idea เรื่อง น้ำ

โดย udomsak เมื่อ 20 September 2011 เวลา 7:52 pm ในหมวดหมู่ สัพเพ #
อ่าน: 2586

อันนี้ รวบรวม และ ดึงมาจาก comment ที่ได้คุยกัน  ผมดึงมาเฉพาะส่วนที่ผมพูดนะครับ ใน web board แห่งหนึ่ง

  • งานอาสา หรือ ทำอะไรก็แล้วแต่ ล้วนต้องมีทุนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทุนเงิน , ทุนกาย และ ทุนใจ แต่ถ้ามีเงินสนับสนุนก็ดี ไปได้เร็วและมากกว่า
  • Solution ที่เบ็ดเสร็จสำหรับการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดก็ตาม  หรือ โดยเฉพาะ ปัญหาด้านธรรมชาติ จำเป็นต้องอาศํย คนในพื้นที่ และ / หรือ คนที่เข้าใจ สภาพสภาวะของพื้นที่หรือ ปัญหาโดยแท้จริง แม้ในเบื้องต้นไม่สามารถ ระบุกำหนดกฏเกณฑ์ตายตัวไปเลย่วา เขาสามารถให้เราได้ แต่จำเป็นต้องมีการ สอบถาม และ วิเคราะห์กันแบบแท้จริง ในสภาพปัญหาเหล่านั้น การจะตัดสินข้อมูลภายนอก อย่างเดียวอาจไม่พอ หรือ ไม่ดี เลยด้วยซ้ำ

check-list ของปัญหา

  • สิ่งที่ต้องการ
  • ทรัพยากรที่มี
  • ปัญหาและอุปสรรค
  • ทางแก้ไข
  • ผลลัพธ์ของการแก้ไข และ การปรับปรุง
  • กรณีการเกิดภัยพิบัติ  สิ่งที่สำคัญก็คือ อาชีพหลังการฟื้นฟู , การมีอาชีพหรือพอเลี้ยงตัวเองได้ระหว่างนั้น

หลายอย่าง อยากให้ภาครัฐ ให้การสนับสนุน และ รับฟังความคิดเห็นจาก คนที่รู้จริงบ้าง มากกว่าจะรับฟัง และ แก้ปัญหาแบบ เดิมๆ ( หรือ อาศัยทิฐิเดิม , เอาหน้า bla bla bla ) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรมากนัก หรือ จะวิบัติกว่าเดิม อันนี้ไม่แน่ใจ ยกตัวอย่างนะครับ “รั้วกั้นน้ำ” ถ้ามีเงิน มี ภาครัฐ ระดับจังหวัด ไหน สนใจ สั่งซื้อ ไอ่ตัวนี้มาก้ได้ ประสิทธิภาพดีกว่า กระสอบทราย เคลื่อนย้ายสะดวก ตอนแรกผมเห็น ชื่อเรื่อง แล้ว ผม ยัง มองเลยผ่านเลย ยังคิดในใจ ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ พอคลิ๊กเข้าไปแล้ว ยังแปลกใจเลยว่า มันทำได้ไง อ่ะ

http://lanpanya.com/wash/archives/2539

ถ้าแต่ละจังหวัดที่ประสบปัญหา ซื้อ มา แล้วเอามากั้นน้ำ ผมว่าจะเวิร์คมากทีเดียว ดูเหมือนมันรับกำลังแรงกดของน้ำ หลาย ลบม. ได้ดี ( แต่คงจะหลายตังค์ ) จากรั้วกั้นน้ำ ถ้า จะสั่งซื้อจริงๆ แล้ว มันไม่มี “กิน” กันอีก น่าจะยกมือท่วมหัวและ ยินดีด้วยจริงๆ + การบำรุงรักษาด้วย


การศีกษา เรื่องทางเดินของน้ำ ลักษณะของพื้นที่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ( idea จาก blog Conductor Logos อีกเช่นกัน เพราะ สิ่งปลูกสร้าง เดี๋ยวนี้ไปขวางทางน้ำ ซะส่วนมาก การระบายน้ำ ก็เลยมีปัญหา รวมถึง ความซวย เวลาน้ำมา มากๆ แล้ว พัดเอาบ้านหายไปทั้งหลัง แต่ อันนี้ พูดยากใครจะไปรุ้ฟะ ว่าน้ำจะมาแบบ โอฬารขนาดนั้น  )

