ลานทับทิม(อาม่า)

สวัสดีค่ะ อาม่ากลับมาจากลงพื้นที่สองหมู่บ้านคือ บ้านโคกพรม อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา

กับ บ้านโนนกอก อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา

ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปเสริมสร้า้งความเข้มแข็งของชุมชน ผ่านกระบวนการจัดทำแผนชุมชนที่เชื่อมโยงแผนท้องถิ่น และแผนจังหวัด เพื่อการสร้างเครือข่ายการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระดับจังหวัดระหว่างกระทรวงมหาดไทย และวุฒิอาสาฯ

รู้เขารู้เราย่อมให้การทำงานราบรื่น การเข้าพื้นที่แต่ละจุด หลินฮุ่ยพยายาม สร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนในการทำดี(ต่อดิน)ได้(ดิน)ดี  เราคนของแผ่นดินให้รักหวงแหนแผ่นดินที่ทำมาหากิน แผ่นดินที่ให้เราทุกอย่างตั้งแต่ที่อยู่ทีกินดิน(กินผลผลิตจากแผ่นดิน) กินน้ำจากดินั้นๆ  หายใจด้วยอากาศของแผ่นนั้นๆ ธรรมชาติที่ห้อมล้อมตัวเราล้วนเป็นทุนทางธรรมชาติ ที่ธรรมชาติจัดสรรให้แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที บนแผ่นดินแม่ แม่ที่เป็นผู้ให้เสมอมา  แล้วเราตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด แล้วหรือยัง หรือเราพลั้งพลาด ปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม ต่อแผ่นดินที่ทำกินจนเสียสมดุลย์ จนเกิดปัญหาทั้งเรื่องดิน เรื่องน้ำ เรื่องกาศ สะสมมลพิษในแผ่นดินที่เราอยู่โดยรู้เท่าไม่ถึงการ จนผลสะท้อมกลับมาทำร้ายทำลายสุขภาพเรา

เราตั้งหลักช่วยกัน เรียกขวัญกลับมา ตั้งจิตตั้งใจรวมพลังกำลังภูมิปัญญาชาวบ้าน มาร่วมด้วยช่วยกันแลกเปลี่ยนรู้ แบ่งบันปัญญา  ช่วยกันหาปัจจัยของปัญหา ช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหา ถ้าเกินกำลังของชุมชน ก็จะมีเราผู้คนที่เป็นเพื่อนที่มายืนเคียงข้างชี้แนะช่วยเหลือ นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเสริมพลังช่วยแก้ไขปัญหา ก่อนอื่นเราทุกคนในชุมชนมาช่วยกันหาทุนสามด้านดังนี้

-ทุนคน(คนดี) คนมีความสามารถ ผู้ทรงภูมิปัญญาในแต่ละด้าน มากน้อยแค่ไหน

-ทุนทรัพยากร  ดิน น้ำ อากาศ ต้นไม้พืชพันธุ์ สัตว์ แมลง ฯลฯ มากน้อยแค่ไหน

-ทุน(ทรัพย์) เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องมีวิธีการที่สร้างความเชื่อมั่นให้แหล่งทุน ว่าเรามีความสามารถหาเงินมาคืนทุนได้ จากแผนงานที่ชัดเจนทำได้ บวกกับความมีระเบียบวินัยทางการเงิน เราขอโอกาศ ขอทุนเริ่มต้นก่อนเมื่อเราทำได้ เราก็หาทางสร้างกองทุนหมู่บ้านของเรา เพื่อให้โอกาสแก่คนในชุมชนกู้ไปใช้ไปสร้างงานสร้างรายได้ เพื่อความมั่นคงของชุมชน

เราจึงมาร่วมด้วยกันระดม สำรวจข้อมูลให้ครบทุกด้าน มาวิเคราะห์เพื่อ วางแผนพัฒนาชุมให้สอดคล้องกับจุดเด่น หลีกเลี่ยงจุดด้อย และความพร้อมของท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

วันนี้เข้าไปในพื้นที่สองหมู่บ้านค่ะ หมู่บ้านแรก คือ บ้านใหม่อุดม ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

