ไปเรียนรู้เรื่องทำนา
อ่าน: 2273
วันนี้มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมฟังชาวนาตัวจริง และชาวนาวันหยุด มาเล่าเรื่องความรู้เกี่ยวกับการทำนา ที่งาน go green go organic ได้ความรู้มาหลายเรื่องจากตัวจริงเสียงจริง หลังจากที่ได้ติดตามอ่านใน gotoknow มาพักใหญ่แล้ว ได้พบคุณต้นกล้า ชาวนาวันหยุด ลุงมี คุณสมปอง คุณฉับพลัน คุณตั้ม ชาวนาร่วมสมัยที่ได้ ใช้ชีวิตชาวนาอย่างเป็นสุข และได้ผล มาคนละหลายๆปี ได้พบคุณสุวัฒน์ วิศวกรอีกคน มาทักว่าเคยเป็นนักศึกษาวิศว มหาวิทยาลัยขอนแก่นรุ่นหก อุตส่าห์จำแม่ใหญ่ได้ (ขอบคุณมากค่ะ) มาร่วมฟังอย่างสนใจและบอกแม่ใหญ่ ว่าอีกสองสามปี จะใช้ชีวิตบั้นปลายไปทำนา อาม่า และคุณแพนด้า ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วจากการอ่านบทความในลานปัญญา
งานนี้ได้ประโยชน์ ได้ความรู้ เสียดายที่ไม่มีชาวนาตัวจริงๆ มารับฟังเพื่อนำไปปรับปรุงการทำนาของตัวเอง ให้เป็นชาวนาร่วมสมัยให้จงได้ จะมีก็แต่ ลุงพงศ์ ครูสอนทำนาของแม่ใหญ่ที่แม่ใหญ่พาไปด้วย ลุงพงศ์บอกว่าทำนามานานปี หลายๆเรื่องเพิ่งได้เรียนรู้เหมือนกัน
สำหรับแม่ใหญ่ที่ยังไม่เคยทำนาจริงๆ เคยแต่อ่าน และเพิ่งเริ่มทดลองทำนาโยนเป็นครั้งแรก จับประเด็นใหญ่ๆได้ ดังนี้
- ทำนาดำดีที่สุด
- เวลาดำนาไม่จำเป็นต้องดำสับหว่าง ดำเป็นแถวตรงๆ จะง่ายต่อการ แถกหญ้าด้วยเครื่องที่คุณสมปองคิดขึ้น และเป็นเส้นทางให้เป็ด เดินทางเข้าไปหาหอยเชื่อรี่กินง่ายขึ้น
- การทำนา ใช้น้ำไม่ต้องมาก ให้มีการสลับเปียกแห้ง จะทำให้ข้าวขยายราก เติบโตเร็ว เวลาให้ปุ๋ยให้ให้ตอนที่น้ำแห้งดินแตกระแหง ใส่ปุ๋ยไปตามรอยแตกแล้วค่อยปล่อยน้ำเข้า
- แหนแดง นำไปเลี้ยงในนา ให้ไนโตรเจน และช่วยคลุมดิน
ก็คงจะได้นำมาทดลองทำต่อไป เพราะแม่ใหญ่ถือเป็นโครงการระยะยาวของโรงเรียนพัฒนาเด็กแล้ว
ขอบคุณอาม่าผู้ส่งข่าวมากๆค่ะ แต่เสียดายไม่ได้เจอ อาจารย์ทวิช เพราะงานเลิกห้าโมงเย็น ฟ้าครึ้มฝน เมฆดำทมึน เลยตัดสินใจรีบกลับขอนแก่น เจอฝนตลอดทาง มาถึงบ้านเอาเกือบสามทุ่ม คุ้มค่าที่ไปฟัง
« « Prev : เยี่ยมอนุบาลโรงเรียนบ้านตูม
Next : เยี่ยมชมโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง » »
5 ความคิดเห็น
ชื่นชมความสนใจ ตั้งใจ และเอาจริงของแม่ใหญ่ครับ