อันนี้เห็นจากข่าว ฟากนึงน้ำท่วม อีกฟากไม่มีปัญหาเลย เพราะ ถนนกั้นอยู่ ฝ่งที่ท่วมอยู่เลยอยากจะให้เจาะ ถนน ก็เลยว่า รู้ทางน้ำ ดีๆ แล้ว เจาะ กันเอาไว้ ก่อนเลย น่าจะช่วยอะไรได้เยอะ บางทีอาจถึงขั้น ต้องเอา GIS Data มานั่งดูกัน เลยมั้ง ว่าจะให้น้ำมันไปทางไหนยังไง และ หมู่บ้าน จะรับน้ำสูงสุด ขณะที่ฝนตก กี่ มม. ต่อชม. หรือ จะให้มันไปทางไหน ยังไง บ้านใครบ้างที่สุ่มเสียง จะหายไปทั้งหลัง


พืชที่จะปลุกทดแทน กรณีพืชไร่ หรือ พืชสวนที่เคยทำไว้ หายจ้อยหมด จะเอาอะไรมาปลุกดี / เปลียนรูปแบบการปลุกข้าว ?? พืชเศรษฐกิจใหม่


ส่วนตัวแล้ว ผมว่า การแก้ไข อยู่ที่การบริหารจัดการน้ำ ดีๆ จะเป็นอย่างแรก ถ้าให้ผมเลือกทำนะ ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าน้ำมามาก จะระบายมันยังไง ท่วม อี ก็ท่วมซะมิดหัว จะเอาอะไรทำกิน เครื่องมือที่ใช้ทำกินอยู่ใต้น้ำหมด หรือ จะกันจะแก้ยังไงไม่ให้น้ำมันท่วม และ ก็ต้องรอ ถุงยังชีพต่อ อาชีพ ทำไม่ได้หรอก เครื่องมือไม้ อะไรจมน้ำหมด ต้องรอของอย่างเดียว ทำอะไรไม่ได้



ต่อจากปัญหาข้างต้น ถ้าน้ำแห้ง หรือ ปีนั้นแล้งล่ะ จะทำยังไง จะเอาน้ำที่ไหนมาใช้ เพราะ อีตอนมันท่วมมันก็ล้ำ พอตอนไม่มี จะไปหาที่ไหนก็ไม่มี ( แหล่งเก็บน้ำ ขนาดย่อมๆ ในแต่ละหมูบ้าน แต่ละตำบล แต่ละครัวเรือน idea from Conductor Logos again ^_^ )
จากนั้น ค่อยมาดู เรื่องอาชีพที่ทำหลังน้ำลด จะทำอะไร ดี ไอ่ที่ มีๆ อยู่ หายเกลียง จะปลุกใหม่ ก็รออีกเป็น เดือนๆ ปีๆ จะทำอะไรกินดี ? ( หลายเรื่องก็มาจาก blog ของพี่เขาอีกเช่นกัน )


บ้านกรณีหายไปหลายหลัง หรือ พังซะจน แก้ไม่ได้ภายในปี เดียว ผมอยากให้เป็น บ้าน Knock down แบบที่ญี่ปุ่น หรือ site งานก่อสร้าง ใช้ กัน ราคาถูก อยู่ได้เยอะ มีคุณภาพกว่า รัฐอาจสร้างหรือปลูกให้ฟรี ราคาเท่ากัน แต่อาจอยู่ได้หลายครอบครัว มากกว่า ประกอบ และ รื้อถอนง่าย

แม้ภาพไม่เหมือนกับบ้านปูน แต่งบเท่ากัน แต่อาจสร้างได้มากกว่า 1 ช่วยได้มากกว่า 1 บางทีคนเราต้องยอมสละความภาคภูมิใจบ้าง เพื่อให้คนอื่นได้มี เช่นเดียวกับเรา ถ้าจะแย้งในแง่ของความคงทน ระหว่างบ้านถาวร กับแบบ Knock-down ผมว่า น่าจะพอๆ กัน แล้วนะครับสำหรับเทคโนโลยีสมัยนี้