ประชาชนเข้มแข็งมาก มีผู้นำที่สุดยอดเท่าที่เคยพบมา นำพาชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง ต้องยกให้เป็น

ดร.จินดา บุษสระเกษเลยค่ะ( เธอจบแค่ป.7) แต่ความรู้ความสามารถเกินปริญญาเอกค่ะ สุดยอดนักบริหาร ที่ผู้กร้อยดวงใจทุกดวง ด้วยความเข้าใจ เข้าถึง จึงพัฒนา นำพาชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างเหลือเชื่อ ปลูกฝังให้คนในชุมชนมีขบวนการทำงานแบบจิตอาสา ช่วยเหลือแบ่งปันทั้งแรงกาย แรงใจ แรงความคิด พิชิตใจคนในชุมชน ร่วมด้วยช่วยกันเติมเต็ม ด้วยการเพิ่มความรู้ การถ่ายทอดความรู้ ขบวนการทำการตลาด รู้จักพึ่งพาตนเอง มีการจัดการ-ทุน(เงินทุน) -ทุนคน-ทุนทรัพยากรธรรมชาติ อย่างชาญฉลาด

สามารถจัดทำกองทุนสามขา หนึ่งในขานั้นคือ สวัสดิการชุมชน ช่วยสร้างบ้านให้ผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย แบ่งที่ดินทำกินให้ผู้ไม่มีที่ทำกิน การจัดการบริหารองค์ความรู้ ยกย่องให้เกียรติคนดี คนมีความสามารถภูมิปัญญาที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาถ่ายทอดวิชาความรู้ ในด้านต่างๆ ไม่ว่าการเกษตร ป่าชุมชน พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือจากองค์กร หน่วยงานของรัฐ มาเติมเต็มให้ชุมชน ทำให้ขยายฐานการผลิตที่ตรงความต้องการของตลาด ดังมากเรื่องไม้ดอกไม้ประดับ เฟื้องฟ้าดัด ลีลาวดี จันทร์ผา น้ำผึ้งป่า งานศิลปะหินทรายจำลอง ศิลปปราสาทหินทางภาคอิสาน ฯลฯ ปฏิบัติได้จริง ยังต่อยอดสร้างความมั่นคงในการถ่ายทอดการทำงานให้รับช่วง และทดแทนกันได้อย่างมั่นคง นี้คือการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า และมั่นคงในวิถีชีวิตของชุมชน สุดยอดของความเอื้ออาทรทีีทำให้เห็นเป็นมรรคเป็นผลค่ะ

นีคือตัวอย่างของการพัฒนาที่เกิดจากความสมัคสามัคคีของคนในชุมชน จนมีวันนี้วันที่เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง แค่การรวมตัวกันของกลุ่มไม้ดอก ไม้ประดับ มีลีลาวดี อินธผาลัม โดยเฉพาะเป็นแหล่งส่งเฟื่องฟ้าที่ใหญ่ทีสุดในประเทศไทย(ข้อมูล:ประชาสัมพันธ์ จัดทำ ลิขิต บุษสระเกษ)

http://boys1111.spaces.live.com/blog/cns!C61C37A2E917F01!239.entry

ถึงเวลาดอกไม้บาน กลิ่นหอมของดอกยี่หุบ ชวนให้ค้นหายิ่งนัก พอมืดค่ำเธอก็แย้มบานสิ่งกลิ่นหอมมาทักทาย ทั้งๆที่เมื่อกลางวันยังไม่แย้มยิ้มให้รู้สักนิด ว่าเธอจะบานในคืนนี้(13 สค.) เหมือนเตือนให้รีบเก็บภาพเธอก่อนที่จะโรยราจากในวันรุ่งพรุ่งนี้ค่ะ
เช้ามารีบไปดูดอกยีหุบ เธอเผยกลีบบานมองเห็นกระปุกเกษรสีเหลืองนุ่มนวลข้างในค่ะแต่พอสายๆ เธอรีบหุบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หุบกลีบปิดเกษรอย่างมิดชิด มิน่าเล่าถึงมีชื่อว่าดอกยี่หุบค่ะ

