เมื่อหงสาชำระเมืองแบบหักดิบ

โดย silt เมื่อ 23 ตุลาคม 2009 เวลา 3:54 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1255

หงสาระหว่างนี้คึกคัก แต่แฝงไปด้วยความตื่นตระหนก
หงสายามนี้ปลอดอบาย แต่เจือไปด้วยความอึมครึม
หงสากำลังจะมีการปูยางมะตอยถนนเส้นแรกในเมือง
หงสากำลังจะมีกองประชุมพรรคเมืองครั้งที่ ๖
หงสากำลังร่วมคำนับรับต้อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
หงสาในฐานะเมืองแห่งบ้านวัฒนธรรม บ้านสามดีสี่บ่
     กลางเดือนตุลาคม หลังบุญซ่วงเฮือในเทศกาลออกพรรษาผ่านพ้นไปไม่นาน
     ลมหนาวโชยตามหลังฝูงนกเป็ดน้ำมาจากทางเหนือ
     ปะทะลมฝนที่ยึดครองพื้นที่อยู่ก่อน ทำให้เกิดสายฝนที่เหน็บหนาว
     เป็นสายฝนที่ กลั่นแกล้งชาวนาที่กำลังสาละวนเก็บเกี่ยวข้าวดอ
หงสาเริ่มชำระตัวเมืองระลอกแรกตั้งแต่ก่อนเทศกาลออกพรรษา
โดยการเปิดกิจการ “โรงเรียนดัดสร้าง” ผู้ที่ถูกเรียกตัวมาเข้าโรงเรียนรุ่นแรกๆได้แก่ สตรีทั้งหลายที่มีผู้รายงานว่า มีอาชีพพิเศษ มีกิ๊กเป็นคนต่างชาติ (คนไทย) เป็นกิ๊กกับสามีคนอื่น เป็นธุระจัดหาให้มีการซื้อขายบริการกัน
ส่วนผู้ที่มีความผิดกระทงอื่นๆ ก็ถูกตำรวจเรียกไปแจ้งข้อหา ลงนามรับทราบ เหมือนกับทำทัณฐ์บนไว้ ประดาความผิดเหล่านั้นได้แก่ เล่นไพ่ ลักขโมย ตบตีลูกเมีย ไปทำงานต่างประเทศ(ไทย) เป็นตัวแทนขายตรง(ออกไปประชุมเมืองไทยบ่อยๆ) อย่างนี้เป็นต้น
      หลังออกพรรษาไม่กี่วัน ตำรวจเมืองก็เริ่มซื้อไม้ไผ่มาสร้างเรือนนอน
      เพื่อขยายสาขาของโรงเรียนดัดสร้าง
      แล้วก็ไปเชิญนักเรียนรุ่นสอง ที่มีหลักฐานมัดตัวมาเข้าโรงเรียนประจำ
      (นักเรียนรุ่น ๑ บางคนได้รับการประกันตัวหากสอบไม่พบหลักฐาน)
      นักเรียนรุ่นสองนี้มี คนค้ายาเสพติด คนที่ตีเมีย วัยรุ่นเสพยา หญิงบริการ
      แม้แต่เป็นรัฐกร หากทำผิดก็ถูกจับเหมือนชาวบ้านทั่วไป
ตอนนี้มีนักเรียนดัดสร้าง ๗๐ คน
นักเรียนต้องนำข้าวสารมานึ่งกินเอง เดือนละ ๒๐ กิโลต่อคน
มีการเรียนทฤษฎีการเมือง เรียนจักสาน งานฝีมือ
ให้อยู่แต่ในบริเวณ กลางคืนปิดกุญแจเรือนนอนไม่ให้ออกนอกอาคาร
ผู้ชายถูกโกนผม หัวล้านหมด 
      ทำไมเขาถึงรู้ตัวคนผิด?
      เพราะเมืองลาวมีประชากร ๖ ล้านคน มีตำรวจ ๖ ล้านคนเช่นกัน
      ต่างคนต่างสอดส่องกันนั่นเอง
แอบถามว่าหากอยากทำบุญ เหมาเฝอไปเลี้ยงจะได้ไหม
ท่านบอกว่าเอาความคิดมาจากไหน เอาความคิดกลับคืนไปที่นั่น
เขาอยากให้คนรู้จักความลำบาก ยังจะเอาข้าวไปเลี้ยงเขาอีก
แอบถามว่าเมื่อไหร่จะจบหลักสูตร
ท่านว่ารอให้จบซีเกมส์
ถามว่าที่อื่นเปิดโรงเรียนอย่างนี้ไหม?
ท่านตอบว่ามีทุกที่ ที่เมืองปากลายเขายังเอาไปเก็บเมี้ยนแม้กระทั่งผู้ชายตุ้งติ้ง
      ด้วยเหตุที่หงสาเป็นเมืองเล็ก มีพลเมืองสองหมื่นกว่าคน
      แถมยังเป็นตำรวจกันทุกคนอย่างนี้
       การชำระเมืองด้วยวิธีนี้ ก็เป็นวิธีที่น่าจะได้ผล
เราผู้ผ่านทางก็ได้แต่เฝ้ามอง
และเคารพในวิถีของเมืองเขา
แค่อยากนำมาเล่าสู่แบ่งปัน
ครับผม

 

« « Prev : บันทึกสำนึกผิด: ๑ คำสารภาพของเด็กชายมือไว

Next : คนชายป่าเชิงเขาเล่าเรื่องเมื่อวันวาน (๑) เห็ดแพรก เห็ดหอม เห็ดตะลอม ตอมหญ้า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 ตุลาคม 2009 เวลา 9:30 (เย็น)

    บ้านเราหากใช้วิธีนี้..นึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร แต่ดีนะ การปกครองแบบนี้น่าจะเป็นองคืประกอบหนึ่งของความพอเพียงและเชิดชูทุนทางสังคมแบบเดิมๆ

    บอกข่าวมาให้ทราบว่า น้าที่พี่ไปกินนอนอาศัยบ้านที่ฝั่งธนบุรี ทำงานอยู่กับบริษํทที่ขายเครื่องจักร์หนักทั้งหลายยี่ห้อ Catapilla เขาถูกส่งมาเป็นผู้จัดการ อาหลั่ยการซ่อมบำรุงเครื่องจักร์ ประจำที่เวียงจันทร์  มี staff 30 คน ดูแลการซ่อมบำรุงทั่วประเทศ  อีกคนเป็นเพื่อน NGO มารับงานที่เวียงจันทร์ ตกงานมาสองปี เป็นคนภาคกลางมีเมียครั้งที่สามเป็นไทยใหญ่อยู่เชียงราย เขาสนิทกับพี่ เขาถามหาอยากรู้จักกับเปลี่ยน ชื่อ วิทวัช ชลายน

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 ตุลาคม 2009 เวลา 7:44 (เช้า)

    เห็นด้วยว่าน่ามาทำที่ไทย อิอิอิ ยกเว้นเรื่องของเพศที่สาม แปะอีกทีค่ะไปทำงานก่อนเรื่องนี้มัน หุหุหุ

  • #3 chakunglaoboy ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 ตุลาคม 2009 เวลา 10:11 (เย็น)

    เืมืองไทยน่าจะมีอย่างนี้บ้าง  คงลดผู้ร้าย หรือ ป้องปราบคนที่จะทำชั่วได้อีกเยอะเลยครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.038023948669434 sec
Sidebar: 0.014950037002563 sec