ในทุกภารกิจที่เร่งรีบ เพื่อปากท้อง เพื่ออนาคตลูก และเพื่อสนองปัจจัย 4 , 5 , 6 แล้วแต่ความอยากของแต่ละคน เมื่อเลิกงาน ผู้คนส่วนใหญ่ ก็ได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ค่ำคืนนอนหลับได้สนิทไร้ความกังวล จะมีคนสักกี่คนบ้างที่รับรู้ถึงสภาพจิตใจของคนในบ้านเรา นอนหลับๆตื่นๆ ต้องคอยฝังเสียงรถที่แล่นผ่านหน้าบ้านว่าเงียบ ( มาจอด ) หรือวิ่งผ่าน ต้องสะดุ้งตื่นกับเสียงประหลาด เพราะความหวาดระแวง แล้วเราจะอยู่อย่างไร
ทุกค่ำคืนที่น่าหวาดกลัว ต่างคนต่างเข้าบ้าน ไม่กล้าที่จะออกไปไหน ธุรกิจยามค่ำคืน ร้านอาหาร เริ่มทยอยปิดกิจการ กระทบกันเป็นลูกโซ่ ในที่สุดจึงมีกลุ่มคนที่รวมตัวกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้คนและบ้านเมือง ด้วยวิธีใต้ดินชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน เมื่อทางการรับรู้ จึงนำพาไปสู่โครงการต่างๆที่สนับสนุนให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านเมืองอย่างถูกต้องและถูกกฎหมาย ปัจจุบันโครงการชุมชนเข้มแข็งได้ ขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ เพื่อป้องกันอาชญากรรมทุกรูปแบบ
ค่ำคืนนี้ไม่เหมือนค่ำคืนนั้น พวกผู้ใหญ่ได้ออกมาพูดคุย เด็กๆได้ออกมาวิ่งเล่น ความสัมพันธ์ระดับชุมชนเริ่มกลับมา ฝากบ้านดูแลบ้านให้กัน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ และที่สำคัญคือการพัฒนาไปสู่การนับถือเสมือนหนึ่งเป็นเครือญาติ การเสียสละของคนบางคนบางกลุ่มในการทำหน้าที่เข้าเวรยามรักษาความปลอดภัยด้วยจิตอาสา จะมีใครสักกี่คนที่รับรู้ถึงความเสียสละ ภายใต้ผ้าห่มที่แสนจะอบอุ่น จะมีใครสักกี่คนจะแบ่งปันน้ำใจมาช่วยกันหมุนเปลี่ยนเวรยาม เพื่อที่จะได้สลับกันพักผ่อนและมีแรงที่จะทำงานต่อในวันรุ่งขึ้น สังคมก็เป็นเช่นนี้ ธุระไม่ใช่ อยากเหนื่อยเอง ใครใช้ให้ทำ แต่เมื่อใดที่ตัวเองเดือดร้อนหรือภัยมาถึงตัว จึงจะออกมาขอความช่วยเหลือ ( หวังผลประโยชน์ตัวเองมากกว่าส่วนรวม ) แต่ไม่มีส่วนร่วม ทุกวันนี้ผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้บ้านเมืองสงบสุขในระดับที่ทุกคนสามารถกล้าที่จะใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข ภายใต้เงื่อนไขแห่งความไม่ประมาท บ้านเมืองอยู่ได้ ชุมชนอยู่ได้ ครอบครัวอยู่ได้ เรามีความสุข นี่แหละตัวผม