เจ๋วผักแว่น ใบหม่อนแกล้มเบียร์

โดย silt เมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 12:47 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4606

เจ๋วผักแว่น ใบหม่อนทอดกรอบ เมนูหงสาเย็นนี้

ผักแว่นเป็นวัชพืชในนาข้าวที่เบียดบังแย่งอาหารต้นข้าวตัวฉกาจชนิดหนึ่ง นาม่องใดมีผักแว่นขึ้นเยอะๆ เป็นว่าข้าวมักจะแคระแกล็นเหลืองซีด

ผักแว่นเป็นอาหารให้กับชุมชนที่กินข้าวเหนียวทั้งในล้านนา ทั้งในถิ่นอีสาน รวมถึงในลาวก็ด้วยเช่นกัน ยอดผักแว่นเอามากินสดๆกับป่นปลาแซบหลาย ที่หงสาพี่น้องเอามานึ่งแล้วยำโรยหน้าด้วยงาขาวก็อร่อย ใบผักแว่นเอามาต้มมาแกงซดน้ำก็พาข้าวลงได้ดี การเก็บใบผักแว่นมีวิธีที่น่าสนุก คือเอาฝ่ามือหงายขึ้นแล้วมุดฝ่ามือลงไปในดงผักแว่นยกขึ้นมาก็จะมีใบผักแว่นติดมาตามซอกนิ้ว ได้เฉพาะใบไม่ต้องเด็ดก้านให้เมื่อย

ส่วนตัวผมเองมีเรื่องเกี่ยวกับผักแว่นให้ลุงป้าตายายที่บ้านล้อมาจนโต แม้ทุกวันนี้กลับไปไหว้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้าน หลายท่านก็ยังเอามาล้อผมเล่นอยู่เสมอ เรื่องราวเกิดเมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้วมั้ง ที่ไอ่หน้อยลูกโทนคนหนึ่งชอบไปร้องไห้ชักดิ้นชักงอแย่งกิน “เจ๋วใบผักแว่น”กับลูกลุงข้างบ้านทั้งๆที่ที่ขันโตกข้าวที่บ้านมีหมูทอด ไข่ต้ม ปลาปิ้งไม่ขัดสน ตอนนั้นรู้สึกว่ามัน “ลำแต้ๆ” ถึงขนาดต่อรองเขาว่า “อ้ายขอกิ๋นแต่น้ำบ่กิ่นใบก่ได้”

“เจ๋ว” คือต้มของคนเมือง เจ๋วผักแว่นคือ ต้มใบผักแว่นปรุงรสด้ายเกลือ กะปิ หอมแดง และที่ขาดไม่ได้คือถั่วเน่าแค็ป เจ๋วต่างกับแกงตรงที่ไม่ใส่พริก มักเป็นอาหารเมนูสำหรับเด็กๆ วันนี้แม่ครัวได้ใบผักแว่นมาจากตลาดตั้งแต่เช้า ผมเลยได้ซดเจ๋วผักแว่นร้อนๆชามโตเป็นมื้อเย็น แกล้มด้วยเรื่องขำๆของตัวเองยามเด็ก แต่วันนี้ปรุงสูตรพิเศษ เพิ่มยอดหม่อนอ่อนๆลงไปสามสี่ใบรู้สึกว่ากลมกล่อมดีครับ

เพื่อนฝูงมาปรึกษาว่า จะเอาอะไรไปเป็นกิจกรรม “ตัวล่อ”ในวันติดตามการบันทึกบัญชีครัวเรือนของกลุ่มแม่บ้านดี แหนมเห็ดก็ทำแล้ว น้ำยาล้างจานก็ทำแล้ว หน่อไม้ใส่ขวดก็สอนแล้ว เขาเสนออยากทำใบหม่อนทอดกรอบเหมือนที่เราเคยไปกินกันที่สวนอ้ายสีวังเวียง ในฐานะที่ปรึกษาต้องรอบรู้ เลยจัดการลองวิชาค้นคว้าสูตรทอดใบหม่อนด้วยประการฉะนี้