เครื่องมือไถ สี่ส้มเครื่องสุดท้าย คือเครื่องทำหญ้าในนาข้าวใช่ไหมครับ ทำไมจึงต้องมีอีขลุบเฟืองเกลียววิ่งต่อท้ายดว้ยครับ หรือว่า เอาไว้ทำดินให้เรียบ จากที่ฟันหวีดึงหญ้าออกมาแล้วดินมันขรุขระ
เครื่องนี้สามารถพัฒนาให้เบาแรงลงได้ ด้วยการเปลี่ยนมือจับมาเป็นสองง่าม แล้วเอาเข้าร่องบ่า จากนั้นใช้ขาสองขาดันไหล่ ส่งแรงไปดันเครื่อง ส่วนมือแค่ประคองทิศทางเท่านั้น อย่างนี้จะไม่เมื่อยแขนนะครับ ผมกำลังจะทำเครื่องรุ่นมันอยู่พอดี โจทย์ค่อนข้างยาก เพราะดินร่องมันขรุขระมาก
เรื่องวัชชพืช ผมเคยเขียนไว้แล้ว อยากหาหนูลองยามากๆ แม่ใหญ่น่าสนนะผมว่า แนวคิดผมคือ ไถดะ ไถแปร คราดละเอียด (ต่างจากคนอื่นตรงที่คราดละเอียดเลยนะครับ คนอื่นเขาแค่ไถแปรในขั้นนี้) แล้วตากดินสองอาทิตย์ให้หญ้างอก จากนั้นคราดละเอียดพร้อมทำหญ้า (เอาหญ้าออก ด้วยเครื่อง คล้ายๆ เครื่องสีส้มในรูปนี่แหละครับ …ซึ่งเป็นเครื่องต่อท้ายรถไถเดินตามที่ผมคิดไว้แล้ว คือเราต้องสะกิดหน้าดินถอนราหญ้าเท่านั้น ไม่พลิกดินให้ลึกเหมือนการไถแปร) พร้อมทำเทือกพร้อมกันไปเลยจะได้ประหยัด ทำเทือกก็โดยการเอาไม้กระดานลากปาดไปพร้อมกัน …ซึ่งต่างจากวิธีเก่าที่พอหญ้าขึ้นแล้วไถแปรอีก ซึ่งผมว่าการไถแปรอีกนี่แหละ ที่มันไปพลิกเอาเม็ดหญ้าใต้ดินขึ้นมาอีก ถ้าเราคราดถอนหญ้าแล้วทำเทือกเลย ผมว่าจะไม่มีหญ้าขึ้นอีกเลย หรือ ขึ้นก็น้อยมาก …ถ้าสนใจก็ลองดูนะครับแม่ใหญ่
ว่าไปแล้วถ้ามันขจัดหญ้าได้หมดจริง ก็ไม่ต้องทำเทือกเลยยังได้
ชื่นชม แม่ใหญ่ ที่ตั้งใจมาร่วมงานและสรุปประเด็นได้ดีมากครับ
เครื่องแถกหญ้า (rotary weeder) น่าสนใจพัฒนาต่อยอดมากครับ ท่านทวิช #2
ตอนเขาเอามาโชว์เด็กมันแถก 5 นาทีก็ไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่ถ้าแถกทั้งวัน ผมว่าแขนมันล้าหมดแน่ๆ แล้วไอ้ขลุบห้อยต่อท้ายเอาไว้ทำอะไรแน่ครับ ผมยังมองไม่เห็นความจำเป็นนะครับ ถ้าไม่จำเป็นแล้วเอาไปติดไว้ จะทำให้เปลืองค่าใช้จ่าย แถมหนักแรงเพิ่ม
สกีด้านหน้าที่ทำแบบนี้ จะไปพูนดินพอกโคนต้นข้าว เหมือนทำร่องให้มันสปล. ซึ่งอาจดีหรือไม่ดีก็เป็นได้ น่ามีการวิจัย ถ้าดี อาจเป็นการได้สองต่อ
ข้อเสียของวิธีนี้ที่เล็งเห็นคือ สมาธิคนแถกต้องนิ่งมาก ไม่งั้นมันเฉนิดเดียวก็ไปทับต้นข้าวล้มแล้ว ยิ่งตอนเหนื่อยๆ อาจลำบากยิ่งขึ้น