อ่านต่อ »

มณฑาทิพย์

ชื่อสามัญ             Magnolita

ชื่อวิทยาศาสตร์    Talauma candellei

ตระกูล               MAGNOLIACEAE

ดอกมณฑา ไม้หอม เป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก-กลาง ความสูงประมาณ 4-10 เมตร แต่ต้นที่บ้านอายุ ประมาณ 15 ปี สูงเกือบ 4 เมตรค่ะ เป็นไม้ดอกที่อดทนมากค่ะ ขุดย้ายมาจากบ้านในมทส.( ซึ่งปลูกลงดิน )สูงเกือบ 4 เมตรตอนนั้นอายุ 5 ปี ในปี 2543 นำมาปลูกในกระถาง ตอนมาอยู่บ้านใหม่ ที่หมู่บ้านรุ่งนิรันดร์ (ทีอยู่ปัจจุบัน) และเคยมีหนอนเจาะลำต้นหัก เหลือลำต้นเพียง 50 ซม. นึกว่าจะไม่รอดเสียวแล้ว แต่รอดค่ะแตกกิ่งใหม่เริ่มมีกิ่งเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ต้นมีกิ่งแตกออกจากลำต้น เป็น สามฉัตร แล้วค่ะ แต่ละฉัตรมีสี่กิ่ง ออกดอกทุกกิ่งค่ะ ดอกจะออกที่ปลายยอดกิ่งค่ะ  เมื่อตัดดอกออก จะแตกกิ่งใหม่พร้อมสร้างตาดอกใหม่ค่ะ

ลักษณะดอก เป็นกลีบหนา 6 กลีบ ซ้อนกันสองชั้นๆละ 3กลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงจะบางและมีสีเขียว แล้วค่อยๆจางลงหลังจากดอกบานแล้ว ดอกจะโรยในวันรุ่งขึ้น จึงต้องเฝ้าสังเกตุทุกวัน ทันที่ที่ดอกบานควรจะตัดออกมาเชยชม เพราะดอกจะหอมมาก นำมาไหว้พระแล้วเก็บเป็นดอกแห้งไว้

มีความเชื่อของคนไทยตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วว่า

คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์ที่
อยู่บนสวรรค์และได้บันดาลตกลงมาสู่โลกมนุษย์นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำ
ให้เกิดความงดงาม ชวนมอง เพราะดอกมณฑาเวลาบานนั้น ดอกมีสีเหลืองนวล หอมได้นานดูแล้วงามแพรวพราวจับใจ
ซึ่งมีลักษณะพิเศษเหมือนกับดอกมณฑาทิพย์

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

(http://www.maipradabonline.com/maimongkol/montha.htm)

Photo 2 of 9 Back to Album · My Photos

เริ่มเดือนสิงหาคม ฝนเริ่มทะยอยตกเกือบทุกวัน นำความชุมฉ่ำมาเอาใจหมู่มวลดอกไม้ในสวนน้อยๆ ของอา่ม่า ชุดแรกเป็นดอกรางเงินค่ะ

ว่านรางเงิน อีกชื่อเรียก Star Lilly เป็นไม้ประดับประเภทหัวที่มักนิยมเลี้ยงในกระถาง เพราะเป็นไม้มงคลนาม และให้ดอกสวยงาม สายพันธุ์เดียวกับลิลลี่ ดอกมีขนาดใหญ่มี 6 กลีบ ดอกรางเงินนี้มีสีขาว และมีลายเส้นเลือดสีชมพูเข้มเป็นลวดลายบนกลีบดอก เติบโตได้ดีในที่แดดรำไรเพียงครึ่งวัน ชอบน้ำปานกลาง ดินต้องร่วนซุยจึงจะเติบโตได้ดี(จากhttp://www.homedd.com/HomeddWeb/servlet/homedd.A_garden.frontweb.FwHomeMain?hMode=inDetail&hID=130)

รางเงินมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hippeastrum reticulatum