ใบหม่อนใช้ใบอ่อน (เพสะลาด) นำเข้าตู้เย็นเพื่อให้กรอบนาน
แป้งชุปผักทอดโกกิ ผสมให้บางๆไม่ข้น ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไท
ชุปใบหม่อนลงในแป้งพอบางๆ
จุ่มน้ำมันร้อนๆรีบนำขึ้น
ทำน้ำจิ้มรสหวานอมเปรี้ยว (ของอ้ายสีใช้น้ำผึ้ง มะนาว พริกขี้หนู)

คุณเอ้ย หากจัดโต๊ะงามๆ ใบหม่อนทอดกรอบ เสริฟพร้อมชาใบหม่อนสีเขียวในถ้วยกระเบื้องขาว และน้ำผลหม่อนปั่นใส่น้ำผึ้งสีม่วงแดง เหมือนที่เคยได้กินที่สวนอ้ายสี รับรองทั้งความอร่อยทั้งสุนทรีย์

แต่เย็นนี้มีแต่ใบหม่อนทอดกับน้ำจิ้มบ๊วย แบ่งไปให้โต๊ะข้างๆที่มากินเบียร์พนันบอลโลกกัน ให้ไปเท่าไหร่ก็ร้อง เอาอีก ขออีก
พอแล้ว(โว้ย) หากอยากกินให้เมียเจ้ามาหัดบันทึกบัญชีครัวเรือนกับข้อย จะสอนให้ทอดใบหม่อนแกล้มเบียร์แถมด้วย

รูปหลังนี้ถ่ายจากสวนอ้ายสี ที่วังเวียงครับ

« « Prev : เพื่อนสนิท ชวนให้คิด

Next : ข้าวแคบ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 5:59 (เช้า)

    เอาฝ่ามือหงายขึ้นแล้วมุดฝ่ามือลงไปในดงผักแว่นยกขึ้นมาก็จะมีใบผักแว่นติด มาตามซอกนิ้ว ได้เฉพาะใบไม่ต้องเด็ดก้านให้เมื่อย
    โห ภูมิปัญญาชั้นหนึ่งเลยนะนี่

  • #2 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 6:05 (เช้า)

    สวัสดีค่ะ

    ยังไม่เคยทำเจ๋วผักแว่น คนกทม.คงเรียกแกงป่า… น่าอร่อย
    ส่วนใบหม่อนทอดกรอบเคยได้ทานแล้ว อร่อยพอ ๆ กับใช้ใบโกศลทอดกรอบเช่นกัน

    คุณลุงเปลี่ยนน่าจะโชว์ภาพผักแว่นสด ๆ ด้วยนะคะ อยากเห็นค่ะ

  • #3 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:57 (เช้า)

    เห็นเมนู “เจ๋วผักแว่น” แล้วน่ากินจังค่ะ จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชั้น 1 เลยนะคะ