การศึกษาเรื่องดิน สภาพภูมิประเทศในแต่ละ หมู่บ้าน ตำบลก็สำคัญ จะรอให้ภาครัฐ ลงไปทำให้ครอบคลุมท่วประเทศ คงกินเวลานาน คนในพื้นที่สอนให้เขา สำรวจ ให้ข้อมูล จะช่วยได้มาก ผลที่ได้ คือ อาจทำระบบเตือนภัยหรือระบบสารสนเทศที่ละเอียดขึ้น รวมถึงการสร้าง ระบบเตือนภัยถุกๆ ขึ้นมาเอง ราคาถูกๆ ไม่ต้องเป็นแสน หรอก เตือนว่า ตกกี่ มม. แล้ว ใน ชม. นี้ให้ทำการ เตือนภัยเลย ดิน ภูเขา บ้านเรา รับได้ เ่ท่านี้ นะ เกินกว่านี้ ไม่ไหวแล้วให้เตรียมตัวเลย

ระบบดังกล่าว อาจจะ Link กับ ส่วนกลาง ได้ด้วย ( ระดับ จว. & อำเภอ ) โดยอาจใช้เป็น ระบบ RF แทน GSM หรือ Mobile cell เพราะ ถูกกว่า และ สื่อสารได้ไกลกว่า “ผมเชื่อว่า นักวิทยุ อิเลคทรอนิคส์ ในพื้นที่ สามารถทำได้อยู่แล้วนะครับ เพียงแต่อาจไม่มีใครทำ หรือ ยังไม่มีใครให้ข้อมูล ” ถ้าเราสามารถใช้ ระบบ APRS ( RF backend ) ทำการสื่อสาร ได้ จะทำให้การส่งข้อมูล ในพื้นที่ไกลๆ หรือ ขาด cell สัญญาณ สามารถทำได้ ไม่ต้อง ร้องกล่าว หรือ ฝากบอกกันเป็น ทอดๆ ไป

อาจอบรม หรือ สร้างขึ้นมา นำไปแจก หรือ ติดตั้งไว้ ในแต่ละหมู่บ้าน ส่งคนมาอบรม หรือ สอนการใช้งาน หรือ การสร้าง ทำเป็น ระบบสือสาร backup เอาไว้ คงไม่ต้องถึง ระบบ Iridium phone หรอก แพงหูดับ ตับไหม้ แล้ว โทรไป ใช่ว่า ตอนเดือดร้อน จะรับสายได้หมด ทุกคน หรือ ทุกคู่สาย ?

ซอฟต์แวร์ช่วยบริหารจัดการ การขนส่ง ของ อุทกภัย การายงาน สภาพของพื้นที่ และ ของที่ต้องการ รายงานได้ทันที ( ผ่าน Mobile , RF , APRS etc. ) ของจะได้ช่วย ได้ทันทีและมีคน รายงานด้วยว่า ได้ยังไง ถ่ายรูป share ด้วยก็ได้ ไม่ใช่ว่า บ้านนึง มาม่า ร่วม 3 ลัง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ ตั้งใจอม แต่อีกหมู่บ้านนึง ไส้แห้ง มา 3-4 วันล่ะ กินแต่น้ำ เพราะจ่ายของ ซ้ำซ้อน ? ) รวมถึงการแจ้งเตือนภัย ลักษณะต่างๆ


ฐานข้อมูลอาสาสมัคร จะติดต่อใครยังไง ถนัด อะไร ขาดอะไร ติดต่อกันได้ทันที


อันนี้ #บ่นตัวเอง จริงๆ ตอนนี้ คิดไว้อยู่นะครับ ว่าจะทำ software ช่วย บริหารจัดการภัยพิบัติ หรือ ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ไว้เหมือนกัน แต่ความขี้เกียจเฉพาะตัว และ งานที่มีอยู่ ยังไม่เสร็จ จึงยงไม่ขอพูดต่อ ไว้ระบบเกิดขึ้นได้ พอเป็นรูปเป็นร่างได้ มาคุยกันต่อ เพราะจะได้ถือ เป็นความตั้งใจจริง แบบ ไม่บิดพริ้ว ทำให้มันเกิดขึ้นได้ อันนี้เป็นข้อเสียของผมเอง ซึ่งกำลังแก้โดยการที่ว่า คิดจะทำอะไร ทำไปเลย ดีกว่า ไม่งั้นติดนิสัย ไอเดียเกิด แต่ไม่มีผลลัพธ์อะไรเลย :P

