ไปงานดองเมืองร้อยเอ็ด
ก่อนวันคริสต์มาส อยากกินลาบเนื้อ(วัว) แต่คิดในใจว่า ไปงานดองน้องที่ร้อยเอ็ดต้องได้กินลาบเนื้อ(วัว) แน่ๆ ก็เลยต้องอดใจไว้ก่อน
คนอิสานส่วนใหญ่จะติดทานเนื้อวัวกัน เมื่อก่อนก็ทานเนื้อควายเดี๋ยวนี้หาทานไม่ได้ แถมไม่อร่อยเท่าเนื้อวัวโพนยางคำ อิอิอิ
เนื้อวัว……น่าจะเป็นอาหารประจำของคนอิสานเลยก็ว่าได้ เพราะหลานสาวกลับมาเยี่ยมบ้านที่ไร ก็ต้องมีการทำสเต็กลาว(เนื้อย่าง) แจ่วเพลี้ย ลาบเนื้อ ต้มเนื้อ กินก้ันอย่างเอร็ดอร่อย แถมกินตุนไว้หลายๆวันก่อนกลับภาึคกลาง เอาจนเบื่อกันไปตามๆกัน
หลังกลับจากงานแต่งงาน หลานสาว ถามว่า ได้กิน “ลาบร้อยเอ็ด..มั้ย” ไม่เลย เลี้ยงโต๊ะจีน ผิดหวังมาก เลยต้องพากันมาแวะกิน สารพัดทำที่กาฬสินธุ์ เล่นเอาแสบท้องไม่หาย ไม่เพราะกินไปซำมะปิ(สารพัด)ตำ ตามชื่อร้าน ไม่ว่าจะ เป็นส้่มตำปูปลาร้า ส้มตำไข่เค็ม ตำกล้วย ตำปลี ตำผลไม้ ตำซกเล็ก จำมาได้ไม่หมด กินเสร็จต้องวิ่งยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน มาช่วยผสมกรดให้เจือจาง
วัฒนธรรมงานเลี้ยงงานแต่งงานเริ่มเปลี่ยนไปตามยุดยามสมัย ที่ดูโก้เก๋ และสะดวกสบาย
เมื่อหลายเดือนก่อน ทำบุญร้อยวันพ่อ ด้วยความที่วัฒนธรรมการช่วยเหลือกันและกันของเพื่อนบ้านในยามที่เพื่อนบ้านมีงานบุญงานเลี้ยงเริ่มหายไป เพราะต่างคนต่างมีภารกิจที่ทิ้งไม่ได้ จึงคิดจะเหมาร้านโต๊ะจีนมาเหมือนกัน แต่เนื่องจากว่า คน(ลาว)เราส่วนใหญ่เริ่มเบื่ออาหารโต๊ะจีน จึงอยากเปลี่ยน เป็นโต๊ะลาวบ้าง
“โต๊ะลาว เราก็ทำ” อ๊ะ…เจ้าของร้านบอก คล้ายจะหาว่าเราเชยนะ “เรามีบริการมานาน ตามควารมนิยมของเจ้าของงาน” เหมือนเราจะบ้านนอกอีกแระ อยากเลี้ยงโต๊ะลาว
ที่ๆๆบ่น ก็ใช่ว่าอะไร แค่…อยากให้วัฒนธรรมประเพณีอิสาน ยังคนอยู่ต่อๆไปให้ลูกให้หลานได้ชื่นชมกับความเป็นเอกลักษณ์ของบรรพบุรุษของตน ก็เท่านั้นเอง