ่นนี้เก่าแก่ด้วยน้ำมือของธรรมชาติ
เราเที่ยวชมวัดและโบราณสถานหลายแห่ง เฉพาะวัดที่มีชื่อเสียงมี 9 แห่ง พวกเราไปได้ 5 วัดก็นับว่าเกินครึ่งแล้ว ได้เวลาอาหารกลางวัน แวะไปร้านเดิม สั่งผัดผักฮากเหมือนเดิม อร่อยติดใจอย่างเคย คุยกันว่าจะหาพันธุ์ไปปลูกให้ได้ แล้วจะประชาสัมพันธ์ว่าคนเหนือมีผักอร่อยที่สุดในโลก แต่แอบชิมไม่บอกใคร..ทำยังไงจะได้พันธุ์ไปปลูก ท่านใดมีต้นพันธุ์ขอด้วยนะครับ ไม่ต้องการมากหรอก สักรถ 10 ล้อก็พอ ผมจะปลูกให้มันระเบิดไปเลย แล้วจะชวนคนทั้งโลกชื่นชิมผักที่อร่อยชนิดนี้
อิ่มแล้วขบวนเราก็ตรงไปสถานที่ประกอบพิธีฌาปณกิจ หลงทางนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ หรือโชเฟอร์แกล้งหลงให้อาหารย่อยก็ไม่รู้นะ เราไปถึงสถานที่ส่งแม่บัวเขียวไปสวรรค์ ผู้คนล้นหลามเต็มทุกอาคาร ไปทันพระสวดทำพิธี หลังจากยืนนิ่งเคารพดวงวิญญาณแล้วทยอยกันไปวางดอกไม้จัน เสียงพลุตะไลดังกึกก้องส่งคุณแม่บัวเขียวไปสู่สวรรค์คาลัย ไปดีเถิดนะแม่นะ อย่าห่วงคนที่อยู่ข้างหลัง ลูกหลานจะดูแลกันและกันตลอดไป
เพื่อนบ้านทยอยกลับ พวกเราถ่ายรูปหมู่ กอดประโลมครูสุด้วยความซาบซึ้งถึงความอาวรณ์ที่เพื่อนจะสื่อถึงความห่วงใยให้กันได้ พวกเราเป็นชุดสุดท้ายที่กลับ เนื่องจากอาจารย์ภูคามีของดีมาอวด ..ของดีที่ว่าวิเศษสุดจริงๆ เป็นเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม โดนปลุกมาหาพี่ป้าน้าอาจากอ้อมอกคุณแม่ ยังงัวเงียแต่ก็สั่งได้เหมือนกดปุ่ม คุณพ่อให้ทำหน้าส่งยิ้มส่งจูบจะทำทันทีเป็นธรรมชาติ แบบนี้จะเหลือเรอะ..พี่ป้่าน้าอายู้ฮูรุมล้อมหน้าล้อมหลัง พวกเราดีใจที่มีทายาทแซ่เฮสุดยอดนี้ ผมแอบตั้งชื่อให้ว่า..หนูฮิตาชิ
หลังจากชื่นชมทายาทอาจารย์ภูคา เราไปส่งน้าอึ่งอ๊อบกลับเชียงใหม่ที่ท่ารถ บขส. หนูเบิร์ดแยกกลับเชียงราย เหลือพวกเรา 3 คันรถตกลงกันว่าจะไปนอนพิษณุโลก เข้าพักที่เก่าชั้น 3 ห้องเดิม ที่นี่มีสายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ทุกห้อง ส่งรายงานสะดวก หนูมิมเดินทางจากกำแพงเพชรมาสมทบ ตอนนี้มีรถเพิ่มเป็น 4 คัน มุนพวงมาลัยตามกันออกจากโรงแรมไปร้านบ้านไม้ ตาหวานไปเจรจาปรากฎว่าที่นั่งเติม ย้ายไปร้านข้าวต้มเจ้าเก่าแก่ของเมือง 2 แคว คุณหมอเล่าว่าชาวไหหลำตระกูลนี้เปิดร้านอาหารอร่อยมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่ ช่วงนี้อยู่ในรุ่นพวกลูกหลานสืบทอดของอร่อย กับข้าวเต็มโต๊ะไม่อิ่มก็คงเป็นชูชกเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ท้องบรรจุไปมากแล้ว ตาหวานยังพาไปชิมไอติมซ่าหริ่มเจ้าสุดยอด นึกว่าจะจบรายการที่ไหนได้ ยังตบท้ายด้วยทับทิมกรอบ
ถามว่าอร่อยจริงไหม ..
ทั้ง 2 แห่ง เราต้องเล่นเกมส์ ลิงชิงเก้าอี้
กลับมานอนอืดทั้งคืน
พรุ่งนี้น้องมิมชวนไปเยี่ยมบ้าน
ตอนแรกเรามีอาการลังเลเล็กน้อย
หนูมิมบอกว่าที่โน้นมีร้านข้าวมันไก่อร่อยลือเลื่อง
แถมยังจะได้ไปเยี่ยมสิงห์ป่าสักที่กำแพงเพชรด้วย
ไหนๆก็มาแล้ว ตระเวณเยี่ยมญาติเสียเลย
ใครจะฝากกอดเจ้าหนูไผ่รีบแจ้งความจำนงค์ด่วนที่สุด
สรุปว่าขากลับแวะเมืองกล้วยไข่นะขอรับ
อิ อิ.
.
« « Prev : ขี้เบ้า ของดีเมืองน่าน
Next : จบการเดินทางไปเยี่ยมญาติ 1,680 กม. » »
2 ความคิดเห็น
… more than words …
ไปสู่สุขติเถิดแม่บัวเขียว