    ผักแว่นเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารที่ดีชนิดหนึ่งค่ะ แต่ต้องระวังหน่อยตรงที่เขามี oxalate มาก ตัวนี้เป็นต้นเหตุของการเป็นนิ่วที่ชาวอีสานเป็นกันมากมาย ตอนแรกไปเข้าใจว่าเป็นเพราะดื่มน้ำกระด้าง ซึ่งไม่จริงค่ะ
    การเป็นนิ่วส่วนหนึ่งเกิดจากการสะสมตะกอนของoxalateเหล่านี้ค่ะ
    แต่ยังกิน “เจ๋วผักแว่น” ต่อได้นะคะ มีเคล็ดอยู่ว่า หากกินอาหารที่มีoxalateเข้าไปมากๆก็ให้ดื่มน้ำมากๆด้วยเช่นกันค่ะ จะป้องกันได้เพราะน้ำสามารถช่วยขับoxalateออกจากร่างกายได้ดีค่ะ
    มีงานวิจัย คนที่กินผักแว่นเหมือนกันแต่บางคนเป็นนิ่ว บางคนไม่เป็น ก็พบว่าคนที่เป็นนิ่วนั้นมักเป็นคนกินน้ำน้อย คนที่กินน้ำมากไม่เป็น อันนี้มีตัวเลขที่มีcorrelationกันชัดเจนค่ะ
    ต่อมาก็เลยมีคำแนะนำว่า กินผักแว่นได้ไม่ต้องกลัว แต่ต้องเป็นคนที่กินน้ำมากด้วย ก็ประมาณ 2 ลิตรต่อวันค่ะ(โดยเฉลี่ย)แล้วจะปลอดภัยค่ะ
    อาเปลี่ยนมาแต่ละครั้งมักมีเมนูเด็ดๆมาเสนอเสมอ ใบหม่อนชุบแป้งทอดนี่ก็สุดยอดค่ะ

  • #4 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 6:05 (เย็น)

    นอกจากที่ป้าจุ๋มแนะนำ วิธีจัดการให้ oxalate น้อยลงก่อนใส่เข้าปากคือ ทำให้สุกค่ะ

    เพิ่งรู้ว่า “ใบโกศล” กินได้นะนี่ แปลกใจมากเลย

  • #5 aram ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 8:25 (เย็น)

    เดี่ยวนี้หาทานยากพอสมควรครับ เพราะนาข้าวส่วนใหญ่เขาใช้ยาคุมหญ้า เคมีกันเยอะมาก  เคยคิดจะปลูกไว้ใส่ในอ่างเลี้ยงปลาไว้เหมือนกันครับ
    เพราะผมก็ชอบทานทั้งยอดและใบด้วย  ยอดกินกับน้ำพริกปลา อาหย่อยมาก 

  • #6 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:39 (เย็น)

    สนับสนุุนน้องอาราม…เรื่องปลูกผักแว่นค่ะ ลงในคูข้างโรงเรียนเลยค่ะ หากินยากแล้วจริงๆค่ะ…

    ป้าจุ๋มก็ชอบกินผักแว่นค่ะ…(แต่คงเป็นเพราะเป็นคนกินน้ำมากเลยไม่เป็นนิ่วค่ะ)
  • #7 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กรกฏาคม 2010 เวลา 8:44 (เช้า)

    #1 ขอบคุณครับพ่อครู วิธีเก็บใบผักแว่นเป็นภูมิปัญญาที่พัฒนาสั่งสอนกันมาในหมู่แม่ยิงจาวเหนือครับ น่าสนใจที่บรรดาแม่ยิงแม่เฒ่าเพิ่นก็มีทักษะความรู้ความสามารถหลากหลายที่น่าค้นหา น่าติดตามครับ
    #2 เจ๋วผักแว่น อร่อยจริงๆครับ หากไปทางใต้ก็ยกให้ใบเหลียงต้มกะปิ อร่อยพอกันครับ
    #3 ขอบคุณครับป้าจุ๋ม คราวหน้าต้องกินน้ำเยอะๆ ครับ
    #4 พี่ตาครับ ใบโกศลนอกจากทอดกรอบแล้ว ทางเหนือยังเอามาใส่แกงโฮะ คู่กับใบเล็บครุฑครับ
    # 5#6 สนับสนุนให้ปลูกครับอาราม ทำแอ่งตื้นๆปลูกได้ทั้งผักแว่น ผักกูด ผักหนาม บัวกวัก(ก้านผัดไฟแดงสุดยอดดด) ที่ดงหลวงเลี้ยงผำได้ตวยเน้อ ผักกูดผักหนามปลูกในร่องน้ำข้างที่ปลูกต้นเอกมหาชัยก่อได้ครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11760902404785 sec
Sidebar: 0.030730962753296 sec