ไว้ผมก่อมันขึ้นมาได้ ก่อน ค่อยมาหาคนช่วย ออกแต่ความคิด ไม่ทำ กระบวยอะไร เหมือนตัวเอง ไม่มีประโยชน์ ไงไม่รูัแฮะ “กับคำถาม เรื่องมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้อง list เอาประเด็นเรื่องน้ำมาอย่างเดียว” น้ำมันมีปัญหามากที่สุด ขาดน้ำ ก็ตาย ก็ทำอะไรไม่ได้ / มีเกิน ก็ทำอะไรม่ได้ ปัญหาวน Loop และ มันจะเป็นแบบนี้ ไปอีก พักใหญ่ๆ ( ภัยเรื่องน้ำ )

« « Prev : อยากเรียน

Next : idea from my mindmap » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 September 2011 เวลา 8:42 pm

    อื้อหือ เก็บกดเหมือนกันนะเนี่ย :-)

    ผมลองไล่ http://lanpanya.com/wash/toc ดูก็พบความคิดพิลึกหลายอันครับ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 September 2011 เวลา 6:42 pm

    ผมคิดถึง

    1. EMU หรือ Emergency Management Unit มีคนจำนวนหนึ่งที่คล่องตัวที่สุดมาประจำ เพื่อทำหน้าที่ ประสานงานกับทุกคนที่ เป็น Traget group ใช้ประสบการณ์ทำ Check list ความเดือดร้อน และความต้องการแบบ Basic Minimum Needs (BMN) ในระยะเวา 1 สัปดาห์ —> ออกสำรวจ—-> สรุปความต้องการ—->จัดหา —–> ส่งมอบ
    2. EMU แบ่ง Zone รับผิดชอบ
    3. มี Stock วัสดุ สิ่งของใช้ อุปโภคบริโภค อาจจำลองว่าเป็นช่วงภัยสงคราม เพราะต้องมีศูนย์ติดต่อภาคสนาม ภาคกองบัญชาการ
    4. ความช่วยเหลือทั้งหมดต้องผ่านศูนย์นี้
    5. ความช่วยเหลือมันหลากหลาย การออกสำรวจนั้นจะพบรายละเอียดว่าจริงๆ BMNs คืออะไรที่เหมาะสมที่สุดยามเฉพาะหน้า มิใช่เอาข้าวสารไปให้ แต่เขาไม่มีไฟหุงข้าวอะไรทำนองนี้..ช่วยไม่ตรงจุด แต่ได้ช่วย
    6. หน่วยฉุกเฉินแบ่งเป็นหมวกหมู่ตามความเหมาะสม เช่น หมวดอาหาร หมวกของใช้ หมวดเวชภัณฑ์ ฯลฯ
    7. ฯลฯ 
    8. ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าทำแล้ว และทำดีกว่าที่ผมเสนอมานี่อีก

     

    แค่เล่าเฉยๆ อิอิ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 September 2011 เวลา 6:47 pm

    อิอิ เขียนผิดเขียนถูก เลย

  • #4 udomsak ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 September 2011 เวลา 10:30 pm

    ขอบคุณครับพี่   ^___^

  • #5 udomsak ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 September 2011 เวลา 10:46 pm

    เขียนต่ออีกนิดครับ  พอดีของพี่ @bangsai เพิ่งเห็น comment  ครับขอบคุณครับพี่ ทำให้ผมได้รู้ศัพท์แสง แปลกๆ  และ ความรู้เพ่ิมขึ้น  ^_^  ขอบคุณครับ  // ทำแล้วนี่คือ ทำในไทย หรือเปล่า ? อันนี้สงสัยจริงๆ  ( สังเกตุจากข่าว และ เหตุการณ์รอบๆ ตัว )  ^__^ 

  • #6 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 September 2011 เวลา 6:57 am

    อิอิ ผมเดาเอาว่าหน่วยงานที่กำลังรับผิดชอบเรื่องนี้ในเมืองไทยกำลังทำอยู่น่ะครับ  เดาเอานะครับ เพราะเชื่อว่า มีผู้รู้มากมายที่ก้าวเข้ามาช่วยเหลือ ช่วยคิด ช่วยทำ ผมเพียงใช้ประสบการณ์ส่วนหนึ่งบันทึกเรื่องนี้ไว้ เผื่อสะกิดให้คิดต่อไปได้อีกน่ะครับ

  • #7 Reusable Bags ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 April 2012 เวลา 5:13 am

    I value the blog post.Thanks Again. Want more….

    I cannot thank you enough for the article.Really thank you! Cool….


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 1.0042819976807 sec
Sidebar: 0.00012588500976562 sec